คนชุดดำหมวกดำผู้นี้ดูเหมือนมีอายุสี่สิบกว่าปี เขาผอมมากโดยเฉพาะแก้มที่ไม่มีเนื้อเลย มีเพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น หลังจากเขาเดินออกมาก็มุ่งหน้าตรงไปยังห้องของเฝิงเป่าเป่าทันที
เริ่นเสี้ยวเทียนที่อยู่ภายในห้องถอนหายใจที่เฝิงเป่าเป่าออกไปแล้ว จึงเตรียมตัวเริ่มฝึกฝน
นอกจากพวกเขาแล้วยังมีคนอื่นอีกมากมายอยู่ภายในห้องของตนเอง บ้างก็เล่นกัน บ้างก็กินอาหาร บ้างก็ดูวิวทิวทัศน์
ตึงๆๆ!!!
ทันใดนั้นแรงสั่นะเืทำให้เริ่นเสี้ยวเทียนที่กำลังทำสมาธิลืมตาขึ้น
“ผู้โดยสารทุกท่านต้องขออภัยด้วย เมื่อสักครู่เรือเสวียนอู่เดินทางผ่านกระแสลมทำให้เกิดแรงสั่นะเื ขออภัยหากสร้างความไม่สะดวกสบายแก่ทุกท่าน กระแสลมผ่านพ้นไปแล้ว ขณะนี้เข้าสู่การเดินทางโดยปกติ”
เสียงของลูกเรือดังขึ้นภายในห้อง
เรือเสวียนอู่เกิดแรงสั่นะเืเช่นนี้ ความจริงแล้วนับเป็เื่ปกติ แต่เริ่นเสี้ยวเทียนที่ลืมตาขึ้นแล้วกลับเข้าสู่สมาธิไม่ได้เลย
“น่าแปลก!”
เริ่นเสี้ยวเทียนลงจากเตียงด้วยความสงสัย เขามองไปด้านนอกเล็กน้อยแล้วจึงตัดสินใจเดินออกไป เพื่อให้มองเห็นท้องฟ้าภายนอกได้อย่างชัดเจน
เขาผลักประตูแล้วเดินออกไป ประตูห้องของเสิ่นเสวียนที่อยู่ข้างๆ ยังคงปิดสนิท ห้องของเฝิงเป่าเป่าที่อยู่ด้านซ้ายก็ปิดสนิทเช่นกัน แต่ยังคงเป็เื่ยากที่เขาจะสงบจิตใจลงได้ จึงเดินออกไปยืนอยู่ที่ระเบียงพลางมองท้องฟ้ากว้างใหญ่
โครงสร้างของเรือเสวียนอู่นี้คือระเบียงทางเดินอยู่ด้านนอกสุด ด้านหนึ่งเป็รั้ว อีกด้านหนึ่งคือประตูห้อง ตรงรั้วจะมีม่านพลังป้องกันอยู่ จะมีพลังไหลเวียนอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้แรงลมจากภายนอกปะทะเข้ามา
ขั้นบรรพบุรุษสามารถที่จะลอยจากพื้นขึ้นไปบนท้องฟ้าได้
ขั้นราชันสามารถเหาะกลางอากาศได้่ระยะเวลาหนึ่ง แต่สามารถเหาะสูงขึ้นไปได้หนึ่งพันห้าร้อยจั้งเท่านั้น
เรือเสวียนอู่กลับสามารถเหาะสูงกว่าสามพันจั้งได้อย่างง่ายดาย ซึ่งระดับความสูงเช่นนี้เริ่นเสี้ยวเทียนยังเหาะขึ้นมาไม่ถึง
ปัง!
ทันใดนั้นเอง กลับมีเสียงหนึ่งที่จับสังเกตได้ยากดังขึ้นในหูของเริ่นเสี้ยวเทียน
“หืม?”
เขาหันไปมองห้องของเฝิงเป่าเป่าแต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรผิดปกติ กระทั่งคิดไปถึงว่าเฝิงเป่าเป่าเกาะติดเขามาตลอดยิ่งทำให้เขาตัดสินใจว่าจะยังไม่ไปหาอีกฝ่ายในตอนนี้ จึงยืนมองกลุ่มเมฆต่อไป
ปัง!
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
เขารู้ว่านี่คือเสียงที่ดังมาจากห้องของเฝิงเป่าเป่า แต่ก็ยังไม่สนใจ
ส่วนภายในห้อง คนชุดดำหมวกดำก่อนหน้านี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเฝิงเป่าเป่า หมวกของเขาปกปิดใบหน้าอยู่ครึ่งหนึ่ง ทำให้มองเห็นใบหน้าอีกฝ่ายได้ไม่ชัดเจน
เฝิงเป่าเป่านอนจมกองเือยู่ที่พื้น เขาพยายามดันตัวถอยหลังไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวเขาจะทุบลงไปที่พื้นหนึ่งครั้ง
“อย่าฆ่าข้าเลย ข้าจะให้เงินเ้า เงินมหาศาล!”
เฝิงเป่าเป่าถอยหลังไปพลางกล่าวกับอีกฝ่าย เขาในตอนนี้สีหน้าหวาดกลัวอย่างที่สุด ทำไมเริ่นเสี้ยวเทียนถึงไม่เชื่อเขา เขาสงสัยมาตลอดว่ามีคนคิดสังหารเขา และตอนนี้ก็เกิดขึ้นจริงแล้ว
แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีอะไรถึงทำให้เขาพูดไม่ได้ ทำให้ปากของเขาปิดสนิทและยังไม่มีพลังตอบโต้กลับไปได้อีก
“เอาเงินออกมาให้ข้า”
คนชุดดำหมวกดำผู้นั้นกล่าวกับเฝิงเป่าเป่าด้วยแววตาเป็ประกาย
“ข้าไม่มีเงินแล้วจริงๆ พวกเ้าชิงเงินจากข้าไปหมดแล้ว ตอนนี้ข้าไม่มีเงินแล้ว” เฝิงเป่าเป่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา
เขาไม่ได้มีความทะเยอทะยานยิ่งใหญ่ใดๆ หรือหากจะกล่าวถึงอำนาจเขาก็ไม่มี เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ยากลำบากเขาจะยอมแพ้ในทันที แต่แม้จะเป็เช่นนี้อีกฝ่ายก็ไม่ปล่อยเขาไป
“เฮอะ ถ้าคนอื่นไม่รู้ข้าคงไม่รู้เหมือนกัน คนตระกูลเฝิงไม่เคยเก็บเงินไว้ที่เดียว”
คนหมวกดำผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า และมีท่าทีจะสังหารเฝิงเป่าเป่าอย่างเืเย็นอีกด้วย
“ข้าไม่มีเงินจริงๆ หรือเอาอย่างนี้ดีไหม ลงจากเรือแล้วข้าจะไปเอาเงินที่ตระกูลมาให้ เ้าอยากได้เท่าไรข้าให้เ้าหมดเลย”
“เหลวไหล ไปตระกูลของเ้าแล้วข้าจะยังออกมาได้อีกที่ไหนกัน ข้าจะนับถึงสาม หากไม่เอาเงินออกมาก็ใช้ชีวิตของเ้าแลกเปลี่ยนไปแล้วกัน”
“สาม”
“สอง”
เริ่นเสี้ยวเทียนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงรู้สึกถึงความผิดปกติ เสียงนั้นดังออกมาจากห้องของเฝิงเป่าเป่าเป็ระยะ ซึ่งในความเป็จริงแล้วมันไม่ควรเกิดขึ้นเลย! ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาผลักประตู แต่มันถูกปิดจากด้านใน ทำให้เขาเปิดไม่ออก
“เฝิงเป่าเป่า เปิดประตู!”
เขาะโเรียกอีกฝ่ายให้เปิดประตูเสียงดังก้อง
“หยุดนะ เ้าได้ยินไหม มีคนมาแล้ว เขามีเงิน ไปเอาเงินจากเขา ข้าเอาเงินให้เขาไปหมดแล้ว”
เฝิงเป่าเป่ากล่าวออกมาทันทีเหมือนต้นหญ้าที่ถูกช่วยชีวิต
เมื่อได้ยินเสียงของเริ่นเสี้ยวเทียนดังขึ้นนอกห้อง คนหมวกดำก็เกิดลังเลขึ้นมา
อีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลยทีเดียว นี่คือสิ่งที่เขามองเห็นในตัวเริ่นเสี้ยวเทียน ั้แ่ที่เริ่นเสี้ยวเทียนขึ้นเรือเสวียนอู่มา เขาก็รู้แล้วว่าเริ่นเสี้ยวเทียนไม่ธรรมดา เขามีพลังยุทธ์ขั้นราชัน เริ่นเสี้ยวเทียนก็มีพลังยุทธ์ขั้นราชันเช่นกัน แต่ที่นี่เขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะเริ่นเสี้ยวเทียนได้
“เอาออกมา ไม่อย่างนั้นตาย”
ขณะนั้นเอง คนหมวกดำก็รวบรวมพลังขึ้นที่ฝ่ามือ กลุ่มพลังนั้นแผ่กระจายสายฟ้าออกมาด้วย พลางกล่าวออกมาเบาๆ
“ข้าไม่มีจริงๆ” เฝิงเป่าเป่าน้ำตาไหลออกมาแล้ว
ขั้นบรรพบุรุษคนหนึ่งกลับโดนขู่จนร้องไห้ไปแล้ว
“ช่วยด้วย!”
ทันใดนั้นเขาก็ะโออกไป และเสียงก็ดังเข้าในหูของเริ่นเสี้ยวเทียนอย่างชัดเจน
“อยากตายหรือไร”
คนหมวกดำแววตาลนลานขึ้นมา พลังบนฝ่ามือโจมตีใส่หน้าอกของเฝิงเป่าเป่าในทันที
เปรี้ยง!
พลังรุนแรงทำให้เฝิงเป่าเป่าหมดสติไป ตรงหน้าอกปรากฏเป็รอยไหม้
ก่อนที่คนชุดดำจะได้ทำอะไรต่อ พลันมีลำแสงสายหนึ่งยิงมาจากทางประตูเข้าพันร่างเอาไว้ ทำให้เขามิอาจขยับร่างกายได้เลย
ปัง!
ประตูถูกพลังกระแทกเปิดออกอย่างรุนแรง แล้วเริ่นเสี้ยวเทียนก็กระโจนเข้าไป ซัดพลังฝ่ามือเข้าที่หลังของคนหมวกดำก่อนที่จะดิ้นหลุดไปได้
“เฮือก!!!”
คนหมวกดำกระอักเืออกมาทันที เืสดๆ กระเซ็นแดงฉานเต็มพื้น
คนหมวกดำอ้าปากค้าง มองเริ่นเสี้ยวเทียนที่กระโจนเข้ามาด้านหลังด้วยสีหน้าตื่นใ
“เ้า! เ้าแข็งแกร่งมาก!”
หลังจากกล่าวจบ คนหมวกดำก็ล้มลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
ตายแล้ว!
อีกฝ่ายมีพลังยุทธ์ขั้นราชันระดับต้นเท่านั้น แต่เริ่นเสี้ยวเทียนกลับมีพลังยุทธ์ขั้นราชันระดับสูงสุด ทั้งยังโดนโจมตีจากด้านหลังจึงตายในกระบวนท่าเดียว ฝ่ามือของเขาทำลายอวัยวะภายในของอีกฝ่ายไปจนสิ้น รวมไปถึงทำให้จิติญญาแตกสลาย
“กล้าทำร้ายคนของข้าต่อหน้าข้า เ้ากล้าไม่น้อยเลยทีเดียว”
เริ่นเสี้ยวเทียนมองคนหมวกดำที่หมดลมหายใจไปแล้วพลางหัวเราะเสียงเย็น และเดินมาตรงหน้าเฝิงเป่าเป่า
ร่างของเฝิงเป่าเป่ามีรอยไหม้เพราะโดนพลังของอีกฝ่ายโจมตีจนาเ็ ตอนนี้เขาหมดสติไปแล้ว
เริ่นเสี้ยวเทียนไม่สนใจคนหมวกดำผู้นั้น รีบยกร่างเฝิงเป่าเป่าขึ้นไปบนเตียงและตรวจสอบอาการาเ็ของเขาอย่างละเอียด
เขาพบว่าอาการาเ็รุนแรงแต่ไม่ได้อันตราย พักผ่อนไม่กี่วันก็กลับมาเป็ปกติได้แล้ว แต่ที่เขาหมดสติไป สาเหตุหลักคือความหวาดกลัวและตื่นใ
หลังจากเกิดเื่ขึ้น เริ่นเสี้ยวเทียนเพิ่งเข้าใจว่าทำไมเฝิงเป่าเป่าถึงให้เขามาเป็ผู้คุ้มกัน มีคนคิดสังหารเขาจริงๆ
“ขอโทษด้วย เป็ความผิดของข้าเอง”
เริ่นเสี้ยวเทียนช่วยเขาเก็บกวาดทุกอย่าง ป้อนยาเรียกลมปราณให้เขาหนึ่งเม็ด ทิ้งร่างของคนหมวกดำไว้ข้างๆ ดูแลเฝิงเป่าเป่าด้วยความตั้งใจ
คนหมวกดำผู้นี้เขาสังเกตเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว เป็หนึ่งในสามขั้นราชันนอกจากพวกของเสิ่นเสวียน พลังของเขาค่อนข้างธรรมดา ก่อนหน้านี้จึงไม่ได้ใส่ใจ คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเื่แบบนี้ขึ้นจริงๆ
หลังจากนั้นอีกหลายวัน เริ่นเสี้ยวเทียนดูแลเฝิงเป่าเป่าอยู่ตลอด ส่วนเสิ่นเสวียน เสิ่นเสี่ยวเม่ย และเสิ่นเลี่ยนฝึกฝนอยู่ในห้องตลอดเวลา
สำหรับคนบ้าฝึกฝนสามคนนี้เขาเตรียมใจเอาไว้แล้ว หากไม่เกิดเื่ใหญ่ขึ้นจริงๆ ไม่มีทางปรากฏตัวออกมาเด็ดขาด
เจ็ดวันต่อมา
เริ่นเสี้ยวเทียนที่กำลังดูแลเฝิงเป่าเป่าอยู่พลันหรี่ตามองไปบนท้องฟ้า
ตูม!!!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับเรือเสวียนอู่ถูกชน ทำให้เรือไหวเอนอย่างรุนแรง