อู๋เฝ่ยยังจำได้ว่าฉู่จื้อเฉิงเป็คนเลือกให้เขาไปอยู่เคียงข้างฉู่อี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณฉู่จื้อเฉิงอยู่เสมอ เพราะรายได้ของคนที่อยู่รอบกายฉู่อี้นั้นสูงกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มาก แต่ถึงอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าการที่ฉู่จื้อเฉิงให้เขามาอยู่ข้างๆ ฉู่อี้จะเป็แผนร้ายที่ตั้งใจจะทำลายฉู่อี้จริงๆ
ตอนแรกฉู่จื้อเฉิงขอข้อมูลเกี่ยวกับตารางงานของฉู่อี้บ้าง เขาไม่ได้คิดมากและรายงานเป็ประจำทุกวันเป็เื่ปกติ หลังๆ ฉู่จื้อเฉิงเริ่มเขาให้เขาถ่ายรูปชีวิต รูปส่วนตัว หรือแม้แต่รูปตอนหลับนอนกับคู่ขาวันไนท์แสตนด์ของฉู่อี้ อู๋เฝ่ยรู้อยู่แล้วว่าฉู่จื้อเฉิงมีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่เขาเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ดีเกินไป ไม่ว่าจะสกปรกต่ำตมแค่ไหนเขาก็ชินชากับมันอย่างดี แต่เขาไม่คาดหวังว่าท้ายที่สุดแล้วฉู่จื้อเฉิงจะวางแผนทำร้ายทั้งฉู่อี้ บ่อนทำลายทั้งฉู่กรุ๊ป!
จะบอกว่าอู๋เฝ่ยไม่ลังเลเลยก็ไม่ถูกนัก นั่นเป็ไปไม่ได้ ถึงเขาจะชินชากับความโสมมของโลก แต่เขายังเป็คนมีจิตสำนึกและศีลธรรมอยู่บ้าง! แต่เขาอายุสามสิบสี่แล้ว เขาไม่อยากเก็บเงินไปอีกสิบห้าปีเพื่อเป็ค่าการผ่าตัดให้ตัวเอง เขายังอยากใช้ชีวิตธรรมดากับภรรยาผู้อ่อนหวานและลูกๆ ที่น่ารักเหมือนคนทั่วไป เขาอยู่ตัวคนเดียวมาสิบห้าปีแล้ว และไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปอีกแม้แต่วันเดียว ท้ายที่สุดเขาจึงเลือกที่จะลงมือ เตรียมพร้อมกับทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็หรือตาย! ถ้าฉู่จื้อเฉิงทำสำเร็จ เขาได้เงินแล้วก็จะออกจากฉู่กรุ๊ปไปผ่าตัดที่ประเทศไทย จากนั้นไปเริ่มต้นชีวิตใหม่แบบคนธรรมดาในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเขา ถ้าฉู่จื้อเฉิงล้มเหลว เขาก็เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ก้มหน้ารับโทษไป บางทีด้วยอัตลักษณ์ทางเพศของเขา เขาอาจจะถูกส่งตัวไปยังสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งหลายเพื่อทำการวิจัย และกลายเป็ตัวอย่างที่มีชีวิตก็เป็ได้
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของอู๋เฝ่ยที่สุดคือ เขาตกไปอยุ่ในเงื้อมมือของกู้เฟิง และตอนนี้เขาก็ตกมาอยู่ในเงื้อมือของครูฝึกที่ชื่อเสียวอู่ โดนบังคับให้ออกแสดง
ก่อนที่จะทำการแสดงอู๋เฝ่ยยังนึกปลอบใจตัวเองว่า ก็แค่มีคนดูเอง ถ้าไปอยู่ในสถาบันวิจัยไม่ใช่แค่โดนคนอื่นเฝ้ามอง ยังต้องโดนจับไปทดลองกับเครื่องมือต่างๆ อีก ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยในที่แบบนี้ เขาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะกลายเป็ตัวอย่างที่มีชีวิต!
แต่พออู๋เฝ่ยยืนบนเวทีการแสดง เห็นกรงขนาดใหญ่ตรงหน้า และเห็นตัวอักษรสีแดงประกายทองเขียนว่า 'การแสดงสัตว์ร้ายหายาก' เขาก็เข่าทรุดทันที! สัตว์ร้ายหายาก สัตว์ร้าย...หายาก! คนพวกนี้ไม่ใช่แค่เห็นเขาเป็สัตว์ประหลาด แต่ยังปฏิบัติต่อเขาเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานอีกด้วย!
อู๋เฝ่ยเริ่มเกลียดอู๋ไป่ั้แ่วินาทีนั้น เกลียดจนหน้าซีดเผือด ร่างกายสั่นระริก! แม้ว่าภายหลังเขาจะรู้ในภายหลังว่ากรงนั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ แต่อู๋ไป่เคยทำการแสดงโดยรับบทสัตว์ร้ายต่างๆ ในกรงมาก่อน เขาก็ยังเกลียดอู๋ไป่อยู่ดี
อู๋ไป่ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของอู๋เฝ่ยในตอนแรก เนื่องจากอู๋เฝ่ยให้ความร่วมมือดีเกินคาด นอกจากตอนที่วิ่งหนี และหลบซ่อนตัวไปทั่วกรงตอน่แรกของการแสดง แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่อู๋ไป่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับมัน
เสียวอู่ยังตั้ง 'ชื่อในวงการ' ให้กับอู๋เฝ่ยในระหว่างการแสดงด้วย ไม่ว่าจะเป็ 'เฟยเฟย' (飞飞) หรือ 'เฟย เฟย' (菲菲) ขึ้นอยู่กับว่าเขา้าให้อู๋เฝ่ยเป็ผู้ชายหรือผู้หญิง
หลังจากที่อู๋เฝ่ยวิ่งหนีจนเหนื่อย เสียวอู่จึงจับเขามัดไว้ เปิดของสงวนของอู๋เฝ่ยต่อหน้าผู้ชมทุกคน เสียวอู่ไม่คาดคิดเลยว่านี่เป็ครั้งแรกของอู๋เฝ่ย เพราะอีกฝ่ายอายุสามสิบกว่าแล้ว! ดังนั้นเมื่อเืพรมจรรย์หลั่งรินออกมา เสียวอู่ก็สะดุ้งโหยง คิดหาทางจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทัน เป็ผลให้เืของอีกฝ่ายไหลอาบต้นขา อู๋เฝ่ยที่อยู่บนเวทีร้องไห้น้ำตาไหลเป็สาย แต่กลับไร้สุ้มเสียง เหล่าบุรุษเพศนอกกรงขังต่างส่งเสียงโห่แซว ผสมผสานกับกลิ่นคาวอันเป็เอกลักษณ์ของน้ำกาม
เสียวอู่ตั้งสติ ปิดฉากการแสดงครั้งนี้อย่างรวดเร็วด้วยวิธีการที่ต่างไปจากเดิมโดยไม่ทิ้งร่องรอย
เมื่อลงจากเวทีอู๋ไป่อยากจะปลอบใจอู๋เฝ่ย เพราะไม่ว่าอู๋เฝ่ยจะขึ้นไปบนเวทีนั้นด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ถึงอย่างนั้นบนเวทีระหว่างการแสดง อู๋เฝ่ยก็ถือเป็สัตว์เลี้ยงของเสียวอู่ เขาควรจะรับผิดชอบอู๋เฝ่ยในขณะนั้น มันเป็ความผิดของเขาที่ไม่ทำความเข้าใจสภาพร่างกายของอู๋เฝ่ยเสียก่อน!
แต่หลังจากก้าวลงจากเวที อู๋เฝ่ยกลับน้ำตาเหือดแห่ง ยืนด้านหลังอู๋ไป่ครึ่งก้าวอย่างเชื่อฟังตามแบบฉบับสัตว์เลี้ยงในร้าน แถมยังทำทาทางว่านอนสอนง่าย แล้วจะให้เสียวอู่ปลอบอย่างไร? ถึงอย่างไรอู๋เฝ่ยก็ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงคนอื่นๆ ถึงไม่เคยร่วมมือกับเขา ไม่ได้รู้ใจกันก็ช่างประไร พวกเขาเป็ศัตรูกันอ้อมๆ ด้วยซ้ำ แต่โชคดีที่การแสดงสดครั้งแรกจบลงแล้ว เขาเองก็อธิบายกับมาสเตอร์เฟิงจื่อเป็ที่เรียบร้อยเช่นกัน
ทว่าท่าทางเชื่องๆ ของอู๋เฝ่ย ทำให้เสียวอู่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย หรือนี่คือสิ่งที่เรียกว่าเวอร์จินคอมเพล็กซ์1? อู๋ไป่ตกตะลึงกับความคิดของตัวเอง
เพราะสุดท้ายแล้วอู๋ไป่ก็ไม่ได้จับอู๋เฝ่ยเข้าเรียนในคลาสอบรมรวม แต่รับอู๋เฝ่ยมาอยู่ข้างกายเช่นเดียวกับที่กู้เฟิงทำกับเขา แต่กู้เฟิงแค่แนะนำสั่งสอนเท่านั้น เขาทำการฝึกอู๋เฝ่ยด้วยตนเอง
มารยาท การวางท่วงท่า กฎระเบียบ...ทุกเื่ที่สัตว์เลี้ยงควรรู้ อู๋ไป่ล้วนถ่ายทอดให้กับอู๋เฝ่ยทั้งหมดไม่มีกั๊ก อู๋เฝ่ยเองก็ตั้งใจเรียนอย่างดี ให้คุกเข่าก็ไม่ยืน ให้ยกก้นขึ้นก็ไม่ยกขา ให้ใช้ปากก็ไม่เผยอฟันออกมา...
ตลอด่เวลานี้ อู๋ไป่เองก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง คิดอยู่เสมอว่าอู๋เฝ่ยมีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่ก็หาคำอธิบายไม่ได้ อีกอย่าง ถึงเขาจะเป็ครูฝึกที่ SuperMoment มาหลายปี เคยติวเข้มเื่จิตวิทยากับกู้เฟิงอยู่หลายวัน แต่เนื่องจากเขาเคยเป็ตำรวจและเคยเรียนในโรงเรียนตำรวจ มาสเตอร์เฟิงจื่อมักจะพูดอยู่เสมอว่าเขามีความคิดที่ละเอียดอ่อน เมื่อใดก็ตามที่พุดถึงจิตวิทยา เขาจะคิดถึงจิตวิทยาอาชญากรรมร่ำไป ดังนั้นหลังจากขบคิดเื่ของอู๋เฝ่ยอยู่หลายวันแต่ไม่ได้อะไรขึ้นมา เขาก็ล้มเลิกไป ถึงอย่างไรเสียอู๋เฝ่ยก็กิน นอน ทำการแสดงอย่างที่ควรจะทำ ไม่ได้อิดออดแม้แต่น้อย!
จนกระทั่งกู้เฟิงพาฉู่อี้มาเจอฉู่จื้อเฉิงในสามเดือนให้หลัง เื่ราวจึงเริ่มเปลี่ยนแปลง ่นี้อู๋เฝ่ยตามเสียวอู่ไปทำการแสดงทุกเดือน เดือนละครั้ง รวมทั้งหมดเป็สองครั้ง
"เขาอยู่กับนายเหรอ?" หลังจากปล่อยให้ฉู่อี้และฉู่จื้อเฉิงพูดคุยกับตามลำพัง กู้เฟิงไม่ได้กลับไปหาหุ้นส่วนทั้งสอง แต่มาที่ห้องของเสียวอู่เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์บางอย่าง แต่ก็ต้องผิดคาดเมื่อเห็นอู๋เฝ่ยอยู่ที่ห้องเสียวอู่
"ใช่ครับ ั้แ่เข้ามาในร้านก็อยู่กับผมที่นี่ตลอด" เสียวอู่ให้ความเคารพกู้เฟิงผู้เป็อาจารย์อย่างยิ่งยวดมาโดยตลอด แม้วาความจริงแล้วกู้เฟิงจะอายุห่างจากเขาไม่เท่าไหร่ เรียกได้ว่าอายุไล่เลี่ยกันด้วยซ้ำ
กู้เฟิงมองอู๋เฝ่ยอยู่นาน แล้วหันกลับมามองเสียวอู่ จากนั้นจึงถามขึ้น "อีกสองคนที่เหลือล่ะ เป็ยังไงบ้าง?"
เสียวอู่เข้าใจโดยปริยายว่ากู้เฟิงหมายถึงใคร "คนหนึ่งเป็บ้าไปแล้วครับ วันๆ เอาแต่พูดจาวกวน ไม่ก็ร้องไห้เป็วรรคเป็เวร ส่วนฉู่จื้อเฉิงกลายเป็คนโง่ พูดไม่ได้อีกแล้วครับ สั่งให้ทำอะไรก็ทำ แต่ดวงตาเหม่อลอยตลอดเลยครับ"
"แค่นี้เองเหรอ?" กู้เฟิงเลิกคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดว่ายังไม่พึงพอใจกับคำตอบนี้
เสียวอู่รีบเสริมอีกประโยค "พวกเขาผ่านการฝึกฝนร่างกายแล้วครับ ประธานจางนั่นหลั่งได้ตอนที่โดนแส้ฟาด ส่วนฉู่จื้อเฉิงก็ถึงจุดสุดยอดหรือระหว่างการฝึกทั่วไปครับ"
กู้เฟิงพยักหน้าแล้วกลับไปชี้อู๋เฝ่ย "แล้วหมอนั่นล่ะ?"
"เขาเหรอครับ?" เสียวอู่ผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะรีบตอบกลับ "ผมให้เขาทำการแสดงอย่างที่ท่านสั่งแล้วครับ กำหนดให้เปิดการแสดงเดือนละครั้ง ผลตอบรับจากลูกค้าถือว่าไม่เลว ตอนนี้มีคนจองตัวไว้แล้ว อีกไม่กี่วันก็เรียนรู้กฎทุกข้อของสัตว์เลี้ยงแล้ว ถ้าผ่านการประเมินก็สามารถขึ้นป้ายเปิดห้องได้เลยครับ"
"แบบเดียวกับเย่ถานตอนแรกๆ ใช่ไหม?" กู้เฟิงหรี่ตาถาม
การขึ้นป้ายเปิดห้องนั้นคนในร้านต่างรู้กันดี ที่หน้าร้านจะมีกระดานเรืองแสงขนาดใหญ่ซึ่งติดชื่อ รูปถ่าย และเกรดของ MB ทั้งหมดในร้าน ร้านจะคิดค่าเปิดห้องแบบคงที่ตามเกรดต่างๆ แน่อนว่าทิปก็มีจำนวนเงินขั้นต่ำ ปรับเปลี่ยนไปตามเกรด แต่ไม่มีขีดจำกัดสูงสุด และไม่มีการห้ามปรามลูกค้าหากพวกเขาเต็มใจที่จะจ่าย
เื่พวกนี้พวกหน้าใหม่เพิ่งเข้าร้านยังรู้ดี เสียวอู่ไม่เข้าใจว่าทำไมกู้เฟิงถึงต้องถามด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ตอบด้วยความเคารพ "ครับ" อันที่จริงเสียวอู่ไม่รู้ว่าเย่ถานใน่แรกเป็อย่างไร ถึงจะเคยได้ยินได้ฟังเื่ของเย่ถานมาบ้าง แต่เนื่องจากตอนที่เขาเข้ามาในร้าน เย่ถานก็เป็ผู้จัดการร้านแล้ว สิ่งเดียวที่เขามั่นใจคือตอนแรกเย่ถานเป็ตัวท็อปของร้าน ดังนั้นเขาจึงเดาว่ากู้เฟิงน่าจะกำลังสงสัยเื่เกรดในร้านของอู๋เฝ่ย "ถึงเขาจะอายุมากแล้ว รูปร่างหน้าตาไม่น่ามองเท่าไหร่ แต่โชคดีที่เป็สินค้าพิเศษ เรียกได้ว่าเป็สินค้าหายากของร้านเรา น่าจะพอแตะแรงค์ตัวท็อปได้อยู่นะครับ"
กู้เฟิงเหลือบมองอู๋เฝ่ยผู้มีใบน้าเรียบเฉยทางหางตา แล้วหันกลับมามองเสียวอู่ที่กำลังสับสนอยู่นานอีกครั้ง "นายรู้หรือเปล่าว่าฉันกำลังพูดถึงเื่อะไร?"
ไม่รู้! "มาสเตอร์?" เสียวอู่ไม่เข้าใจเลยสักนิด
กู้เฟิงถอนหายใจแล้วโบกมือไล่อู๋เฝ่ย "นายออกไปก่อน"
อู๋เฝ่ยผงะ สีหน้าสับสน เห็นได้ชัดว่าเขาผ่านการฝึกเป็สัตว์เลี้ยงตามมาตรฐานแล้ว ในเมื่อเ้านายไม่ได้สั่ง เขาจึงไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร กู้เฟิงตระหนักดีถึงเื่นี้ จึงกล่าวเสริมทันควัน "ออกไปเดินเล่นรอบสนามก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันให้คนไปตามกลับมา"
ความสับสนบนใบหน้าของอู๋เฝ่ยหายไป แต่ยังไม่วายหันไปมองเสียวอู่ด้วยความลังเล เสียวอู่พยักหน้าแล้วพูด "ไปเถอะ" อู๋เฝ่ยจึงลุกขึ้นจากไป ก่อนจะจากไปยังทำการอำลาแบบสัตว์เลี้ยงมาตรฐานให้กับกู้เฟิงและอู๋ไป่ด้วย
กระทั่งอู๋เฝ่ยออกไป และประตูห้องปิดลง กู้เฟิงจึงชี้ไปทางที่อู๋เฝ่ยเพิ่งออกไปแล้วกล่าวกับเสียวอู่ "เขามีปัญหา นายไม่เห็นเหรอ?"
"ปัญหาเหรอครับ?" เสียวอู่ตึงเครียดขึ้นมาทันที "มาสเตอร์หมายความว่า?"
"เขามีปัญหาทางจิต เขาป่วยเป็โรคทางจิต" กู้เฟิงชี้ที่ตำแหน่งหัวใจบนทรวงอก
เสียวอู่ผ่อนคลายลง! ที่แท้มาสเตอร์ก็หมายถึงเื่นี้นี่เอง เขาก็นึกว่ามีปัญหาอะไรซะอีก? "ร่างกายแข็งแรงดีก็พอแล้วนี่ครับ" ร้านพวกเขาขายเรือนร่าง ไม่ใช่คลินิกจิตวิทยา อีกสองคนที่บ้ากว่านั้นไม่เห็นกู้เฟิงจะถามอะไรสักแอะ
เมื่อเห็นรอยยิ้มส่อแววเสียดสีของอู๋ไป่ กู้เฟิงขมวดคิ้วน้อยๆ "เสียวอู่ ฉันเคยบอกนายแล้วว่าถึงการฝึกจะเป็เกมระหว่างสัตว์เลี้ยงกับครูฝึก แต่พวกนายไม่ได้เป็คู่แข่งกัน เขาไม่ใช่ศัตรูของนาย"
----------------------------------------------------------------
1 เวอร์จินคอมเพล็กซ์ (virgin complex) ความรู้สึกปรารถนาให้คู่ครองหรือคู่รักของตนไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน นอกจากนี้ความรู้สึกนี้อาจจะมุ่งเป้าไปที่ตนเองด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้