"ข้าต้องไปต้าชิงตอนนี้!?"
เสียงของมู่หรงเซียวสั่นน้อย ๆ แม้นางพยายามควบคุมไม่ให้มันสั่น แต่ลึก ๆ แล้ว หัวใจของนางกลับเต็มไปด้วยความปั่นป่วน
สิ่งที่หลิงชิงบอกเมื่อครู่ ประกอบกับบทสนทนาที่นางบังเอิญได้ยินระหว่างเสด็จแม่และเสด็จพี่เมื่อวันก่อน ทำให้ข่าวนี้มีน้ำหนักมากขึ้น
นางรู้อยู่แก่ใจว่าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่รักและหวงแหนนางมากเพียงใด หากไม่มีเหตุจำเป็จริง ๆ ย่อมไม่มีทางส่งบุตรสาวไปอยู่แคว้นอื่นแน่นอน หรือว่า... เื่ที่นางฝันถึงเซียวหยางมี่จะไม่ใช่เพียงความฝันธรรมดา
แม้มู่หรงเซียวจะยังเยาว์วัย แต่นางไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้ความ
ั้แ่เด็ก นางก็รับรู้ได้ว่ามารดาของตนนั้นมีเชื้อสายจากแคว้นต้าชิง แต่นั่นก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเื่ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
ยิ่งคิด นางก็ยิ่งรู้สึกว่า ตนเองอาจมีความเกี่ยวพันกับเซียวหยางมี่ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หากนางอยากไขความลับของความฝัน และ้ารู้ว่าเื่ราวที่ติดค้างอยู่ในใจมาหลายคืนมีความหมายว่าอย่างไร
ทางเดียวคือต้องเดินทางไปต้าชิง...
แต่สิ่งที่รบกวนจิตใจของนางมากที่สุดคือตัวของหวังเฟิ่ง นางไม่อยากพบเขา ไม่อยากแม้แต่จะเข้าใกล้ เพราะยิ่งได้รู้จักเขาในฝัน นางก็ยิ่งหวาดกลัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
หากเขาคือบุรุษในความฝันจริง เขาช่างเป็บุรุษที่ใจโลเล โหดร้ายกับสตรีตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่างไม่น่าให้อภัย
ในสายตาของนาง หวังเฟิ่งเป็เพียงบุรุษที่แสนเลว เป็คนรักที่ไร้หัวใจ และเป็สามีที่ผิดสัญญา และหากเขาคิดว่านางจะยอมรับชะตากรรมนี้ง่ายๆ เขาคิดผิดอย่างมหันต์!
"ถวายบังคมเสด็จพ่อ ถวายบังคมเสด็จแม่ เสด็จพี่..."
น้ำเสียงของมู่หรงเซียวฟังดูแ่เบากว่าปกติ นางรู้ดีว่า วันนี้คือวันแห่งการพลัดพราก
เพราะเบื้องหน้าของนางคือขบวนคณะทูตจากแคว้นต้าชิง บุรุษในชุดเครื่องแบบของต้าชิงยืนเรียงรายเป็ระเบียบ ด้านหน้าสุดคือราชทูตผู้เป็ตัวแทนของจักรพรรดิ พวกเขามิได้แสดงออกถึงความกดดันหรือความเข้มงวด ทว่ากลับมีความสง่างามและเยือกเย็นที่ยากจะอ่านออก
"เ้าคงได้ยินแล้วสินะ"
เสียงขององค์ชายมู่หรงเยวี่ยนขาดความอบอุ่นเช่นทุกครั้ง น้ำเสียงของพระเชษฐาในยามนี้แฝงไปด้วยอารมณ์บางอย่างที่ยากจะอธิบาย
"เ้าต้องเดินทางไปเป็ราชทูตของแคว้นเจียงหนาน เพื่อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการค้า และการช่วยเหลือทางการทหาร"
มู่หรงเซียวเม้มริมฝีปากแน่น นางรู้อยู่แล้วว่าเื่นี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่พอได้ยินกับหูของตัวเอง หัวใจก็ยังรู้สึกหนักอึ้งอยู่ดี
"แต่ว่าตัวข้านั้นเป็สตรี เกรงว่าจะไม่เหมาะสม..."
"ทูลองค์หญิง แคว้นต้าชิงของเรานั้นกว้างขวาง มิได้แบ่งแยกหญิงชาย"
ราชทูตของต้าชิงเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ คำพูดของเขาทำให้นางเผลอคิดถึงสิ่งที่เคยเห็นในฝัน
ใช่แล้ว ที่นั่นไม่มีการแบ่งแยกสตรีบุรุษ ั้แ่ในสำนักศึกษา ทุกคนถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียม แคว้นต้าชิง และแคว้นเจียงหนานไม่ต่างกันเท่าใดนัก
เพียงแต่ว่ามู่หรงเซียวมิได้กังวลเื่ธรรมเนียม นางกังวลเกี่ยวกับตัวบุรุษที่ปกครองแคว้นนั้นต่างหาก นางไม่อยากเข้าใกล้องค์จักรพรรดิต้าชิง ไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้าเขา!
แต่ท้ายที่สุด ความกดดันจากาก็ทำให้นางไม่มีทางเลือก
ขณะที่ขบวนคณะทูตของต้าชิงเริ่มออกเดินทางจากเขตพระราชฐาน มู่หรงเซียวก็ได้แต่มองเหล่าข้าราชบริพารและประชาชนที่มาร่วมส่งเสด็จ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
นางมิใช่เพียงองค์หญิงของเจียงหนานอีกต่อไป แต่เป็ตัวประกันทางการเมืองของแคว้นต้าชิงด้วยเช่นกัน
เส้นทางระหว่างเจียงหนานและต้าชิงนั้นช่างยาวไกลเหลือเกิน
มู่หรงเซียวโดยสารอยู่ภายในรถม้า ด้านนอกคือเหล่าทหารคุ้มกันที่เดินเรียงรายเป็ระเบียบ แม้การเดินทางจะสะดวกสบาย แต่ในใจของนางกลับไม่สงบแม้แต่น้อย
นางพยายามประวิงเวลา ไม่อยากเดินทางเร็วเกินไป ยิ่งเข้าใกล้แคว้นต้าชิง นางก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด หากเป็ไปได้ นางอยากจะหนีหายไปจากเส้นทางนี้เสียเดี๋ยวนี้!
แต่ทำเช่นนั้นไม่ได้...
"ท่านองครักษ์"
นางเรียกหาชายที่ควบม้าข้างรถม้า เขาเป็หนึ่งในทหารของต้าชิง ดูเหมือนจะเป็องครักษ์ส่วนพระองค์ของจักรพรรดิ มู่หรงเซียวเคยสังเกตเขามาตลอดทาง
"ไม่ทราบว่าตอนนี้เราถึงที่ใดแล้ว และอีกกี่วันเราจะเดินทางถึงแคว้นต้าชิง?"
องครักษ์หนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย ราวกับไม่คาดคิดว่าองค์หญิงจะเอ่ยถาม เขาหันมามองก่อนจะโค้งศีรษะ
"ทูลองค์หญิง... ขณะนี้เราเดินทางถึงเขตหัวเมืองชายแดนแล้วพ่ะย่ะค่ะ หากเดินทางต่อโดยไม่มีอุปสรรคใด คาดว่าอีกเจ็ดวันจะถึงวังหลวง"
เจ็ดวัน...
มู่หรงเซียวรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป
"การเดินทางรีบเร่งเกินไปหรือไม่?" นางเอ่ยเสียงเรียบ แต่มีนัยซ่อนอยู่ "เส้นทางยาวไกล คณะเดินทางของเราควรพักบ้าง เพื่อมิให้ผู้คนเหนื่อยล้า"
องครักษ์หนุ่มนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างระมัดระวัง "องค์หญิงโปรดวางใจ เส้นทางที่เราผ่านล้วนมีที่พักเรียบร้อยแล้ว ทหารทุกนายล้วนแข็งแกร่ง สามารถเดินทางต่อได้โดยไม่มีปัญหา"
คำตอบของเขาทำให้นางต้องกลั้นถอนหายใจ นั่นมิใช่สิ่งที่นาง้าฟัง
ยามค่ำคืน ขบวนเดินทางหยุดพักที่ศาลาริมทาง มู่หรงเซียวยืนอยู่ริมระเบียง มองออกไปยังฟ้าเวิ้งว้าง นางไม่แน่ใจว่าเสด็จพ่อและเสด็จแม่กำลังทำอะไรอยู่ เสด็จพี่ของนางจะเป็อย่างไรบ้าง
ที่สำคัญ บุรุษที่รออยู่ปลายทาง...หวังเฟิ่งกำลังคิดอะไรอยู่?
"องค์หญิง ค่ำแล้ว โปรดพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ"
เสียงองครักษ์หนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง มู่หรงเซียวหันไปมองแล้วพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
"ข้ามิได้เหนื่อย"
"แต่พรุ่งนี้เรายังต้องเดินทางต่อ..."
"ข้าอยากให้ขบวนเดินทางช้าลง"
นางเอ่ยขึ้นในที่สุด
"องค์หญิง?"
"ข้ามิได้อยากไปต้าชิงนักหรอก" มู่หรงเซียวหัวเราะเบา ๆ อย่างขมขื่น
"หากเป็ไปได้ ข้าอยากเดินทางเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ โดยมิถึงจุดหมายเสียด้วยซ้ำ"
องครักษ์หนุ่มนิ่งเงียบ ไม่กล้าตอบคำใด เพราะทั้งเขา และทุกคนในขบวนเดินทาง ต่างรู้ดีว่า องค์จักรพรรดิแห่งต้าชิงกำลังรอพบพระนางอย่างใจจดใจจ่อ
ในที่สุด มู่หรงเซียว ก็เดินทางมาถึง เมืองหลวงชั้นในของแคว้นต้าชิง แม้ตลอดทางนางจะพยายามเตรียมใจ แต่เมื่อย่างเท้าเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะท้านไปทั้งร่าง
ภาพบ้านเมือง อาคาร ตรอกซอกซอย ล้วนให้ความรู้สึก คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ช่างเหมือนกับสิ่งที่นางเห็นในความฝัน เหมือนเสียจนรู้สึกหวาดกลัว
ขบวนเดินทางมุ่งตรงไปยัง พระราชวังหลวง ของต้าชิง ในที่สุดนางก็ก้าวเข้าสู่ ท้องพระโรง
ทันทีที่นางก้าวเข้ามา กลับพบว่าสายตานับไม่ถ้วนจับจ้องมายังนาง สายตาบางคู่เต็มไปด้วยความตกตะลึง บางคู่แสดงออกถึงความไม่พอใจ และบางคู่ก็จับจ้องราวกับ้ากลืนกินนางทั้งเป็
โดยเฉพาะ สตรีสามนางที่ประทับอยู่ด้านข้างของบัลลังก์ทอง พวกนางนั่งอยู่ต่ำกว่าบัลลังก์สองขั้น ตามฐานะของพระสนมในวังหลัง และหนึ่งในนั้นคือสตรีที่อยู่ใกล้องค์จักรพรรดิที่สุด
หลิวหงหลัน...!?
มู่หรงเซียวชะงัก หัวใจเต้นกระหน่ำโดยไม่รู้ตัว นาง... นางเคยเห็นสตรีผู้นี้มาก่อน
แม้จะไม่มีความทรงจำใดเกี่ยวกับหลิวหงหลันในชีวิตนี้ แต่เพียงแค่สบตากับนาง ความรู้สึกเกลียดชังที่อธิบายไม่ได้ ก็พลันพวยพุ่งขึ้นมาในอก
นางจำได้...หลิวหงหลัน คือผู้หญิงในความฝัน คนที่อยู่เื้ัการล่มสลายของเซียวหยางมี่ นางเป็สตรีที่ทำลายชีวิตของนางในอดีต
มู่หรงเซียวรีบสะกดกลั้นความรู้สึกทั้งหมดไว้ ก่อนจะย่อตัวลงอย่างสง่างาม เอ่ยเสียงเรียบ
"คารวะฝ่าา และเชื้อพระวงศ์ทุกท่าน ข้ามู่หรงเซียว องค์หญิงแห่งแคว้นเจียงหนาน มาในฐานะราชทูตเพคะ"
แม้จะพยายามทำตัวสงบเสงี่ยม แต่สีหน้าของหลิวหงหลันกลับ หมองคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด
พระสนมผู้งดงามกำฝ่ามือแน่น จิกเล็บลงบนผิวเนื้อตัวเองจนขึ้นรอยแดง แววตาที่มองมู่หรงเซียวเต็มไปด้วยความ ไม่พอใจอย่างถึงที่สุด
"..."
ไม่ใช่แค่หลิวหงหลัน พระสนมอีกสองนางที่อยู่ด้านข้างก็มองนางอย่างไม่เป็มิตร แม้พวกนางจะมิได้แสดงออกอย่างชัดแจ้ง เท่าหลิวหงหลัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่า การปรากฏตัวของนางไม่เป็ที่ต้อนรับในวังหลังแห่งนี้
เพราะในตอนนี้ ตำแหน่งจักรพรรดินีของต้าชิง ยังคงว่างอยู่ และการที่องค์จักรพรรดิสละเวลาเสด็จไปยังเจียงหนานด้วยพระองค์เอง
ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าของมู่หรงเซียว... เหมือนกับใบหน้าของใครบางคนที่ควรจะถูกฝังไปกับอดีต หญิงนั้นที่เป็ดั่งเงาที่ไม่มีวันเลือนหายไปจากวังหลวงนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้