น่าเสียดายจริงๆ ทรัพยากรอันมีค่าแต่ต้องสิ้นเปลืองไปโดยเปล่าประโยชน์!
เย่ชิงหานทอดถอนใจออกมาด้วยความจำใจ ของดีเช่นนี้ทำได้เพียงแค่มองแต่ใช้ไม่ได้ ช่างเป็เื่น่าเสียใจจริงๆ แต่เขาก็เข้าใจเหตุผลที่ลู่ซีพูดออกมา ดังนั้นจึงไม่คิดอะไรมากพยักหน้าตอบรับออกไป
เมื่อเห็นเย่ชิงหานพยักหน้าลู่ซีจึงพูดขึ้นต่อ “ดาบเล่มนี้นายท่านเรียกมันว่าดาบสังหารเทพ ระดับ...ไม่รู้ ความสามารถ...ไม่รู้ แม้มันจะสามารถเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้ขึ้นมาอีกเพียงสองเท่าตัว แต่นายท่านบอกว่าดาบเล่มนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าเขาไม่มีเวลาไขความลับที่ซ่อนอยู่ภายในดาบเล่มนี้เท่านั้นเอง ซึ่งดาบเล่มนี้เมื่อมองดูจากลักษณะภายนอกแล้วจะดูออกเลยว่าเป็อาวุธระดับเทพ อีกทั้งเวลาใช้ก็ไม่มีสิ่งแปลกพิเศษอะไรแสดงออกมาให้เห็น ภายนอกดูไม่ต่างจากสมบัติล้ำค่าระดับปกติทั่วไป ดังนั้นดาบเล่มนี้เ้านำไปใช้ได้อย่างสบายใจ! รับไป!”
ดาบสังหารเทพ?
ระดับไม่รู้?
ความสามารถไม่รู้?
เพิ่มพลังให้ผู้ใช้ขึ้นอีกสองเท่าตัว? เป็ของที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน?
เย่ชิงหานยังคงครุ่นคิดถึงคำพูดของลู่ซี ทันใดนั้นลู่ซีพลันโยนดาบมาให้ เขารีบรับเอาไว้อย่างรีบร้อนจากนั้นทำการตรวจสอบดูอย่างละเอียดขึ้น
ความจริงแล้วถ้าจะพูดกันจริงๆ ดาบสังหารเทพเล่มนี้จะเรียกว่าดาบเสียทีเดียวเลยก็ไม่ได้เพราะตัวดาบยืดตรงออกไปเหมือนกระบี่ แต่ก็ไม่สามารถเรียกว่ากระบี่ได้เช่นกันเพราะปลายของมันเรียบเหมือนดาบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีคมเพียงแค่ด้านเดียวเท่านั้น
ดาบมีความยาวเมตรห้าสิบกว้างหนึ่งฟุต น้ำหนักโดยประมานหนึ่งร้อยกิโลกรัม ตัวดาบสีดำมันขลับพร้อมกับมีลวดลายสลักสีดำแดงลึกลับ ลักษณะของดาบเล่มนี้ทำให้เย่ชิงหานนึกถึงดาบเล่มหนึ่งในนิยายเื่ดังเมื่อชาติที่แล้ว “ดาบผ่าปฐี” ที่ดูเหมือนกันอย่างกับแกะ จะมีก็แค่เพียงสีของดาบเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน อืม...ดาบเล่มนี้จะเรียกว่าเป็ไม้บรรทัดเหล็กด้ามใหญ่ก็ว่าได้เพียงเพราะมีคมอยู่ด้านหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้มันดูแตกต่าง
เมื่อมือของเย่ชิงหานจับลงไปบนด้ามดาบพลันรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่น่าใ เป็ครั้งแรกที่เขาเคยเห็นอาวุธที่มีน้ำหนักกว่าร้อยกิโล แต่ด้วยพลังฝีมือที่แข็งแกร่งขึ้นมาเป็อย่างมากของเย่ชิงหานในตอนนี้ ดาบน้ำหนักเพียงแค่ร้อยกิโลก็ไม่ต่างจากจับมีดหั่นผักอย่างไรอย่างนั้น
ควงฟันไปมาอยู่หลายคราเย่ชิงหานรู้สึกพอใจเป็อย่างมาก ความจริงแล้วเขาอยากที่จะเปลี่ยนอาวุธมานานแล้ว กริชัเขียวแม้จะใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วคุ้นเคยดีก็ตาม แต่ว่ามีขนาดสั้นจนเกินไปอีกทั้งตอนนี้เขาฝึกฝนเจ็ดกระบวนท่าเย่หวงได้สำเร็จแล้วจึงอยากที่จะมีดาบยาวที่ดูดุดันน่าเกรงขามมานานแล้ว และเ้าดาบเล่มนี้ทำให้เขารู้สึกพอใจเป็อย่างมาจนไม่อาจจะวางมันลงได้
“เป็ดาบที่ดี! เป็ดาบที่ดี!” เย่ชิงหานปลื้มปีติยินดีเป็อย่างมาก มือลูบคลำดูตัวดาบอยู่อย่างต่อเนื่องััรับรู้ได้ถึงความเย็นะเืที่ส่งผ่านมา ดาบเล่มนี้แม้จะดูไม่สวยงาม ดูไม่ลึกลับและทรงพลังเท่ากระบี่เทพเล่มนั้น แต่เมื่อเย่ชิงหานได้จับดาบเล่มนี้กลับเกิดความรู้สึกเหมาะมือและรู้สึกชอบเป็อย่างมาก คล้ายกับว่าดาบเล่มนี้เดิมทีแล้วมันเป็ของเขามาั้แ่แรกแล้ว เป็ส่วนหนึ่งของร่างกายที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ฉันนั้น
แม้จะไม่รู้ระดับ ไม่รู้ความสามารถ แต่หุนตี้ที่เป็ถึงผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจักรพรรดิเทพ์ซึ่งเป็ยอดยุทธ์อันดับหนึ่งผู้นั้นนออกปากเองว่าเป็ดาบที่ไม่ธรรมดา เย่ชิงหานคิดว่าต่อไปถ้าหากมีเวลาจะต้องทำการศึกษามันดูบ้างเหมือนกัน ไม่แน่ว่าดาบเล่มนี้อาจจะเหมือนกับแหวนจักรพรรดิิญญาที่เขาสวมใส่อยู่ก็เป็ได้ อยู่ดีๆ ก็มีความสามารถที่น่าอัศจรรย์จนคาดไม่ถึงปรากฏออกมา
“เอาละ!”
คำพูดของลู่ซีดึงอารมณ์ความคิดของเย่ชิงหานกลับมาอีกครั้ง เขามองดูอาการของเย่ชิงหานที่ราวกับเด็กน้อยได้รับของเล่นที่ถูกอกถูกใจจึงยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นต่อ “ต่อไปยังมีเวลาอีกเยอะให้เ้าเล่นกับมัน แต่ตอนนี้เ้ามีเื่สำคัญกว่าที่จะต้องทำ!”
“อืม!” เย่ชิงหานพยักหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างเกรงอกเกรงใจ “เื่อะไรเชิญท่านพูดออกมาได้เลยผู้เฒ่าลู่!”
“ทำการหลอมเชื่อมต่อกับแหวนวงนี้ให้ได้เพราะมันเป็แกนกลางที่เป็หัวใจของหอเซียวเหยา มันเป็แหวนมิติที่น่าอัศจรรย์เป็อย่างมาก เมื่อเ้าหลอมมันได้แล้วก็เท่ากับว่าเชื่อมต่อกับหอเซียวเหยาได้เช่นเดียวกัน ต่อไปเ้าก็จะเข้ามาภายในหอเซียวเหยาแห่งนี้ได้ทุกเมื่อที่้า!” ลู่ซีจับแหวนโยนมาให้เย่ชิงหาน
“สมบัติล้ำค่าระดับเทพประเภทมิติ หลอมเชื่อมต่อกับมันได้ก็เท่ากับว่าหลอมหอเซียวเหยาได้?” เย่ชิงหานมองดูแหวนที่อยู่ในมืออย่างงุนงงสงสัย ส่วนมืออีกข้างหนึ่งยังคงถือดาบสังหารเทพไม่ยอมวาง
“ความจริงแล้วหอเซียวเหยาเดิมทีนั้นอยู่ภายในแหวนเซียวเหยาวงนี้ เพียงแต่ว่านายท่านบังคับย้ายมันออกมายังเขตพื้นที่กระแสลมสุริยะที่ปั่นป่วนของโลกจักรวาลทวีปัเพลิงของพวกเ้าเท่านั้นเอง ตอนนี้เ้าทำการหลอมแหวนได้หอเซียวเหยาก็จะกลับเข้าไปยังภายในแหวนเองอีกครั้ง นี่ไม่ใช่สมบัติล้ำค่าระดับเทพประเภทมิติธรรมดาทั่วไป เพราะสมบัติล้ำค่าระดับเทพประเภทมิติธรรมดาทั่วไปนั้นไม่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตได้!” ลู่ซีพูดอธิบายถึงการหลอมแหวนวงนี้ให้เย่ชิงหานฟัง
ต่อมาเมื่อเย่ชิงหานเข้าใจถึงการหลอมแหวนวงนี้แล้วลู่ซีจึงรีบพูดกระตุ้นขึ้น “เอาละ เ้ารีบหลอมมันเดี๋ยวนี้เลย เส้นทาง์ของูเาสุสานทวยเทพเปิดออกแล้ว ระดับความยากในการผ่านด่านลดลงมากว่าครึ่งเ้ารีบๆ หลอมให้สำเร็จ คำถามอื่นๆ ข้าจะอธิบายให้เ้าฟังทีหลัง!”
“ตกลง!” เย่ชิงหานเข้าใจถึงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ตรงหน้าดี นำดาบสังหารเทพวางไว้ที่พื้น จากนั้นหลับตาเริ่มการหลอมเชื่อมต่อกับแหวนขึ้น
.................................
ในขณะที่เย่ชิงหานกำลังเริ่มหลอมแหวนอยู่นั้น ูเาสุสานทวยเทพเริ่มสั่นไหวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หอเทพที่ลอยเด่นอยู่เหนือปลายยอดเขาูเาสุสานทวยเทพก็สั่นไหวขึ้นเล็กน้อยเช่นเดียวกัน แต่เห็นได้ชัดว่าผู้คนที่อยู่ด้านล่างไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้
ความจริงแล้วหอเทพเล็กๆ ที่ผู้คนในทวีปัเพลิงมองเห็นนั้นเป็แค่ภาพที่ถูกจำลองขึ้นมาเพียงเท่านั้นเอง ตัวหอเทพที่แท้จริงนั้นถูกวางเอาไว้ภายในเขตพื้นที่กระแสลมสุริยะปั่นป่วนของทวีปัเพลิง
ภายในเขตพื้นที่กระแสลมสุริยะปั่นป่วนมีรอยแยกของมิติอยู่นับไม่ถ้วน และยังมีใบมีดกระแสลมสุริยะปั่นป่วนที่สามารถโหมกระหน่ำสังหารผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพให้ตายได้อย่างง่ายดายอยู่นับไม่ถ้วน เพียงแต่ใบมีดกระแสลมสุริยะปั่นป่วนเหล่านี้เมื่อพัดลอยมาถึงผิวด้านนอกของหอเทพกลับเลี้ยวหลบออกไปเองโดยอัตโนมัติ ราวกับว่ามีพลังอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นทำการปัดใบมีดกระแสลมสุริยะปั่นป่วนเหล่านี้ให้ถอยห่างออกไป ซึ่งเป็เื่ที่น่าอัศจรรย์ใจเป็อย่างมาก
เพียงแต่ เมื่อเย่ชิงหานเริ่มทำการหลอมแหวนเซียวเหยาและหอเทพเกิดการสั่นไหวขึ้นเล็กน้อยนั้น เงาร่างสีดำสายหนึ่งที่นั่งขัดสมาธิอยู่ภายในกระแสลมสุริยะปั่นป่วนที่อยู่ไม่ห่างไกลออกไปนัก พลันลืมตาขึ้นพร้อมกับปรากฏประกายแสงแหลมคมแสบตาสองสายขึ้น
ผู้ที่นั่งอยู่เป็บุรุษลึกลับคนหนึ่งที่มีเขายาวงอกขึ้นมาบนหัวหนึ่งคู่ ชายผู้นี้นั่งอยู่ท่ามกลางกระแสลมสุริยะปั่นป่วน แต่ใบมีดกระแสลมสุริยะปั่นป่วนนั้นราวกับว่าไม่สามารถััถูกตัวเขาได้ฉันนั้น เมื่อลอยเข้ามาใกล้ก็หันเหทิศทางลอยอ้อมออกไปทางอื่นโดยอัตโนมัติ ชายเขายาวมีดวงตาสีน้ำตาลตอนนี้เขากำลังจ้องมองไปที่หอเทพเล็กๆ แห่งนั้น ผ่านไปสักพักเขาจึงหลับตาลงอีกครั้ง ทำตัวราวกับว่าเป็เศษฝุ่นผงเล็กๆ ที่เป็ส่วนหนึ่งของกระแสลมสุริยะปั่นป่วนแล้วก็จมดิ่งกลับเข้าสมาธิไป
ในเวลาเดียวกันวังโบราณแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในส่วนลึกของป่าดำมืดก็มีคนเปล่งเสียงอุทานออกมาเบาๆ อย่างแปลกประหลาดใจ
ภายในส่วนลึกของป่าดำมืดแห่งนี้มีวังโบราณแห่งหนึ่งที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน วังโบราณสวยงดงามวิจิตรตระการตาและมีขนาดใหญ่กว่าหอเซียวเหยาหลายเท่าตัว ภายในตกแต่งประดับประดาอย่างหรูหราโอ่อ่า หรืออาจจะพูดได้ว่าอย่างฟุ่มเฟือยเลยก็ว่าได้
ในตอนที่หอเทพเล็กๆ แห่งนั้นเกิดการสั่นไหวขึ้น หญิงสาวเสื้อคลุมสีแดงเพลิงที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ภายในยอดบนสุดของวังโบราณพลันเปล่งเสียงอุทานออกมาแ่เบาอย่างรู้สึกแปลกใจ จากนั้นนางวางหนังสือลงแล้วสาดสายตามองไปยังทิศทางทีู่เาสุสานทวยเทพอยู่ ชั่วครู่ใบหน้าของนางพลันปรากฏรอยยิ้มที่ชวนให้ขบคิดขึ้นมา
เพียงแต่ผ่านไปสักพักหญิงสาวที่คาดเดาอายุไม่ออกผู้นี้หลังจากยิ้มออกมาแล้วก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่ออย่างตั้งอกตั้งใจราวกับว่าไม่เคยััสิ่งใดๆ ได้และไม่เคยรู้ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น
ป่าดำมืดกลับคืนสู่ความสงบเหมือนกับวันที่ผ่านๆ มาอีกครั้ง
.................................
เย่ชิงหานกำลังหลอมแหวนเซียวเหยาอยู่แต่ลู่ซีขยับร่างกายเคลื่อนย้ายหายไปจากหอเซียวเหยาแล้ว ที่แท้เขาก็กลับมาที่ห้องโถงใหญ่ที่เป็ด่านสุดท้ายของเส้นทางเชื่อมหุ่นเชิดูเา
เมื่อเข้ามาภายในห้องโถงเขารีบสะบัดมือทั้งสองข้างปล่อยพลังแสงรูปกระบี่ที่หนักเบาต่างกันออกไปยังตำแหน่งต่างๆ บนกำแพงห้องโถงทั้งสองข้าง เมื่อพลังแสงรูปกระบี่เ่าั้มุดหายเข้าไปในกำแพงได้สักพัก ภายในห้องโถงใหญ่พลันปรากฏจอภาพขึ้นมาจอหนึ่ง โดยภายในจอภาพปรากฏเงาร่างของผู้คนมากมายที่แตกต่างกันขึ้นมา
ถ้าหากเย่ชิงหานอยู่ที่นี่ละก็จะต้องร้องออกมาด้วยความลิงโลดดีใจอย่างแน่นอน เพราะว่าเงาร่างของผู้คนที่ปรากฏขึ้นมาภายในจอภาพนั้นมีอยู่หลายคนที่เขารู้จัก มีทั้งคนของตระกูลเฟิง คนของเมืองั คนของเขตปกครองเทพคนเถื่อน คนของเขตปกครองเทพปีศาจ และแน่นอนว่ามีเย่เชียงและเย่ชิงอวี่
“เหอะๆ มากันเร็วไม่เบานี่ อืม! เ้าหนูหานต้องใช้เวลาในการหลอมหนึ่งวัน อยู่เฉยๆ ไม่มีอะไรทำมาหาอะไรเล่นสนุกแก้เบื่อน่าจะดี ครั้งนี้เป็ครั้งสุดท้ายที่จะได้เล่นแล้ว ต้องเล่นให้สะใจเสียหน่อยแล้วอย่างนี้...” ดวงตาของลู่ซีปรากฏแววชั่วร้ายออกมา สองมือเริ่มทำการควบคุมค่ายกลมากมายที่อยู่ภายในูเาสุสานทวยเทพ จากนั้นกลไกที่อยู่ภายในค่อยๆ เริ่มทำงานขึ้น...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้