เล่มที่ 8 บทที่ 215 เส้นทางบำเพ็ญยันต์
เ้าอสรพิษตัวนี้มีชีวิตเคียงคู่หลินจือม่วงหกกลีบมาช้านาน นอกจากจะมีนิสัยดุร้ายแล้ว มันยังมีพิษรุนแรงอีกด้วย แถมยังมีขั้นบำเพ็ญเป็ปีศาจเยาเจี้ยงขั้นสี่เลยทีเดียว ต่อให้เป็เกาชิวที่มีขั้นบำเพ็ญมิ่งหุนเคราะห์สี่เอง ก็ยังต้องอยู่เบื้องล่างเ้าอสรพิษตัวนี้เลยด้วยซ้ำ แล้วเว่ยฟงซึ่งมีขั้นบำเพ็ญเพียงมิ่งหุนเคราะห์หนึ่งเช่นนี้ จะรับมือได้อย่างไรกัน?
หวังหลงเหยียดมองเกาชิวที่กำลังถอยหนีอย่างทุลักทุเล หลังจากแค่นหัวเราะเ็าออกมาก็มีแสงเรืองรองสว่างทั่วทั้งตัว ระหว่างที่กำลังโคจรพลังปราณ ชายเสื้อของเขาก็โบกสะบัดขึ้นมาเอง พริบตาถัดมาเ้าตัวก็พุ่งตัวไปทางเว่ยฟงทันที
ชั่วขณะที่ขยับตัว สายตาของหวังหลงก็กวาดไปเห็นหลินเฟยที่กำลังโคจรพลังอยู่แต่ไม่คิดจะช่วยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังเอาแต่ถอยหลังอีก…
ขณะนั้นเอง หวังหลงก็รู้สึกได้ว่าหลินเฟยจะต้องเป็พวกรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับเกาชิวเป็แน่…
เมื่อคิดได้ดังนั้นหวังหลงก็เลิกสนใจหลินเฟย จากนั้นก็หันไปวาดมือให้เกิดเป็ค่ายกล ทำให้มียันต์แผ่นหนึ่งปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้ว
ส่วนหลินเฟยเองก็เห็นสายตาของหวังหลง แต่เขาทำเพียงยิ้มน้อยๆออกมาเท่านั้น โดยไม่คิดจะอธิบายอะไร กระทั่งหวังหลงได้บงการค่ายกลให้ปรากฏออกมา ทันใดนั้นหลินเฟยก็ขมวดคิ้วแน่นทันที
ยันต์ที่อยู่ปลายนิ้วขยับตามหวังหลงทุกการเคลื่อนไหว แต่กลับไม่มีไอิญญาแม้แต่นิดเดียว ราวกับเป็ภาพนิมิตก็ไม่ปาน
‘นี่มันไม่ปกติ…’
เพราะยันต์ก็เหมือนกับอาวุธ สำหรับผู้บำเพ็ญแล้ว ถือเป็เครื่องมือที่ใช้ในการโจมตีชนิดหนึ่ง การบงการในแต่ละครั้งจะต้องโคจรพลังใส่เข้าไป และยิ่งเป็ยันต์ที่แข็งแกร่ง ก็จะยิ่งมีไอิญญาเข้มข้นขึ้นเท่านั้น ส่วนยันต์ที่มีพลังรุนแรง หลังจากถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว ไอิญญาที่แพร่ออกมานั้น ก็จะแปรปรวนรุนแรงราวกับเกลียวคลื่นเลยทีเดียว
และนี่ก็คือหลักพื้นฐานของผู้บำเพ็ญทุกคน ต่อให้เป็นักพรตจิงหรวนที่เป็ผู้สร้างยันต์ที่หุบเขากระบี่ ก็ไม่อาจเอาชนะหลักพื้นฐานนี้ได้เช่นกัน
นักพรตจิงหรวนนั้น เป็ถึงยอดปรมาจารย์ด้านการสร้างยันต์อันดับหนึ่ง ซึ่งมีฝีมือสูงส่งที่สุดของสำนักเวิ่นเจี้ยนในรอบหลายพันปีที่ผ่านมาก็ว่าได้ ในตอนนั้นมีผู้ที่มีฝีมือเทียบเคียงไม่เกินห้าคนเท่านั้น และยันต์ที่นักพรตจิงหรวนทิ้งเอาไว้ ก็สามารถกดข่มหุบเขากระบี่ได้เลยทีเดียว
ดังนั้นต่อให้เป็ปรมาจารย์ที่เก่งกาจเยี่ยงนั้นแล้ว ก็ไม่อาจเอาชนะหลักพื้นฐานนี้ได้อยู่ดี…
ในตอนนั้นเองก็มีความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัว หลินเฟยใจก็กระตุกขึ้นทันที…
สำนักเวิ่นเจี้ยนเดินทางสายบำเพ็ญกระบี่ ดังนั้นตบะพลังทั้งหมดจะรวมอยู่ที่อาวุธคู่กาย เพียงแค่จิตสำนึกเดียว ก็จะสามารถบงการกระบี่ได้ตามที่นึกคิด โดยไม่ต้องใช้พลังปราณแม้แต่น้อย
และสำนักว่านหลิงที่เน้นการหลอมก็เช่นเดียวกัน หลังจากปลดปล่อยเครื่องมือคู่กายออกมา ก็จะสามารถบงการได้ตามที่นึกคิด ไม่ต้องใช้พลังปราณเช่นกัน…
เมื่อคิดได้ดังนั้น เมื่อหลินเฟยมองหวังหลงอีกครั้งก็พลันเข้าใจทันที
ดูท่าหวังหลงคงจะเลือกเส้นทางบำเพ็ญยันต์ และยันต์แผ่นนั้นคงจะเป็รากฐานแน่ๆ ฉะนั้นตบะพลังทั้งหมดจึงถูกหลอมรวมอยู่ในยันต์ ทำให้บงการได้ตามที่้า ไม่ต้องใช้พลังปราณแม้แต่น้อย
ทว่าผู้บำเพ็ญยันต์นั้นมีน้อยมาก ทั่วทั้งแถบทะเลอูไห่เกรงว่าจะมีผู้บำเพ็ญยันต์ที่มีชื่อเสียงแค่คนเดียวเท่านั้น…
แน่นอนว่าหลินเฟยไม่มีเวลาคิดเรื่อยเปื่อยต่อไปอีก เพราะเบื้องหน้าของเขาในตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
ยันต์ของหวังหลงไม่ทันจะสำแดงพลังออกมา เ้าหนูทองของเว่ยฟงก็กรีดร้องเสียงแหลมแทรกออกมาก่อน จากนั้นก็เกิดเป็ลำแสงสีทองปกคลุมไปทั่วบริเวณ ส่วนไอิญญารอบๆตัวก็พลันแปรปรวน กระทั่งมีกระแสไอโเี้แทรกซึมออกมาจากลำแสงสีทอง
ทว่าไม่ทันที่ลำแสงสีทองนั้นจะจางหายไป ก็ปรากฏเป็หนูสีทองตัวั์ ความยาวประมาณสามจ้างะโออกมาเสียก่อน บัดนี้ขนทั้งตัวของเ้าหนูทองได้กลายเป็หนามแหลมซึ่งแข็งแกร่งราวกับแท่งเหล็ก ส่วนฟันหน้าใหญ่โตของมันก็มีแสงเรืองรองเหมือนกับเป็อาวุธวิเศษ และหางที่ยาวนับสิบจ้างก็โบกสะบัดไปมา ทันใดนั้นเองก็มีเสียงคล้ายแส้ฟาดไปมาดังแว่วขึ้นมากลางอากาศ
เ้าหนูตัวั์ก็พุ่งตัวใส่อสรพิษที่ไล่ตามเว่ยฟงทันที ฟันหน้าอันใหญ่โตของมันขบกัดเข้าที่หัวของเ้าอสรพิษจนจมเขี้ยว เพียงครู่เดียวก็มีเกล็ดขนาดเท่าฝ่ามือถูกฉีกกระชากออกมา เืคาวคละคลุ้งก็สาดกระเซ็นออกมาทันที
เ้าอสรพิษเ็ปจนสองตาแดงก่ำ มันไม่มีอารมณ์จะไล่ตามเว่ยฟงอีก เพราะตอนนี้มันกำลังต่อสู้กับเ้าหนูั์อย่างเอาเป็เอาตาย
ทางด้านเว่ยฟงก็ถือโอกาสนี้ล่าถอยออกมาก่อน…
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้นหลินเฟยก็เข้าใจได้ทันที จากนั้นก็คลี่ยิ้มน้อยๆออกมา
ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าการที่เลี้ยงหนูทองเช่นนี้ได้ จะต้องมีที่มาไม่ธรรมดาแน่นอน และตอนนี้ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้นมา ดูท่าเว่ยฟงคนนี้จะต้องเป็ผู้สืบทอดของหุบเขาหมื่นอสูรเป็แน่
หนูั์สีทองมีความว่องไวมาก มันทั้งกัดทั้งข่วนจนเกล็ดของอสรพิษร้ายหลุดลอกออกมาเป็แถบ เ้าอสรพิษร้ายก็บิดตัวไปมา พยายามใช้ลำตัวต่างแส้ ฟาดลงมาไม่ยั้ง เมื่อเ้าหนูั์ถูกฟาดเข้า มันก็กรีดร้องอย่างเ็ป ก่อนจะกระเด็นออกไป
ในขณะเดียวกันยันต์ที่หวังหลงบงการก็ปรากฏออกมาชัดเจน และบัดนี้กำลังลอยอยู่เหนือสัตว์ทั้งคู่ที่กำลังต่อสู้กันโดยไม่มีใครยอมใคร
ไม่นานลำแสงเรืองรองก็กลายสภาพเป็ค่ายกล ก่อนที่จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับภาพม้วนที่กำลังกางออก หลังจากค่ายกลปรากฏขึ้นโดยสมบูรณ์ ก็เกิดเป็ภาพของูเาลำเนาไพรเผยออกมา จากนั้นก็มีพลังรุนแรงขุมหนึ่งแพร่กระจายไปทั่ว ราวกับเบื้องหน้าเป็พิภพน้อยที่ลอยอยู่กลางอากาศ
จากนั้นค่ายกลที่ละม้ายกับพิภพน้อยค่อยๆเคลื่อนลงมา เ้าอสูรพิษรู้สึกราวกับกำลังถูกกดทับ ความเร็วในการเคลื่อนไหวจึงช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เ้าหนูั์เห็นว่าสบโอกาส จึงรีบพุ่งเข้าฉีกกระชากเ้าอสรพิษร้ายอย่างไม่รอช้า
เ้าอสรพิษร้ายถูกกัดจนชิ้นเนื้อขาดวิ่นเป็จำนวนมาก ภายใต้โทสะพวยพุ่ย มันจึงแหงนหน้าคำรามด้วยอย่างเกรี้ยวกราด จากนั้นก็ส่ายหัวไปมารุนแรง และพ่นพิษสีดำออกมา
หลังจากพิษสาดกระเซ็นเข้ามาในค่ายกล ก็กลายเป็ละอองฝนสีดำโปรยปรายไปทั่วูเาลำเนาไพรในค่ายกลทันที จากนั้นบรรยากาศรอบด้านก็ราวกับเข้าสู่ฤดูสารท ใบไม้มากมายหลุดร่วงแห้งเหี่ยว สรรพสิ่งรอบด้านล้วนล้มตาย
สุดท้ายใบไม้ที่ร่วงหล่น และซากโครงกระดูกก็จางหายไป ทิวทัศน์ในค่ายกลที่ราวกับพิภพน้อยสลายกลายเป็อักขระมากมายที่กำลังล่องลอย บัดนี้พลังของค่ายกลก็ค่อยๆถดถอยลงเรื่อยๆ
ส่วนเ้าอสรพิษก็ถือโอกาสนี้คำรามขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็โค้งตัวงอราวกับเกาทัณฑ์ พริบตาถัดมามันก็ดีดตัวพุ่งออกไปด้วยความเร็ว ส่วนปากก็อ้ากว้างหมายจะงับเ้าหนูั์เข้าไปทั้งตัว ทว่าเ้าหนูั์เห็นดังนั้นก็ะโหนีทันที ไม่มีใครคาดคิดว่าเ้าอสรพิษที่าเ็หนักจะว่องไวได้ขนาดนี้ ชั่วขณะที่เฉียดผ่านเ้าหนูั์ไป มันก็พลิกตัวหันกลับมาทันที
ทันใดนั้นเ้าอสรพิษก็ขดตัวเป็วง เพื่อปิดล้อมและโอบรัดเ้าหนูั์เอาไว้ ครู่เดียวเสียงกระดูกของเ้าหนูั์ก็ดังลั่นเป็ระยะ บัดนี้มันกำลังจะถูกฆ่าตายเสียแล้ว…
ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ค่ายกลของหวังหลงถูกเืเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณ ทำให้มีพลังถดถอยลง และไม่อาจสะกดเ้าอสรพิษเอาไว้ได้ ส่วนเ้าหนูั์ก็ถูกโอบรัดเอาไว้อย่างแ่า…
เสี้ยววินาทีที่เ้าหนูั์กำลังจะกรีดร้องเป็ครั้งสุดท้าย จู่ๆ ค่ายกลที่ลอยอยู่กลางอากาศก็สั่นไหวขึ้นมา เวลานั้นเองูเาลำเนาไพรภายในค่ายกลก็ไหลย้อน ราวกับทุกอย่างกำลังย้อนกลับ ละอองฝนสีดำที่โปรยปรายในค่ายกลก็สาดเทลงมา ส่วนอักขระที่แตกกระจายลอยไปมาในค่ายกลก็รวมตัวกันจนกลายเป็แม่น้ำสายยาว ก่อนจะสูบหยดน้ำฝนสีดำที่เกิดจากพิษของเ้าอสรพิษเอาไว้ทั้งหมด…
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------