"ขอบคุณาุโหลินเป่า หากไม่มีท่าน เกรงว่าตระกูลเซียวคงไม่ยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆ" หลังจากออกมาได้ ซวนซู่กล่าวขอบคุณด้วยความเคารพ
หลินเป่าโบกมือพลางหัวเราะ "ไม่เป็ไรหรอก ตระกูลเซียวไม่โง่ขนาดนั้น ต่อให้ไม่มีข้า พวกเ้าก็ไม่เป็อะไร"
"หากจะขอบคุณล่ะก็ ไปขอบคุณบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินเถอะ หากไม่มีเขา เกรงว่าทุกอย่างคงไม่จบลงง่ายๆ เช่นนี้"
หลินเป่าหัวเราะเบาๆ อารมณ์ของเขาดูแจ่มใสอย่างเห็นได้ชัด เมื่อครู่ตอนที่ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ะเิออก หลินเสวียนได้เผยดวงตาหยินหยางและดวงตาศักดิ์สิทธิ์ออกมา แม้หลินเป่าจะยังไม่เข้าใจว่าดวงตาเ่าั้คืออะไร แต่เขาััได้ว่าพวกมันเต็มไปด้วยปริศนาล้ำลึกไร้ที่สิ้นสุด
มันซับซ้อนราวกับทะเลแห่งดวงดาว เพียงแค่ชำเลืองมอง ก็รู้สึกราวกับกำลังยืนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว ทั้งสรรพสิ่งและสัจธรรมแห่งฟ้าดินดูเหมือนจะอยู่แค่เอื้อม แสงดาวสว่างไสวและความลึกลับของ์และโลกไหลเวียนอยู่ในจิตใจของเขา
"น่าเสียดายที่ปรากฏการณ์ของเสวียนเอ๋อร์เกิดขึ้นเพียง่เวลาสั้นๆ ข้าไม่อาจทำความเข้าใจมันได้มากนัก..." หลินเป่าถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
ทว่าในดวงตาของเขากลับทอประกายแห่งพลังปราณออกมาอย่างเข้มข้น กลิ่นอายของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล ดูก็รู้ว่าได้รับประโยชน์อย่างล้นเหลือ
"ฮ่าๆ! คราวนี้กลับไป เ้าพวกนั้นต้องอิจฉาข้าเป็แน่!" หลินเป่าหัวเราะอย่างสะใจ
ซวนซู่และซวนเยียนหรานสบตากันก่อนจะเผยรอยยิ้มบางๆ ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายขึ้นเช่นกัน กลิ่นอายของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ชัดเจนว่าพวกเขาเองก็ได้รับโชควาสนาไม่น้อย!
ซวนซู่มองดูทารกน้อยที่กำลังหลับใหลพลางถอนหายใจอยู่ในใจ เด็กอายุเพียงเท่านี้กลับมีปรากฏการณ์ประหลาดที่น่าตกตะลึง แถมยังเป็พลังที่แผ่ออกมาจากร่างกายหลักของเขาโดยตรง ช่างเป็ตัวตนที่น่าสะพรึงนัก!
เมื่อนางมองไปยังดวงตาคู่นั้น ก็รู้สึกราวกับว่าความลับของทั้งโลกถูกเปิดเผยอยู่ตรงหน้า
อีกด้านหนึ่ง ซวนเยียนหรานกลับไม่ได้คิดมากนัก การถอนหมั้นครั้งนี้นับเป็การปลดเปลื้องภาระหนักในใจของนาง
นางลูบแก้มนุ่มนิ่มของหลินเสวียนอย่างระมัดระวัง ก่อนจะจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาที่สงบนิ่ง
เมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่สว่างไสวราวดวงดารานั้น หัวใจของหญิงสาวแทบจะละลาย
'ชายหนุ่มเมื่อครู่… ก็เป็หนึ่งในรูปลักษณ์ของเสวียนเอ๋อร์ในอนาคตเช่นนั้นหรือ? เขาหล่อเหลาเกินไปแล้ว…'
แม้ทั้งสามคนจะมีความคิดแตกต่างกันไป แต่ในใจก็เต็มไปด้วยความยินดี ส่วนหลินเสวียนที่อยู่ในอ้อมแขนของซวนเยียนหรานนั้น กำลังใช้สายตามองไปรอบๆ
ตอนนี้ ดวงตาศักดิ์สิทธิ์บนหน้าผากของหลินเสวียนได้ปิดลงแล้ว ส่วนดวงตาทั้งสองก็กลับสู่สภาพปกติ แม้ว่าหลินเสวียนจะไม่เกรงกลัวสิ่งใด แต่เขาก็เข้าใจหลักการที่ว่า—ไม่ควรเผยไพ่ตายมากเกินไป
'นี่คือมุมมองของดวงตาหยินหยางงั้นหรือ? ช่างอัศจรรย์นัก…' หลินเสวียนคิดอยู่ในใจ
ภายในทัศนวิสัยของเขา โลกโดยรอบแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ปกติแล้ว เวลามองป่ารกร้าง เขาจะเห็นเพียงต้นไม้เขียวขจีธรรมดา แต่เมื่อกระตุ้นดวงตาหยินหยางขึ้นมา ทุกสิ่งกลับปรากฏชัดเจนเป็พิเศษ
สมุนไพรเรืองแสงเป็ประกาย บางจุดมีแสงสีแดงแผ่ออกมาเป็สัญญาณเตือนภัย
ลวดลายเต๋าโบราณล่องลอยอยู่ในอากาศ และใต้พื้นดินเต็มไปด้วยหินิญญาที่ถูกฝังซ่อนอยู่!
นอกจากนั้น ในป่ารกร้างโบราณ เขาสามารถมองเห็นได้ว่าตรงไหนมีพลังิญญาเข้มข้น ตรงไหนบางเบา สัตว์อสูรอยู่จุดใด และที่ไหนเป็สถานที่มงคล!
รัศมีหลายร้อยลี้โดยรอบ ทุกสิ่งในป่ารกร้างถูกเปิดเผยในสายตาของเขา!
แม้แต่พลังิญญาฟ้าดินก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน!
พวกมันล่องลอยราวกับควันสีขาว แผ่กระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เปล่งแสงจางๆ
หลินเสวียนเบนสายตามองไปที่หลินเป่า แล้วพบว่าร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแสงบางๆ ไม่อาจมองทะลุผ่านได้
ร่างของซวนซู่เองก็เช่นกัน รอบตัวของเขาเต็มไปด้วยแสงเรืองรองและลวดลายลึกลับซับซ้อน
ไม่ว่าดวงตาหยินหยางหรือดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ก็มิอาจมองทะลุได้ มีเพียงความรู้สึกอันตรายรุนแรงเท่านั้นที่รับรู้ได้
"อืม… ดูเหมือนว่าข้ายังอ่อนแอเกินไป…"
หลินเสวียนคิดในใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังป่ารกร้างเบื้องหน้า
"ส่วนใหญ่เป็สมบัติล้ำค่าทั่วไป ท้ายที่สุดแล้ว ที่นี่ก็เป็เพียงชายชอบของป่ารกร้างโบราณเท่านั้น"
ขณะที่หลินเป่าและคนอื่นๆ เคลื่อนที่ไปข้างหน้า หลินเสวียนก็สังเกตสภาพแวดล้อมไปเรื่อยๆ เผื่อว่าจะมีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่
แม้รัศมีหลายร้อยลี้จะถือว่าเป็พื้นที่กว้างขวาง ทว่าเมื่อเทียบกับป่ารกร้างโบราณอันไพศาลแล้ว ก็เป็เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น มันครอบคลุมได้เพียงพื้นที่ขอบเขตนอกสุด
ตลอดทาง หลินเสวียนยังไม่พบของล้ำค่ามากนัก ส่วนใหญ่เป็เพียงสมบัติล้ำค่าธรรมดาที่มีอยู่ทั่วไปในป่ารกร้าง
แน่นอนว่า แม้พวกมันจะดู 'ธรรมดา' ในสายตาของหลินเสวียน แต่หากนำออกไปยังโลกภายนอก ย่อมทำให้เหล่าผู้ฝึกตนแย่งชิงกันจนเืนองเป็แน่!
สมบัติเหล่านี้ล้วนซ่อนตัวอยู่ในจุดที่ลึกลับยากเข้าถึง เช่น ปลายสุดของถ้ำลึก ใต้ดินที่ลึกลงไปกว่าหมื่นจั้ง กลางรอยแยกลาวาที่ร้อนระอุ หรือแม้แต่ใต้พุ่มไม้หนาทึบ สมบัติล้วนมีจิติญญาของตน มันซ่อนตัวเองได้อย่างแเี
ทว่า… ภายใต้สายตาของหลินเสวียน พวกมันทั้งหมดกลับไร้ที่ซ่อน ถูกเปิดโปงอย่างสมบูรณ์!
หลินเสวียนขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของซวนเยียนหราน มองดูทุ่งรกร้างไปเรื่อยๆ แต่เมื่อเขากำลังจะเลิกสนใจและออกจากชายขอบของมัน…
จู่ๆ! แสงสลัวจุดหนึ่งก็สะดุดสายตาของเขา!
มันเป็กลุ่มแสงสีเทาอ่อน ตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งของชายขอบป่ารกร้าง ดูเผินๆ แล้วแทบไม่มีอะไรโดดเด่น
แต่ที่ใกล้ๆ กับแสงสีเทานั้น หลินเสวียนกลับเห็นบางสิ่ง—แท่นบูชาโบราณห้าสีที่ผุพัง!
หากเป็เพียงแท่นบูชาที่ทรุดโทรม หลินเสวียนอาจไม่สนใจนัก ท้ายที่สุดแล้ว ในป่ารกร้างย่อมมีสิ่งแปลกประหลาดอยู่ทั่วไป…
ทว่า… แท่นบูชานี้ กลับทำให้สายตาของเขาจับจ้องมันไม่ละไปไหน!
ทว่าทันทีที่หลินเสวียนจ้องมองไปอย่างจริงจัง ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ที่ปิดสนิทบนหน้าผากของเขาก็พลันเปล่งประกายสีทองวาบขึ้น!
ดวงตาศักดิ์สิทธิ์เปิดออก!
ดวงตาหยินหยางถูกกระตุ้น!
ภายในแสงสีเทาที่เดิมดูไร้จุดเด่น ทันใดนั้นกลับปรากฏลวดลายอันซับซ้อนจำนวนมากขึ้นมา!
ทุกอักขระล้วนเก่าแก่และชำรุดทรุดโทรม ประหนึ่งผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนนับไม่ถ้วน ทว่า—มันยังคงหมุนเวียนและทำงานอยู่!
ที่แท้… ในแท่นบูชาห้าสีที่ผุพังนี้ มีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่?!
เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของหลินเสวียนพลันฉายแววสนใจขึ้นมาทันที!
