“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” หลินหวั่นชิวกลั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ ทุกคนมองนางหัวเราะด้วยความใ
นางกุมท้อง เจียงหงหย่วนกลัวนางยืนไม่มั่น เข้าไปช่วยประคองเอว นางหันมากอดแขนเจียงหงหย่วน ซุกหน้าหัวเราะในข้อพับแขนเขาต่อ
หลังจากหัวเราะจนพอจึงพูดว่า “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านจำผิดหรือไม่ ท่านโยนของล้ำค่าเช่นนี้ทิ้งไว้ข้างทาง เห็นพวกข้าเก็บกลับไปแต่ไม่พูดกระไรสักคำ”
่ที่นางกำลังหัวเราะก่อนหน้านี้ สวีฝูรู้ตัวแล้วว่าตัวเองหลุดปากพูดกระไรออกไป
เขามองหลินหวั่นชิวอยากโกรธแค้น อยากฉีกนางเป็ชิ้นๆ
หลินหวั่นชิวยังไม่หยุด นางพูดกับหลัวจินซานว่า “เถ้าแก่หลัว คนทำธุรกิจเช่นเ้าล้วนฉลาด ยังฟังกระไรไม่ออกอีกหรือ? ป้ายหยกของท่าน...ไม่แน่ว่าจะ...” นางไม่ได้พูดตรงๆ แต่ใช้สายตามองไปทางสวีฝูกับสวีเต๋อเซิ่ง
ไอ๊หยา เดิมทีนางคิดว่ายังต้องเปลืองแรงให้พวกสวีฝูเผยพิรุธ นึกไม่ถึงว่าตลอดหลายปีมานี้สวีฝูจะเป็หัวหน้าโดยเสียเปล่า ถูกนางยั่วยุแค่นิดเดียวก็ติดกับ หลุดปากพูดออกมาเอง
แต่แน่นอนว่าเพราะโดนยั่วยุหนักมากเช่นกัน
ยังจะมีสิ่งใดที่หลัวจินซานไม่เข้าใจอีก สองคนนี้คิดจะยืมดาบฆ่าคน!
ไม่แน่ว่าป้ายหยกของเขาจะอยู่ในมือพวกเขานั่นแหละ
สาเหตุก็ง่ายมาก
เ้าหน้าที่ราชการกับโจรสมคบคิดกัน!
ตอนนี้หลัวจินซานไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีแล้ว หากเ้าหน้าที่ราชการกับโจรสมคบคิดกัน เช่นนั้นหัวหน้ามือปราบซุนจะมีส่วนด้วยหรือไม่…นายอำเภอจะเกี่ยวด้วยหรือไม่…
เขายิ่งคิดก็ยิ่งกลัว หน้าผากมีเหงื่อผุด เช็ดอย่างไรก็ไม่แห้ง
เห็นหลัวจินซานยืนตัวสั่นไม่กล้าส่งเสียง หลินหวั่นชิวช่วยกระตุ้นอีกประโยคว่า “ข้าเข้าใจแล้ว เถ้าแก่หลัวเป็พวกเดียวกับสวีเต๋อเซิ่งและสวีฝู จงใจทำป้ายหยกมายัดเยียดความผิด…”
“ไม่ใช่นะ!” หลัวจินซานรีบปฏิเสธ เขามองหลินหวั่นชิวอย่างแค้นเคือง สตรีนางนี้กำลังเอาเขาไปย่างบนไฟชัดๆ
จิตใจสตรีช่างเหี้ยมโหด
แต่เขาไม่คิดบ้างว่าก่อนหน้านี้เพิ่งกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็โจร
ทว่าจะโทษว่าเป็ความผิดเขาก็ไม่ได้เสียทีเดียว เขามีความแค้นผูกพยาบาท เห็นเจียงหงหย่วนใส่ป้ายหยกของตัวเองแล้วจะคิดว่าเป็โจรก็ไม่แปลก
หลัวจินซานนึกย้อนถึงวันที่เกิดเหตุ นึกตามคำพูดของหลินหวั่นชิว…ไม่ว่าทางไหนก็ลำบาก ไม่สู้…
“หัวหน้ามือปราบซุน ท่านได้โปรดมอบความเป็ธรรมให้ข้าน้อยด้วยเถิด!” เถ้าแก่หลัวหันไปคุกเข่าให้ซุนเคอ เนื่องจากเคลื่อนไหวรุนแรง เนื้อบนร่างจึงสั่นกระเพื่อมตามเหมือนคลื่น
เขาไม่เชื่อว่าต่อหน้าชาวบ้านมากมายขนาดนี้ พวกเขาจะกล้าฆ่าตัวเอง
หากฆ่าเขา นั่นก็เท่ากับยืนยันว่าเ้าหน้าที่ราชการสมคบคิดกับโจร
ที่สำคัญคือ เขาอยากแก้แค้นมากจริงๆ
เจียงหงหย่วนมองซุนเคอเช่นกัน ประสานว่า “หัวหน้ามือปราบซุนโปรดมอบความเป็ธรรมให้ข้าน้อยด้วย!”
ภายในใจซุนเคอซับซ้อนมาก
นี่มันละครฉากใดกัน?
“ทหาร จับตัวสวีเต๋อเซิ่งกับสวีฝู!” เขาออกคำสั่ง ผู้ใต้บังคับบัญชารีบทำตามทันที แต่คนที่สวีเต๋อเซิ่งพามาด้วยดูจะมีท่าทีลังเลเล็กน้อย
ซุนเคอยิ้มเยาะ “ยังไม่เอาโซ่ตรวนมาอีก หรือพวกเ้าเป็พวกเดียวกับสวีเต๋อเซิ่ง?”
เหล่านักการใตัวสั่น รีบนำโซ่ตรวนออกมา สวีเต๋อเซิ่งเป็คนสั่งให้พวกเขานำของพวกนี้มา ดูแล้วคงคิดจะใช้จับเ้าบ้านหลังนี้
นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วจะเป็ตัวสวีเต๋อเซิ่งที่ได้ใช้เอง
“ทำกระไรน่ะ หลบไป ต้าเกอข้าเป็ลูกเขยผู้ช่วยนายอำเภอนะ พวกเ้ากล้าล่วงเกินหรือ?” สวีเต๋อเม่าร้อนใจ รีบออกมาขวางพวกมือปราบ
“เหลวไหล ต่อให้เป็โอรส์ทำผิดก็รับโทษเช่นเดียวกับประชาชน ไม่ต้องพูดถึงผู้ช่วยนายอำเภอ ต่อให้เป็ลูกเขยตัวนายอำเภอเองก็โดนจับเช่นกันเมื่อกระทำความผิดเช่นกัน” ภาพลักษณ์ของซุนเคอดูสูงส่งขึ้นมาทันทีเมื่อพูดอย่างยึดถือคุณธรรมโดยไม่หวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น
ซุนเคอชี้สวีเต๋อเม่า “จับเขาไปด้วย เอากลับไปไต่สวนว่าใช่พวกเดียวกันหรือไม่!”
สวีฝูกระอักเื เขาร้อนใจมากจริงๆ สามพ่อลูกโดนจับกันหมด
ดวงตาเขาแทบถลน ยืดคอร้องว่า “เข้าใจผิด พวกข้าโดนเข้าใจผิด พวกข้าไม่ใช่โจร!”
หลินหวั่นชิวหัวเราะ “ก่อนหน้านี้ข้าก็ร้องเช่นนี้เช่นกัน บอกว่าตัวเองไม่ใช่โจร แต่พวกเขายังยืนยันไม่ยอมปล่อย จะจับกุมให้ได้ หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านร้องตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว เพราะท่านพูดเองว่าเป็คนนำป้ายหยกแท้ไปวางข้างทาง… ไม่รู้ว่าเป็โรคประสาทหรือไม่…”
หลินหวั่นชิวจงใจลดความเร็วเมื่อพูดถึงตรงนี้ บรรดาชาวบ้านใ ความแค้นใหญ่ขนาดนี้แต่ยังหาทางลงให้อีกหรือ?
คงไม่ได้บ้ากระมัง…
เป็ไปตามคาด สวีฝูได้ยินดังนี้ก็รีบพูดว่า “ใช่ ข้าเป็โรคประสาท โรคของข้ากำเริบ ไม่ได้วางหยกแท้ไว้ข้างทาง”
“เช่นนั้นคงซ่อนไว้ที่บ้าน…” หลินหวั่นชิวเสริมเพิ่มอีกประโยคอย่างได้จังหวะ
ให้ตาย นางไม่ได้บ้า แต่ฉลาดมากต่างหาก!
สวีฝูผงะ
สวีเต๋อเซิ่งหลับตา ดูแล้วความปราดเปรื่องในยามปกติของท่านพ่อเขาคงเป็ของปลอม
สวีเต๋อเม่ายังคงร้องโวยวาย ถูกคนของซุนเคอหากระไรมายัดปาก ขณะเดียวกันก็ยัดปากสวีฝูด้วย
“รบกวนนำทางให้ที ไปบ้านสวี!” ซุนเคอมองฝูงชน ไม่ต้องให้ชาวบ้านช่วยนำทาง มือปราบคนหนึ่งก้าวออกมาพูดว่า “ท่านหัวหน้า ข้าน้อยรู้ว่าบ้านมือปราบสวีอยู่ที่ใดขอรับ” เขาเคยมา
ซุนเคอพยักหน้า ชี้พวกสวีฝูแล้วพูดว่า “พาพวกเขาไปด้วย ไปค้นบ้านสวี”
ซุนซื่อที่ซ่อนตัวไม่กล้าส่งเสียงมาโดยตลอดได้ยินว่าจะโดนค้นบ้านก็ล้มหมดสติไป
“พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ขอเชิญทุกท่านมาเป็สักขีพยานด้วย!” ซุนเคอพูดกับทุกคน
มีเื่สนุกแต่ไม่ดูก็โง่แล้ว ต่อให้ซุนเคอไม่บอก บรรดาชาวบ้านก็จะตามไปดูอยู่แล้ว ยิ่งเขาะโบอกให้ไป ชาวบ้านยิ่งกรูกันออกไปจนหมด
บ้านหวางกับบ้านจ้าวตามไปดูด้วย หงหนิงกับหงป๋อตามไปดูเช่นกันหลังจากได้รับคำอนุญาตจากเจียงหงหย่วน
ภายในลานบ้านว่างเปล่า เหลือแค่เจียงหงหย่วน หลินหวั่นชิว และตู้ซิวจู๋ที่พิงเสาราวระเบียงดูอยู่ไกลๆ อย่างเกียจคร้าน
รวมไปถึงหลัวจินซานที่ยังคงตั้งสติ
“เถ้าแก่หลัว เหตุใดไม่ตามไปดู? หากเจอป้ายหยกของเ้าเล่า?” หลินหวั่นชิวถามเขา
หลัวจินซานยกมือเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก พูดอย่างปวดใจว่า “ขาอ่อนน่ะ”
หลินหวั่นชิว “…”
“พอดีเลย เช่นนั้นจ่ายหนี้เลยแล้วกัน หนึ่งพันตำลึง!” หลินหวั่นชิวยื่นมือให้เขา
“หา…” หลัวจินซานจะร้องไห้แล้ว
จะเอาไปเงินหนึ่งพันตำลึงมาจากที่ใด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้