ไอพลังของคนผู้นี้ลึกลับมาก กำลังเก็บซ่อนไอพลังเช่นกัน
โชคดีที่จิติญญาของเสิ่นเสวียนแข็งแกร่งกว่าพลังยุทธ์มาก เพียงพอที่จะเทียบเคียงผู้แข็งแกร่งระดับเจ็ดได้ เขาจึงพบเจออีกฝ่ายได้ล่วงหน้า
อีกฝ่ายมากันสองคน เป็บุรุษหนึ่ง สตรีหนึ่ง
บุรุษกับสตรีคู่นี้ดูผิวเผินแล้วธรรมดามาก ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยแม้จะอยู่บนท้องถนน
ก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนเคยกวาดสายตามองคนหนุ่มสาวทั้งหมดมาแล้ว แต่กลับไม่เคยเห็นสองคนนี้มาก่อนเลย และเสิ่นเสวียนยังคิดคำนวณไว้แล้วว่าสองคนนี้อาจมีพลังยุทธ์ถึงขั้นราชันแล้วด้วย
สามารถฝึกฝนถึงขั้นราชันได้ก่อนอายุยี่สิบปี ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็เป็บุคคลที่หาตัวจับได้ยาก
เสิ่นเสวียนซ่อนตัวอยู่ในถ้ำฝั่งนี้ ส่วนอีกสองคนก็ซ่อนตัวอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ส่วนคุณชายน้อยซูและจี๋เล่อน้อยอยู่เบื้องหน้า ยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นไปอีก
เสิ่นเสวียนจึงเดินต่อไปอย่างระแวดระวัง
ูเาหินสีขาวเรียกอีกอย่างว่าเขากระดูก ก่อนเข้ามาที่นี่าามารตะวันตกเคยบอกพวกเขามาก่อน แต่เพราะไม่มีแผนที่จึงหาได้ยากมาก อีกฝ่ายน่าจะเจอที่นี่ได้เพราะแผนที่ของตนเอง
แต่การหาที่นี่เจอคือเื่หนึ่ง จะหาสุสานของผู้เฒ่าจี๋เล่อเจอหรือเปล่าก็เป็อีกเื่หนึ่ง ตามโครงสร้างของที่นี่แล้ว หากไม่มีใครนำทางคงยากที่จะหาเจอ
หลังจากเดินเข้าไปประมาณครึ่งชั่วยาม เส้นทางที่จี๋เล่อน้อยเดินนำอยู่ด้านหน้าเป็ทางเดียวกับที่เสวียนหลิงเอ่อร์บอกไว้ก่อนหน้านี้ คือเลี้ยวขวาก่อนแล้วค่อยเลี้ยวซ้าย กระทั่งมาถึงที่ว่างแห่งหนึ่ง
นี่คือภายในเขากระดูก มันเป็ถ้ำที่กว้างใหญ่มากกว่าหกสิบจั้ง ผนังมีร่องรอยของการใช้ของมีคมขุดเจาะเข้ามาเหมือนกับเส้นทางภายนอก ซึ่งไม่รู้ว่าต้องใช้กำลังคนมากมายแค่ไหน
“ผู้าุโจี๋เล่อน้อย หลังจากนี้ท่านมีแผนการอย่างไร”
ซูเหยียนเดินมาถึงตรงนี้แล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ พลางถามจี๋เล่อน้อยโดยไม่หันไปมองเขาเลย
“ไม่เลย ที่นี่เก็บซ่อนความลับไว้มากมาย เ้าไปตามหาเองเถอะ”
จี๋เล่อน้อยกล่าวจบแล้วก็หมุนตัวเดินไปข้างผนัง เขาใช้ฝ่ามือลูบผนังหินพลางหลับตาลง จากนั้นก็เดินหน้าต่อไป
ทุกย่างก้าวของเขามีระยะห่างราวสองฉื่อครึ่ง เขาก้าวเดินไปอย่างสม่ำเสมอไม่คลาดเคลื่อนเท่าไรนัก
หลังจากเดินหน้าไปยี่สิบก้าวเขาก็หยุดเท้าลง เขายังคงหลับตาอยู่ ใช้มือลูบไปตามผนัง ตอนนี้ที่ผนังมีรอยนูนปรากฏขึ้นเหมือนมีคนตั้งใจทำไว้
เขาหยุดเท้าลงอีกครั้งและยังไม่ลืมตา มือของเขาลูบไปยังรอยนูนนั้น จากนั้นหมุนมันหนึ่งรอบแล้วก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย
ระยะก้าวถอยหลังของเขาไม่ได้กว้างมาก ประมาณหนึ่งในสามส่วนของย่างก้าวก่อนหน้านี้
เขาถอยไปอีกก้าว อีกก้าว และอีกก้าว...
เขาถอยหลังไปเจ็ดก้าวแล้วจึงหยุดเท้าลงอีกครั้ง
ขณะที่เขาก้าวเดินหน้าและถอยหลังนี้ มือของเขาััอยู่ที่ผนังตลอดเวลา เขาหยุดลงครั้งนี้ทำให้มือของเขาหยุดอยู่ตรงรอยเว้าแห่งหนึ่งบนผนังพอดี เป็รอยเว้าที่มีขนาดพอๆ กับกำปั้น แต่เป็เพราะผนังไม่ได้เรียบอยู่แล้ว ทำให้สังเกตเห็นรอยเว้านี้ได้ยากมาก
ทว่าเขากลับลืมตาขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มจางๆ
จากนั้นเขาก็โค้งกายลงไปมองใต้เท้าของตนเอง
ฝ่ามือของเขาถูกปกคลุมด้วยพลังมหาศาล แล้วเขาก็ใช้มือแทนมีดดาบฟันลงไปที่พื้นหลายครั้งอย่างรวดเร็ว
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ ซูเหยียนที่อยู่ไม่ไกลนักมองเห็นได้อย่างชัดเจน
หลังจากขุดลงไปด้านล่างได้ระยะหนึ่ง กลับมีผ้าสีดำปรากฏขึ้น เมื่อเขาดึงขึ้นมาก็พบว่านั่นคือถุงสีดำใบหนึ่ง
จี๋เล่อน้อยมองถุงสีดำใบนั้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เขาเปิดถุงใบนั้นออกทันทีแล้วยื่นมือเข้าไปหยิบคัมภีร์โบราณสีเหลืองเล่มหนึ่งและโซ่สีดำเส้นหนึ่งออกมา จากนั้นใบหน้าของเขาจึงปรากฏรอยยิ้มขึ้น
ในที่สุด แม้จะผ่านไปสามสิบปีแล้ว เขายังคงได้มัน
นี่คือสิ่งของที่เขาฝังไว้เมื่อสามสิบปีก่อน ตอนนั้นเป็เพราะเกิดเื่ไม่คาดคิดขึ้นเขาจึงต้องเก็บมันไว้ที่นี่ และเก็บไว้ถึงสามสิบปีแล้ว
หลังจากเปิดคัมภีร์โบราณดูอย่างรวดเร็ว เห็นว่าภายในนั้นยังคงเหมือนกับที่จำได้ เขาจึงเก็บมันไว้ในแหวนด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเขาก็จับปลายโซ่สีดำด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างหนึ่งสะบัดปลายโซ่อีกด้านออกไป
ตูม!
เสียงสะบัดโซ่ดังก้อง โซ่สีดำถูกสะบัดออกไปทำให้เกิดคลื่นพลังที่มองไม่เห็นแผ่ออกมารอบๆ สายโซ่
“สหายเก่า ไม่ได้เจอกันนานเลย”
จี๋เล่อน้อยถือโซ่สีดำเอาไว้พลางกล่าวพึมพำ แววตาของเขาตอนนี้แปรปรวนอย่างมาก หากเมื่อสามสิบปีก่อนไม่เกิดเื่ขึ้น โซ่เส้นนี้คงทำให้เขามีพลังยุทธ์ถึงขั้นจักรพรรดิไปแล้ว
แน่นอนว่าอาจมีคนกำจัดเขาทันทีที่ออกไปจากที่นี่เพราะโซ่เส้นนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นแม้เขาจะรู้สึกสับสน แต่ก็ไม่ได้เสียใจ
แม้ว่าจะเป็ของดี แต่ถ้าไม่มีพลังมากพอจะมัน มันอาจตกเป็ของคนอื่นก็ได้
“ผู้าุโจี๋เล่อน้อยดูเหมือนจะเตรียมตัวมาเป็อย่างดี”
ซูเหยียนยืนอยู่ข้างๆ กล่าวกับจี๋เล่อน้อย แววตาของเขาฉายความอิจฉาออกมาอย่างปิดไม่มิด ทว่าเขารู้ดีว่าตนเองเป็อย่างไร แม้แววตาของเขาจะอิจฉา แต่กลับไม่มีความริษยาเลย
“จำไว้ว่าหากยังไม่มีพลังมากพอ เงียบไว้คือทางออกที่ดีที่สุด”
จี๋เล่อน้อยจับโซ่เส้นนั้นเล่น จากนั้นก็เก็บเข้าไปในแหวน
โซ่เส้นนี้ไม่ได้ทำจากเหล็ก แต่มันคือแส้เทพที่สร้างขึ้นจากโลหะโบราณ ซึ่งมันอยู่ในขั้นปฐีระดับกลางแล้ว เป็ของล้ำค่าที่หาได้ยากมาก
เสิ่นเสวียนยืนอยู่ข้างๆ ประจักษ์แจ้งทุกอย่างแก่สายตา จี๋เล่อน้อยผู้นี้ค่อนข้างรับมือได้ยาก หากมีแส้เส้นนี้ด้วยแล้ว คงจะมีเพียงบุคคลระดับเดียวกับาามารตะวันตกเท่านั้นที่สู้กับเขาได้
แส้เส้นนี้ทำให้พลังของเขาเทียบเท่าาามารตะวันตกได้อย่างก้าวะโ มิอาจดูถูกได้เลย
“ขอบคุณผู้าุโจี๋เล่อน้อย ข้าเองก็ต้องไปตามหาสิ่งของของข้าเช่นกัน หากมีโอกาสคงได้พบกันใหม่”
ซูเหยียนกล่าวกับจี๋เล่อน้อยแล้วจึงเดินไปอีกด้านหนึ่งของถ้ำ
ภายในถ้ำแห่งนี้เป็ที่โล่ง รอบๆ เชื่อมต่อกับทางเข้าออกถ้ำมากกว่ายี่สิบแห่ง สามารถออกไปยังสถานที่ที่ต่างกันไปได้ ซูเหยียนเดินเข้าไปในเส้นทางหนึ่ง แล้วหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว
หลังจากจี๋เล่อน้อยเก็บแส้เทพไปแล้วก็ไม่ได้รอช้า เขาปรายตามองไปรอบๆ เล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าไปในอีกเส้นทางหนึ่ง
ที่นี่ไม่ว่าที่ใดก็สามารถเข้าไปได้ ส่วนจะได้รับโอกาสและโชคอย่างไรขึ้นอยู่กับแต่ละคน
เสิ่นเสวียนซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น หลังจากที่สองคนนั้นออกไปแล้วก็ยังไม่ปรากฏตัวออกไป แล้วก็เป็อย่างที่คิดไว้ ผ่านไปไม่นานสองคนที่ซ่อนตัวก่อนหน้านี้ก็เดินเข้ามาถึงในถ้ำและกวาดสายตามองซ้ายขวา
พวกเขาไม่เลือกอะไรทั้งนั้น แต่เดินไปตรงเส้นทางที่ไม่สะดุดตาที่สุดแล้วเข้าไปในนั้นทันที
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เสิ่นเสวียนจึงปรากฏตัวขึ้น
ทว่ากลับไม่เป็อย่างที่เขาคิดไว้ ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในถ้ำ เส้นทางเบื้องหน้ากลับเคลื่อนที่ไป เมื่อหันกลับไปมองทางเดิม เส้นทางที่เขาเดินเข้ามาได้หายไปแล้ว
ไม่แปลกใจว่าทำไมก่อนหน้านี้จึงไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเสิ่นเสวียนเลย ที่แท้เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในนี้จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
ยังคงมีทางเข้าออกอยู่ แต่ไม่มีทางเป็เส้นทางเดิมอย่างแน่นอน
หลังจากเข้ามาแล้วเขาก็ไม่ได้รั้งรอ มุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่สองคนก่อนหน้านี้เลือกเดินไป หลังจากที่ทำสัญลักษณ์ไว้ตรงทางเข้าเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินเข้าไปในนั้น
เมื่อเทียบกับจี๋เล่อน้อยและซูเหยียน เขาสนใจการกระทำของสองคนนี้มากกว่า
สองคนนี้มีท่าทางลึกลับ ตามการคาดเดาของเสิ่นเสวียนแล้ว สองคนนี้อาจเกี่ยวข้องกับคนที่ลอบสังหาราามารตะวันตก ตามพวกเขาไปอาจเจอสุสานของผู้เฒ่าจี๋เล่อก็ได้
ส่วนที่เสวียนหลิงเอ่อร์รับปากว่าจะช่วยเขาตามหา ตอนนี้อีกฝ่ายยังพักผ่อนอยู่ จะหวังพึ่งนางคงไม่ได้แล้ว ต้องพึ่งตนเองเท่านั้น
“พวกข้าขอสาบานว่าจะภักดีต่อนายท่านแม้ต้องตาย”
ตอนที่เสิ่นเสวียนกำลังเดินอยู่ พลันได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
เขาจึงมองตามเสียงไปและเห็นสองคนนั้นอยู่ด้านหน้าพอดี