ตกเย็นทุกคนนั่งกินเกี๊ยวร้อนๆ ด้วยกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น
เซี่ยโม่ไม่กล้าพูดถึงเหตุการณ์ขุ่นข้องเมื่อตอนกลางวันอีก
หลังจากกินข้าวเสร็จ เธอลองหยั่งเชิงถามเื่เนื้อกวางยองกับชายหนุ่ม “พี่ซ่งคะ ฉันยังมีเนื้อกวางดิบอยู่อีก พี่พอจะช่วยจัดการได้ไหมคะ”
“ยังมีอยู่อีกเท่าไร”
“ห้ากิโลกว่าค่ะ แต่ถ้าไม่ได้ ฉันเอาไปทำเป็เนื้อแดดเดียวก็ได้ค่ะ”
ความจริงแล้วยังเหลือเนื้อกวางอีกสิบกว่ากิโลกรัม แต่เธอกลัวชายหนุ่มจะจัดการขายให้ไม่ได้ เลยจะฝากไปขายแค่ครึ่งเดียวพอ ส่วนอีกครึ่งจะเก็บไว้ในโกดังสินค้า
นี่เป็เนื้อกวางที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ รสชาติดี ประโยชน์ก็มากมาย
ซ่งมู่ไป๋คิดในใจ เขาจะล่วงเกินเด็กสาวไม่ได้เด็ดขาด
เนื้อกวางแค่ห้ากิโลกว่าเขามั่นใจว่าสามารถจัดการได้ หรือถ้าไม่ได้เขาทำเนื้อแดดเดียวเก็บไว้กินเองก็ยังได้
เขาตอบออกไปอย่างมั่นใจ “ไม่มีปัญหา ฉันจัดการได้”
“พี่ซ่ง ที่บ้านยังมีเนื้อกวางตุ๋นอยู่อีก เดี๋ยวฉันแบ่งให้นะคะ เอาไว้ในที่เย็นๆ นะคะจะเก็บไว้กินได้อีกสองวัน”
กวางที่แม่ของเสี่ยวเฮยให้มาตัวใหญ่อวบอ้วน วันนี้กินกันตั้งหลายคนเนื้อก็ยังเหลือ
ซ่งมู่ไป๋หัวใจพองโตด้วยความดีใจ เด็กสาวเป็ห่วงเป็ใยเขา
“ได้ ขอบใจมากนะ”
เซี่ยโม่มองค้อนชายหนุ่ม ยามปกติผู้ชายคนนี้ก็เป็ชายหนุ่มที่อบอุ่นอ่อนโยน แต่พอโมโหก็แปลงร่างกลายเป็คนไม่มีเหตุผลทันที
กับคนนอกทำตัวดุดันเ็าเหมือนอันธพาล แต่กับเธอกลับเอาอกเอาใจสารพัด
ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีกี่หน้ากันแน่
ปฎิเสธไม่ได้ว่าอีกฝ่ายมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา แต่เธอขอสังเกตพฤติกรรมชายหนุ่มต่ออีกสักระยะดีกว่า แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะไปต่อกับผู้ชายคนนี้ดีหรือไม่
หลังจากเดินไปส่งพี่ซ่งและเพื่อนแล้ว เธอก็แวะไปดูฟืนที่กองพะเนิน ก่อนจะหยิบเอากิ่งไม้แห้งๆ ที่อยู่ในโกดังสินค้าออกมาวางกองรวมกันไว้ ตอนนี้ที่บ้านมีฟืนล้นเหลือ เพียงพอให้ใช้ทั้งฤดูหนาวแน่นอน
หลายวันที่ผ่านมา เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้เธอควรกลับไปเรียนได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคุณครูเจิ้งจะลำบาก อีกอย่างหากขอลาหยุดคราวหน้าจะได้สะดวก
วันนี้เธอเหนื่อยล้ามาทั้งวัน พอล้มตัวลงนอนก็ผล็อยหลับไปทันทีที่ปิดเปลือกตา
เช้าวันต่อมาฟ้าเริ่มมีแสงสว่าง เซี่ยโม่ตื่นออกไปดูบริเวณหน้าบ้าน แต่วันนี้ไม่พบร่องรอยแม่ของเสี่ยวเฮย
จากนั้นเธอออกกำลังกายสักครู่ใหญ่ก่อนจะขึ้นเขาไปตัดหญ้าแห้วหมู อาจเป็เพราะการออกกำลังกายเริ่มเห็นผล เดี๋ยวนี้เลยรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองแข็งแรงขึ้นมาก เธอรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง
หลังจากนำหญ้าแห้วหมูไปแลกแต้มการทำงาน เธอก็กลับบ้านอย่างอารมณ์ดี
เพิ่งก้าวเท้าเข้าไปในบ้านพลันได้กลิ่นหอมของอาหารลอยออกมา เธอเลยเดินเข้าไปดูในห้องครัว พบว่าคุณยายกำลังนึ่งขนมถ้วยฟูอยู่
“ลำบากคุณยายแล้ว”
“ยายเห็นหลานไม่อยู่ คิดว่าน่าจะขึ้นเขาไปตัดหญ้าแห้วหมู หลานนี่นะ ปล่อยให้ตัวเองว่างไม่ได้เลย”
“คุณยายคะ ทำงานถือเป็การออกกำลังกาย เดี๋ยวนี้เวลาขึ้นเขาหนูรู้สึกมีแรงขึ้นเยอะเลย” เธอพูดโอ้อวด
“หลานก็มีเหตุผลมาอ้างเสมอนั่นแหละ”
“หนูลาหยุดเรียนมาห้าหกวันแล้ว วันนี้เลยจะกลับไปเรียนค่ะ” เซี่ยโม่พูดกับคนในครอบครัวระหว่างรับประทานมื้อเช้า
คุณตาพยักหน้าเห็นด้วย “หลานสมควรกลับไปเรียนได้แล้วจริงๆ นั่นแหละ ลาหยุดหลายวันแบบนี้กลับไปไม่รู้จะตามเพื่อนๆ ทันหรือเปล่า ตอนสอบห้ามกินไข่กลับมานะ”
“คุณตาวางใจเถอะค่ะ ความรู้ทุกอย่างของชั้นม.ปลายอยู่ในสมองหนูหมดแล้ว รับรองไม่กินไข่แน่นอน” ผู้เป็หลานสาวกล่าวอย่างมั่นใจ
ทุกคนฟังแล้วพากันหัวเราะออกมา
เซี่ยเฉินเฟิงตัวน้อยยิ้มพร้อมกับเสนอ “พี่ครับ ตอนสอบเรามาแข่งกันดีไหมครับว่าใครเก่งกว่ากัน”
เพื่อเป็การสร้างแรงกระตุ้นให้น้องชาย เธอจึงพยักหน้าตอบตกลง “เอาสิ พอถึงตอนนั้นเอากระดาษข้อสอบมาดูกัน”
“ได้เลยครับ”
หลังจากไปส่งน้องชายกับสือโถวน้อยที่โรงเรียนแล้วเธอก็ขี่จักรยานไปโรงเรียนมัธยมต่อ
ขณะที่กำลังขี่จักรยานไปโรงเรียนอยู่นั้น เธอพบว่าข้างหน้าไม่ไกลมีใครคนหนึ่งกำลังขี่จักรยานมาทางนี้
พอเพ่งมองให้ดี คือชายสารเลวเซี่ยวฉางเซิงนั่นเอง
ถนนสายนี้เป็ทางตรงไม่มีทางแยก เธออดโอดครวญในใจไม่ได้ว่าทำไมวันนี้ถึงโชคร้ายนัก ในสถานการณ์จวนตัวคงได้แต่ต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
ขอให้อีกฝ่ายหมดความสนใจในตัวเธอแล้วด้วยเถอะ หรือไม่สังเกตเห็นเธอได้ยิ่งดี
จักรยานของคนทั้งคู่เข้าใกล้กันทุกขณะ พอเห็นเธอ สีหน้าของเซี่ยวฉางเซิงฉายแววดูถูกเหยียดหยาม ก่อนจะพ่นคำดูแคลนใส่ “ไม่เจอหน้ากันหลายวัน ซื้อจักรยานแล้วหรือนี่ คงไปอ่อยผู้ชายมีเงินมาสินะ ไหนเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิว่าผู้ชายคนนั้นเป็ใคร”
ผู้ชายคนนี้ทำไมนิสัยแบบนี้ ในปากมีสุนัขอาศัยอยู่หรืออย่างไร
จักรยานคันนี้เธอฝากให้พี่ซ่งซื้อ โดยใช้เงินที่สู้เสี่ยงชีวิตเข้าไปเก็บสมุนไพรจากในป่าลึกไปขายต่างหาก
รู้ดีว่าอีกฝ่ายจงใจพูดหาเื่ เธอเลยแกล้งเมินทำเป็ไม่เห็นแล้วขี่จักรยานต่อไป เซี่ยโม่ไม่อยากไปโรงเรียนสายหลังจากขอลาหยุดไปหลายวัน ไม่อย่างนั้นได้ถูกเพ่งเล็งเป็แน่
เซี่ยวฉางเซิงเห็นเซี่ยโม่คิดจะขี่จักรยานผ่านไปจึงหักคันบังคับเจตนาจะชนให้ล้ม
่ขาของเขายาว สามารถเอาขายันพื้นเพื่อให้จักรยานยังทรงตัวได้อยู่แล้ว
อีกฝ่ายฐานะยากจน จักรยานที่ซื้อมาจะคุณภาพดีสักแค่ไหนเชียว มั่นใจว่าหากเทียบกันคุณภาพจักรยานสู้ของเขาไม่ได้แน่นอน
เห็นชายสารเลวตั้งใจจะชนเธอ เซี่ยโม่ยกยิ้มมุมปากก่อนจะบังคับหัวจักรยานเพื่อเบี่ยงหลบ จักรยานของเธออ้อมผ่านตัวอีกฝ่ายแล้วกลับไปแล่นในเส้นทางเดิม
ั้แ่ต้นจนจบไหลลื่นไม่มีสะดุด เห็นได้ชัดว่าเธอมีทักษะการขี่จักรยานดีเยี่ยม
เซี่ยวฉางเซิงนึกไม่ถึงว่าเซี่ยโม่ที่เพิ่งเคยขี่จักรยานแค่เพียงไม่กี่วันจะชำนาญถึงเพียงนี้ ถึงขนาดรับมือและเอาคืนตัวเองได้
ยิ่งเป็เช่นนี้เขาก็ยิ่งโมโห รีบหันหัวจักรยานกลับแล้วขี่ไล่ตามเซี่ยโม่ไป
เซี่ยโม่รู้ดีว่าเซี่ยวฉางเซิงเป็คนอย่างไร ชาติที่แล้วอีกฝ่ายเป็คนใจแคบ ทั้งยังคิดเล็กคิดน้อย ชาตินี้ก็ยังมีนิสัยแบบเดิมไม่ผิดเพี้ยน
เธอขี่จักรยานมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนโดยไม่คิดสนใจอีกฝ่าย ทว่าเวลาต่อมารับรู้ได้ว่าด้านหลังมีคนกำลังขี่จักรยานไล่ตาม เธอจึงเร่งฝีเท้าปั่นให้เร็วขึ้น
พอมาถึงในตำบล ผู้คนที่เดินสัญจรไปมาก็เริ่มมากขึ้น เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับผ่อนความเร็วของฝีเท้าที่ปั่นจักรยานลง
ถึงเซี่ยวฉางเซิงจะยังตามมา แต่ถ้ามีคนอยู่เยอะ อีกฝ่ายไม่กล้าขี่จักรยานเข้ามาชนเธออีกแน่
เป็อย่างที่คิด พอเห็นบริเวณนี้มีผู้คนพลุกพล่าน เซี่ยวฉางเซิงทำได้แค่สบถออกมาสองสามประโยค ก่อนจะหันหัวจักรยานแล้วขี่ไปที่โรงเรียนของตนเอง
เมื่อก้มมองนาฬิกาข้อมือเขาก็ยิ่งเจ็บใจ วันนี้ตัวเองไปสายเป็ที่แน่นอนแล้ว
ยิ่งพอนึกถึงหน้าตาดุร้ายของคุณครูเขาก็ยิ่งแค้นใจ
ทั้งหมดเป็เพราะนังเซี่ยโม่คนเดียว!
ทันใดนั้นเองเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้ทำไมเขาถึงไม่เคยเจออีกฝ่ายเลย
วันนี้เขาออกช้ากว่าปกติ แสดงว่าเซี่ยโม่คงจะขี่จักรยานไปเรียนเวลานี้ประจำ
เช่นนั้นพรุ่งนี้เขาก็จะออกจากบ้านในเวลานี้ จะต้องดักอีกฝ่ายได้แน่นอน
พอดักหน้าอีกฝ่ายได้สำเร็จค่อยพังจักรยานแล้วสั่งสอนให้หลาบจำสักรอบ
จากนั้นค่อยพูดเื่ให้อีกฝ่ายช่วยสอนหนังสือ หากตกลงก็ดีไป แต่ถ้าไม่ตกลงเขาก็จะสั่งสอนเซี่ยโม่อีกรอบ จะสั่งสอนไปจนกว่าเธอจะยินยอม
เซี่ยวฉางเซิงวางแผนร้ายอยู่ในใจ ส่วนเื่ไปโรงเรียนสาย ถูกเขาสลัดทิ้งไปจากสมองนานแล้ว
ด้านเซี่ยโม่แม้จะเร่งฝีเท้าปั่นจักรยาน แต่ก็มีแค่เหงื่อออกเท่านั้น ไม่มีอาการเหนื่อยหอบเลยสักนิดเดียว
พอไปถึงโรงเรียนเธอจูงจักรยานไปไว้ตรงที่จอดจักรยาน มองนาฬิกาในโกดังสินค้า พบว่าอีกสิบห้านาทีจึงจะถึงเวลาเข้าเรียน
เธอรีบไปหาคุณครูเจิ้งเพื่อรายงานตัวว่าวันนี้กลับมาเรียนแล้ว
ตอนเข้าไปในห้องทำงาน คุณครูเจิ้งกำลังเตรียมบทเรียนที่จะสอนอยู่
“คุณครูเจิ้งคะ หนูจัดการธุระที่บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ วันนี้หนูเลยกลับมาเรียน” เธอยิ้มแย้มขณะรายงานตัว
คุณครูเจิ้งขยับแว่นตาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม “นักเรียนเซี่ยโม่มาเรียนแล้วเหรอ ข้อสอบเก่าที่ครูให้ไปก่อนที่จะขอลาหยุด เธอทำเสร็จแล้วหรือยัง”
