ถังชิงหรูออกมาจากจวนชิ่งอ๋อง ปรกติแล้วหากพ่อบ้านหลินอยู่ในจวนจะให้รถม้าส่งนางกลับทุกครั้ง แต่วันนี้เขาไม่อยู่จึงต้องกลับเอง นางเดินไปตามถนนใหญ่ เห็นของน่าสนใจมากมายก็ซื้อติดไม้ติดมือกลับมาไม่น้อย ยามนี้นางแต่งกายเป็สตรี ไม่มีใครจำได้ว่านางคือท่านหมอถังผู้นั้น
"แม่นาง นี่คือชุดที่เพิ่งออกมาใหม่ รูปร่างของแม่นางงดงามเพียงนี้ ราวกับว่ามันตัดขึ้นมาสำหรับแม่นางโดยเฉพาะเลยนะเ้าคะ" เถ้าแก่เนี้ยร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปเห็นถังชิงหรูปรากฏตัวขึ้น ก็ออกมาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น ทุกครั้งที่นางมาซื้อของที่นี่ ขอเพียงเป็ของที่ถูกใจ ก็จะจ่ายเต็มที่เสมอ ดังนั้นพอเถ้าแก่เนี้ยเห็นนางก็ตื่นเต้นดีใจ
ถังชิงหรูมองดูแบบเสื้อผ้าก็ไม่มีอะไรพิเศษ ่นี้นางซื้อเสื้อผ้ามาไม่น้อย ประกอบกับไม่ค่อยได้แต่งกายเป็สตรี เลยไม่คิดจะซื้อเพิ่ม
ขณะเตรียมจะออกไปจากร้านเสื้อผ้า นางก็เงยหน้าไปเห็นสตรีคนหนึ่งกำลังยื้อยุดน่าหลันหลิงอยู่ข้างถนน น่าหลันหลิงเป็สุภาพบุรุษ แต่ยามนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรำคาญ
นางค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ พรางตัวในตำแหน่งที่พวกเขามองไม่เห็น แต่ได้ยินที่สองคนนั้นสนทนาอย่างชัดเจน สตรีผู้นั้นกล่าวว่า "ท่านอาจารย์หลิน ข้าเลื่อมใสท่านจริงๆ นะ"
น่าหลันหลิงปฏิเสธอย่างสุภาพ "คุณหนูเฉิน โปรดสำรวมตนด้วย ผู้น้อยเป็เพียงบัณฑิตยากจน มิบังอาจหมายปองคุณหนูผู้มีสกุลรุนชาติ"
"บิดามีข้าเป็บุตรสาวเพียงคนเดียว ต่อไปทรัพย์สมบัติล้วนเป็ของข้าทั้งสิ้น ขอเพียงท่านยินยอมแต่งสกุลของเรา บิดาข้าต้องเห็นด้วยแน่นอน" สตรีผู้นั้นกล่าวอย่างเขินอาย
"ขอบคุณในความเมตตาของคุณหนู เพียงแต่ผู้น้อยมีคู่หมายอยู่แล้ว มิอาจเหนี่ยวรั้งวัยสาวสะพรั่งของท่าน" น่าหลันหลิงเห็นว่าปฏิเสธไม่สำเร็จ จึงใส่ยาแรงขึ้นอีก
สตรีผู้นั้นมองน่าหลันหลิงอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าขาวซีด "ไม่ ข้าไม่เชื่อ ท่านต้องหลอกข้าแน่ๆ "
น่าหลันหลิงเห็นท่าทีของสตรีผู้นั้นก็เอ่ยถ้อยคำหนักแน่น "ผู้น้อยไม่จำเป็ต้องหลอกลวงคุณหนู ที่บ้านมีคู่หมายที่หมั้นกันไว้ั้แ่อยู่ในครรภ์ ผู้น้อยสาบานไว้ว่าชีวิตนี้จะแต่งนางเป็ภรรยาเพียงผู้เดียว"
"สตรีผู้นั้นหน้าตางดงามหรือไม่ บ้านของนางร่ำรวยเหมือนบ้านข้าหรือเปล่า สามารถให้เงินทองลาภยศแก่ท่านได้ไหม" สตรีนางนั้นขึ้นเสียงอย่างไม่ยินยอม "นางสามารถเป็ดั่งฉินเซ่อประสานสำเนียง[1] เป็แขนเสื้อแดงเติมกำยาน[2]ให้แก่บัณฑิตผู้เปี่ยมไปด้วยพร์ความสามารถเช่นท่านได้หรือไม่"
ถังชิงหรูยกมือขึ้นปิดปาก แต่กลับหัวเราะในใจไม่หยุด แม้ไม่เห็นสีหน้าของน่าหลันหลิง แต่จินตนาการได้ว่าตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดและรำคาญใจขนาดไหน
ขณะที่นางกำลังใคร่ครวญอยู่ว่าตนเองควรจะออกไปปรากฏตัวในสถานะ 'คู่หมั้น' ของเขาดีหรือไม่ คุณหนูหลี่ก็เดินเข้ามาจากฝั่งตรงข้าม นางใช้ผ้าเช็ดหน้าป้องปาก ยิ้มเอ่ยเสียงเบา "น้องหญิงสกุลเฉิน เ้าสนทนาอันใดกับอาจารย์ของบ้านข้าอยู่หรือ ดูดวงตาของเ้าสิ แดงไปหมดแล้ว มีเื่ลำบากใจอันใดหรือเปล่า พูดออกมาสิ เดี๋ยวพี่สาวจะได้ช่วยออกความคิด"
คุณหนูสกุลเฉินผู้นั้นเห็นคุณหนูสกุลหลี่ปรากฏตัว ก็แสร้งวางเฉยเอ่ยว่า "พี่หญิงสกุลหลี่ล้อเล่นแล้ว เมื่อสองสามวันก่อนข้าได้ยินอาจารย์เล่านิทานเื่หนึ่งให้คุณชายน้อยของสกุลหลี่ฟัง ตอนนี้ได้ยินแค่ผ่านๆ ไม่ได้ฟังตอนจบ ก็เลยยังติดค้างอยู่ในใจ จนมาถึงวันนี้ได้พบกับอาจารย์หลินโดยบังเอิญ ก็เลยถือโอกาสถามตอนจบ แต่นึกไม่ถึง... จะเป็ฉากจบที่สุดแสนรันทดขนาดนี้"
"หืม? นิทานต้องะเืใจแค่ไหนถึงทำให้เ้าแลดูเศร้าสลดถึงเพียงนี้" คุณหนูหลี่ดึงมือของคุณหนูเฉินมากุมไว้ ราวกับเป็พี่สาวน้องสาวที่เห็นอกเห็นใจกัน "เอาไว้วันหน้าข้าคงต้องฟังบ้างแล้ว"
"อาจารย์หลินเป็อาจารย์ที่สกุลหลี่เชิญมา ท่านอยากฟังเมื่อไรก็ย่อมได้" คุณหนูเฉินชักมือกลับ พลางยอบกายคำนับเอ่ยว่า "น้องสาวยังมีธุระ ต้องขอตัวก่อน"
"ช่างน่าเสียดายนัก นึกว่าจะได้เดินเล่นกับน้องสาวเสียอีก หอจินโหลวเพิ่งเปิดตัวเครื่องประดับทองคำชุดหนึ่ง ได้ยินว่าเป็แบบใหม่ล่าสุด งดงามมาก"
คุณหนูเฉินเพิ่งถูกน่าหลันหลิงปฏิเสธ กำลังเศร้าเสียใจอยู่ ยามนี้อย่าว่าแต่คุยถึงเื่เครื่องประดับ ต่อให้ยกูเาทองคำทั้งลูกมาตั้งตรงหน้าก็ไม่ทำให้นางมีความสุขขึ้นมาได้
พอเห็นคุณหนูเฉินไปแล้ว คุณหนูหลี่ก็หันกลับมาหาน่าหลันหลิง พลางเอ่ยด้วยวาจาอ่อนหวาน "น้องหญิงเฉินสนทนาอันใดกับท่านอาจารย์หรือ ดูจากท่าทางของนางแล้วเหมือนจะน้อยเนื้อต่ำใจอยู่มาก"
"เมื่อครู่คุณหนูเฉินก็กล่าวไปแล้ว ผู้น้อยเล่านิทานเื่หนึ่ง เนื้อหาค่อนข้างหดหู่ คุณหนูเฉินฟังแล้วก็เลยรู้สึกรันทดใจ หากคุณหนูไม่มีธุระอันใดแล้ว ผู้น้อยขออำลา วันนี้เป็วันหยุดพักผ่อน ยังมีงานที่บ้านมากมายต้องจัดการ มิอาจเถลไถลอยู่ข้างนอก" น่าหลันหลิงกล่าว
คุณหนูหลี่มองเงาหลังของน่าหลันหลิงที่ไกลออกไป พลางบิดผ้าเช็ดหน้าในมือ เปรยเบาๆ ด้วยความเสียใจ "เ้าบัณฑิตทึ่ม เมื่อไรถึงจะเข้าใจความรู้สึกข้าเสียทีนะ"
ถังชิงหรูซึ่งอยู่ในที่ลับแอบเห็นเื่สนุกทั้งสองเื่ ก็อดเลื่อมใสในเสน่ห์ของน่าหลันหลิงไม่ได้ แค่ไม่กี่วันก็มีคุณหนูลูกผู้ดีมีเงินมาติดเนื้อพึงใจถึงสองคน หายนะ หายนะแล้วหนอ...
แต่วันนี้เป็วันหยุดของเขา จิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์ต่างก็กลับบ้านกันทั้งคู่ ที่เรือนไม่มีคนอยู่เลย นางต้องรีบกลับไปปรนนิบัตินายน้อยท่านนี้
ยามถังชิงหรูกลับไปถึงก็เห็นประตูใหญ่เปิดอยู่ น่าหลันหลิงอยู่ในสวนกำลังรดน้ำผัก พอเขาเงยหน้าขึ้นเห็นนางวิ่งกลับมาก็ยกยิ้มน้อยๆ
"จะรีบร้อนไปไย รู้หรือว่าข้าจะกลับมาวันนี้" น่าหลันหลิงทอยิ้มละมุนละไม
ถังชิงหรูเห็นชายหนุ่มผู้อ่อนโยนตรงหน้า พลันนึกถึงท่าทางเ็าไร้หัวใจของเขาเมื่อครู่ ก็แทบไม่อยากเชื่อว่าเป็คนคนเดียวกัน นางปาดเหงื่อพลางเอ่ยว่า "เมื่อครู่นี้ข้าไปชมละครสนุกมา มีนกยูงซึ่งมีปีกหางงดงามตัวหนึ่งคุยกับนกอีกตัวหนึ่งที่เกาะอยู่บนต้นไม้ว่า ข้ามีปีกหางอันงดงาม และมีสถานะสูงส่ง หากเ้าติดตามเข้าฝูงนกยูงของข้า ก็จะได้ทุกอย่างที่ข้ามีด้วย แต่นกตัวนั้นกลับตอบไปว่า ขออภัยด้วยเถิด แม่นกยูงน้อยผู้เลอโฉม ข้าเป็เพียงนกธรรมดา มิคู่ควรกับเผ่าพันธุ์อันสูงส่งของท่านหรอก หลังจากนั้นก็มีนางนกยูงอีกตัวเข้ามาสู้รบตบมือกับนางนกยูงตัวแรก พวกมันต่างคิดแย่งชิงนกตัวนั้นเพียงแต่... ทว่าน่าเสียดาย นกตัวผู้ที่พวกมันหมายปองกลับบินจากไปเสียแล้ว ท่านว่า ละครเื่นี้น่าสนุกหรือไม่"
น่าหลันหลิงลดถังน้ำในมือลง หันมาพูดกับถังชิงหรูด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า "ถ้าหากเ้านกตัวนั้นบอกกับนางนกยูงสองตัวว่า แท้จริงแล้วนกตัวหนึ่งที่กำลังแอบชมเื่สนุกของพวกนางอยู่ก็คือคู่หมั้นของเขา เ้าว่านางนกยูงสองตัวนั้นจะทำอย่างไร แล้วนกที่มาแอบชมเื่สนุกตัวนั้นยังจะสามารถหลบอยู่ด้านข้างอย่างสบายใจเฉิบได้อยู่หรือไม่"
ถังชิงหรูสะดุ้งโหยง ทำตาปรอยยอมสารภาพความผิด "แท้จริงแล้วเ้านกน้อยที่แอบชมเื่สนุกตัวนั้นแค่บังเอิญผ่านมา เพราะว่าบินจนเหนื่อยแล้วก็เลยแวะหาที่พักผ่อน มิมีเจตนาจะเข้าไปร่วมในละครฉากนั้น โปรดเห็นแก่ความบริสุทธิ์ใจของนาง อย่าลากนางลงน้ำไปด้วยได้หรือไม่"
"เ้าเล่ห์นัก" น่าหลันหลิงหัวเราะเบาๆ
"ญาติผู้พี่..." ถังชิงหรูรับถังน้ำมาจากมือเขา "ยากนักที่ท่านจะมีเวลาพักผ่อน งานหยาบเหล่านี้อย่าไปทำเลย วันนี้ท่านอยากกินอะไร"
"ขอแค่เป็อาหารที่เ้าทำ อะไรก็ได้ทั้งนั้น เ้ารู้ความชอบของข้าอยู่แล้วมิใช่หรือ" น่าหลันหลิงมองลานสวนที่ได้รับการดูแลอย่างดี "ดูท่าสาวใช้ที่เ้าซื้อมาจะขยันขันแข็งใช้ได้"
"แน่นอนอยู่แล้ว ก็ต้องดูว่าใครซื้อมา ถ้าเกียจคร้านสันหลังยาว ข้าจะให้พวกนางรั้งอยู่ที่นี่หรือ" ถังชิงหรูคุยโว "เมื่อไม่มีสิ่งใดร้องขอเป็พิเศษ เช่นนั้นก็ตามใจคนทำแล้วกันนะเ้าคะ"
"หรูเอ๋อร์..." น่าหลันหลินหยิกแก้มของนาง "ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน เ้าดูเปลี่ยนไปมาก หากมิใช่ว่าเค้าโครงหน้ายังไม่เปลี่ยน ข้าคงจำเ้าไม่ได้แล้ว"
ถังชิงหรูรู้ว่ารูปโฉมของตนเองกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ โอสถที่นางกินหาใช่ยาที่สามารถเปลี่ยนนางให้งดงามขึ้นได้ในครั้งเดียว แต่จะปรับเปลี่ยนจากสุขภาพภายในของนางก่อน แล้วค่อยสะท้อนออกมาให้เห็นภายนอก หากน่าหลันหลิงกลับมาช้าอีกสักสองสามวัน ถึงเวลานั้นก็อาจจำนางไม่ได้จริงๆ เพราะนางจะยิ่งเปลี่ยนไปจากตอนนี้อย่างมหาศาล
"่นี้ข้าปรุงโอสถช่วยบำรุงผิวหน้า ทดลองใช้กับตัวเอง ผลลัพธ์ดูเหมือนจะไม่เลว ผ่านไปอีกสักพักค่อยทำออกมาขายให้คุณหนูสกุลใหญ่เ่าั้ จะต้องทำเงินได้มากมายอย่างแน่นอน"
"หรูเอ๋อร์เปี่ยมไปด้วยความสามารถโดยแท้ หากจำเป็ต้องใช้ที่ของข้า ก็เต็มที่เลยไม่ต้องเกรงใจ มิเช่นนั้นข้าคงกลายเป็หนุ่มหน้ามนที่ต้องให้หรูเอ๋อร์เลี้ยงดูไปจริงๆ"
"ท่านอาจารย์หลิน บิดามีข้าเป็บุตรสาวเพียงคนเดียว ต่อไปทรัพย์สมบัติทุกอย่างในบ้านก็ต้องเป็ของข้า เพียงแค่ท่านยินยอมแต่งเข้าตระกูลข้า..." ถังชิงหรูเลียนแบบท่าทางการพูดจาของคุณหนูหลิน
ถังชิงหรูยังไม่ทันกล่าวให้จบ น่าหลันหลิงก็บีบจมูกของนางอย่างมันเขี้ยว แสร้งทำโมโหโทโส "หากกล้าล้อข้าอีก ระวังข้าจะจัดการกับเ้า"
"ข้าเปล่านะ นี่มันความจริงทั้งนั้น หากคุณชายยินดีเป็หนูตกถังข้าวสาร ไม่รู้ว่าจะมีสตรีมากน้อยแค่ไหนยินดีรับเลี้ยงท่าน แต่ก็ช่วยไม่ได้... ท่านกลับทำให้โฉมสะคราญเ่าั้ต้องหัวใจสลาย" ถังชิงหรูล้อเลียนเขาอีกสองสามประโยค ก่อนวิ่งจู๊ดหนีไป
น่าหลันหลิงส่ายหน้าพลางหัวเราะเบาๆ "เ้าเด็กคนนี้นี่ นับวันก็ยิ่งทำตัวประหลาด แต่ทว่า... หรูเอ๋อร์ที่เป็แบบนี้ช่างดียิ่ง"
ถังชิงหรูทำอาหารรสชาติค่อนข้างจืดตามความชอบของน่าหลันหลิง ชายหนุ่มแลดูซูบลงไป รูปร่างก็เลยยิ่งผอมเพรียว นางรู้ได้ทันทีว่ารสชาติอาหารของจวนสกุลหลี่ต้องไม่ถูกปากเขาเป็แน่ เมื่อก่อนน่าหลันหลิงไม่ใช่คนมากเื่ นับั้แ่นางเป็คนทำอาหารให้กิน เขาถึงเริ่มเปลี่ยนเป็คนช่างเลือก
"่นี้ข้าไปรักษาอาการเจ็บป่วยของชิ่งอ๋อง" ถังชิงหรูพูดกับน่าหลันหลิง "จวนชิ่งอ๋องมีคนมาคนหนึ่ง ชิ่งอ๋องเรียกเขาว่าพี่ชาย ข้าดูแล้วเขามีสง่าราศีเยี่ยงผู้สูงศักดิ์ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็ท่านอ๋องพระองค์ไหน"
น่าหลันหลิงชะงักไปชั่วขณะ แววตาขรึมลงเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบ "ชิ่งอ๋องเป็โอรสองค์สุดท้อง พระเชษฐาของเขามีเยอะมาก หากไม่ได้พบเจอ ข้าก็ไม่อาจคาดเดาสถานะได้"
"ญาติผู้พี่ สถานการณ์ของท่านตอนนี้อันตรายยิ่งนัก อย่าคิดทำเื่โง่เขลาเป็อันขาด หากตกไปอยู่ในมือของคนโฉด การอุทิศชีวิตเพื่อคุ้มครองท่านของนักรบเดนตายเ่าั้ก็คงสูญเปล่า" สาเหตุที่ถังชิงหรูเอ่ยถึงเื่นี้เพราะ้าเตือนสติน่าหลันหลิง ถึงอย่างไรสกุลหลี่ก็นับเป็ตระกูลใหญ่ หากน่าหลันหลิง้าสอบถามข่าวอันใด ย่อมเป็เื่ง่าย
นางเคลือบแคลงเป้าหมายที่น่าหลันหลิงเข้าไปเป็อาจารย์ในจวนสกุลหลี่มาโดยตลอด ถึงอย่างไรเพลานี้นางก็สามารถหาเงินได้แล้ว น่าหลันหลิงไม่จำเป็ต้องไปเป็อาจารย์ให้ผู้อื่นก็ได้ ด้วยสถานะเช่นเขา ไหนเลยจะไปเป็บ่าวเป็นายกับใครได้ แม้ว่าอาจารย์จะไม่ต้องลงนามสัญญาขายตัว แต่สถานะก็หาได้แตกต่างกับบ่าวรับใช้เ่าั้มากนัก ข้อดีเพียงอย่างเดียวก็คือสามารถจากไปได้ทุกเมื่อ แต่ก็ยังลำบากสำหรับน่าหลันหลิงอยู่ดี
จนกระทั่งวันนี้ที่ได้พบกับเฉินรุ่ย นางถึงคาดเดาความคิดของน่าหลันหลิงออก สกุลหลี่เป็หนึ่งในตระกูลใหญ่ซึ่งมีจำนวนน้อยมากจนแทบนับนิ้วได้ในเมืองชิ่ง เขา้าแทรกซึมเข้าไปเพื่อรับรู้ข่าวสารของราชสำนัก ส่วนสาเหตุที่ไม่เข้าไปจวนชิ่งอ๋อง แท้จริงก็ไม่ซับซ้อน จวนชิ่งอ๋องหาใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าไปได้ง่ายๆ ประกอบกับมิแน่ว่าที่นั่นจะมีใครรู้จักเขาหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่กล้าเสี่ยง
--------------------------------------------------------------------------------
[1] ฉินเซ่อประสานสำเนียง มักใช้กล่าวถึงสามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียวกันมาก เหมือนเสียงของฉินและเซ่อที่ประสานสำเนียงเป็บทเพลงอันไพเราะ ฉินหรือกู่ฉิน คือพิณโบราณ ส่วนเซ่อก็เป็เครื่องดนตรีประเภทสายคล้ายกู่เจิง ทั้งฉินและเซ่อเป็เครื่องดนตรีที่นิยมในหมู่คนชั้นสูงสมัยโบราณ
[2] แขนเสื้อแดงเติมกำยาน แขนเสื้อแดงหมายถึงสตรี การเติมกำยานสมัยก่อนไม่ได้ใช้เป็แบบก้านธูป แต่ใช้ผงกำยานใส่เข้าไปโถเป็รูปต่างๆ แล้วจุดไฟเผา วิธีการทำไม่ง่าย ต้องใช้สมาธิและใจเย็นมากพอ เป็ทั้งศาสตร์และศิลป์ แขนเสื้อแดงเติมกำยาน ใช้เป็เปรียบเปรยถึงสาวงามเพียบพร้อมที่อยู่ข้างกายบัณฑิต
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้