ั้แ่เมื่อกว่าสิบวันก่อน บรู๊คถูกาาหนุ่มอเล็กซานเดอร์เลื่อนขั้นจากผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์เป็ ‘ผู้บัญชาการทหารสูงสุด’ ของเมืองแซมบอร์ด คอยควบคุมกองกำลังทหารทั้งหมดในเมือง และเบสท์ เลขานุการคนใหม่ก็กลายเป็หนึ่งใน ‘สองผู้นำสูงสุด’ ดวงชะตาของเกอเทอ บรู๊ค นักรบหนึ่งดาวคนนี้พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า กลายเป็หนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลของเมืองแซมบอร์ด เรียกได้ว่าอยู่ใต้คนเพียงคนเดียวแต่อยู่เหนือผู้คนนับหมื่น แม้กระทั่งพวกขุนนางชั้นสูงหรือพวกพ่อค้าที่ไม่เคยเห็นบรู๊คอยู่ในสายตามาก่อน แต่มาตอนนี้กลับคอยยิ้มกว้าง ใบหน้าประหนึ่งดอกไม้ผลิบานให้บรู๊คอยู่บ่อยๆ ทุกครั้งมักจะมาเชื้อเชิญบรู๊คไปทานอาหารเย็น ส่งของขวัญและส่งสาวใช้น่ารักๆ มาให้ ทุกวันั้แ่เช้าจนค่ำจะมีผู้คนเยี่ยมเยือนที่บ้านไม่มีวันสิ้นสุด ไม่ช้าธรณีประตูก็ถูกย่ำจนแทบสึก
หากเป็คนอื่น จู่ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อย่างฉับพลันขึ้น เกรงว่าคงพากันปวดหัวไม่รู้จะจัดการอย่างไรและสุดท้ายก็จะกลายเป็วัวลืมตีน ทว่านักรบคนนี้มาจากครอบครัวที่ยากจน เขาได้แสดงให้ถึงความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และความยืดหยุ่น สำหรับคนอื่นอาจจะอยากคบเพื่อนที่มีฐานะสูงกว่า แต่หลักการของบรู๊คกลับทำให้ทุกคนต้องแปลกใจ แม้เขาจะไม่ปฏิบัติตัวเ็าและไม่เข้าร่วมพรรคร่วมพวก แต่ถ้ามีคนอื่นมาเยี่ยมเยือนบ้านเขา เขาก็จะต้อนรับอย่างอบอุ่น ทำให้ทุกคนกลับบ้านไปพร้อมความรู้สึกพอใจ
แน่นอนว่าทุกการกระทำ เขาใช้ความพยายามอย่างรอบคอบ หลังาเมืองแซมบอร์ดจบลงก็มีเื่นับร้อยที่รอให้จัดการ อีกหกเดือนหลังจากนี้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบการซ้อมรบของราชอาณาจักรเซนิท องค์าาอเล็กซานเดอร์เคยกล่าวไว้ว่า ‘หากรวมพลังจากผู้คนจำนวนมากได้ทั้งหมด จนกลายเป็ความสามัคคีได้ ก็จะสร้างเมืองแซมบอร์ดที่ดีขึ้นมาได้’ ดังนั้นบรู๊คจึงไม่อยากสร้างความขัดแย้งกับพวกขุนนาง อย่างน้อยก็ขอรักษาบรรยากาศความสามัคคีนี้ไว้ชั่วคราวก็ยังดี
และทุกวันนอกเหนือจากการขลุกอยู่กับการปรับปรุงทางการทหาร บรู๊คยังมีความคิดมากมายที่จะนำมาใช้ปฏิรูปกองทัพ นี่เป็การงานแรกที่เขาจะทำให้เสร็จภายในสามสิบวัน องค์าาอเล็กซานเดอร์ได้เสนอความคิดเห็นจำนวนมากในด้านนี้ อีกทั้งความคิดเห็นบางอย่างก็ทำให้บรู๊ครู้สึกทึ่งเช่นกัน บรู๊คทำการค้นคว้าด้วยตัวเองอย่างจริงจัง ยิ่งได้วิเคราะห์ก็ยิ่งตื่นเต้น มีหลายสิ่งที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน ครั้งแรกที่เขาได้ยินจากปากขององค์าา เขาก็รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่ต่อมาเขาเริ่มรู้สึกว่าความคิดเหล่านี้ช่างไร้ที่ติ ทั้งหมดเป็ความคิดที่ยอดเยี่ยม เพียงนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริงในปัจจุบันของเมืองแซมบอร์ดเท่านั้น สำหรับเมืองแซมบอร์ดแล้ว เรียกได้ว่าเป็การเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้เลยทีเดียว
แน่นอนว่าด้วยอำนาจที่อยู่ในมือเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรู๊ครู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่ไม่เคยมีมาก่อน
หลังจากที่องค์าาอเล็กซานเดอร์กลับมาเป็คนปกติ ไม่เพียงมีพลังที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ทั้งสองอย่างนี้ยังมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วอย่างบ้าคลั่งจนน่าทึ่ง จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ ที่เขามีเวลาว่างได้พูดคุยสนทนาเื่ราววันเก่าๆ กับยอดฝีมืออันดับหนึ่ง แฟรงก์ แลมพาร์ดที่ ‘โรงเรียนแซมบอร์ด’ เขาคาดไม่ถึงว่าแลมพาร์ดยอมรับว่าพลังของอเล็กซานเดอร์เพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับที่ไม่สามารถมองเห็นได้ และบางทีเขาอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององค์าาอเล็กซานเดอร์
นี่ทำให้บรู๊ค เพียร์ซและคนอื่นๆ รู้สึกกดดัน
พวกเขารู้ดีว่า ต่อจากนี้หากอยากติดตามร่วมรบข้างกายกับองค์าาอเล็กซานเดอร์เพื่อปกป้องเมืองแซมบอร์ด พวกเขาจำเป็ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ถูกองค์าาผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขาทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายพวกเขาก็กลายเป็คนไร้ประโยชน์
ในตอนนี้ เพียร์ซ ดร็อกบาและคนอื่นๆ ต่างวิ่งโร่ไปขอคำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีฝึกแปลกๆ จากองค์าาอย่างหน้าด้านๆ ทุกวันจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีฝึกหลากหลาย ส่วนบรู๊คก็ยุ่งมาก เวลาฝึกก็น้อย และเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพลังถดถอยลง
ในขณะที่เขารู้สึกท้อใจเล็กน้อย องครักษ์ประจำตัวของซุนเฟยอย่างเฟร์นันโด ตอร์เรสก็มาหาบรู๊คพร้อมกับนำคำสั่งของซุนเฟยมาด้วย “ท่านบรู๊ค ฝ่าาเชิญท่านไปที่พระราชวังเดี๋ยวนี้เลยขอรับ เห็นว่ามีเื่สำคัญมากๆ ที่อยากจะปรึกษา”
บรู๊ครู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ก็ตามตอร์เรสไปที่พระราชวัง
เมื่อเข้ามาที่ห้องโถง บรู๊คก็ต้องแปลกใจ นอกจากตัวเองแล้วยังมีผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์แปเตอร์ แช็คที่สมควรพักฟื้นอยู่ที่บ้านแต่กลับมานั่งอยู่บนเก้าอี้หินและสนทนาบางอย่างกับองค์าาอเล็กซานเดอร์ นอกนั้นก็ไม่มีใครอื่นอยู่ที่นี่อีก
“ฮ่าๆๆ บรู๊ค ท่านมาแล้วหรือ วันนี้ข้ามีบางอย่างที่สำคัญมากๆ อยากให้พวกเ้าสองคนดูน่ะ”
เมื่อเห็นบรู๊คเข้ามา ซุนเฟยก็ยิ้มกว้าง เดินลงมาจากบัลลังก์สูงกว่าสี่ห้าเมตรที่ล้อมไปด้วยรูปปั้นสิงโตปีศาจในห้องโถง เขาเดินมาตบไหล่บรู๊ค ดวงตาของบรู๊คเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขณะที่พูดก็มีบางอย่างเกิดขึ้นบนฝ่ามือซุนเฟย แช็คและบรู๊คต่างรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า มีขวดเล็กๆ ที่เปล่งแสงสีเขียวระยิบระยับบนฝ่ามือของซุนเฟย มันเป็ขวดคริสตัลใสๆ และมีของเหลวสีเขียวอยู่ข้างใน กระทั่ง...มีพลังเวทจางๆ ปกคุลมอยู่
“นี่คือ...” บรู๊คและแช็คต่างตกตะลึง
“ฮึๆๆ นี่คือน้ำยาวิเศษะเิคลื่นพลังที่ข้าเพิ่งปรุงขึ้นมาเร็วๆ นี้...” ซุนเฟยโม้เต็มที่ แนะนำอย่างภาคภูมิใจสุดๆ “แต่...ข้าชอบเรียกมันว่า ‘น้ำยาฮัลค์’ ฮ่าๆๆ นี่เป็น้ำยาที่น่าทึ่งมาก...” ซุนเฟยพูดถึงตรงนี้ก็หยุดเล็กน้อยเพื่อสร้างความตื่นเต้น
“‘น้ำยาฮัลค์’? ชื่อนี้เป็ชื่อที่แปลกมาก...” บรู๊ครู้สึกได้ถึงพลังเวทมนตร์ที่แผ่ออกมาจางๆ จากในขวด จึงถามว่า “ฝ่าา น้ำยานี้มีประโยชน์อะไรเป็พิเศษหรือขอรับ?”
“แน่นอน ฮึๆๆ ประโยชน์ของมันมีแค่อย่างเดียว นั่นก็คือสามารถทำให้พลังของคนคนหนึ่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าใน่เวลาสั้นๆ...” ซุนเฟยโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจ “มันก็เหมือนน้ำยาวิเศษที่พวกนักเวทปรุงยาพวกนั้นปรุงกันนั่นแหละ แต่สิ่งที่แตกต่างกันกับน้ำยาวิเศษระดับต่ำพวกนั้นคือ ผลของการเพิ่มพลังของ ‘น้ำยาฮัลค์’ มันคงอยู่ถาวรไงล่ะ!”
“คงอยู่ถาวร?” แช็คและบรู๊คต่างตื่นใ ร่างกายสั่นเทิ้ม มองน้ำยาขวดเล็กๆ ในมือของซุนเฟยเขม็ง ก่อนจะโพล่งถามออกมาเสียงดังว่า “จะเป็ไปได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็น้ำยาในตำนาน?”
ในบรรดาอาชีพของพวกนักเวทบนแผ่นดินอาเซรอท จะมีอาชีพสาขาหนึ่งที่ชื่อว่า ‘นักเวทปรุงยา’ ซึ่งนักเวทปรุงยาพวกนี้สามารถปรุงน้ำยาแปลกๆ ออกมาจำนวนมากและมีผลไม่เหมือนกัน และนักเวทปรุงยาจะมีเงื่อนไขพวกส่วนผสมและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน สามารถแบ่งออกเป็หลายระดับั้แ่ระดับต่ำถึงระดับสูง น้ำยาในตำนานก็เป็น้ำยาระดับสูงอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่น่าเหลือเชื่อ หลังดื่มน้ำยาในตำนานไปแล้ว พลังที่เพิ่มขึ้นจะคงอยู่ถาวร...
แต่นั่นเป็เื่ในตำนาน น้ำยาในตำนานมีเพียงนักเวทปรุงยาในตำนานเท่านั้นถึงจะปรุงออกมาได้ และยังต้องใช้ส่วนผสมที่ล้ำค่า แปลกๆ และหาได้ยากในการปรุงยา แม้แต่ในราชอาณาจักรระดับแปดหรือเก้าบนแผ่นดินยังมีส่วนผสมพวกนี้น้อยมากๆ แต่น้ำยาที่ซุนเฟยหยิบออกมามีผลเทียบเท่ากับน้ำยาในตำนาน เื่นี้ทำให้บรู๊คและแช็คแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย
“เอ๊ะ? น้ำยาในตำนาน? จะเป็ไปได้อย่างไร? ข้าไม่มีส่วนผสมที่ล้ำค่าขนาดนั้นมาปรุงหรอก...” จากการอ่านหนังสือในหอสมุดหลวงแบบหามรุ่งหามค่ำ ซุนเฟยจึงเข้าใจว่าน้ำยาในตำนานที่ทั้งสองคนพูดถึงมันคืออะไร ดวงตาเขากรอกไปมาชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มแหยๆ “แฮะๆ ความจริงแล้ว แม้ว่า ‘น้ำยาฮัลค์’ จะมีผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง แต่มันกลับมีผลข้างเคียงที่น่ากลัวมาก...ดังนั้น ข้าจึงลังเลอยู่หลายวันที่จะเอามาให้พวกเ้า หากรับมือกับผลข้างเคียงได้ เ้าจะได้รับประโยชน์จากน้ำยานั่นจนรู้สึกพอใจเลย ตอนนี้น้ำยาก็อยู่นี่แล้ว หากยินดี พวกเ้าสองคนก็รับมันไป ว่าไง ใครอยากได้?”
ผลข้างเคียงที่น่ากลัว?
บรู๊คและแช็คสบตากัน ในดวงตาพวกเขาลดอาการตกตะลึงลงไปเล็กน้อย ในใจก็ครุ่นคิดว่า หากน้ำยาขวดนี้ไม่มีผลข้างเคียงและยังสามารถเพิ่มพลังของคนให้อยู่ถาวร ‘น้ำยาฮัลค์’ นั่นก็คงเทียบเท่ากับน้ำยาในตำนานได้แน่ๆ ล้ำค่าอย่างยิ่ง
บรู๊คลังเลไม่กี่วินาที
เขามองแช็คที่อยู่ข้างๆ แล้วผงกหัว “ให้ข้าลองก่อนเถอะ!”
การซ้อมรบของราชอาณาจักรเซนิทในอีกครึ่งปีหลังกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในการซ้อมรบครั้งนี้ อาณาจักรแซมบอร์ดไม่มีทางให้ถอยแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะมียอดฝีมือถึงสองคนอย่างแลมพาร์ดและองค์าาอเล็กซานเดอร์ แต่อย่างไรเสีย การซ้อมรบกลับมีการแข่งขันสิบรอบ นับและตัดสินตามจำนวนผลแพ้ชนะ พึ่งพายอดฝีมือแค่สองคนคงไม่ไหวหรอก หากอยากจะชนะ จำเป็ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของคนอื่นเพิ่มอีก เวลากระชั้นชิดแบบนี้ สำหรับเกอเทอ บรู๊คแล้ว ใจอยากจะช่วยปลดเปลื้องความทุกข์เื่การสู้รบให้แก่องค์าาบ้าง แม้ว่าน้ำยาตรงหน้าจะอันตรายมาก แต่บางทีมันก็เป็โอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว
บรู๊คตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ยื่นมือออกไปคว้าน้ำยาสีเขียวเรืองแสงนั่น
แต่...
หมับ!
แปเตอร์ แช็คที่ยืนอยู่ข้างบรู๊คอย่างเงียบๆ มาตลอด จู่ๆ ก็ยื่นมือไปแย่งขวด ‘น้ำยาฮัลค์’ ในมือก่อนจะเปิดฝากระดกน้ำยา ‘น้ำยาฮัลค์’ ลงไปจนเกลี้ยง
“ท่าน...”
บรู๊คพลันร้อนใจขึ้นมา
เมื่อสิบวันก่อน แช็คเพิ่งจะถูกองค์าาลบล้างมลทินและปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ ร่างกายของเขาถูกทรมานด้วยสภาพแวดล้อมอันมืดมิดและเปียกชื้นในนั้นจนทำให้ร่างกายอ่อนแอ อีกทั้งยังเคยถูกเลขานุการบาร์เซิลใช้วิธีการชั่วช้าทำให้คลื่นพลังในร่างของเขาต้องแตกซ่าน คลื่นพลังสองดาวแทบจะสลายจนเกลี้ยง พลังถดถอยลงไปมาก แม้จะบอกว่ายังสามารถฝึกฝนกลับไปเป็นักรบสองดาวได้ แต่มันก็ต้องใช้เวลา ตอนนี้ร่างกายของแช็คอ่อนแอจนถึงที่สุด ดื่ม ‘น้ำยาฮัลค์’ ที่มีผลข้างเคียงอันตรายแบบนั้นเข้าไปอย่างลวกๆ แล้วถ้าเกิดควบคุมไม่ได้ขึ้นมา เกรงว่าอาจจะมีอันตรายถึงชีวิต...
เขารู้ว่าแช็คไม่อยากให้ตัวเองเสี่ยง ถึงได้แย่งน้ำยาไปดื่ม
ในใจของบรู๊คตอนนี้เคร่งเครียดมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่จ้องเขม็งไปที่แช็คด้วยกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติขึ้น
แต่ซุนเฟยแอบแสยะยิ้มชั่วร้ายอย่างไร้ยางอาย
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที อาการ ‘ผลข้างเคียง’ ที่บรู๊คกังวลก็เกิดขึ้น
สิ่งแรกคือแสงสีเขียวเรืองรองแผ่ออกมาตรงหน้าผากของแช็ค พลังเวทมนตร์มหัศจรรย์ก็หมุนโคจรอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นท่ามกลางประกายแสงเ่าั้ มันค่อยๆ เริ่มกระจายตัว ประกายแสงสีเขียวสดใสเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ช้าก็แพร่กระจายไปทั่วหัวของแช็ค แม้กระทั่งผมของเขาก็กลายเป็สีเขียว ดูแปลกอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน บนหน้าผากของแช็คก็มีเหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ มันไหลท่วมใบหน้าของเขาจนเปียกชื้น กล้ามเนื้อบนใบหน้าเริ่มกระตุกอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขากำลังแบกรับความเ็ปที่ยากจะจินตนาการได้อยู่
บรู๊คใ
เขาหันไปมองซุนเฟยก็ไม่เห็นซุนเฟยแสดงอาการตื่นตระหนกใดๆ กลับกันยังเผยรอยยิ้มเล็กๆ ด้วยซ้ำ นี่ทำให้บรู๊ควางใจเล็กน้อย ควบคุมอาการใแล้วเฝ้าสังเกตอาการของแช็คต่อ
แสงสีเขียวนั่นยิ่งมากยิ่งเข้ม เริ่มแผ่กระจายไปทั่วร่างของแช็คจากศีรษะสู่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว ผ่านลำคอ หน้าอก เอว แขน มือ เท้า...หลังจากนั้น สิบวินาทีต่อมา ก็เห็นเพียงทั่วทั้งร่างของผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์แปเตอร์ แช็คกลายเป็สีเขียว แม้กระทั่งขนบนแขนของเขาก็กลายเป็สีเขียวไปด้วย สภาพแบบนี้ดูไม่ต่างอะไรกับกำลังโดนพิษแปลกๆ เล่นงานอยู่ แต่ที่ทำให้บรู๊คทึ่งคือ ภายใต้กล้ามเนื้อของแช็คราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังคลุ้มคลั่งอยู่ด้านในอย่างเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า และที่น่าใกว่านั้นคือเส้นโลหิตดำปูดขึ้นมาแล้วมีบางอย่างไหลเวียนอย่างต่อเนื่องเหมือนฝนกำลังตก...เห็นได้ชัดว่ากระบวนการนี้ต้องเ็ปมากแน่ๆ
บรู๊คเห็นร่างของแช็คเหมือนทาสีด้วยสีเขียวทั่งร่าง ในใจแอบคิดว่า “ไม่น่าล่ะ น้ำยานี้ถึงเรียกว่าฮัลค์ ดื่มแล้วก็จะตัวเขียวไปทั่วร่างนี่เอง”
และซุนเฟยเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาว
ก่อนหน้านี้ซุนเฟยทดลองดื่ม ‘น้ำยาฮัลค์’ หลังจากที่ดื่มลงไปแล้ว ในระหว่างกระบวนการเปลี่ยนแปลงร่างกาย เขาต้องทนต่อความเ็ปที่เหมือนมีมดนับหมื่นกำลังคืบคลานไปทุกๆ ที่บนร่างแล้วคอยกัดร่างเขาอย่างคลุ้มคลั่ง เหมือนมีคนนำมีดเล็กๆ ที่แหลมคมมาหั่นเนื้อของเขาทีละชิ้นๆ...รสชาติของความเ็ปนั่น ซุนเฟยไม่ยอมทดลองดื่มมันเป็รอบที่สองแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ‘น้ำยาฮัลค์’ ดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรกับซุนเฟย
ครึ่งนาทีต่อมา ท่าทางเ็ปของแช็คค่อยๆ ลดลง
สีเขียวเข้มบนร่างเขาค่อยๆ เริ่มจางหาย จากนั้น พลังที่แข็งแกร่งก็ค่อยๆ แผ่ออกมาจากร่างของแช็ค กลิ่นอายพลังนี้ช่างคุ้นเคยเป็อย่างมากสำหรับบรู๊ค เพราะเขามักจะรู้สึกถึงกลิ่นอายนี้จากร่างขององค์าาอเล็กซานเดอร์อยู่บ่อยๆ มันเป็กลิ่นอายพลังบริสุทธิ์ที่ทำให้คนรู้สึกกดดันเหมือนัั์กำลังจำศีลอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้บรู๊คยิ่งใคือ กลิ่นอายของพลังนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปอีกครึ่งนาที แสงสีเขียวบนร่างของแช็คก็หายไป
พลังนั้นก็หยุดเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ฟู่ว!
แช็คถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ในที่สุดก็ลืมตาขึ้น
เขายังคงสำรวจร่างตัวเอง รู้สึกว่าพลังในตอนนี้ล้ำหน้ากว่าพลังสมัยก่อนของตัวเองเสียอีก ในใจก็อดไม่ได้ที่จะยินดี น้ำตาคลอเบ้า ก่อนหน้านั้นที่ถูกบาร์เซิลใช้อำนาจทำลายคลื่นพลังในร่างเขา ทำให้แช็ครู้สึกสิ้นหวัง ตัวเองกลายเป็คนไร้ค่า แต่ตอนนี้ความหวังได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เขารีบคุกเข่าลงตรงหน้าซุนเฟย ใบหน้าบ่งบอกได้ถึงความตื่นเต้นที่ยากจะควบคุมได้ พลางพูดเสียงดังว่า “ฝ่าา ขอบพระทัยขอรับ! ข้าฟื้นตัวแล้ว...ข้ารู้สึกถึงพลังที่น่าเกรงขาม คลื่นพลังในร่างก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่า ไม่ถึงครึ่งปี ข้าสามารถฟื้นฟูคลื่นพลังกลับมาเหมือนเดิมได้อย่างแน่นอน...”
แช็คตื่นเต้นมากจนไม่อาจพูดประติดประต่อกันได้
เมื่อครู่จากการสำรวจร่างของตัวเอง แช็คจึงเข้าใจถึงประโยชน์ของ ‘น้ำยาฮัลค์’ แม้ว่าคลื่นพลังที่ถูกทำลายก่อนหน้านี้จะยังไม่ฟื้นตัว แต่เขาก็พบว่าความแข็งแกร่งของทางกายภาพของตัวเองกลับอยู่ในระดับที่คาดไม่ถึง อาศัยแค่พละกำลังก็สามารถต่อสู้กับนักรบสองดาวได้อย่างสูสี และผลกระทบของน้ำยาก็ไม่ได้มีแค่นี้ ที่ทำให้แช็คแทบคลั่งคือเส้นทางคลื่นพลังในร่างของเขาขยายกว้างขึ้น ซึ่งหมายความว่าในอนาคตที่เขาฝึกฝนคลื่นพลัง เขาสามารถฝึกได้เร็วกว่าคนทั่วไปหลายเท่า... ‘น้ำยาฮัลค์’ ขวดเล็กๆ ขวดนี้ เห็นผลได้จริง เกรงว่าอาจจะล้ำหน้ากว่าน้ำยาในตำนานด้วยซ้ำ
ซุนเฟยเริ่มจริงจังก่อนจะพูดอย่างสงบนิ่งว่า “แปเตอร์ อย่ามีความสุขมากนัก ผลกระทบที่น่ากลัวของ ‘น้ำยาฮัลค์’ ยังไม่จบนะ”
“ฮะ” แช็คและบรู๊คที่เริ่มโล่งใจเมื่อได้ยินประโยคนี้ก็อึ้งไป “ยังมีผลข้างเคียงอะไรอีกขอรับ?”
“ก็แสงสีเขียวๆ ไง เ้าก็เห็น แสงสีเขียวบนร่างเขายังไม่สลายไปนะ ตามการคำนวนของข้า ใช้เวลาอย่างต่ำก็ราวๆ สามถึงห้าวันถึงจะสลายไปหมด”
แช็คถามด้วยสีหน้าแปลกประหลาดว่า “ฝ่าา...อ่า ผลข้างเคียงน่ากลัวที่ท่ากล่าวถึงก็คือ ร่างจะเปลี่ยนเป็สีเขียวแปลกๆ หลังจากดื่ม ‘น้ำยาฮัลค์’ สินะขอรับ?”
“ใช่แล้ว” ซุนเฟยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะก่อนจะพยักหน้า “ไอ้แสงสีเขียวนั่นมันใช้เวลานานกว่าจะหายไป หรือว่าเ้าไม่กลัว?” พูดไม่ทันจบประโยคซุนเฟยก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง เหมือนเด็กที่เพิ่งทำเื่ชั่วร้ายบางอย่างสำเร็จ องค์าาหัวเราะเสียงดัง
ตูม
แช็คและบรู๊คพลันหน้าม้านไป แทบจะสำลักน้ำลายตาย
นี่เป็ผลข้างเคียงที่น่ากลัวอะไรกัน?
“บรู๊ค...ข้า...” ตอนนี้แช็ครู้สึกตื่นตระหนก ทีแรกเขากังวลว่าผลข้างเคียงของ ‘น้ำยาฮัลค์’ จะน่ากลัวจึงรีบแย่งมาดื่ม เพราะไม่อยากให้บรู๊คต้องมาเสี่ยง แต่ใครจะรู้ว่าองค์าาจะล้อเล่น ตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวเองได้แย่งชิงโอกาสที่จะทำให้บรู๊คแข็งแกร่งมา ไม่ว่าจะเป็ตำแหน่งหรือคุณงามความดี แช็คก็มีไม่เท่าบรู๊ค ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเสียใจมาก
“ท่านแช็ค...” บรู๊คยังคงคุ้นเคยกับการเรียกคำว่าท่านกับหัวหน้าเก่าของเขา เขายิ้มออกมาอย่างไม่ลังเลแล้วพูดว่า “ท่านไม่ต้องเกรงใจ แค่เมืองแซมบอร์ดของพวกเรามียอดฝีมือเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน นั่นก็เท่ากับว่าโอกาสที่จะได้รับชัยชนะจากการซ้อมรบที่ราชอาณาจักรเซนิทมีเพิ่มขึ้น ใครจะดื่มน้ำยานั่นมันก็ไม่ต่างกัน”
บรู๊คกล่าวอย่างจริงใจไม่มีอะไรแอบแฝง แช็คไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ซุนเฟยแอบพยักหน้า เขามองบรู๊คไม่ผิด นักรบหนึ่งดาวคนนี้เป็คนซื่อสัตย์และเชื่อถือได้ ทั้งยังอุทิศตนให้แก่ประชาชน แล้วยังจงรักภักดีต่อตัวเองมาก
“ความจริงแล้วพวกเ้าไม่น่าร้อนใจกันเลย ฮิๆ” ซุนเฟยพูด ก่อนที่ในมือจะปรากฏแสงสว่างขึ้น แล้ว ‘น้ำยาฮัลค์’ อีกขวดก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ “เพราะข้ามีน้ำยาแบบนี้อีกหนึ่งขวดไงล่ะ!”
---------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้