นะ... นายน้อยสุดยอดมาก!
ย้อนกลับไปเล็กน้อย ในขณะที่หลี่เฉวียนกำลังคิดที่จะนำฝูงม้าถอยออกมาให้ไกลกว่านี้ ยังไม่ทันจะได้ผูกม้าเลย การต่อสู้ก็จบลงเสียแล้ว!
หลี่เฉวียนได้แต่อ้าปากค้าง จนชั่วขณะหนึ่งผ่านไปก็ยังไม่หายใ!
จนกระทั่งเซียวหลิงอวิ๋นกับชิวเทียนฉี่หายขึ้นเขาไป หลี่เฉวียนจึงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “ทะ... ท่านผู้าุโจ้าว นั่นคือนายน้อยของข้าจริงหรือ มะ...ไม่ใช่คนอื่นใช่หรือไม่ขอรับ?”
“ถึงกับอึ้งเลยหรือ? ฮ่าๆๆ คำว่าอัจฉริยะในรอบหมื่นปีจะถูกเรียกกันง่ายๆ ได้อย่างไร? ตอนนี้เ้าคงรู้แล้ว ว่าอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสำนักิญญาเมฆาของเราเป็อย่างไร! นักยุทธ์ระดับสูงจากจวนอ๋องและจวนโหวเหล่านี้ ในสายตาของหลิงอวิ๋นเป็เพียงไก่บ้านตัวหนึ่งเท่านั้น ไม่คู่ควรที่จะเป็คู่ต่อสู้ด้วยเลย!” ท่านผู้าุโจ้าวเงยหน้าอ้วนท้วนขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ สีหน้าเยาะเย้ย!
อะ... อัจฉริยะ... อัจฉริยะในรอบหมื่นปี ์ นายน้อย... นายน้อยที่เพิ่งจะขึ้นเป็นักยุทธ์ระดับหก เมื่อเช้าที่ผ่านมานี้ ภายในเวลาไม่ถึงสิบชั่วอึดใจ นักยุทธ์ระดับสูงหกคนก็ถูกนายน้อยสังหารเรียบ! สุดยอดอัจฉริยะของสำนักระดับต้นๆ นั้นแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
หลี่เฉวียนตื่นเต้นจนมือที่ถือเชือกม้าสั่นไปหมด แล้วก็นึกได้เื่หนึ่งขึ้นมา จึงรีบกล่าวเตือนออกไป “ผะ... ผู้าุโจ้าวขอรับ ตอนนี้ได้เวลาตั้งค่ายกลปิดเขาแล้วหรือยังขอรับ?”
“อื้ม! ใกล้ได้เวลาแล้วล่ะ ข้าคิดว่าที่ศาลานั่นก็ดี ข้าจะไปจัดการวางอาคมตรงนั้น! ส่วนเ้าก็จูงฝูงม้าออกไปให้ไกลๆ หน่อยล่ะ!” จ้าวเหวินจัวมองไปยังศาลาที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าขึ้นเขา!
ธงเก้าผืนที่มีขนาดเท่ากัน แต่สีสันกับน้ำหนักต่างกัน! ธงทั้งเก้าผืนนี้เป็สิ่งที่จ้าวเหวินจัวสร้างขึ้นมา โดยใช้พลังิญญาในกายหลอมรวมเข้ากับผืนธงตามวิธีการที่เซียวหลิงอวิ๋นถ่ายทอดให้!
นอกจากธงทั้งเก้าผืนนี้แล้ว เซียวหลิงอวิ๋นยังได้ถ่ายทอดกระบวนการให้เขาอีกหนึ่งอย่างด้วย นั่นคือการใช้ธงทั้งเก้าผืนนี้จัดวางเป็อาคม ซึ่งพิจารณาจากความรู้ที่จ้าวเหวินจัวมี ตัวเขาก็ไม่แน่ใจว่าธงและอาคมนี้จะใช้การได้จริงหรือไม่? และจะสามารถปิดผนึกูเาลูกนี้ได้สำเร็จตามที่เซียวหลิงอวิ๋นพูดไว้หรือไม่!
กล่าวตามตรงคือจ้าวเหวินจัวไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย!
แต่ตัวเขาก็ไม่ลังเลที่จะหลอมธงนี้ขึ้นมา จดจำอาคมเอาไว้ แม้แต่ตลอดการเดินทางก็ยังทบทวนการจัดวางอาคมนี้ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้ง เพราะเขาอยากจะเห็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้น และอยากเห็นเด็กหนุ่มคนนี้สร้างความประหลาดใจให้เขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวเขาเชื่อมั่นในตัวเซียวหลิงอวิ๋นอย่างสุดหัวใจ!
ธงผืนแรกนั้นมีความสำคัญเป็อย่างยิ่ง!
หลังจากตรวจสอบโดยละเอียด ในที่สุดจ้าวเหวินจัวก็หาตำแหน่ง ทิศ ทิศทางลม หยิน และหยางที่เหมาะสมได้ จากนั้นก็หลับตาลง ทบทวนอาคมที่จำขึ้นใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เมื่อลืมตาขึ้นมา จ้าวเหวินจัวก็โบกมือทั้งสองข้าง!
ฟิ่วๆๆ ราวกับธงเล็กทั้งเก้าผืนมีชีวิต เคลื่อนที่ออกไปตามตำแหน่งที่เลือกเอาไว้ทีละผืน!
“ฉึก ฉึก ฉึก...” ด้ามธงทั้งเก้าปักตรงลงไปในพื้นดินทีละธง ก่อตัวเป็ข่ายอาคมที่แปลกประหลาด!
ใบหน้าอ้วนท้วนของจ้าวเหวินจัวเคร่งเครียด นิ้วมือทั้งสิบนิ้วประสานกันเป็รูปร่างต่างๆ ริมฝีปากขยับเล็กน้อย บริกรรมคาถาตามกระบวนการ!
ลำแสงพุ่งออกมาจากธงเล็กทั้งเก้าผืน ลำแสงเหล่านี้พุ่งไปรวมตัวกันบนท้องฟ้าเหนืออาคมทั้งเก้าสาย กลายเป็หมอกสีเทาเข้มในทันที หมอกสีเทาเข้มนี้เป็เหมือนดั่งหมึกที่ถูกพ่นออกมาจากปลาหมึกั์ที่ซ่อนเร้นกายา ย้อมก้อนเมฆบนท้องฟ้าโดยรอบให้กลายเป็สีเทาเข้ม และสีเทาเข้มนี้ก็แผ่ขยายออกไปด้วยความเร็วที่น่าใ
เมื่อเห็นว่ามันได้ผลจริงๆ จ้าวเหวินจัวก็มีความตื่นเต้นปรากฏขึ้นในดวงตา พลังิญญาในกายไหลเวียนอย่างรุนแรง แล้วมือทั้งสองก็ขยับเร็วขึ้น บริกรรมคาถาเร็วขึ้นตามไปด้วย!
อีกทางหนึ่ง หลี่เฉวียนที่กำลังจะผูกม้าเกล็ดดำทั้งสี่ตัวเอาไว้กับก้อนหินขนาดใหญ่ ม้าเกล็ดดำตัวหนึ่งก็เงยหน้าขึ้นแล้วส่งเสียงร้องยาวๆ ในวินาทีต่อมา ม้าอีกสามตัวก็ส่งเสียงร้องยาวๆ เช่นกัน ม้าทั้งสี่พากันกระทืบพื้นด้วยกีบเท้า แสดงอาการกระวนกระวาย เกิดอะไรขึ้นกันนะ? หลี่เฉวียนต้องหันกลับมามอง!
ทันใดนั้นก็ต้องอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อสายตา ศาลาที่อยู่ไกลออกไปและถนนขึ้นเขาที่กว้างขวาง กลับถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำเข้มั้แ่เมื่อใดไม่ทราบได้ หมอกสีดำเข้มนี้ก็กำลังแผ่ขยายออกไปโดยรอบด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง!
ปะ... ปิดูเา! นี่คือ... นี่คือข่ายอาคมปิดเขาระดับปรมาจารย์ิญญาของผู้าุโจ้าวแห่งสำนักิญญาเมฆาหรือนี่
ไม่แปลกใจเลยที่ผู้าุโจ้าวบอกให้ข้าถอยไปไกลๆ!
เมื่อเห็นหมอกสีดำเข้มราวกับสัตว์ประหลาดขนาดั์กลืนกินทุกสิ่งอย่างเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ หลี่เฉวียนก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง เขารีบคว้าเชือกม้าที่เพิ่งจะผูกไปได้ครึ่งทางออกอย่างรวดเร็ว แล้วรีบขึ้นม้า ควบนำม้าทั้งสี่หนีออกไปจากบริเวณนี้!
ท้องฟ้ามืดลงได้อย่างไร ชิวเทียนฉี่ใเมื่อหันหลังกลับมามอง ดวงตาพยัคฆ์ของเขาก็เบิกกว้างขึ้น หมอกสีดำเข้มนี่มันอะไรกัน ไม่สิ นี่ไม่ใช่หมอก แต่เป็อาคมที่จ้าวเหวินจัววางเอาไว้ต่างหาก
ูเาที่ปกคลุมไปด้วยหมอก หากเป็นักยุทธ์ทั่วไปจะไม่สามารถแยกทิศทางได้ และจะติดอยู่ในป่าเขาแห่งนี้ ทว่าสำหรับนักยุทธ์ระดับสูงบางคนที่มีพลังจิตเข้มแข็งแล้วก็จะสามารถหาทางออกได้อย่างแม่นยำ ลำพังหมอกเพียงอย่างเดียวจะขังพวกเขาเอาไว้ได้อย่างไร?
ชิวเทียนฉี่ส่ายหัวในใจ!
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของหมอกนี้ไม่เลวเลย ตาเฒ่าจ้าวคงตั้งใจใช้อาคมอย่างเต็มที่เลยสินะ!
เซียวหลิงอวิ๋นพยักหน้าในใจ ราวกับล่วงรู้ถึงความคิดในใจของชิวเทียนฉี่ ก่อนจะยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก “ท่านลุงชิว ท่านคงสงสัยอยู่ใช่หรือไม่ว่าเ้าหมอกนี้จะปิดูเาได้จริงหรือ?”
หลังจากเรียกหลี่เฉวียนว่า ‘ลุงเฉวียน’ เซียวหลิงอวิ๋นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อยๆ ตัวเขาไม่ใช่ราชันเทพที่สูงส่งเมื่อครั้งอดีตอีกต่อไป มีเพียงแค่ความทรงจำในอดีตชาติเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็ร่างกายหรือพลังยุทธ์ ตอนนี้ตัวเขาก็เป็แค่เพียงเด็กหนุ่มธรรมดาๆ ในอาณาจักรเล็กๆ เท่านั้น เป็แค่นายน้อยของตระกูลเซียวโหว แม้แต่หลี่เฉวียนที่เป็แค่นักยุทธ์ระดับแปด ตัวเขาก็ยังสามารถเรียกเขาว่าลุงได้ แล้วจ้าวเหวินจัวและชิวเทียนฉี่ จะไม่สามารถเรียกว่าลุงได้อย่างไร!
ในโลกแห่งจิติญญา ผู้ที่แข็งแกร่งคือผู้ที่ยิ่งใหญ่!
ทั้งชิวเทียนฉี่และจ้าวเหวินจัวต่างก็รู้ดีว่า หากเซียวหลิงอวิ๋นซึ่งเป็ัซ่อนรอการเติบใหญ่ ในอนาคตเขาจะต้องเติบใหญ่จนสร้างความสำเร็จที่อันน่าทึ่ง แซงหน้าพวกเขาที่เป็ผู้าุโไปอย่างแน่นอน ดังนั้นหากสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ั้แ่เนิ่นๆ ได้ ในเวลานี้ขอแค่ได้รับการเรียกจากเซียวหลิงอวิ๋นแม้เพียงคำว่า ‘ผู้าุโ หรืออาจารย์’ ก็เพียงพอแล้ว ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการถูกเรียกด้วยคำว่า ‘ท่านลุง’ เลย!
แต่เซียวหลิงอวิ๋นยังคงยืนกราน อีกทั้งมีหลี่เฉวียนเป็ตัวอย่างด้วย ทั้งสองจึงยอมรับไว้ชั่วคราว ความรักที่มีต่อเซียวหลิงอวิ๋นพลันเพิ่มขึ้น ส่วนในอนาคต เมื่อพลังยุทธ์และฐานะเปลี่ยนไป การเรียกขานนี้ก็จะเปลี่ยนไปเอง!
“ข้าแค่รู้สึกกังวลหน่อยๆ น่ะ!” ชิวเทียนฉี่หัวเราะเบาๆ พูดตามตรงๆ!
“เมื่ออาคมถูกเปิดใช้งาน หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้าและท่านลุงจ้าว ก็จะไม่มีใครในนี้สามารถออกไปจากที่นี่ได้ ตอนนี้พวกเราสามารถวางใจได้ พวกเราพักผ่อนกันก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวท่านอาชิวก็จะได้ัักับพลังของหมอกนี้ด้วยตาตัวเอง!” เซียวหลิงอวิ๋นยิ้มจางๆ แล้วนั่งลงพักผ่อน
“ฮ่าๆ ดี ข้าก็อยากเห็นเช่นกัน!” ชิวเทียนฉี่หัวเราะอย่างร่าเริง!
หลังจากผ่านไปได้เพียงครึ่งถ้วยชา ชิวเทียนฉี่ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยหมอกก็หัวเราะไม่ออกอีกต่อไป ต่อให้ตัวเขาจะตั้งสมาธิไปที่พลังจิตอย่างเต็มที่ แต่ตัวเขาก็ยังไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรอยู่ห่างจากตัวเขาในระยะสองเมตรบ้าง สิ่งที่ทำให้เขาใมากที่สุด ก็คือการััทิศทางทั้งหมดของเขาเลือนหายไปด้วย แทบจะหลงทางโดยสิ้นเชิง! ตัวเขาเดินไปข้างหน้าตามความรู้สึก ชิวเทียนฉี่ที่คิดว่าตนเองเดินตรงเป็ระยะไกลมากนั้น กลับไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเดินเป็เส้นวงกลม และวนเวียนอยู่รอบๆ ตรงจุดที่เขายืนอยู่ในตอนแรกเป็ระยะห้าเมตรอยู่ตลอดเวลา!
ยิ่งเดิน ชิวเทียนฉี่ก็ยิ่งใมากกว่าเก่า ก่อนที่หมอกจะปกคลุม ตัวเขารู้ดีว่าตนเองอยู่ห่างจากกำแพงูเาถนนทั้งสองข้างอยู่ประมาณสิบเมตรเท่านั้น แต่หลังจากที่เขาเปลี่ยนเส้นทางไปแล้วสามครั้ง เดินไปในแต่ละทิศทางและนับในใจไปด้วย เมื่อนับได้ร้อยก้าว ตัวเขากลับไม่สามารถัักับวัตถุใดๆ ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการหาทางขึ้นูเา
ภายในหมอกที่การรับรู้ไม่สามารถใช้การได้เช่นนี้ อีกทั้งยังหลงทางโดยสิ้นเชิงอีก แม้แต่เวลาก็ยังไม่สามารถระบุได้ด้วย! ในเวลานี้ชิวเทียนฉี่รู้สึกราวกับว่าตนเองกลายเป็คนตาบอดไปเสียแล้ว ก้าวเดินอย่างสิ้นหวังภายในหมอกอันไร้ที่สิ้นสุดและไร้ขอบเขต ตัวเขาตระหนักดีว่าเซียวหลิงอวิ๋นจะต้องอยู่ไม่ไกล หากเขาส่งเสียงออกไป เซียวหลิงอวิ๋นก็จะมาพาเขาออกไปแน่ แม้ตัวเขาจะรู้เื่นี้ดีอยู่แก่ใจ แต่ตัวเขาก็ยังรู้สึกสับสน สิ้นหวัง และหวาดกลัวอยู่ดี
นึกภาพออกเลยว่าเมื่อคนของจวนเจิ้งอ๋อง ตระกูลหลิ่ว และตระกูลโหวอื่นๆ ทั้งหกตกอยู่ท่ามกลางหมอกนี้ จะรู้สึกสิ้นหวังและหวาดกลัวมากเพียงใดที่ไม่สามารถหาทางออกและหนีไปจากหมอกหนาอันไร้ที่สิ้นสุดนี้ได้
หมอกนี้วิเศษมาก เพราะเหตุใดเ้าเด็กหนุ่มคนนี้ถึงได้มีอาคมที่วิเศษขนาดนี้อยู่ในมมือกัน? หากมีการปะทะกันระหว่างสองกองทัพ หรือการต่อสู้กับผู้ใช้พลังิญญาคนอื่นๆ การใช้อาคมนี้... จะเป็อาวุธสังหารทรงพลังที่สามารถใช้กักขังศัตรูเอาไว้ได้อย่างแน่นอน! เมื่อนึกถึงเื่นี้ขึ้นมา หัวใจของชิวเทียนฉี่ก็ร้อนแรงเพราะความตื่นเต้นขึ้นมา!
“หลิงอวิ๋น หลิงอวิ๋น!” ชิวเทียนฉี่ะโเสียงดัง!
ชิวเทียนฉี่นั้นไม่รู้เลยว่า แม้แต่เสียงะโก็ยังถูกลดทอนลงไปอย่างมากภายใต้หมอกนี้ ต่อให้ตัวเขาะโดังขนาดไหน แต่เสียงก็จะหายไปภายในระยะไม่เกินยี่สิบเมตร!
ถัดออกไปแปดเมตร เซียวหลิงอวิ๋นได้ยินเสียงนี้ผ่านหมอก มุมปากของเขาเผยอขึ้นเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นยืนและเรียกใช้ ‘วิชาขจัดจิตใจ’!
จากนั้นก็เดินสองก้าวไปหาชิวเทียนฉี่
หลังจากครึ่งชั่วก้านธูปผ่านไป ชิวเทียนฉี่ก็ใช้ ‘วิชาขจัดจิตใจ’ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากเซียวหลิงอวิ๋นอย่างเงียบๆ ชั่วขณะต่อมา หมอกสีดำเข้มนี้ก็ดูเหมือนจะจางลงไป ััทั้งหมดที่หายไปกลับคืนมาดั่งน้ำไหล! ชิวเทียนฉี่ต้องรู้สึกใเมื่อพบว่าตรงจุดที่เขายืนอยู่ก็คือที่ที่เขายืนอยู่แต่เดิม เขารู้สึกว่าตัวเองเดินไปไกลมากแท้ๆ แต่สุดท้ายก็กลับมาที่เดิม!
ตัวเขาเดินเป็วงกลมในระยะห้าเมตรเท่านั้น! เซียวหลิงอวิ๋นตอบเพื่อไขข้อข้องใจ!
“ฮ่าๆๆ วิเศษมาก!” ชิวเทียนฉี่ที่เดินตามหลังเซียวหลิงอวิ๋นไปอย่างรวดเร็วแสดงท่าทีตื่นเต้นราวกับเด็ก!
“ฮ่าๆ ท่านอาชิว มันไม่ได้วิเศษอะไรอย่างที่ท่านคิดหรอก อาคมนี้อย่างมากก็สามารถใช้ขังผู้ใช้พลังิญญาได้เท่านั้น และต้องไม่ใช่ผู้ฝึกวิชาประเภทที่สามารถขจัดความขุ่นมัวในจิตใจ ทำให้ิญญามั่นคงด้วย เมื่อถึงระดับปรมาจารย์ิญญา ก็จะมีิญญาศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถถูกลวงการรับรู้ของอีกฝ่ายให้สับสนอีก! ถึงจะเป็อาวุธที่ใช้การได้ดีในทางโลก ก็ต้องเป็ผู้ที่มีพลังยุทธ์อยู่ในระดับปรมาจารย์ิญญาเป็ขั้นต่ำ จึงจะสามารถเป็ผู้กางอาคมนี้ได้!”
แต่ชิวเทียนฉี่ก็ไม่ได้รู้สึกหดหู่เพราะคำพูดของเซียวหลิงอวิ๋นแต่อย่างใด กล่าวว่า “แค่นี้ก็ถือว่าทรงพลังมากแล้ว หลิงอวิ๋นคือว่า อาคมและวิชาขจัดจิตใจนี้ ข้าขอ...”
“ท่านอาชิวอยากจะได้ทั้งสองวิชานี้ไปให้ตระกูลสินะ ได้สิ แต่ห้ามเผยแพร่ออกไป นอกจากท่านแล้ว คนในตระกูลเฉียวของท่านรู้ได้อย่างมากสุดแค่สามคนเท่านั้น!”
แค่สามคนก็เพียงพอแล้ว!
ชิวเทียนฉี่มีความสุขมาก จากนั้นก็ทำมือคารวะและโค้งคำนับให้ แล้วกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ “หลิงอวิ๋น ข้าขอขอบคุณเ้ามาก!”
...
“เอ๋ ทำไมจู่ๆ ก็มีหมอกเสียได้!” บริเวณเนินเขา บริเวณหินูเาไฟที่มีขนาดพอๆ กับกระท่อมหลังเล็กซึ่งมีไอร้อนแผ่ออกมา มีชายวัยกลางคนยืนเอามือไขว้หลังอยู่ มองไปยังกลุ่มคนโดยรอบที่กำลังทำงานยุ่งเหยิง เงยหน้าขึ้นด้วยความใ!
“เวลานี้ทำไมถึงมีหมอกหนาขนาดนี้กัน?” บนหินูเาไฟ มีชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ถือแส้ไว้ในมือเงยหน้าขึ้นมอง ขมวดคิ้วเมื่อได้เสียงพูดนี้!
หมอกนี้ราวกับลอยออกมาจากหินที่มีอยู่ทั่วูเา ความเร็วในการแผ่ขยายขึ้นสู่้านั้นรวดเร็วอย่างยิ่ง! ทำให้ผู้คนทั้งหลายค่อยๆ ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบทีละคน!
ทันใดนั้นเอง เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังออกมาจากหมอกทางด้านซ้ายมือ! ทั้งสองคนนั้นพลันเปลี่ยนสีหน้าในทันที!
