บทที่ 140 เดิมพัน
ในลานเรือน มีหินสีม่วงเข้มก้อนใหญ่วางอยู่บนพื้นถัดจากทะเลสาบ ดูไม่เข้ากับทิวทัศน์อันงดงามของที่นี่เลย
นี่คือหินเกล็ดม่วงที่มีพื้นผิวเรียบราวกระจก รัศมีสีม่วงจางๆ แต่มีความแข็งแกร่งมาก เป็วัสดุหลอมอาวุธ โดยทั่วไปจะใช้สร้างเกราะ มีประสิทธิภาพในการป้องกันชั้นเยี่ยม
และหินหยาบก้อนนี้ ก็คือเป้าหมายของทุกคน...
เพราะสำหรับคนที่นี่ เป้าธนูธรรมดานั้นง่ายเกินไป โดนธนูเพียงดอกเดียวก็พังแล้ว
ความจริงแล้ว หินเกล็ดม่วงนี้เสวี่ยหานเฟยเป็คนนำออกมา ว่ากันว่าเขาซื้อหินก้อนนี้จากตลาดในเมืองชุยเสวี่ยเพื่อนำมาทำหมวกรบ
แต่ตอนนี้ไม่มีเป้ายิงธนูสำเร็จรูปจึงต้องใช้อันนี้แทน
“เ้าอยากแข่งอย่างไร?” ตงฟางสยงพูดอย่างไม่ใส่ใจ ยืนอยู่ข้างทะเลสาบและมองไปที่หินเกล็ดม่วงจากไกลๆ
“ง่ายมาก ข้าเพิ่งสังเกตว่ามีหลุมเล็กๆ อยู่ตรงกลางของหินเกล็ดม่วง ใช้หลุมนั้นเป็เป้าหมาย ข้าทำเครื่องหมายไว้อีกหลายวง ใครที่ยิงได้แม่นยำที่สุดจะเป็ผู้ชนะ”
เสวี่ยหานเฟยยกมือขึ้นกอดอกด้วยสีหน้าอ่อนโยน แต่ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจที่ไม่มีใครเทียบได้
ไม่ว่าเขาจะฟังดนตรี ให้ของขวัญ หรือแสดงท่าทีใดๆ ก็ยังคงไม่ได้รับความสนใจมากนัก ดังนั้นตอนนี้เขาจึงอยากอวดฝีมือต่อหน้าฉู่ซินเหยา
เขามั่นใจว่าจะชนะการแข่งขันครั้งนี้
“เฮ้อ ยิงธนูจะไปสนุกอะไรนัก? มันน่าจะตื่นเต้นกว่านี้อีกหน่อยสิ” ฉู่อวิ๋นเอ่ยด้วยรอยยิ้มและยกมือขึ้นกอดอก อยากจะฉีกทึ้งอัจฉริยะหนุ่มพวกนี้ออกไปให้พ้นทาง
เขามั่นใจว่ามากว่าตนเองจะชนะ เพราะเขามีอาวุธลับอยู่
“เหอะๆ? น่าสนใจดีนี่!”
ตงฟางสยงยิ้มและมองไปที่ศาลา จากนั้น เมื่อมองทุกคนอีกครั้ง เขาก็หยิบแร่ขนาดใหญ่ออกมาแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “พวกเ้าคงรู้ว่านี่คืออะไรกระมัง?”
เมื่อได้ยิน พวกเขาก็มองไปที่มือของตงฟางสยง แต่เมื่อได้เห็นต่างก็สูดลมหายใจด้วยความประหลาดใจทันที
“มิติ...แร่มิติ?!”
“แถมยังใหญ่มากด้วย! ์! มูลค่าเท่าไหร่กัน?!”
ทุกคนปิดปากด้วยความอัศจรรย์ใจอีกครั้ง ทุกคนรู้ดีว่าแร่มิตินั้นมีค่าเพียงใด นอกจากนี้ สีและความโปร่งใสของแร่ิญญาชิ้นนี้ยังมีคุณภาพสูงมาก ล้ำค่าอย่างยิ่ง
“เป็อย่างไร?” ตงฟางสยงพูดอย่างยโส “ข้าน่าสนใจพอ ใจกว้างพอแล้วใช่หรือไม่?”
หลายคนพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว แล้วคิดทบทวนอีกครั้ง ในเมื่อตงฟางสยงกล้าพึ่งโชคเช่นนี้ เขาต้องมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะชนะการแข่งขันนี้
มิฉะนั้น หากต้องหักใจมอบแร่ิญญานี้ไป ต่อให้เป็ตระกูลร่ำรวยก็คงมีกระอักเืกันบ้าง
“ฮ่าๆ ในเมื่อนายน้อยตงฟางทุ่มสุดตัวแล้ว ข้าในฐานะคุณชายเมืองชุยเสวี่ยก็ไม่อาจเสียหน้าได้”
ขณะที่พูด เสวี่ยหานเฟยก็หยิบขวดหยกออกมาด้วย ปากขวดมีแสงเรืองรอง รัศมีจางๆ ของความมงคลล้นออกมา หมอกควันปกคลุม เมื่อมองดูดีๆ จะเห็นว่ามีโอสถล้ำค่าหายากอยู่ข้างใน
“นี่คือยาฟื้นชีพจรสามเม็ด ขอเพียงกลืนลงไป พลังปราณทั้งหมดในขั้นมหาสมุทรก็จะเพิ่มขึ้นในทันที
“อะไรนะ?! ที่แท้เป็ยาล้ำค่าเช่นนี้เชียวหรือ?!”
ทุกคนประหลาดใจ มูลค่าของยาฟื้นชีพจรนี้ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ ทั้งยังมีค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ฝึกฝนยุทธ์ในขั้นมหาสมุทร
ในยามที่นักรบต่อสู้กัน สิ่งที่ต้องห้ามที่สุดคือการสูญเสียพลังปราณ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมียาที่สามารถฟื้นฟูพลังปราณได้ในทันที ย่อมส่งผลต่อสถานการณ์การศึก
ในเวลานี้ หลายคนไม่กล้าเข้าร่วมการเดิมพันนี้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่โลภ แต่เพราะมีอัจฉริยะตัวจริงอยู่ที่นี่ถึงสองคน โอกาสในการชนะมีน้อยมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายเสนอรางวัลอันมีค่าเช่นนี้ เขาคนนั้นย่อมมีความมั่นใจไม่น้อย
เสวี่ยหานเฟยและตงฟางสยงต่างก็ไม่คิดว่าพวกตนจะแพ้เลย
“เ้าเล่า?” ตงฟางสยงเหยียดหัวเราะ พูดกับฉู่อวิ๋น “คนป่าอย่างเ้าจะเอาอะไรมาเดิมพันได้? อยากให้ข้าช่วยลงเดิมพันให้หรือไม่เล่า?”
ทุกคนอดหัวเราะไม่ได้ แม้ว่าความแข็งแกร่งของคนป่าคนนี้ไม่อาจคาดเดาได้ แม้แต่ของขวัญที่เขามอบให้ฉู่ซินเหยาก็เป็เพียงกู่ฉินเน่าๆ ที่มีค่าเพียงหินิญญาสามก้อน เขาจะเสนออะไรดีๆ ออกมาได้อย่างไร?
ตอนนี้ ฉู่อวิ๋นเองก็กำลังคิดว่า เขาควรใช้อะไรเป็ของเดิมพัน?
“คุณชายอวิ๋น ในวงแหวนมิติยังพอมีของมีค่าอยู่บ้าง หากท่านไม่ถือสา ข้าช่วยลงเดิมพันแทนท่านได้นะ” เมื่อเห็นฉู่อวิ๋นเงียบไป เสวี่ยหรูเยียนก็คิดว่าเขาเขินอาย นางจึงเดินเข้ามาเสนอ
“ไม่ลำบากคุณหนูเสวี่ยหรอก ข้าจัดการเองได้” ฉู่อวิ๋นปฏิเสธพลางครุ่นคิด ทำให้เสวี่ยหรูเยียนคิ้วขมวดเล็กน้อย
จากนั้น ภายใต้การจับจ้องของทุกคน ฉู่อวิ๋นก็ถามขึ้นอย่างจริงจัง “ที่จริงแล้วข้าอยากจะถามว่าดอกไม้ใบไม้บางชนิดนำมาใช้เดิมพันได้หรือไม่?”
“ฮ่าๆๆๆ!”
“ดอกไม้ใบไม้?”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็พากันหัวเราะร่าจนสูญเสียกิริยาท่าทางที่สง่างามไปหมด
คนเขานำแร่มิติและโอสถอันล้ำค่าออกมา แต่คนป่าคนนี้บอกว่าเขาจะใช้ดอกไม้ใบหญ้าเป็ของเดิมพัน นี่ไม่ใช่เื่ตลกหรอกหรือ?
“คนป่าก็ยังคงเป็คนป่า พวกเขารักการปลูกต้นไม้ใบหญ้า เป็คนสบายๆ รักการผ่อนคลายเสียจริง!” มีคนพูดติดตลกออกมา
“คุณชายอวิ๋น ท่านควรฟังคุณหนูเสวี่ยนะ ให้นางเดิมพันแทนท่านเถอะ เหอะๆ” ผู้หญิงบางคนปิดปากแล้วยิ้ม ความแข็งแกร่งของคนป่าคนนี้ลึกลับก็จริง แต่เขาไร้สมองเกินไป
ดอกไม้ใบไม้จะเทียบกับแร่มิติและยาฟื้นชีพจรได้อย่างไร?
“เ้าคนป่าตัวน้อย เ้าไม่ลงเดิมพันก็ไม่มีใครว่าเ้าหรอก แต่อย่ามาทำให้คนอื่นหัวเราะจนเสียท่าเช่นนี้ได้หรือไม่?” ตงฟางสยงเท้าเอวแล้วหัวเราะจนตัวโยน รู้สึกว่าในที่สุดคนป่านี่ก็ได้เสียหน้าอับอายต่อหน้าคนงามแล้ว
ทว่าฉู่ซินเหยาที่มองอยู่จากระยะไกลได้เห็นเช่นนั้น ใบหน้างดงามของนางก็ดูหงุดหงิดขึ้นมา นางกำหมัดสีชมพูแน่น แลดูเป็กังวลมาก
น่าชังนัก! คนพวกนี้กล้ามารังแกอวิ๋นเอ๋อร์ของนางได้อย่างไร นี่ทนไม่ได้!
ฉู่ซินเหยา้าทำหน้าที่ของพี่สาวให้สำเร็จ ปกป้อง “น้องชาย” อันเป็ที่รักของนาง แต่น่าเสียดายที่ของขวัญทั้งหมดของนางถูกฉู่เจิ้นหนานยึดไปแล้ว ไม่เช่นนั้นนางจะต้องออกหน้าให้ฉู่อวิ๋นแน่
“คุณชายอวิ๋น เช่นนั้นพวกเราจะไม่รับของเดิมพันของท่านดีกว่า อย่างไรเสียท่านก็เป็คนป่า พวกเราควรดูแลท่านให้ดีที่สุด” เสวี่ยหานเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ทำให้ทุกคนแอบชื่นชม คุณชายชุยเสวี่ยผู้นี้ใจกว้างจริงๆ
แต่คำพูดเหล่านี้กลับฟังดูรุนแรงสำหรับฉู่อวิ๋น
แม้ว่าคำพูดของเสวี่ยหานเฟยจะฟังดูใจกว้าง แต่ฉู่อวิ๋นก็รู้ว่าอีกฝ่าย้าจะสื่อว่า “พวกข้าเป็คนชั้นสูง เ้าเป็คนชั้นต่ำ เช่นนั้นพวกข้าก็จะบริจาคให้เ้าสักหน่อย”
ฉู่อวิ๋นหงุดหงิด สูดจมูกอย่างเ็า หยิบถุงใหญ่ออกมาจากวงแหวนอวกาศแล้วโยนมันลงบนพื้น ทุกคนหวั่นวิตก คิดว่าเขาจะร้องทุกข์
“เดิมพันของข้าคือดอกไม้ใบไม้พวกนี้ ลองดูสิ” ฉู่อวิ๋นยกมือขึ้นกอดอกแล้วหันหลังกลับ เขาไม่สนใจสายตาเหยียดหยามของผู้อื่น และเดินตรงไปที่ริมทะเลสาบ
“นี่คืออะไร?” นักพรตหญิงคนหนึ่งใช้ความกล้าเปิดถุงออก
ทันทีที่นางแก้ปมเชือก กลิ่นสมุนไพรฉุนกึกก็โชยฟุ้ง แม้กระทั่งหมอกควันสีเขียวก็ควบแน่นอยู่ในอากาศ ทำให้ทุกคนตกตะลึงในทันที
นี่แค่คิดก็รู้แล้วว่าปริมาณยาในถุงใบนี้มีมากมายเพียงใด!
“ฤทัยตาไฟ?! แถมยังมีเป็กอง?! ข้าอายุป่านนี้ยังไม่เคยเห็นมากขนาดนี้มาก่อนเลย!”
“์! เ้าเด็กนี่ใจป้ำเกินไปแล้ว! เขาผูกช่อดอกผีและกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายดอกเข้าด้วยกัน ไม่รู้หรือว่าคุณสมบัติทางยาของพวกมันจะกัดกร่อนซึ่งกันและกัน!”
“ดอกโบตั๋นล่องหงส์ หญ้าแร่ัน้ำแข็ง… ข้าจะเป็ลม…”
ในยามนี้ ทุกคนต่างรู้สึกปวดหัวตุบๆ เด็กคนนี้ตั้งใจปั่นหัวพวกเขาหรือ? ไม่คิดเลยว่าดอกไม้ใบไม้ที่เขาพูดถึงจะเป็สมุนไพรหายากพวกนี้
แม้ว่าคุณค่าของสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดจะเทียบไม่ได้กับแร่มิติและยาฟื้นชีพจรสามเม็ด
แต่ใช้ทั้งถุงใหญ่นี้ลงเดิมพัน ย่อมเพียงพอ
ยามนี้ สายตาของหลายคนที่มองฉู่อวิ๋นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เ้าคนป่านี่มีที่มาอย่างไรกันแน่?
จากนั้น เมื่อนึกขึ้นได้ว่าฉู่อวิ๋นเป็แขกของเสวี่ยหรูเยียน ก็ค่อนข้างน่าสนใจขึ้นมา
“คุณชายอวิ๋น ข้าเองก็ชอบปลูกดอกไม้ต้นไม้ ไม่สู้ท่านมอบให้ดอกไม้พวกนี้ให้ข้า?” นักพรตหญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปหาพลางส่งสายตายั่วยวน พูดด้วยรอยยิ้มและเสียงหวานหู
“จอมยุทธ์อวิ๋น ข้ามีดอกไม้พวกนี้ติดตัวอยู่บ้าง ไม่สู้พวกเรามาแลกกัน?” นักพรตหญิงอีกหลายคนก็เข้ามาล้อมรอบฉู่อวิ๋น รอยยิ้มของพวกนางเรียกได้ว่าเสแสร้งยิ่งนัก
แต่ฉู่อวิ๋นทำเพียงแค่สูดจมูกแค่นเสียงเ็าและไม่สนใจอะไรอีก ทิ้งทุกคนไว้ข้างหลัง ปล่อยให้ผู้หญิงเ่าั้ผิดหวังต่อไป
“อยากจะเอาเปรียบข้าหรือ? อย่าแม้แต่จะคิด!” ฉู่อวิ๋นสบถด่า คนพวกนี้คิดว่าเขาเป็คนโง่หรือ?
เห็นอยู่ทนโท่ว่าเป็การหลอกให้เดิมพัน แล้วเขาจะเอาของดีๆ ไปเดิมพันทำไม? ประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว
เสวี่ยหานเฟยและตงฟางสยงมองหน้ากัน ยอมรับการเดิมพัน และเดินไปที่ข้างทะเลสาบ
ในบรรดาคนที่เหลือ มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่กลัวตาย อยากคว้าอาหารจากปากเสือ พวกเขาหยิบวัตถุิญญาอันล้ำค่า บ้างก็หินิญญาออกมาวางลงบนโต๊ะไม้
ยามนี้ จะเห็นได้ว่าสิ่งของบนโต๊ะไม้กองสูงเท่าูเา และสิ่งที่มากที่สุดคือหินิญญาที่มีมากกว่าหนึ่งแสนก้อน
แต่ทุกคนรู้ดีว่าในบรรดาของเดิมพันเหล่านี้ สิ่งที่มีค่าที่สุดคือแร่มิติ ยาฟื้นชีพจร และถุงยาใบนั้น
แต่เมื่อการเดิมพันยิงธนูกำลังจะเริ่มขึ้น ก็มีบุคคลที่ไม่คาดคิดเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดวงตาอ่อนหวานและน้ำเสียงนุ่มนวลของฉู่ซินเหยาแทรกขึ้นมา “ในเมื่อทุกท่านมีใจรักสนุก ข้าก็จะขอร่วมด้วย ทว่าข้าไม่มีความรู้เื่ธนูนัก เช่นนั้นก็ขอเดิมพันด้วย”
“ถ้าใครชนะการแข่งขัน ข้าจะไปสนทนาต่อหน้ากับเขาที่ศาลากลางทะเลสาบ พร้อมบรรเลงดนตรีหนึ่งบทเพลง”
เสียงของฉู่ซินเหยาเบามาก นางพูดจบอย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน!
สนทนาต่อหน้า?! เจอหน้ากันสองต่อสอง?!
หากได้รับโอกาสนั้นมาครอง ไม่ใช่ว่าจะเป็เก๋ง[1]ที่ใกล้น้ำมักได้จันทร์ก่อน[2]หรือ?! นี่คือโอกาสที่์ประทานให้แล้ว!
นี่ทำให้นักพรตที่ลังเลอยู่ต่างก็หน้าแดง รวมตัวกันขว้างหินิญญานับแสนก้อนลงบนโต๊ะอีกครั้ง
ผู้ที่เข้าร่วมลงเดิมพันเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย
แต่สิ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็นคือ เมื่อสักครู่นี้ฉู่ซินเหยาแลกเปลี่ยนสายตากับฉู่อวิ๋นหลังม่านอย่างเงียบๆ
“อวิ๋นเอ๋อร์ เ้าต้องชนะ…”
“เชื่อใจข้า ข้าจะต้องชนะแน่!”
ฉู่อวิ๋นพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็จ้องมองไปที่หินเกล็ดม่วง ดวงตากะพริบถี่
ในที่สุด การลงเดิมพันแข่งขันยิงธนูก็เริ่มต้นขึ้น!
----------
[1] เรือนตึกชั้นเดียวมีโครงรูปหลังคาแบบศาลเ้าจีนประดับปูนปั้นตรงมุม และสันหลังคา
[2] ผู้ที่ได้เปรียบหรือได้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย