แคว้นต้าฮั่น ณ ห้องโถงภายในพระราชวัง
ตอนนี้ กู่ไห่มิได้สวมเสื้อคลุมัเช่นทุกครั้ง เพียงแต่งกายตามสบายด้วยเสื้อสีดำธรรมดา ที่มีเครื่องหมายทางการ ข้างกายมีซ่างกวนเหินและกู่ฉิน ซึ่งมาร่วมต้อนรับหลี่เฉินจีและผู้ติดตามอย่างเป็มิตร
“ท่านหลี่เดินทางมาไกลเช่นนี้ สมควรที่จะได้รับการต้อนรับที่ดีกว่านี้... ต้องขออภัยยิ่ง! ไม่ทราบว่าท่านมาที่นี่ เพื่อชี้แนะอันใดหรือ?” กู่ไห่กล่าว พลางยิ้มบางๆ ก่อนมองไปยังอีกฝ่าย
กู่ไห่ทิ้งกายลงบนเบาะในที่นั่งหลัก โดยมีกู่ฉินและซ่างกวนเหินนั่งอยู่ทางด้านซ้ายของตน ส่วนหลี่เฉินจีนั่งอยู่ทางด้านขวา โดยมีกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชายืนอยู่ข้างหลัง
หลี่เฉินจีจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ขณะที่กู่ไห่ก็ระแวดระวังเขาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะไม่ได้เป็คนสังหารหลี่ฮ่าวหราน แต่หากหลี่เฉินจีผู้นี้เกิดเสียสติคิดจะแก้แค้น เพราะเข้าใจว่าเขาเป็ผู้สังหารหลานรักละก็... เช่นนี้ จึงจำต้องระวังตัวเอาไว้
“ฮ่าๆๆ! ท่านหัวหน้าสังกัดวารีกู่ นี่ช่างเป็วิธีที่ดีจริงๆ ก่อตั้งบ่อนพนันชั้นสูง เช่นนี้แล้ว หินิญญาของทะเลพันเกาะก็จะหลั่งไหลมายังแคว้นต้าฮั่นอย่างต่อเนื่อง... เ้ากำลังสูบหินิญญาจากทะเลพันเกาะหรืออย่างไร?” ทันใดนั้น หลี่เฉินจีก็หัวเราะชอบใจ
ส่วนเื่การตายของหลี่ฮ่าวหราน เขากลับไม่เอ่ยถึงแต่อย่างใด
“โอ้? ท่านหลี่ชมเกินไปแล้ว! บ่อนพนันชั้นหนึ่งหาได้มีความพิเศษใดๆ ไม่ บางทีในอนาคตอาจจะมีบ่อนอีกหลายแห่งปรากฏขึ้น แบบบ่อนพนันของข้าก็เป็ได้!” กู่ไห่กล่าว พลางส่ายศีรษะ
“ตามกระแสอย่างนั้นหรือ? แต่ไม่ว่าอย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว บ่อนพนันชั้นหนึ่งของท่านก็ใหญ่โตอยู่ดี... ไม่สิ! ลูกน้องของข้าก็เพิ่งจะส่งหินิญญาระดับสูงสองพันก้อน ไปให้บ่อนของท่าน!” หลี่เฉินจีเอ่ย พร้อมยกยิ้ม
ได้ยินเช่นนั้น เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยืนอยู่ด้านหลัง ต่างก็มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก่อนจะก้มหน้าลงอย่างละอายใจ
“ท่านหลี่ก็พูดเกินไป บ่อนพนันชั้นหนึ่งของข้า เพียงแค่เปิดขึ้นเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพเท่านั้น ไม่อาจเทียบกับท่านหลี่ได้!” กู่ไห่ถ่อมตัว ด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าของหลี่เฉินจีเผยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน เ้ายังจะกล้าพูดเช่นนี้อีกหรือ? อสูรกลืนกินทองคำนี้ เป็เพียงสิ่งเล็กน้อยเช่นนั้นหรือ?
เพราะหลี่เฉินจีไม่เข้าเื่เสียที กู่ไห่จึงจำต้องอดทน และพูดคุยกับคนตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อน
หลังจากสนทนากันอยู่พักหนึ่ง หลี่เฉินจีก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย เขาสูดลมหายใจลึก ก่อนเริ่มเข้าสู่จุดประสงค์หลักของตน “ท่านหัวหน้าสังกัดวารีกู่ เมื่อหนึ่งเดือนก่อน มีพระราชโองการ์ ให้ข้าทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนกองกำลังเฉินจีหยิง!”
“โอ้? ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้บัญชาการหลี่!” กู่ไห่เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนแสดงความยินดีด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“การมาครั้งนี้ ก็ไม่ใช่เพราะเหตุอื่นใด แต่เป็เื่ตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิง ท่านเอามันไปอย่างนั้นหรือ?” หลี่เฉินจีขมวดคิ้วแน่น ก่อนถามเสียงต่ำ
“ตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิง? ข้าเคยพบมันในร่างของหลี่ฮ่าวหรานจริง” กู่ไห่พยักหน้า
“หากเป็เช่นนั้น...” หลี่เฉินจียกยิ้ม
“แต่ระหว่างเดินทางกลับ ข้าเผลอทำมันหล่นหาย หากท่านผู้บัญชาการหลี่้า ก็สามารถไปตามเส้นทางที่ไปยังสำนักหมู่ตาน บางทีอาจจะหามันพบก็ได้” กู่ไห่บอก พลางคลี่ยิ้ม
หลี่เฉินจีชะงัก... คนตรงหน้าพูดราวกับว่านี่เป็เพียงเื่เล็กๆ เท่านั้น?
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยืนฟังอยู่ด้านหลัง พลันโกรธเคืองทันที
แต่กู่ไห่กลับมีท่าทีไม่สะทกสะท้าน ต่อสายตาโกรธเคืองที่กำลังมองมายังตน เพียงแบมือออก พร้อมหัวเราะ “ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ที่ทำให้ท่านผู้บัญชาการหลี่ต้องเสียเวลาเปล่าเช่นนี้
ท่านเป็ถึงผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังเฉินจีหยิง ส่วนข้าก็คือหัวหน้าสังกัดวารีแห่งหออี้ผิน นับจากนี้ ท่านกับข้าก็คงจะเป็เพื่อนร่วมงาน เพียงแต่อยู่ต่างหน่วยงานกันเท่านั้น
ท่านผู้บัญชาการหลี่ก็คงมีเื่ที่ต้องทำ หออี้ผินและกองกำลังเฉินจีหยิง ควรจะร่วมมือเป็น้ำหนึ่งใจเดียวกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทว่าครั้งนี้ ข้าคงช่วยท่านไม่ได้”
“กู่ไห่ เ้าอย่าได้แสดงท่าที...” สมุนที่อยู่เื้ัหลี่เฉินจีถลึงตาใส่ทันที
“บังอาจ!” หลี่เฉินจีตวาดเสียงดังลั่น
สีหน้าของเหล่าสมุนเปลี่ยนไปทันควัน ต่างระงับอารมณ์ของตน แต่ยังคงจับจ้องกู่ไห่ด้วยใจอาฆาตแค้น
กู่ไห่มองหน้าของผู้ที่โกรธเกรี้ยวตน พลางยกยิ้มยียวน ก่อนหน้านี้แม้เขาจะคอยระแวดระวังหลี่เฉินจี แต่จากคำพูดของอีกฝ่าย ก็สามารถรับรู้ได้แล้ว ว่าคนผู้นี้จะไม่เปลี่ยนท่าทีเพื่อเปิดเผยตัวตน
“เผลอแสดงท่าทีไร้มารยาท ต่อหน้าท่านหัวหน้าสังกัดวารีกู่เสียแล้ว” หลี่เฉินจีกล่าว พร้อมยิ้มบางๆ
“ไม่เป็ไร! ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้... ข้าเข้าใจ!” กู่ไห่ตอบ ขณะยกยิ้ม
เมื่อมองดูท่าทีที่อ่อนน้อมของกู่ไห่ เหล่าลูกน้องของหลี่เฉินจีกลับยิ่งโกรธมากกว่าเดิม ไม่เพียงโดนบ่อนพนันของอีกฝ่ายหลอกเอาเงินไป กลับถูกทุบตีอีก และตอนนี้ ยังต้องถูกท่านผู้บัญชาการตำหนิ เพราะเขาด้วย... แสร้งทำตัวเป็คนดีหรือ? ช่างน่าโมโหนัก!
“ท่านหาตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิงไม่พบอย่างนั้นหรือ?” หลี่เฉินจีถาม พลางมองกู่ไห่เงียบๆ
“ข้าหามันไม่พบ ท่านผู้บัญชาการหลี่สามารถลองค้นหามันด้วยตัวเองได้ บางทีท่านอาจจะหามันเจอเร็วๆ นี้” กู่ไห่กล่าว พร้อมคลี่ยิ้ม
หลี่เฉินจีมองกู่ไห่เพียงชั่วครู่ แม้จะพูดคุยกันเพียงสั้นๆ แต่ก็พบว่าคนผู้นี้เข้าถึงยากกว่าที่คิดไว้เสียอีก
เหตุใดจึงไม่เอ่ยถึงหลี่ฮ่าวหราน? นั่นเป็เพราะการตายของเขานั้น เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของอดีตถังจู่แห่งหออี้ผิน แม้ว่าองค์หญิงเสี่ยวเยว่จะถูกฆ่าโดยมือมืด แต่ก็ยืมมือของหลี่ฮ่าวหรานมาทำการสังหาร ดังนั้นเื่นี้จึงจำต้องปล่อยผ่านไป มิเช่นนั้นการสืบเสาะเื่นี้ ย่อมยุ่งยากอย่างหาที่เปรียบมิได้
กู่ไห่ตรงหน้าเขานั้น เป็คนทะนงองอาจ ไม่มีการปล่อยข้อมูลใดๆ ให้รั่วไหล และการมาพบเขาในครั้งนี้ อีกฝ่ายก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อละทิ้งตัวตนในฐานะฮ่องเต้ของแคว้นต้าฮั่น แล้วใช้ฐานะของหัวหน้าสังกัดวารีแห่งหออี้ผินในการสนทนาแทน
เช่นนี้ เขาคงต้องระมัดระวังตัว เมื่อไปยังหออี้ผินเสียแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ! ท่านหัวหน้าสังกัดวารีกู่กล่าวได้ถูกต้อง ข้าเดินทางมาไกลนัก และที่นี่ก็เป็แผ่นดินของท่าน ภายใต้คำสั่งของท่าน ใต้หล้าต้องสั่นะเืเป็แน่
ดังนั้น ข้าคงต้องรบกวนแล้ว เมื่อครู่ท่านบอกว่าหออี้ผินและกองกำลังเฉินจีหยิง เป็น้ำหนึ่งใจเดียวกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ข้าเห็นด้วยกับคำพูดนี้เป็อย่างยิ่ง เช่นนั้น ท่านหัวหน้าสังกัดวารีกู่ โปรดช่วยเหลือข้าด้วยเถอะ” หลี่เฉินจีกล่าว พลางยกยิ้ม
“แน่นอน... ข้าจะส่งคนออกไปค้นหาเดี๋ยวนี้!” กู่ไห่พยักหน้า ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
ผู้ใต้บังคับบัญชาของหลี่เฉินจีมีสีหน้าพึงพอใจ แต่หลี่เฉินจีกลับหน้าตึง... เ้ายังเสแสร้งอยู่อีกหรือ? ทั้งๆ ที่มันก็อยู่ในมือของเ้า แล้วยังจะมาพูดจาเช่นนี้!
“ท่านผู้บัญชาการหลี่ ไม่ทราบว่ามีเื่อื่นอีกหรือไม่ หากมีอะไรที่พอช่วยได้ ข้าจะพยายามอย่างดีที่สุด” กู่ไห่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้ว! เพื่อขอบคุณท่านหัวหน้าสังกัดวารีกู่ที่ช่วยหาตราคำสั่ง ข้ายินดีที่จะมอบสมบัติล้ำค่าให้เป็การตอบแทน” หลี่เฉินจีกัดฟันพูด
“โอ้? ท่านผู้บัญชาการหลี่ เกรงใจเกินไปแล้ว” กู่ไห่ตอบยิ้มๆ
หลี่เฉินจีพลิกมือหยิบวัตถุสีทองออกมา นั่นคือเกราะทองเสวียนอู่ที่พวกเขาขโมยมาจากทางเหนือ เมื่อไม่นานมานี้
น่าเสียดาย ที่กู่ไห่ัักับโลกแห่งการฝึกตนสั้นเกินไป จึงไม่อาจบอกได้ ว่ามันคือสิ่งใด อีกอย่าง เขาก็ไม่เชื่อว่าหลี่เฉินจีจะมอบสมบัติล้ำค่าให้ตนจริงอย่างที่พูด
“โอ้? นี่คืออะไรหรือ?” กู่ไห่ถามด้วยความสนใจใคร่รู้
“ท่านหัวหน้า เกราะทองเสวียนอู่นี่... ท่านจะยกมันให้เขาได้อย่างไร?” เหล่าลูกน้องร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ
กว่าจะได้มาก็ยากเย็นนัก แล้วจะมอบให้อีกฝ่ายง่ายๆ เช่นนั้นหรือ?
“หุบปาก!” หลี่เฉินจีตวาด เพื่อหยุดเสียงประท้วงของเหล่าสมุน
“เกราะทองเสวียนอู่?” แววตาของกู่ไห่ฉายความงุนงง
แต่ซ่างกวนเหินที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันนั้น กลับหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางจับจ้องสิ่งที่อยู่ในมือของผู้มาเยือน
“ฝ่าา!” จู่ๆ ซ่างกวนเหินก็ลุกขึ้นยืน พร้อมร้องเรียกเสียงดัง
“หืม?” ทุกคนมองขึ้นไปยังอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“ท่านผู้บัญชาการหลี่เป็แขกจากแดนไกล ่นี้ข้าน้อยมิได้มีภารกิจใดๆ ขอฝ่าาทรงโปรดมีพระบัญชา ให้ข้าน้อยและผู้ใต้บังคับบัญชา ออกไปค้นหาตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิงด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ซ่างกวนเหินกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“โอ้?” กู่ไห่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย มองดูเกราะทองเสวียนอู่ของหลี่เฉินจีนิ่ง พอจะรับรู้ได้แล้ว ว่าซ่างกวนเหิน้าของชิ้นนี้
“ได้! ท่านผู้บัญชาการหลี่ ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าจะช่วยท่านหามันให้พบ” กู่ไห่เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หลี่เฉินจีมองซ่างกวนเหินด้วยความกังขา แต่ในที่สุดก็พยักหน้ารับ
ตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิงคงอยู่กับกู่ไห่ ทว่าตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะยังไม่เอาออกมา
...
สองวันให้หลัง
เมื่อกู่ไห่พาซ่างกวนเหินและกู่ฉินไปพบหลี่เฉินจีอีกครั้ง เขาก็หยิบตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิงออกมา
“ท่านหัวหน้าสังกัดวารีกู่ ต้องรบกวนท่านจริงๆ!” หลี่เฉินจีรับตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิงมา พลางยกยิ้ม
“หออี้ผินและกองกำลังเฉินจีหยิงนั้นคือหนึ่งเดียวกัน ในอนาคตคงจะมีโอกาสอีกมากมายนัก ที่ต้องร่วมมือกัน” กู่ไห่พูด พร้อมคลี่ยิ้ม ขณะรับเกราะทองเสวียนอู่มาจากอีกฝ่าย
ก่อนหน้านี้ยังก็ไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้กู่ไห่เริ่มรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเ้าสิ่งนี้เสียแล้ว เพียงสะบัดมือไปมา ท้องฟ้าโดยรอบก็มีเมฆครึ้ม ราวกับฝนกำลังจะตก?
“เช่นนั้น ข้าขอตัวไปก่อน แล้วเจอกันที่แผ่นดินเสินโจว” หลี่เฉินจีคลี่ยิ้ม
“ได้!” กู่ไห่พยักหน้าตอบรับ
ฟู่!
ทันใดนั้น เรือเหาะก็ปรากฏขึ้น แล้วหลี่เฉินจีพาเหล่าสมุนพุ่งตัวจากไปพลัน
ฟึ่บ!
เพียงพริบตา เรือเหาะก็แล่นมาไกลสุดปลายฟ้า
“ท่านหัวหน้า เหตุใดถึงได้มอบเกราะทองเสวียนอู่ให้กู่ไห่? เห็นได้ชัดว่า ตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิงอยู่กับเขา คนผู้นี้หลอกลวงเรา!” ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวอย่างโกรธเคือง
หลี่เฉินจีมองไปทางพระราชวังต้าฮั่น แล้วเอ่ยเสียงเย็น “ข้ารู้ว่ามันอยู่ที่เขา แต่เขายืนยันหนักแน่นว่าไม่ใช่ เช่นนี้แล้ว จะทำอย่างไรได้?”
“หืม?”
“เกราะทองเสวียนอู่? หึๆ! มีเพียงเผ่าเสวียนอู่เท่านั้น ที่สามารถใช้ประโยชน์มันได้
ข้าศึกษามา่หนึ่ง พบว่าไม่เพียงเอาไปหลอมอาวุธไม่ได้ แต่กลับยังจะกลายเป็หายนะ!
คิดไม่ถึง ว่าแม้าาเสวียนอู่จะตายไปแปดร้อยปีแล้ว แต่ชาวเผ่าเสวียนอู่มากมายก็ยังไม่ลืมเลือน” หลี่เฉินจีบอกอย่างเฉยชา
“ท่านหัวหน้า ท่านใช้เล่ห์เหลี่ยมชักนำโหมวเฉินอย่างนั้นหรือ? ยืมมือเขาทำลายแคว้นต้าฮั่น?” ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ด้านข้าง พูดด้วยดวงตาเป็ประกาย
หลี่เฉินจีไม่ตอบ เอาแต่มองไปไกล ก่อนสั่ง “ดี! ไปราชสำนักทันที องค์จักรพรรดิ์ทรงรับสั่งว่าให้เวลาสามเดือน ข้ายังมีเื่ใหญ่ที่จะต้องไปทำ”
“ขอรับ!”
...
แคว้นต้าฮั่น ตำหนักทะยาน์
กู่ไห่มองเรือเหาะที่แล่นห่างออกไป ดวงตาพลันเปลี่ยนเป็เ็า
“เสด็จพ่อ หลี่เฉินจีผู้นั้นไม่น่าจะปรารถนาดี เกราะทองเสวียนอู่นี้ ต้องมีเื่เลวร้ายอะไรที่พวกเราไม่รู้แน่” กู่ฉินเอ่ยอย่างจริงจัง
“ข้ารู้!” กู่ไห่พยักหน้าตอบ
“หืม? เสด็จพ่อรู้! แล้วเหตุใดถึง...” กู่ฉินถามอย่างงุนงง
“ข้าศึกษาตราคำสั่งของกองกำลังเฉินจีหยิงแล้ว แต่ไม่อาจค้นหาอะไรได้ คงจะมีแต่หลี่เฉินจีเท่านั้น ที่รู้ว่าจะใช้งานมันอย่างไร
วันนี้แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับตราคำสั่งไป แต่ในวันหน้า เขาจะต้องทวงถามผ่านหลงหว่านชิงแน่ เพราะไม่ช้าก็เร็ว เขาต้องกลับมาอยู่ในมือของนาง
เช่นนั้น เราเก็บมันไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ซ่างกวนเหินดูเหมือนจะ้าเกราะทองเสวียนอู่ชิ้นนี้!” กู่ไห่ส่งวัตถุสีทองให้ซ่างกวนเหิน
ซ่างกวนเหินมองกู่ไห่ ดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี พลางพยักหน้ารัว ก่อนกล่าว “พ่ะย่ะค่ะ! ขอบพระทัยฝ่าา!”
กู่ฉินมองซ่างกวนเหิน ที่รับของมาอย่างระมัดระวัง “ท่านซ่างกวนเหิน เกราะทองเสวียนอู่นี้ มีประโยชน์อะไรกับท่านหรือ?”
“เหยาเจิ้งเทียนถูกต้มเป็ซุปไปแล้ว และของสิ่งนี้ ข้าก็จะนำมากินเช่นกันขอรับ” ซ่างกวนเหินอธิบาย
กู่ฉินถึงกับอึ้ง กู่ไห่ก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากกว่านั้น
...
นอกเกาะจิ๋วหวู่
ตูม!
คลื่นั์พุ่งสู่ท้องนภา ผู้คนมากมายต่างวิ่งหนีขึ้นฝั่ง ทันใดนั้น ป่าขนาดใหญ่ก็จมอยู่ใต้น้ำ แต่โชคดีที่ไม่มีคนอาศัยอยู่
เมื่อน้ำค่อยๆ ลดลง ก็เผยให้เห็นร่างของโหมวเฉิน
...
โหมวเฉินยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง มองไปยังทิศทางของพระราชวังต้าฮั่นที่อยู่ไกลออกไป ด้วยสายตาเย็นะเื
“โปรดวางใจเถิด! องค์ราชัน ข้าจะปกป้องสมบัติชิ้นสุดท้ายของท่านด้วยชีวิต ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าลบหลู่ท่าน ข้าจะฉีกมันเป็ชิ้นๆ!” โหมวเฉินกล่าวเสียงเยียบเย็น
ตูม!
ว่าแล้ว ก็ทะยานร่างไปยังแคว้นต้าฮั่นทันที
ตูมๆ!
เมื่อโหมวเฉินมาถึง พลันเมฆหมอกหนาสีดำ ก็เคลื่อนเข้าปกคลุมเกาะจิ๋วหวู่ เสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ราวกับว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมาเยือนแคว้นต้าฮั่นก็ไม่ปาน