เซี่ยเจิงถาม : “นายหลบอะไร? ”
“ฉันหลบที่ไหน? ” ชวีเสี่ยวปอถามกลับ
“นายจะตกเตียงอยู่แล้วเนี่ย”
เดิมทีชวีเสี่ยวปอนอนด้านนอกอยู่แล้ว หากเขาขยับออกไปด้านข้างอีกนิดก็จะทำให้หล่นลงไปที่พื้นได้เลย แต่เขาเองกลับยังไม่รู้ตัว
“นายอยากไหม? ” เซี่ยเจิงถามต่อ
“ฮะ? บ้า !”
ประโยคนี้ของเซี่ยเจิงราวกับเป็เสียงฟ้าร้อง ชวีเสี่ยวปอผงะไปทันที จากนั้นจึงขยับขดตัวไปด้านข้าง ทันใดนั้นเองทั้งตัวของเขาก็ตกลงไปที่พื้นพร้อมกับม้วนผ้าห่ม
ขายหน้าชะมัด
เซี่ยเจิงเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคำพูดของเขาจะมีผลมากถึงเพียงนี้ เขารีบลุกขึ้นมาดึงผ้าห่มผืนนั้นโยนกลับขึ้นไปบนเตียง จากนั้นก็เปิดโคมไฟตั้งโต๊ะขึ้น
ชวีเสี่ยวปอนวดก้นเล็กน้อย ไม่ได้บอกว่าอยากหรือไม่อยาก เพียงแค่นั่งจ้องมองเซี่ยเจิงอยู่อย่างนั้น
เซี่ยเจิงถูกเขาจ้องมองจนรู้สึกหวาดกลัวไปทั้งตัว เขาหันหน้าไปปัดรอยเปื้อนเล็กน้อยบนผ้าห่มออก “นอนเถอะ”
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกแบบนี้ หรือว่าจะช่างมันไปดีกว่า
“อะไรคือช่างมัน”
ชวีเสี่ยวปอได้ยินเสียงพูดของตัวเอง
“ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่อยาก”
หลังจากพูดจบ ชวีเสี่ยวปอก็ได้ยินเสียงในใจของตัวเองร้องโอดครวญอย่างบ้าคลั่ง
ใช้ความหน้าไม่อายนี้ทำให้ถึงที่สุดไปเลยก็แล้วกัน !
ชวีเสี่ยวปอ นายกล้าหาญมาก !
เซี่ยเจิงตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็รีบหันหน้ามาทันที ก่อนที่ชวีเสี่ยวปอจะเข้าใจความหมายในแววตาของเขา โคมไฟตั้งโต๊ะก็ถูกปิดลงอีกครั้ง
ทันทีที่รอบข้างมืดลง เซี่ยเจิงก็พุ่งตัวเขามากัดริมฝีปากของชวีเสี่ยวปออย่างแรง
แต่มันก็เป็แค่ความเ็ปเพียงชั่วครู่ ชวีเสี่ยวปอเองก็บีบคลึงเอวของเซี่ยเจิงอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน... ทั้งสองคนไม่ได้เสื้อด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งมันทำให้สะดวกมาก อย่างน้อยในตอนนี้เซี่ยเจิงก็ใส่เพียงแค่กางเกงนอนหลวมๆ ส่วนชวีเสี่ยวปอเองก็ใส่แค่กางเกงในตัวเดียวั้แ่อาบน้ำเสร็จแล้ว
ไม่ต้องถอดให้ยุ่งยากเลยสักนิด
จนกระทั่งเมื่อเซี่ยเจิงกดชวีเสี่ยวปอลงไปบนเตียง ซุกไซ้ทั้งกัดทั้งดูดดึงคอของชวีเสี่ยวปอจนไล่มาถึงกระดูกไหปลาร้า ในตอนนั้นเองชวีเสี่ยวปอถึงรู้สึกตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
เขาขูดแผ่นหลังของเซี่ยเจิงอย่างแรง พลางบ่นพึมพำขึ้นมาว่า : “หยุดๆ หยุดๆ หยุดๆ หยุดๆ หยุดก่อนแป๊บนึง”
เซี่ยเจิงไม่มีทางเลือก ทำได้แค่หยุดการกระทำลงพลางหอบหายใจออกมาอย่างหนัก เสียงแหบพร่าอันแฝงไปด้วยความ้า : “ถ้าตอนนี้นายจะมาบอกว่าไม่ได้ มันสายไปแล้วละ”
ชวีเสี่ยวปอหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที แต่ก็ยังโชคดีเพราะในความมืดเช่นนี้ยังไงเซี่ยเจิงก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว จึงเอ่ยออกไปอย่างหน้าไม่อาย : “ฉันไม่ได้จะบอกว่าไม่ได้สักหน่อย”
“งั้นนายจะให้หยุดทำบ้าอะไร” เซี่ยเจิงรู้สึกว่าเขาไม่เคยรีบร้อนอะไรขนาดนี้มาก่อน หลังจากพูดจบก็กำลังจะทำต่อ
“หยุด! หยุด! เดี๋ยวก่อน! ” ชวีเสี่ยวปอดันเซี่ยเจิงออกไป วางมือไว้บนไหล่ของเขา “ฉันมีคำถาม”
“รีบถามมา”
“คือว่า ทำไมนายถึงอยู่ข้างบนอะ? ”
ชวีเสี่ยวปอถามออกมาด้วยความจริงใจ
เื่นี้เป็ปัญหาจริงๆ
แต่เมื่อเซี่ยเจิงคิดเื่นี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่ครู่หนึ่ง ในตอนที่เขาทั้งสองคนเพิ่งจะเริ่มคบกัน ยกเว้นจูบของชวีเสี่ยวปอที่ยังไม่ชัดเจนในตอนแรก นอกเหนือจากนั้นดูเหมือนว่าตัวเขาเองจะเป็คนพุ่งเข้าหาก่อนซะเป็ส่วนใหญ่ ทั้งยังยึดครองตำแหน่งในการคุมเกมอีกด้วย
ดังนั้นการที่เขาเป็ฝ่ายรุกเข้าหาในครั้งนี้ก็คงจะไม่เป็ปัญหาอะไรด้วยเช่นกัน
เซี่ยเจิงหาข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นและไม่มีเหตุผลเลยสักนิดให้กับตัวเอง แต่ในตอนพูดเขากลับเอ่ยออกไปอย่างตรงประเด็นมากทีเดียว
เขาถามกลับไปว่า :
“นายเป็เหรอ? ”
ชวีเสี่ยวปอ : “......”
เซี่ยเจิงเกือบจะถูกเขาจับพลิกลงมาอยู่ด้านล่าง
“นายดูถูกใครฮะเซี่ยเสี่ยวเจิง ดีที่ฉันดูหนังมานับไม่ถ้วน ทำไมแค่ยังไม่เคยลองแล้วจะมาคิดว่าฉันไม่เคยเห็นด้วยหรือไง รีบลงมาให้ฉันทำเดี๋ยวนี้เลยนะ !”
ชวีเสี่ยวปอยิงคำพูดออกมารวดเดียว ทั้งยังไม่แม้แต่จะหยุดหายใจ แต่เซี่ยเจิงกลับจัดการอย่างไม่สะสกสะท้าน รอให้ชวีเสี่ยวปอพูดจบ เขาจึงถามขึ้นมาเสียงเรียบ
“นายดูหนังมานับไม่ถ้วน? หนังอะไรเหรอ? ”
…………………………
“แน่นอนว่าเป็——” ชวีเสี่ยวปอพูดอยู่ดีๆ ก็หยุดชะงักไป เขาอ้าปากค้างเอาไว้โดยที่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลยสักคำ
ความจริงแล้วที่บอกว่าดูมานับไม่ถ้วนเป็เพียงแค่การพูดโม้เท่านั้น แต่เื่เหล่านี้เขาก็ยังพอรู้อยู่บ้าง ทว่าเมื่อลองคิดดูแล้วหนังที่เขาเคยดูมาก่อนหน้านี้ล้วนแต่เป็ผู้ชายกับผู้หญิง ส่วนผู้ชายกับผู้ชายเขาเองยังไม่เคยดูผ่านตาเลยสักครั้งเดียว
ว่าแต่จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?
ตัวเองพูดโม้ออกไปแล้วด้วย เป็ฝ่ายรุกแบบนี้จะทำให้เขาดูถูกไม่ได้เด็ดขาด !
เซี่ยเจิงเห็นเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงไล่ต้อนถามต่อไปว่า : “พูดมาสิ นายเคยเห็นมาเยอะแค่ไหน? ”
คำพูดนี้ของเซี่ยเจิงค่อนข้างจะเป็วิธียั่วยุอยู่พอสมควร ชวีเสี่ยวปอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปเอาความหยิ่งในศักดิ์ศรีนี้มาจากไหน ตัดสินใจปากแข็งพูดออกไปว่า : “อันนั้นนายไม่ต้องสนใจหรอก ยังไงฉันก็เคยเห็นมาแล้วแหละน่า ให้ฉันขึ้นไปเดี๋ยวนี้ !”
หลังจากพูดจบก็ผลักเซี่ยเจิงไปทีหนึ่ง
แต่ครั้งนี้เซี่ยเจิงกลับล้มตัวลงไปด้านข้าง แล้วก็นอนราบไปบนเตียง
อันที่จริงชวีเสี่ยวปอไม่ได้ออกแรงเลยสักนิด ดังนั้นจึงคิดไม่ถึงว่าเซี่ยเจิงจะนอนลงไปง่ายดายขนาดนี้ เขายังคาดหวังอยู่เลยว่าเซี่ยเจิงจะพูดอย่างอื่นขึ้นมาอีกสักสองสามประโยค ผลปรากฏว่าตอนนี้กลับทำให้เขาไปไม่เป็เลยทีเดียว
ในใจของชวีเสี่ยวปอคิดขึ้นมาอย่างขุ่นเคืองว่า การเร้าอารมณ์ที่ยอดเยี่ยมของเซี่ยเจิงนี่นะ ยอมถอยให้เลยจริงๆ
เซี่ยเจิงนอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างเชื่อฟัง
ทันใดนั้นในหัวของชวีเสี่ยวปอก็มีภาพภาพหนึ่งผุดขึ้นมา สโนว์ไวท์กำลังจะถูกเ้าชายจุมพิต น่าจะเป็เช่นเดียวกับเซี่ยเจิงในตอนนี้ล่ะมั้ง
“งั้นนายก็ทำเถอะ” หลังจากที่เซี่ยเจิงพูดจบ เขาก็หยิบกล่องเล็กๆ ที่วางอยู่ใต้เอวออกมา จากนั้นจึงใช้ปากฉีกซองพลาสติกที่อยู่ด้านนอกออก ก่อนที่จะยื่นให้ชวีเสี่ยวปอ
“......” ชวีเสี่ยวปอรับมา แต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาเลย
แล้วจะทำยังไงดีล่ะทีนี้? ในขั้นตอนนี้เขาทำไม่เป็เลยจริงๆ อีกทั้งเื่แบบนี้ก็ไม่ใช่เื่ที่จะรีบร้อนได้ ถ้าทำไม่ดีอาจจะเจ็บตัวได้เลยนะ
เซี่ยเจิงคงจะรู้เื่เหล่านี้มากกว่าเขา?
หลังจากที่เงียบไปอยู่หลายวินาที เซี่ยเจิงก็ยื่นมาออกมาตีที่ต้นขาของชวีเสี่ยวปอ “ตกลงจะทำไม่ทำ? ”
ชวีเสี่ยวปอกัดฟันเอ่ยออกไป : “ฉันกลัวจะทำนายเจ็บ”
เซี่ยเจิงหัวเราะน้อยๆ : “ไม่เป็ไร ฉันทนได้”
ชวีเสี่ยวปอ : “......” ทำไมหน้าถึงได้แดงขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้นะ คงจะไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาตอบสนองจากการคิดเื่สิบแปดบวกหรอกมั้ง หรือว่าจะเป็ไข้แล้ว?
ชวีเสี่ยวปอคิดเพ้อเจ้อไปถึงไหนต่อไหน ขณะเดียวกันก็ยกมือขึ้นมาแตะใบหน้าไปสองสามครั้ง พยายามทำใจให้สงบลง มาถึงขั้นนี้แล้วจะยังต้องอายอะไรอีกล่ะ อีกอย่างเซี่ยเจิงก็ไม่ได้ไม่ให้เขาเป็ฝ่ายรุกสักหน่อย แต่เขากลับไม่ได้เตรียมพร้อมเองไม่ใช่หรือไง ครั้งนี้ถือว่ายอมให้เขาก็แล้วกัน !
ชวีเสี่ยวปอเป็คนที่คิดเร็วทำเร็วอย่างแท้จริง เมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่ายังไงก็ได้ เขาก็ลุกขึ้นก้าวขาคร่อมไปบนตัวของเซี่ยเจิงทันที จากนั้นก็นั่งทับลงไปบนท้องน้อยของอีกฝ่าย พร้อมทั้งพูดขึ้นมาเสียงเบาที่สุดว่า :
“นายทำดีกว่า”
เซี่ยเจิง : “ครั้งแรกก็ขึ้นเองเลย แบบนี้คงจะไม่ดีมั้ง”
ทั้งเซี่ยเจิงและชวีเสี่ยวปอล้วนไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงอะไรกันอีก เนื่องจากไม่สามารถพูดได้ เซี่ยเจิงจูบดูดดื่มอย่างเอาเป็เอาตาย ถึงขนาดที่ในตอนที่ชวีเสี่ยวปอมีสติรู้สึกตัวอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็คิดสงสัยว่าพรุ่งนี้เช้าริมฝีปากของเขาจะบวมเปล่งขึ้นมาหรือเปล่า แต่ร่างกายเขากลับตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาไม่ยอมให้เขาสติหลุดไปเื่อื่นเลยแม้แต่น้อย
มือของเขาลูบไล้ไปบนแผ่นหลังของเซี่ยเจิง ลากผ่านไปบนิักล้ามเนื้อทุกตารางนิ้วของอีกฝ่าย ในทุกครั้งที่ความเ็ปเข้าเล่นงานจนร่างกายสั่นเทาเขาก็รู้สึกว่าเขาสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น และใกล้กันมากขึ้นไปอีก
ทั้งยังรู้สึกรักมากขึ้นกว่าเดิม
จนในที่สุดเสียงหอบหายใจของทั้งสองคนก็ค่อยๆ สงบลง ขณะนั้นเซี่ยเจิงยังคงโอบกอดชวีเสี่ยวปอเอาไว้ในท่าทางเช่นเดิมไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
ตอผมแข็งๆ ของชวีเสี่ยวปออยู่ใต้คางของเขา ทำให้รู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย
“เจ็บไหม? ” เซี่ยเจิงพรมจูบเขา จากนั้นก็เลื่อนขึ้นไปขบกัดเข้าที่ใบหู
“...กี่โมงแล้ว? ” ชวีเสี่ยวปอตอบไม่ตรงคำถาม ส่วนเซี่ยเจิงเองก็ฟังออกแล้วว่าเสียงของเขาแหบไปเล็กน้อย ซึ่งอาจจะเป็เพราะเมื่อครู่เขาร้องครางอยู่ตลอด
“ฉันดูก่อนนะ...ตีสองครึ่งแล้ว” เซี่ยเจิงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดู แสงจากหน้าจอส่องสว่างไปบนใบหน้าของเขาทั้งสองคน ในตอนนี้ชวีเสี่ยวปอกำลังหลับตาสนิท ทำให้เซี่ยเจิงมองไม่ออกเลยว่าใบหน้าของเขามีสีหน้าเป็เช่นไร