ครู่เดียว ประตูศิลาของห้องฝึกตนก็เปิดออกช้าๆ หลิ่วเทียนฉีที่มีใบหน้ายิ้มแย้มเดินออกมา
“เทียนฉี!” เฉียวรุ่ยเห็นหลิ่วเทียนฉีออกมาก็เข้าไปรับเป็คนแรก
“ฉีเอ๋อร์!” หลิ่วเหอที่เห็นก็เข้าไปรับเช่นกัน
“ท่านพ่อ!” หลิ่วเทียนฉีค้อมศีรษะก้มต่ำ คำนับหลิ่วเหอหนึ่งครั้ง
“อืม ดี เป็ลูกที่ดีของข้าจริงเชียว!” หลิ่วเหอพยักหน้าหลายหน ตบไหล่บุตรชายอย่างพออกพอใจ
“เทียนฉี เ้าร้ายกาจนักเชียว อายุสิบแปดก็เลื่อนเป็ระดับสร้างรากฐานแล้ว!” เฉียวรุ่ยยิ้มพลางมองคนรัก คล้ายจะตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าเขาที่เลื่อนระดับเองเสียอีก
“เสี่ยวรุ่ย!” หลิ่วเทียนฉีมองคนรักที่ไม่ได้พบหน้ากันมาสามเดือน มุมปากประดับยิ้มน้อยๆ เปี่ยมด้วยความอ่อนโยน เขายื่นมือไปจับมือของเฉียวรุ่ยไว้ทันที
ถูกหลิ่วเทียนฉีจับมือต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ เฉียวรุ่ยพลันหน้าแดงขึ้น รีบร้อนหดมือกลับ
“ฉีเอ๋อร์ เ้าเยี่ยมมาก เป็ชายหนุ่มผู้ยอดเยี่ยมของตระกูลหลิ่วจริงๆ แล้ว!” หลิ่วเจียงก้าวเข้ามาแสดงความยินดีกับอีกฝ่าย
“ขอบคุณท่านลุงใหญ่ ชมข้าเกินไปแล้ว!”
“ท่านลุงรอง พี่สาม พี่สี่ พี่ห้า!” เมื่อเห็นคนอื่น หลิ่วเทียนฉีก็ทักทายทุกคนอย่างมีมารยาท
หลิ่วไห่ผู้เป็ลุงรองมองหลิ่วเทียนฉีทีหนึ่งแล้วกลอกตา ไม่พูดไม่จา ไม่เอ่ยแสดงความยินดีอะไรแต่ก็ไม่เสียดสีถากถาง
“ยินดีกับน้องเจ็ดที่เลื่อนเป็ระดับสร้างรากฐาน!” หลิ่วซานเห็นเขาเลื่อนระดับสำเร็จก็เอ่ยแสดงความยินดีเป็คนต่อมา
แปลกไปแล้ว น้องเจ็ดเพิ่งเลื่อนเป็ระดับสร้างรากฐาน ทำไมนางรู้สึกว่าอำนาจบนร่างอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าตนที่เป็ผู้ฝึกตน อยู่ระดับสร้างรากฐานมาหนึ่งปีกว่าคนนี้กันนะ?
“ขอบคุณพี่สามยิ่ง!” หลิ่วเทียนฉีค้อมศีรษะเอ่ยขอบคุณ
ในใจคิด ‘โชควาสนาครั้งนี้หากนางเอกได้ไป เช่นนั้นตอนนี้พลังของนางก็น่าจะเป็ระดับสร้างรากฐาน่กลางแล้ว แต่น่าเสียดายนัก นางพลาดโชควาสนาไปแล้ว พลังจึงคงอยู่ที่ระดับสร้างรากฐาน่ต้น’
“ยินดีกับน้องเจ็ดด้วย!” แม้ไม่ยินดี แต่หลิ่วซือยังคงเอ่ยแสดงความยินดีอย่างใจกว้าง
“ขอบคุณพี่สี่ยิ่ง!” หลิ่วซือผู้นี้ งอได้ยืดได้จริงๆ หนอ!
“เฮอะ!” หลิ่วอู่กลอกตาแค่นเสียงทีหนึ่ง ไม่เอ่ยสิ่งใด นางไม่มีทางแสดงความยินดีกับขยะหรอก!
“ฉีเอ๋อร์ เ้าเก็บตัวฝึกฝนมาหลายวันคงเหนื่อยแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถิด! วันหลังท่านลุงใหญ่จะจัดงานเลี้ยงฉลองให้”
“ขอบคุณท่านลุงใหญ่ยิ่ง!” วิชาเสแสร้งเช่นนี้ หลิ่วเจียงยังคงเก่งกว่าอยู่บ้างล่ะนะ
.........
เมื่อกลับมาถึงในเรือน
หลิ่วเหอยิ้ม มองบุตรชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง “ลูกชายพ่อเพิ่งเป็ระดับสร้างรากฐาน ทำไมพ่อรู้สึกว่าพลังของเ้าคงที่ปานนี้เล่า สภาพไม่เหมือนเพิ่งเลื่อนระดับเลยนะ?”
แปลก ตามหลักแล้วผู้ฝึกตนที่เพิ่งเป็ระดับสร้างรากฐาน พลังจะผันผวนไม่คงที่เท่าใดนัก แต่พลังของบุตรชายคล้ายคงที่ผิดปกติ เหมือนกับว่าเป็ผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานมาปีกว่าแล้ว
“ฮ่าๆๆ อาจเป็เพราะข้าใช้สมบัติวิเศษ ศิลาทิพย์และโอสถสร้างรากฐาน คงใช้ของวิเศษมากกระมังขอรับ!”
น้ำพุบรรณมาศหนึ่งบ่อ หญ้าบรรณมาศสมุนไพรทิพย์ขั้นสามหนึ่งต้น ผนวกกับศิลาทิพย์ห้าหมื่นก้อนและโอสถสร้างรากฐานหนึ่งเม็ด ดูดกลืนสิ่งของดีๆ มากมายเช่นนี้ หลิ่วเทียนฉีไม่เพียงขึ้นระดับสร้างรากฐานอย่างราบรื่นผิดปกติ หลังขึ้นระดับแล้วพลังยังคงที่กว่าผู้อื่นอยู่มากโขด้วย
“อืม ก็มีเหตุผล ลูกชายพ่อหลายวันนี้เก็บตัวฝึกฝนลำบากจริงๆ รีบกลับห้องพักผ่อนหน่อยเถิด!”
“ท่านพ่อ ลูกไม่เหนื่อยเลย ตอนนี้ลูกระดับสร้างรากฐานแล้ว อยากร่ำเรียนยันต์ขั้นสามกับท่าน!” หลิ่วเทียนฉีส่ายศีรษะเอ่ยตอบ
“ไม่ได้ เพิ่งขึ้นระดับสร้างรากฐาน อย่างไรก็ต้องพักผ่อนสักสิบวันถึงครึ่งเดือน มีที่ไหนหลังขึ้นระดับสร้างรากฐานก็ร่ำเรียนวิชายันต์เลยเล่า? ช่างไม่ดีต่อพลังิญญายิ่งนัก!” หลิ่วเหอส่ายศีรษะไม่ตกลง
“ฮ่าๆๆ อย่างนั้นก็ได้ขอรับ ลูกจะกลับไปพักผ่อนสักหลายวัน ผ่านไปสองสามวันจะมาขอให้ท่านพ่อสอนวิชายันต์ให้”
หลิ่วเทียนฉีทราบว่าบิดารักตนที่สุด ไม่มีทางสอนวิชายันต์ให้ตอนนี้เด็ดขาดจึงได้แต่ยอมจำนน!
“ไปเถิด พักผ่อนให้ดี ผ่านไปสักหลายวันก่อน พ่อค่อยสอนเ้าวาดอักขระยันต์ขั้นสาม”
“ขอรับ ลูกขอตัว!” หลิ่วเทียนฉีลุกขึ้นคำนับ เอ่ยลา
เฉียวรุ่ยเห็นเทียนฉีจะไปก็รีบลุกขึ้นด้วย “ท่านอาหลิ่ว ข้ากลับก่อนนะขอรับ”
“ไปเถอะ” หลิ่วเหอรู้ว่าในใจเฉียวรุ่ยคิดถึงเทียนฉี จึงไม่อยากรั้งอีกฝ่ายไว้นาน
“ขอรับ!” เฉียวรุ่ยพยักหน้าแล้วออกจากโถงรับแขกไปด้วยกัน
หลิ่วเทียนฉีผินหน้ามองเฉียวรุ่ยที่ออกมากับตน จูงมืออีกฝ่ายขึ้นมาจับเบาๆ
เฉียวรุ่ยก้มหน้า มองมือทั้งสองที่จับจูงอยู่ก็หน้าแดงเล็กน้อย แต่ครั้งนี้เขาไม่สลัดหนี ปล่อยให้อีกฝ่ายจับจูงตามใจอยู่เงียบๆ