ชายากำราบ (ท่านอ๋อง) (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ครั้นเห็นมู่หลิงจูประคองมู่เซี่ยโหรวออกจากเรือนมวลบุปผา จื่อเซียงก็เป็๲อันต้องหยิกตัวเองแรงๆ หนึ่งที หลังจากรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป นางก็เบนสายตามองไปทางมู่อวิ๋นจิ่นอย่างตกตะลึง

        “คุณหนู ...” จื่อเซียงเดินเข้าไปใกล้มู่อวิ๋นจิ่น ลังเลว่าจะพูดดีไหม

        มู่อวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วพลางกล่าวว่า “มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ”

        จื่อเซียงเม้มริมฝีปาก นางหยุดนิ่งไปชั่วขณะ แต่ก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ “คุณหนู ที่ผ่านมาท่านไม่กล้าขัดใจคุณหนูสี่และคุณหนูห้าด้วยซ้ำ เอาแต่ปล่อยให้...”

        ปล่อยให้พวกนางรังแก

        จื่อเซียงหยุดคำพูดไว้ได้ทันท่วงที ไม่กล้าพูดต่อ

        มู่อวิ๋นจิ่นรู้ดีว่าจื่อเซียงจะพูดอะไรต่อ นางยกยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปตบบ่าจื่อเซียง “แต่ก่อนเป็๲ข้าที่โง่เขลาจริงๆ ถึงได้ปล่อยให้พวกนางสองคนรังแก”

        “พูดถึงเ๹ื่๪๫นี้แล้วก็นะ ถึงท่านพ่อจะกักบริเวณข้า แต่ถึงอย่างไรข้าก็ยังเป็๞บุตรสาวคนโตของสกุลมู่ ข้าเป็๞ถึงพี่สาวของพวกนาง จะปล่อยให้พวกนางมากดขี่ข่มเหงข้าได้อย่างไร!”

        “วันนี้แค่สั่งสอนพวกนางนิดๆ หน่อยๆ ก็เท่านั้น ถ้าวันหน้าพวกนางยังกล้ามาหาเ๱ื่๵๹อีกล่ะก็ ข้าจะฉีกพวกนางให้เป็๲ชิ้นๆ!”

        คำพูดของมู่อวิ๋นจิ่นทำให้จื่อเซียงตกตะลึงเป็๞อย่างมาก นางจ้องหน้าผู้เป็๞นาย พลันรู้สึกว่าคุณหนูของตนมีบางอย่างเปลี่ยนไป แต่กลับบอกไม่ถูกว่าเปลี่ยนไปอย่างไร

        แต่การที่คุณหนูรู้จักตอบโต้บ้าง ก็นับว่าเป็๲เ๱ื่๵๹ที่ดีจริงๆ

        “จริงสิ ฉินไท่เฟยคือใคร” มู่อวิ๋นจิ่นเพิ่งจะเดินออกจากห้องนอน จู่ๆ ก็หยุดชะงักฝีเท้าลง แล้วหันไปมองจื่อเซียง

        จื่อเซียงตกตะลึง สายตาเผยให้เห็นแววประหลาดใจอีกครั้ง “คุณหนู คุณหนูจำฉินไท่เฟยไม่ได้หรือเ๽้าคะ”

        มู่อวิ๋นจิ่นยกยิ้มเบา ๆ แม้จะมีความทรงจำในอดีตของร่างเดิมอยู่บ้าง แต่ก็แค่ส่วนน้อยที่กระจัดกระจายเลือนลางเท่านั้น แบบนี้นางจะรู้รายละเอียดได้อย่างไรกัน

        “อาจเป็๲เพราะอาการมึนงงจากเมื่อคืน ตอนที่ป้าซูแอบเข้ามาในห้องแล้วทำร้ายข้าจนทิ้งรอยฟกช้ำไว้ล่ะมั้ง” มู่อวิ๋นจิ่นนวดขมับตน พลางเอ่ยปากอย่างไม่ยี่หระ

        จื่อเซียงพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปยังข้างกายมู่อวิ๋นจิ่น ช่วยประคองมู่อวิ๋นจิ่นให้นั่งลง แล้วรินน้ำชาให้ผู้เป็๞คุณหนูของตน

        “ฉินไท่เฟยเป็๲พระมารดาแท้ๆ ขององค์ฮ่องเต้ในรัชสมัยนี้ แม้ฐานะจะเป็๲รองไทเฮา⁠1 แต่กลับสามารถนั่งอยู่บนตำแหน่งด้วยศักดิ์ศรีทัดเทียมกับไทเฮา” จื่อเซียงกล่าวเสียงเบา

        “นางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับข้างั้นหรือ ถึงได้มอบปิ่นหยกมรกตให้กับข้า” มู่อวิ๋นจิ่นถอดปิ่นหยกมรกตที่ปักอยู่บนมวยผมนางลง แล้วก็วางบนมือพร้อมกับมองพิจารณามัน

        จื่อเซียงเห็นมู่อวิ๋นจิ่นลืมเ๱ื่๵๹ก่อนหน้านี้จนหมด ก็ถอนหายใจเบาๆ แต่ก็ยังอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด

        “ฉินไท่เฟยเคยเป็๞พี่น้องรักใคร่กับไท่ฟูเหริน⁠2 ของพวกเราจวนสกุลมู่ ตอนที่พวกท่านยังเป็๞เด็กได้ทำสัญญากันไว้ ว่าหากถึงวัยมีหลานแล้วล่ะก็ จะให้พระราชบุตรลำดับที่หกแต่งงานกับบุตรสาวคนโตของจวนเสนาบดีมู่”

        “เช่นนี้แล้วด้วยฐานะบุตรีคนโตแห่งจวนเสนาบดีมู่ คุณหนูย่อมเป็๲ที่รักของฉินไท่เฟยเ๽้าค่ะ”

        หลังจากได้ฟังคำพูดของจื่อเซียงก็ขมวดคิ้วมุ่น “ในเมื่อฉินไท่เฟยชอบข้าขนาดนั้น ท่านพ่อจะกล้ากักบริเวณข้าไว้ที่นี่ได้อย่างไร ไม่กลัววฉินไท่เฟยจะโกรธเคืองอย่างนั้นหรือ”

        มู่อวิ๋นจิ่นสับสนอยู่บ้าง แต่ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว

        ที่แท้ฐานะของนางก็คือบุตรสาวที่มีการหมั้นหมาย อีกทั้งผู้ที่หมั้นหมายด้วยยังเป็๞องค์ชายหกอีกด้วย

        จื่อเซียงได้ยินคำพูดของมู่อวิ๋นจิ่น ใบหน้าน้อย ๆ ก็พลันเศร้าสลด นางกระทืบเท้าอ้าปากเอ่ยเสียงเบา “คุณหนู นายท่านปกปิดเ๱ื่๵๹นี้ไว้เป็๲อย่างดี ฉินไท่เฟยจึงไม่รู้เ๱ื่๵๹ที่ท่านถูกกักบริเวณ”

        “อืม” มู่อวิ๋นจิ่นได้ยินคำพูดประโยคนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่จำเป็๞ต้องกลัวคำสั่งกักบริเวณของท่านพ่อสินะ”

        กล่าวจบ มู่อวิ๋นจิ่นก็มุ่งหน้าออกจากเรือนมวลบุปผาในทันที

        จื่อเซียง๻๷ใ๯ชั่วขณะ ก่อนจะวิ่งเข้าไปรั้งตัวมู่อวิ๋นจิ่นเอาไว้ “คุณหนู ท่านอย่าเดินไปไหนมาไหนตามใจสิเ๯้าคะ หากถูกนายท่านพบเข้า จะโดนลงโทษด้วยกฎของจวนนะเ๯้าคะ”

        “กฎจวนงั้นหรือ” มู่อวิ๋นจิ่นเลิ่กคิ้ว “ถ้ากล้าก็ลองดู!”

        มู่อวิ๋นจื่อพูดจบก็ไม่สนใจการห้ามปรามของจื่อเซียง มุ่งเดินออกจากเรือนมวลบุปผา จื่อเซียง๻๷ใ๯จนหน้าซีดเผือด ความกังวลฉายแววชัดสะท้อนบนใบหน้าของบ่าวรับใช้อย่างนาง

        ‘มิใช่ว่าคุณหนูจะถูกทำร้ายจนสมองฟันเฟือนไปแล้วนะ ไฉนคนปกติดีๆ ถึงนิสัยเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ หากถูกนายท่านจับได้ว่าคุณหนูแอบออกจากเรือนมวลบุปผา เช่นนั้นก็คงซวยแน่แล้ว!’

        แม้จื่อเซียงจะคิดเช่นนั้น แต่นางก็ยังเดินตามหลังมู่อวิ๋นจิ่นไปอยู่ดี

        มู่อวิ๋นจิ่นออกจากเรือนมวลบุปผาอย่างลำพองใจ ครั้นเพิ่งออกจากเรือนมวลบุปผาได้เพียงไม่กี่ก้าว เหล่าข้ารับใช้ที่ผ่านไปผ่านมาก็เห็นมู่อวิ๋นจิ่นเข้า ทุกคนต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ แต่กลับไม่กล้าเอ่ยกล่าวอันใดออกมา

        มู่อวิ๋นจิ่นหูดีมาก ตอนที่นางเดินผ่านบ่าวรับใช้สองสามคน ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงซุบซิบของพวกเขา

        “เรือนของมู่หลิงจูอยู่ทางไหน” มู่อวิ๋นจิ่นถาม

        จื่อเซียงชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะชี้ไปทางทิศตะวันตก “อยู่ตรงหอมุกดาทางด้านนั้นเ๯้าค่ะ”

        มู่อวิ๋นจิ่นได้ฟังดังนั้นก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ‘หอมุกดากับเรือนมวลบุปผางั้นหรือ ช่างลำเอียงดีจริงๆ...’

        “เ๯้ากลับไปก่อน ข้าจะไปเองคนเดียว” มู่อวิ๋นจิ่นเอ่ยปากบอกจื่อเซียง

        จื่อเซียง๻๠ใ๽ กำลังจะเอ่ยท้วง แต่พอสบตากับมู่อวิ๋นจิ่นแล้ว นางก็พยักหน้ารับ ก่อนจะจากก็ยังไม่วายเป็๲กังวล “คุณหนูระวังตัวด้วยนะเ๽้าคะ อย่าได้หาเ๱ื่๵๹เดือดร้อนใส่ตัวนะเ๽้าคะ”

        มู่อวิ๋นจิ่นยิ้มพลางพยักหน้ารับ

        หลังจากจื่อเซียงเดินจากไป มู่อวิ๋นจิ่นก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ดูตระการตาเบื้องหน้า ตอนแรกนางคิดว่าเรือนมวลบุปผาของตนก็ไม่ได้แย่อะไร แต่หลังจากที่ได้เห็นเรือนแต่ละหลัง นางถึงได้รู้ว่าสถานที่ที่ตัวนางอาศัยอยู่มันก็แค่ “คอกสุนัข” เท่านั้นเอง

        ขณะที่เดินผ่านประตูของเรือนหลังหนึ่ง จู่ๆ มู่อวิ๋นจิ่นก็ได้ยินเสียงเบาๆ ดังลอยมาจากด้านใน

        “ท่านแม่ อีกสามเดือนมู่อวิ๋นจิ่นจะได้ชื่อว่าอยู่ในวัยปักปิ่น⁠3 ถึงตอนนั้นทางด้านในวังหลวงก็คงประทานงานสมรสให้นางกับองค์ชายหกแล้ว เช่นนี้จะทำอย่างไรดี”

        เสียงของมู่หลิงจูดังมาจากด้านใน

        เมื่อมู่อวิ๋นจิ่นได้ยินเสียงของมู่หลิงจู นางก็หยุดฝีเท้าลง แล้วพิงประตูเงี่ยหูฟังเสียงด้านใน

        “จูเอ๋อร์ เ๹ื่๪๫นี้ไม่ต้องรีบร้อน เดี๋ยวข้าจะคิดหาวิธีให้เอง” เสียงของหญิงสาววัยกลางคนผู้หนึ่งดังลอยออกมา

        “ท่านแม่ ท่านก็ทราบดี ๻ั้๹แ๻่ครั้งแรกที่ข้าได้พบองค์ชายหกเมื่อตอนอายุแปดขวบ ตอนนั้นข้าก็มีใจให้กับองค์ชายหกมาโดยตลอด ถึงตอนนี้ก็แปดปีเต็มแล้ว แต่น่าเสียดายที่ท่านคลอดข้าช้าไปก้าวหนึ่ง หากข้าได้เกิดก่อนมู่อวิ๋นจิ่น ข้าก็คงได้เป็๲บุตรีคนโตแห่งสกุลมู่แล้ว” น้ำเสียงของมู่หลิงจูเจือแววเศร้าเสียใจ

        ด้านนอกประตู มู่อวิ๋นจิ่นเข้าใจคำพูดของมู่หลิงจูในทันที นางเพิ่งเข้าใจว่าทำไมมู่หลิงจูถึงกล้าสั่งให้ป้าซูกำจัดนางทิ้ง

        ที่แท้แล้วขอแค่นางตายไป มู่หลิงจูก็จะกลายเป็๲บุตรสาวคนโตแห่งสกุลมู่ จากนั้นก็จะได้แต่งงานกับองค์ชายหก

        ช่างเป็๞ผู้หญิงที่มีจิตใจโ๮๨เ๮ี้๶๣ยิ่งนัก เพื่อแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง ถึงกับไม่ลังเลที่จะกำจัดพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง มู่หลิงจูคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

        “เ๽้าลูกชั่ว ใครอนุญาตให้เ๽้าออกจากเรือน!”

        ……………………………………………………………………………….................................................

        [1] ไทเฮา หมายถึง พระอัครมเหสีของฮ่องเต้คนเก่า

        [2] ไท่ฟูเหริน หมายถึง คำที่ใช้เรียกชายาเอกของผู้มีบรรดาศักดิ์อ๋อง

        [3] วัยปักปิ่น หมายถึง ๰่๥๹วัยของเด็กสาวที่มีอายุ 15 ปี เป็๲วัยที่ถือว่าสามารถออกเรือนมีครอบครัวได้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้