หลงเหยียนใจนปัสสาวะราดกางเกง เอนตัวไปด้านหลัง มือทั้งสองข้างยันกับพื้น จ้องไปยังพยัคฆ์เขาเดียวร่างใหญ่ที่ลอยเข้ามา
“มันไปแล้วไม่ใช่หรือ? เพราะอะไรถึงวนกลับมาอีก”
เมื่อถึงเวลาคับขัน จู่ๆ พยัคฆ์เขาเดียวก็ถูกเตะลอยกระเด็นออกไปข้างๆ หลงหลิงยืนขวางอยู่ข้างกายหลงเหยียน
“เ้าบื้อ รีบลุกขึ้นมาสิ น่าขายหน้าเสียจริง พวกมันเป็ปีศาจอสูร ไม่รู้ว่าฉลาดมากกว่าสัตว์ป่าตั้งเท่าไร เมื่อครู่มันตั้งใจล่อเ้าออกมาฆ่าชัดๆ”
“กึก!” หลงเหยียนงงเป็ไก่ตาแตก หากไม่ใช่เพราะหลงหลิง บางทีเขาอาจไม่รอดแล้ว
“เ้าเป็เดรัจฉาน แต่กล้ามาปั่นหัวข้าเล่นอย่างงั้นหรือ ข้าและเสี่ยวหลิงร่วมมือกันก็มีพลังอยู่ในขั้นที่หกแล้ว ถ้าเ้าสู้กับเราสองคน มีหรือที่จะชนะ”
ไม่นานหลงเหยียนเพิ่งนึกขึ้นได้ เมื่อครู่หมาป่าจันทราสี่ตัวรวมกันมีพลังถึงขั้นที่สิบหก แต่ก็ยังไม่อาจล้มพยัคฆ์เขาเดียวได้
“จบกัน ครั้งนี้เราจบเห่แน่” ทันใดนั้น พยัคฆ์เขาเดียวพลิกตัวลุกขึ้นยืนแล้วกระโจมเข้ามาอีกครั้ง
“เร็วหน่อย ใช้จิตของเ้าหาหินก้อนนั้นให้เจอ ลองหลอมรวมพลังิญญาของเ้า ดูว่าจะหลอกเสือตัวนี้ได้หรือไม่” หลงหลิงก็ร้อนใจ หันไปพูดกับหลงเหยียนเสียงดัง
หลงเหยียนรีบคลานลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นก็ขับเคลื่อนพลังปราณทั้งหมดในร่างกาย ทันใดนั้น เขาก็พบก้อนหินที่ส่องแสงกะพริบริบหรี่
“อ๊าก!” หลงเหยียนเปล่งเสียงคำรามที่ทรงอำนาจมากยิ่งกว่าพยัคฆ์เขาเดียวเสียอีก มือทั้งสองข้างผลักพยัคฆ์เขาเดียวตัวนั้น เงาัสีเขียวพุ่งออกจากร่างกายหลงเหยียน มันมาพร้อมรังสีที่น่าเกรงขาม ปกคลุมรัศมีนั้นทั้งหมดในพริบตาเดียว
พยัคฆ์เขาเดียวตัวนั้นร่างหยุดชะงักไปชั่วคราว เมื่อมองสิ่งมีตัวตนที่น่ากลัวยิ่งกว่า มันก็หนีจากไปหลังดูดต้นหญ้าคืนชีพ
ใช่แล้ว มันหนีจากไป
“รีบตามไปเร็ว” หลงหลิงลากหลงเหยียน หลงเหยียนพยักหน้า เก็บหญ้าวิเศษที่เหลืออีกสองต้น จากนั้นก็ไปข้างศพหมาป่าจันทราสี่ตัว เก็บลูกแก้วปีศาจทั้งหมด
“เ้านี่โลภมากจริง” หลงหลิงกลอกตา จากนั้นทั้งคู่ก็วิ่งตามพยัคฆ์เขาเดียวไป
“เสี่ยวหลิง เ้ารู้ได้อย่างไรว่าสามารถใช้หินก้อนนั้นปลดปล่อยเงาิญญาัในตัวข้าได้”
“อย่าพูดมาก พวกเราตามมันไปก่อน ไม่แน่อาจหาหญ้าวิเศษเจอเยอะกว่านี้ก็เป็ได้”
หลงเหยียนพยักหน้า เขาไม่สนแล้ว เพื่อร่างกายที่แข็งแกร่ง เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อความยิ่งใหญ่ เพื่อให้ได้รับความเคารพจากทุกคน เพื่อกลับไปเฉิดฉายในตระกูล ทุกสิ่งที่ทำในตอนนี้ล้วนคุ้มค่าทั้งนั้น
พวกเขาสองคนเสี่ยงชีวิตตามไปไม่ถึงครึ่งวัน จู่ๆ พยัคฆ์เขาเดียวก็หยุดลง คล้ายมันพบพลังที่น่าเกรงขามเช่นกัน มันเริ่มเดินถอยหลัง
หลงเหยียนหมอบลง ใช้ต้นหญ้าเป็กำบังในการตรวจสอบ หลงหลิงใช้มือปิดปากของหลงเหยียน
ท่าทางเหมือนหลงหลิงจะตื่นเต้นมากกว่าเสียอีก
เห็นเพียงอนาคอนดาที่มีร่างกายยาวประมาณสามสิบเมตรแหวกว่ายไปทางพยัคฆ์เขาเดียว หลงเหยียนเบิกตาโตทันทีที่เห็น
มันเป็อนาคอนดาที่่หัวใหญ่เป็พิเศษ ั์ตาทั้งสองสามารถพ่นลำแสงที่ส่องสว่างออกมาโจมตี การแหวกว่ายนั้นเร็วเป็พิเศษ ใช้พื้นหญ้าในการลอยตัวออกไปข้างกายพยัคฆ์เขาเดียว
“โฮก!” เมื่อหมดหนทาง พยัคฆ์เขาเดียวก็วางต้นหญ้าคืนชีพลง จากนั้นก็กระโจมเข้าไปหาอนาคอนดา
หางอนาคอนดาใหญ่มาก มันยกขึ้นเล็กน้อย เพียะ ฟาดลงบน่เอวของพยัคฆ์เขาเดียว
นี่เป็ภาพที่น่าใมาก ทำให้หลงเหยียนอ้าปากค้าง พยัคฆ์เขาเดียวถูกฟาดล้มลงบนพื้น แล้วมันก็เริ่มหนีอีกครั้ง
แต่มีหรือที่ความเร็วของมันจะสู้อนาคอนดาได้ การะโลอยกลางอากาศ เมื่ออยู่ต่อหน้าอนาคอนดาแล้ว ระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาที อนาคอนดาก็รัดตัวพยัคฆ์เขาเดียวเอาไว้แน่นแล้ว
เมื่อพยัคฆ์เขาเดียวยิ่งดิ้นเอาชีวิตรอด อนาคอนดาก็ยิ่งออกแรงบดขยี้ ไม่ว่าจะดิ้นอย่างไรก็ไม่มีทางหลุดออกจากตัวอนาคอนดาได้
จากนั้นเสียงลมหายใจก็ค่อยๆ หายไป อนาคอนดาเริ่มทำการกลืนร่าง ในเมื่อพยัคฆ์เขาเดียวมีร่างที่ใหญ่เช่นกัน จึงต้องใช้เวลาเล็กน้อย ทันใดนั้นอนาคอนดาก็เริ่มอ้าปากกว้าง คล้ายเป็หลุมที่ลึกไม่มีที่สิ้นสุด
กลิ่นเหม็นลอยออกมาจากในตัวอนาคอนดาเป็ระลอกๆ ยิ่งไปกว่านั้น หลงเหยียนสามารถเห็นภายในท้องของมันด้วย ในนั้นมีโครงกระดูกสัตว์ปีศาจหลายตัวที่ยังไม่ย่อยสลาย
“ชักช้าอยู่ไย ยังไม่รีบไปเก็บต้นหญ้าคืนชีพมาอีก” หลงหลิงคำรามเสียงดัง
“อ้อ” เมื่อนึกถึง เขาก็ทำใจแข็ง ในเมื่อตัดสินใจแล้ว หลิงเหยียนจะไม่มีทางถอยเด็ดขาด
ะโลอยตัวออกไป หลงเหยียนฉวยโอกาสตอนที่อนาคอนดากำลังกลืนพยัคฆ์เขาเดียว รีบเก็บหญ้าคืนชีพไว้
เมื่อเงยหน้าขึ้น รังสีที่อันตรายและน่ากลัวก็เข้าใกล้ อนาคอนดายกหัวขึ้นสูง ตาจ้องเขม่นที่หลงเหยียน
หลงเหยียนรู้ว่าตนจะขยับไม่ได้เด็ดขาด เพราะการมองเห็นของอนาคอนดานั้นจับตำแหน่งฝ่ายตรงข้ามจากอุณหภูมิและการเคลื่อนไหว มิเช่นนั้นมันจะหาฝ่ายตรงข้ามได้ยากมาก
ใบหน้าหลงเหยียนเต็มไปด้วยเหงื่อ ครั้งนี้เขาใไม่น้อย อนาคอนดาพบหลงเหยียนแล้ว มันอ้าปากที่คล้ายหลุมดำออก อยากกลืนหลงเหยียนเข้าไปทั้งตัว
“ไม่นะ ไม่... อนาคอนดามีพลังอย่างน้อยระดับทองคำขั้นที่หก เสี่ยวหลิง ครั้งนี้ข้าคงต้องตายเพราะเ้าแล้ว”
“นี่ เ้าอยากกินคนมากไม่ใช่เหรอ งั้นก็มากินข้าเลยสิ” หลงหลิงที่อยู่ข้างๆ ะโไปทางอนาคอนดา โบกมือเรียกไม่หยุด
วินาทีนี้ หลงเหยียนซาบซึ้งจนน้ำตาไหลพราก
“เสี่ยวหลิง...”
เพื่อล่ออนาคอนดา หลงหลิงยอมเสียสละเพื่อช่วยชีวิตตน มันเป็ความมุ่งมั่นที่แกร่งกล้าเพียงใด นางถึงได้ตัดสินใจทำเช่นนั้น
“ไอ้เดรัจฉาน เ้าจะทำร้ายนางไม่ได้” จู่ๆ หลงเหยียนก็ะเิโมโหขึ้นมาทันที
พลังปราณรวบรวมไว้ที่ฝ่ามือ โครม... การโจมตีที่ร้ายกาจปรากฏ
“หมัดลงทัณฑ์!”
“ต่อให้ข้าไม่้าสิ่งใดเลย แต่ข้าก็ไม่ปล่อยให้เ้าทำร้ายเสี่ยวหลิงหรอก” ครั้งนี้หลงเหยียนไม่สนความเป็ความตายของชีวิตตน แล้วพุ่งเข้าไปโจมตีอนาคอนดา
หลงเหยียนที่ะเิโมโหใช้หมัดลงทัณฑ์ที่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้สูงสุด แต่... หลังจากเหวี่ยงหมัดลงบนตัวอนาคอนดาแล้ว ร่างหลงเหยียนกลับถูกกระแทกลอยกลับไป ร่างกายอนาคอนดาแข็งแรงจนเหนือความคาดหมาย
เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง
“พรวด!” เืสาดกระเด็นออกมาจากกลางอก เืพุ่งออกมาคล้ายน้ำพุ
กลิ่นคาวเืทำให้อนาคอนดาบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม สายตาของอนาคอนดาวกกลับมาที่ตัวหลงเหยียนอีกครั้ง
หลงหลิงแทบร้องไห้แล้วด้วยซ้ำ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อนางก็อับจนหนทางเช่นกัน
รวบรวมพลังปราณ ก้อนหินที่อยู่ภายในกายเปล่งแสงที่เจิดจ้า...
“อ๊าก!” หลงเหยียนะเิเสียงคำรามอีกครั้ง...
เงาแปลงกายกลายเป็ัเขียวร่างใหญ่ ทำให้อนาคอนดาสะดุ้งเฮือก ทว่าไม่ได้ถอยหนี
ครั้งนี้ เกรงว่าพวกเขาจบเห่แล้วจริงๆ
หลงเหยียนจ้องไปยังหลงหลิง นี่เป็ครั้งแรกที่เขาหลั่งน้ำตาต่อหน้าหญิงสาว “ขอบคุณที่เ้าเข้ามาในชีวิตข้า หลายวันที่เราอยู่ร่วมกันมา ทำให้ข้ารู้ว่าเ้าเป็สตรีที่ควรค่าแก่การคบหา เ้ารีบหนีไปเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า ข้าไม่มีความหวังที่จะรอดพ้นจากน้ำมือมันแล้ว”
ครั้งนี้อนาคอนดาจ้องไปที่เขา ร่างกายของมันเริ่มออกแรงรัดตัวหลงเหยียน ร่างกายถูกบีบรัดไว้ด้วยกัน หากไม่ใช่เพราะหลงเหยียนเคยฝึกวิชากายสุริยะมาก่อน เกรงว่าตอนนี้ร่างกายคงะเิแหลกสลายไปแล้ว
เสียงคำรามถูกเปล่งออกมาจากความไม่ยอมพ่ายแพ้ดังก้องไปทั่วฟ้า
“ข้าไม่ยอม ข้าไม่ยอม ท่านพ่อ ท่านปู่ ท่านแม่ ลูกมาหาท่านแล้ว...”
--------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้