ซ่อนรักปถวี (The Element Love)
ตอนที่ 12- เก็บมันซะ!
(ฟาส)
ฉันอยากจะะโถีบขาคู่นายแผ่นดินจริง ๆ หน้านิ่ง ๆ แต่ชอบหลอกด่าและกวนประสาทของฉัน
"เชิญทางนี้ค่ะ"
เสียงของคุณป้าที่ยืนข้าง ๆ ท้วงขึ้น ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันไปยิ้มสวยให้ท่าน
"ค่ะ"
คุณป้าแม่บ้านเดินนำหน้า ส่วนฉันที่เดินตามหลังท่าน ก็มองรอบบ้านหลังใหญ่นี้อย่างสนใจ คือแบบว่ามันอลังวังเว่อมากค่ะ มันใหญ่โตและดูหรูหรา คงบ้านฉันสี่หลังถึงจะเท่าที่นี่ ไปทำอะไรมานะถึงรวยล้นฟ้าได้ขนาดนี้นะ...ถ้าปล่อยให้ฉันเดินมาคนเดียวมีหวังหาทางออกไม่เจอหรอก
"ป้าคะ ทำไมถึงมาอยู่โดด ๆ หลังเดียว...แบบนี้ไม่เหงาแย่เหรอ"
ความเงียบที่ทำให้ฉันอยากรู้ ต้องถามขึ้นอย่างสงสัย ก็มันจริงไหมล่ะ บ้านหลังตั้งใหญ่โตมาตั้งโดดกลางป่ากลางไร่แบบนี้ คนที่อยู่ไม่เหงาหรือไง
"ไม่เหงาหรอกค่ะ คนงานเยอะแยะ แต่แค่แยกย้ายกันเข้าที่พักหมดแล้ว"
คนงานเยอะแยะ? แล้วทำไมฉันไม่เห็นวะเนี้ย ตาถั่วเหรอฉัน ก็ั้แ่มาเห็นแต่แม่บ้าน แล้วก็คนสวนไม่กี่คนเองอะ อ้อไม่สิ เหมือนมีคนที่ยืนอยู่แถวรั้วบ้านห้าหกคนแค่นั้นเอง
"ทำไมฟาสไม่เห็นละคะ ไม่เห็นสักคนเลยนะเห็นแค่คนที่อยู่รอบบ้าน" ฉันสงสัยเลยถามตามสิ่งเห็น
"มันเลยเวลางานน่ะค่ะ คุณเลยไม่เห็น ถึงแล้วค่ะเชิญพักตามสบายนะคะ เดี๋ยวสักพักป้าจะยกของว่างมาให้" คุณป้าแม่บ้านยิ้มให้พร้อมเปิดประตูห้อง ฉันยิ้มรับจึงเดินเข้าไปด้านใน
ห้องที่เข้ามามันหรูหรามากจริง ๆ คือแบบอลังการมาก ฉันเดินวนแล้วสำรวจรอบห้อง ของใช้ทุกอย่างก็เหมือนจะนำเข้าซะด้วย รวยได้รวยดีจริง ๆ
ความอยากรู้ทำให้ฉันไม่อยู่นิ่ง สายตาอันปราดเปรื่องของฉันก็มองเห็นประตูบานหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจให้ฉัน ไม่รีรอซิคะฉันเดินเข้าไปทันที แล้วบิดลูกบิดผลักประตูออกไป
"ทางเดินไปไหนนะ ทำไมบ้านหลังนี้ดูซับซ้อนจัง"
ฉันค่อย ๆ ก้าวขาเดินออกจากห้อง ไปตามทางเดินที่ไม่ได้กว้างเหมือนกับด้านหน้าที่เดินมา ผนังสองฝั่งถูกตกแต่งด้วยภาพอะไรก็ไม่รู้ ภาพที่ไม่เห็นภาพ แต่เป็การเล่นสีที่ฉันมองแล้วมันดูมีพลัง และมันน่ากลัวในสายตาของฉัน สีแดงปนดำและน้ำตาล พออยู่บนกระดาษวาด แล้วผสมสีกันมันดูลึกลับชอบกล
"น่ากลัวจัง"
ฉันที่รู้สึกขนลุกลูบแขนของตัวเองทั้งสองข้าง พร้อมกับที่ยังก้าวขาเดินไปตามทางเรื่อย ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ไหน ฉันควรเดินกลับไปที่เดิมไหมนะ หรือว่าจะเดินหน้าไปต่อ แต่ระหว่างรอของว่างจากคุณป้าแม่บ้าน ถือว่าฉันมาเดินเล่นแล้วกัน
"เอ๊ะ!! มีประตูอีกเหรอ?"
ฉันสงสัยเมื่อสายตามองเห็นประตูอีกบานที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ ห่างจากห้องที่ฉันเดินมาก็ไกลพอสมควร ฉันเดินย่องเบา ๆ เข้าไป ทำไมฉันทำตัวเหมือนโจรเลยนะ!
("มันยังคงลอยนวลอยู่")
กึก! เสียงการพูดคุยทำให้ฉันที่กำลังย่องเหมือนโจร หยุดยืนนิ่งทันที
"เสียงมาจากด้านในเหรอ?" ฉันบ่นในใจ ขมวดคิ้วสงสัยกับสิ่งที่ได้ยิน
"แล้วเสียงของใครกัน" ฉันค่อย ๆ เอาหูแนบกับผนัง ไม่ค่อยอยากเผือกเท่าไหร่เลยฉัน
("แล้วของที่จะส่งคืนนี้ว่าไง คนของฉันพร้อมแล้วนะ")
(("จัดการเลย"))
"แผ่นดิน?"
เสียงที่สองที่ฉันได้ยิน รับรู้ได้ทันทีว่าใครเป็เ้าของเสียง แม้จะไม่ค่อยมั่นใจ แต่ฉันว่าใช่เพราะฉันจำเสียงของเขาได้แม่น
("แล้วไอ้คนที่มันคาบข่าวไปบอกฝั่งนั้น")
(("เก็บมันซะ!!"))
เฮือก!!
"กะ เก็บ ที่หมายถึงฆ่าอะเหรอ"
ฉันถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินคำสั่งนี้ ที่ฟังแล้วหนักแน่นจริงจัง ฉันที่ได้ฟังแทบก้าวขาไม่ออก อยากจะเดินกลับไปห้องเดิม แต่แรงขาก็เหมือนจะไม่มี
"สะ สะ เสียงของแผ่นดิน...แต่ไม่ใช่หรอก ต้องไม่ใช่สิ แผ่นดินที่ฉันรู้จักเขาแค่เ็าเฉย ๆ ไม่ ไม่ ไม่ใช่ดิน ไม่แน่แน่ ๆ ฉันแค่หูฝาด แกแค่หูฝาดฟาส"
ฉันยืนบ่นเบา ๆ มือกำคอเสื้อแน่น สิ่งที่ได้ยินมันทำฉันแทบหายใจไม่ออก ฉันพยายามย้ำกับตัวเองว่าเสียงนั้นเป็เสียงของคนอื่น แผ่นดินไม่มีทางสั่งฆ่าใครง่าย ๆ แผ่นดินเป็คนเ็าแต่ใจดี
กึก!! ปึก!!
"งามไส้!" ความลุกลี้ลุกลนทำให้ฉันที่หันไม่มองหลัง ชนเข้ากับกรอบรู้ที่ห้อยอยู่ผนัง จนมันกระแทกเข้าเกิดเสียงดัง ฉันรีบกรอบรูปนั้นไว้แทบไม่ทัน ก่อนจะค่อย ๆ ดันมันขึ้นแล้วห้อยไว้ตามเดิม
*มีหมา! ไปลากคอมันมา!*
เฮือก!!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้