“แกร๊งๆๆ” เสียงของดาบปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงร้องอันเ็ปสองเสียงติดกัน!
เสียงร้องเตือนอย่างทันท่วงทีของคุณชายเจ็ดตระกูลเจิ้ง บวกกับเสียงคำรามจากวิชาพยัคฆ์สามคำรามของเซียวหลิงอวิ๋น ทำให้ทั้งคู่มีเวลาตอบสนองทันเวลา!
แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองคนถือได้ว่าเป็นักยุทธ์ที่เก่งกาจที่สุดในบรรดานักยุทธ์กลุ่มนี้!
แต่ด้วยดาบใหญ่ที่รวดเร็วดุจสายลม และพลังดุจขุนเขา ก็ยังทำให้อีกฝ่ายที่อยู่ในหมอกทึบต้องรู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี!
หลิ่วอวิ๋นเทาใช้ดาบคมกริบบังคับให้เซียวหลิงอวิ๋นต้องถอยกลับ ในขณะเจี่ยงอิงก็ใช้แส้ในมือเป็ดั่งงูที่พุ่งออกมาเป็วงซ้อนวง ขัดขวางไม่ให้เซียวหลิงอวิ๋นเข้ามาใกล้ได้! แล้วทั้งสองคนก็ะโเสียงดัง!
เจิ้งอวิ๋นเผิงที่อยู่อีกฝั่งนี้ก็เคลื่อนที่อย่างว่องไว หลบหนีจากแสงสีทองที่ชิวเทียนฉี่ปล่อยออกมา ได้ยินเสียงะโของเจี่ยงอิงกับเสียงแส้ที่แหวกผ่านอากาศดังเข้ามาในหู จึงรีบะโเสียงดังใส่ชิวเทียนฉี่ “เ้าเสือชิว บอกหลานชายของเ้าให้หยุดเดี๋ยวนี้ หนึ่งในสองคนนั้นมีหลานชายของข้าอยู่ด้วย!”
“เ้าเจ็ด ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเ้าแย่งูเาไฟในปกครองของคนอื่นไป เหตุใดเ้าไม่นึกถึงความปลอดภัยของญาติตัวเองบ้างเล่า ตอนนี้พอดาบมาจ่อถึงคอแล้วถึงได้รู้จักกลัว รู้จักเจ็บอย่างนั้นหรือ?”
“อ๊าก!” เสียงร้องดังขึ้นมาอีกครั้ง!
เจิ้งอวิ๋นเผิงร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิม จึงะโเสียงดังกลับไป “เจี่ยงอิงเป็ลูกชายคนเดียวของอวิ๋นเยี่ยน พี่หญิงสามของข้าที่เสียไปแล้ว!”
ลูกชายที่อวิ๋นเยี่ยนตั้งท้องอย่างนั้นหรือ?
ชิวเทียนฉี่นึกถึงภาพของสาวงามคนหนึ่งขึ้นมาในหัว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สองชั่วอึดใจก็ะโเสียงดัง “หลิงอวิ๋น อย่าเพิ่งฆ่าพวกเขา!”
เซียวหลิงอวิ๋นหลบแส้ที่เข้ามานัวเนียอย่างว่องไวและพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ดาบใหญ่เหล็กดำในมือของเขากำลังจะฟันลงไปที่เอวของชายวัยกลางคน เมื่อได้ยินดังนั้น มือของเขาก็หดกลับอย่างรวดเร็ว “ฟุ่บ” ปลายดาบกรีดผ่านเอวของหลิ่วอวิ๋นเทาไปเพียงเฉียด ทำให้เกิดรอยเืสีแดงสดปรากฏขึ้น เขาใช้ก้าวลวงิญญาถอยกลับออกมาอย่างรวดเร็ว หายไปในหมอกก่อนที่แส้ของเจี่ยงอิงจะติดตามมาทัน
ชั่วพริบตาต่อมา เซียวหลิงอวิ๋นปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ชิวเทียนฉี่ มองไปที่เจิ้งอวิ๋นเผิงซึ่งอยู่ห่างออกไปสิบหมี่อย่างเย็นะเื “เห็นแก่หน้าท่านอาชิว ข้าจะไว้ชีวิตพวกเขาชั่วคราว ให้เวลาหนึ่งร้อยชั่วอึดใจ ท่านจะนำอะไรมาแลกกับชีวิตของทั้งสองคนนั้น”
“เ้าหนุ่ม ความคิดฆ่าฟันของเ้าที่มากเกินไปไม่ส่งผลดีต่อการเติบโตของเ้านะ” เจิ้งอวิ๋นเผิงจับจ้องไปที่เซียวหลิงอวิ๋น แล้วก็ต้องใอย่างมาก เด็กคนนี้มีพลังยุทธ์แค่เพียงนักยุทธ์ระดับหก แต่เ้าเด็กครึ่งอายุของเขาคนนี้กลับใช้หมอกหนาสังหารนักยุทธ์ระดับเก้าจนดับอนาถได้!
ตัวเขาเองวิ่งไปหาผู้าเ็ทั้งสอง! แล้วสายตาก็เหลือบมองไปที่ร่างกายของทั้งสองคน แล้วก็ต้องใอีกครั้ง โชคดี โชคยังดีจริงๆ ที่เราเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเจี่ยงอิงออกไปได้ทันการณ์ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีโอกาสได้ต่อรองอะไรกันทั้งนั้นแล้ว!
“ท่านอาเจ็ด!” เจี่ยงอิงที่กำลังระแวดระวังอย่างเต็มที่ เมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามาใกล้ก็กำลังจะเหวี่ยงแส้ในมือออกไป แต่พออีกฝ่ายมาถึงตัว ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้น!
“คุณชายเจ็ด!” คนข้างๆ มีาแที่ได้รับจากดาบหลายแห่ง ใบหน้าสั่นเล็กน้อยเพราะอาการาเ็ แต่ก็ไม่กล้าคลายความระแวดระวังแม้แต่น้อย แม้แต่การรักษาาแตัวเองยังไม่กล้าทำเลย ซึ่งเมื่อหลิ่วอวิ๋นเทาเห็นผู้มาเยือนก็อดใจชื้นขึ้นมาไม่ได้ รีบร้องเรียกออกไป!
“รีบรักษาาแก่อนเถอะ!” เจิ้งอวิ๋นเผิงก็ไม่พูดอะไรมาก หยิบยาสมานแผลชั้นดีส่งให้เจี่ยงอิงทันที!
“คุณชายเจ็ด คนร้ายอาศัยหมอกนี้เข้าทำร้ายคนของเราอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เพิ่งจะล่าถอยไป คุณชายเจ็ดต้องจับคนร้ายมาให้ได้นะ!” หลิ่วอวิ๋นเทาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน! เขาชิงชังเ้าคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในหมอกนี้มาก!
“ตอนนี้ปลอดภัยชั่วคราวแล้ว พวกเ้ารักษาาแให้เรียบร้อยก่อนเถอะ!” เจิ้งอวิ๋นเผิงหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ จับคนร้ายงั้นหรือ? คนร้ายเห็นแก่หน้าเ้าเสือของตระกูลชิวถึงได้หยุดมือด้วยซ้ำ แล้วเ้าเสือของตระกูลชิวก็อยู่ที่นี่ด้วย ต่อให้ข้ากับหลิ่วิของตระกูลหลิ่วร่วมมือกันก็ยังไม่ใช่คู่มือของเ้าเสือนั่นเลย! จะให้จับคนร้ายได้อย่างไร!
“พวกเ้าสองคนรออยู่ที่นี่อย่าไปไหนล่ะ”
...
ห่างจากพวกเจี่ยงอิงประมาณยี่สิบหมี่!
เจิ้งอวิ๋นเผิงนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามเซียวหลิงอวิ๋นกับชิวเทียนฉี่โดยรักษาระยะห่างออกไปสามหมี่! ไม่ได้หันหน้ามามองเซียวหลิงอวิ๋น แต่หันไปทางชิวเทียนฉี่ แล้วหัวเราะอย่างขมขื่น “เ้าเสือ พวกเราสองพี่น้องรู้จักกันมาเกือบสามสิบปีแล้ว! ขอถามหน่อยเถอะว่าทำไมเ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้? พวกเ้าสำนักิญญาเมฆาคงไม่ได้หมายตาูเาไฟลูกนี้หรอกใช่หรือไม่?”
ในฐานะที่เป็นักยุทธ์ระดับหก พลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งของเซียวหลิงอวิ๋นนั้นทำให้เจิ้งอวิ๋นเผิงประหลาดใจและใมากก็จริงอยู่ แต่ในใจเขา ทั้งสองมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งอย่างสำนักิญญาเมฆาอยู่ และชิวเทียนฉี่เองก็มีทั้งอายุและพลังยุทธ์ที่เหนือกว่า!
คาดไม่ถึงว่าชิวเทียนฉี่จะหัวเราะตอบกลับมา “พวกเราสำนักิญญาเมฆาไม่ได้เหมือนอย่างพวกเ้า ทำเื่ต่ำช้าเช่นการแย่งชิงูเาไฟิญญาในปกครองของคนอื่นไปหรอกนะ ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของผู้าุโสูงสุดทั้งสองของสำนักเรา ให้มาคอยคุ้มครองหลิงอวิ๋นกลับบ้านสกุลเซียว เพื่อจัดการกับปัญหาที่พวกเ้าก่อเอาไว้ ไม่ต้องมามองข้า ข้าไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจเื่นี้ สิ่งที่เ้าต้องทำคือการทำให้ท่านอาจารยน้อยคนนี้หายโกรธต่างหาก ขอเพียงหลิงอวิ๋นไม่เอาเื่ ก็ถือว่าจบเื่แล้ว!”
คำสั่งของผู้าุโสูงสุดทั้งสอง! ผู้าุโสูงสุดที่ชิวเทียนฉี่พูดถึงก็คือผู้าุโสูงสุดของสำนักหลัก นั่นคือผู้าุโที่มีผู้ให้ความเคารพนับถือมากที่สุดในสำนักิญญาเมฆามิใช่หรอกหรือ? แล้วไหนจะคำที่ชิวเทียนฉี่เรียกเ้าหนุ่มคนนี้ว่าท่านอาจารย์น้อยอีก!
ได้รับการยอมรับจากผู้าุโสูงสุดของสำนักทั้งสองคน และยังทำให้เ้าเสือจอมเย่อหยิ่งอย่างชิวเทียนฉี่เรียกว่าท่านอาจารย์น้อยได้ เ้าเด็กหนุ่มคนนี้เป็ใครกันแน่? มีภูมิหลังใหญ่โตเกินไปแล้ว!
เทียบกับเซียวหลิงอวิ๋นแล้ว เด็กหนุ่มกับเด็กสาวในตระกูลเจิ้งกับหลิ่วของเราที่ถูกเรียกว่าสุดยอดอัจฉริยะในสำนักอำนาจ์ ไม่ต่างอะไรไปจากนกกระจอกเผชิญหน้าหงส์เพลิงเลย!
นี่ต่างหากคือสุดยอดอัจฉริยะอย่างที่แท้จริง!
เจิ้งอวิ๋นเผิงรู้สึกตกตะลึงกับเื่ของผู้าุโสูงสุดกับท่านอาจารย์น้อยจนทำอะไรไม่ถูก หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เ0จิ้งอวิ๋นเผิงที่หัวใจขมขื่นก็หันไปหาเซียวหลิงอวิ๋น รอยยิ้มประจบประแจงปรากฏบนใบหน้า!
“อะแฮ่ม น้องชายมีความสัมพันธ์กับตระกูลเซียวอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าชื่อเซียวหลิงอวิ๋น เซียวเซิ่งหู่ที่พวกเ้าทำร้ายจนาเ็สาหัสเมื่อครึ่งเดือนก่อนคือท่านพ่อของข้า เซียวว่านจุนก็คือท่านปู่ของข้าเอง! เ้าว่าตระกูลเซียวมีความสัมพันธ์กับข้าหรือไม่เล่า?”
หลังจากที่เซียวหลิงอวิ๋นพูดเช่นนี้ เจิ้งอวิ๋นเผิงก็รู้สึกใจหายวาบ ร่างกายเย็นวาบไปครึ่งตัวเลยทีเดียว!
“ที่แท้ก็เป็นายน้อยหลิงอวิ๋นนี่เอง พี่เซิงหู่พ่อของท่าน เอ่อ... มีนิสัยใจคอหยิ่งผยองไปสักหน่อย ว่าด้วยเื่ของูเาจิงหั่วหลิงซานแห่งนี้ แต่เดิมทุกคนก็มีความเห็นไม่ลงรอยกันบ้างอยู่แล้ว บวกกับผู้าุโสามของตระกูลหลิ่วเองก็มีนิสัยใจร้อนเช่นกัน ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มต่อสู้กันและพลาดไปทำร้ายพี่เซิงหู่จนได้รับาเ็เข้า เื่นี้ตระกูลเจิ้งของเรา...”
เซียวหลิงอวิ๋นี้เีฟังเขาพูดไร้สาระ ขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่เย็นะเื “ผู้าุโสามจากจวนหลิ่วโหวสินะ”
“ใช่ๆๆ ว่าที่ท่านโหวคนต่อไปของตระกูลหลิ่วก็คือคุณชายหลิ่ว หลิ่วอิงนี่แหละ!”
“หลิงอวิ๋น หลิ่วอิงคนนี้จัดเป็คนรุ่นราวคราวเดียวกับข้า มีอายุมากกว่าข้าและเ้าเจ็ด สิบกว่าปี เมื่อสามปีก่อนได้ก้าวเข้าสู่ระดับผู้ใช้พลังิญญาระดับกลางแล้ว ได้รับการยกย่องว่าเป็อัจฉริยะที่ได้เป็ผู้ใช้พลังิญญาคนแรกของตระกูลหลิ่วในรอบเกือบร้อยปี” ชิวเทียนฉี่ที่อยู่ข้างๆ รีบแจ้งข้อมูลของหลิ่วอิงออกไปทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เซียวหลิงอวิ๋นวู่วาม!
ผู้ใช้พลังิญญาระดับกลางแล้วอย่างไร? อายุสี่สิบกว่าเกือบจะห้าสิบแล้วยังเป็แค่ผู้ใช้พลังิญญาระดับกลาง ยังกล้าเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะที่ได้เป็ผู้ใช้พลังิญญาในรอบร้อยปีได้อีกหรือ? อย่างไรก็ดี พลังยุทธ์ของเขาไม่ได้อยู่ในระดับที่ตัวเองจะสามารถรับมือได้ในเวลานี้ อีกทั้งตระกูลหลิ่วก็มีผู้ใช้พลังิญญาแล้ว ตระกูลอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของจวนเจิ้งอ๋องที่เป็หนึ่งในแปดอ๋องย่อมไม่ด้อยไปกว่าตระกูลหลิ่วอย่างแน่นอน!
เซียวหลิงอวิ๋นครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง “ตระกูลหลิ่วมีหลิ่วอิง แล้วตระกูลเจิ้งอ๋องของเ้ามีหัวหน้าเป็ใคร?”
“อะแฮ่ม เป็พี่สองของข้าเอง มีชื่อว่าเจิ้งอวิ๋นหลง เป็ผู้ใช้พลังิญญาระดับกลาง!” เจิ้งอวิ๋นเผิงรีบพูด!
คนคนนี้เป็คนฉลาดไม่เลว คอยสังเกตคำพูดและสีหน้าของอีกฝ่ายด้วย จากนั้นก็พูดออกมาหมดเปลือกราวกับเทน้ำถั่ว ไล่บอกชื่อ ฐานะ พลังยุทธ์ของผู้ที่เป็แกนนำของทั้งหกตระกูลใหญ่ บอกแม้กระทั่งจำนวนคนที่ทั้งหกตระกูลใหญ่พามาโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
สามปรมาจารย์ิญญา เก้าผู้ใช้พลังิญญา ด้วยกำลังพลเท่านี้ ไม่น่าแปลกใจที่สามารถไล่บี้ตระกูลเซียวจนเกือบตายได้ ต่อให้ได้ตระกูลว่านกับตระกูลพานเข้ามาช่วยก็ไม่สามารถต้านทานได้แน่! ประเด็นสำคัญคือตระกูลว่านกับตระกูลพานไม่กล้าที่จะเปิดศึกอย่างจริงจังด้วยซ้ำ!
“ท่านอาชิว ผู้ใช้พลังิญญาจะไม่ลงมือกับนักยุทธ์อย่างนั้นหรือ?”
“แน่นอนว่าไม่ได้ หากให้ผู้ใช้พลังิญญาลงมือกับนักยุทธ์ได้ตามใจชอบแล้ว โลกนี้จะไม่ยิ่งวุ่นวายมากไปกว่านี้อีกหรือ! ตลอดทุกยุคทุกสมัย ผู้ใช้พลังิญญาจะลงมือได้ก็ต่อเมื่อต้องรับมือหรือสังหารนักยุทธ์ผู้ชั่วร้ายสุดๆ ที่มีพลังแกร่งกล้าอย่างแท้จริงเท่านั้น”
“ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นก็ย่อมได้!”
หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยชา ข้อตกลงก็บรรลุ!
ชิวเทียนฉี่มีรอยยิ้มบนใบหน้า ในขณะที่เซียวหลิงอวิ๋นยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ส่วนเจิ้งอวิ๋นเผิงกลับมีรอยยิ้มที่ขมขื่น!
“เ้าเจ็ด เ้าจะเสียใจอะไรนักหนา! เ้าจะรู้สึกโชคดีด้วยซ้ำที่คนที่มาพร้อมกับหลิงอวิ๋นเป็ข้า แล้วเ้าก็บังเอิญมาเจอเข้าพอดีอีก หากเป็คนอื่น หรือเป็ผู้าุโจ้าว ก็คงไม่ต้องพูดถึงเื่อื่นกันแล้ว หลานชายของเ้าถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน ยังไม่ใช่แค่นั้นนะ ตระกูลเจิ้งของเ้ารวมถึงตระกูลอื่นๆ นอกเหนือจากผู้ใช้พลังิญญาแล้ว คนอื่นๆ คงไม่มีใครรอดแน่
ต่อให้เหล่าผู้ใช้พลังิญญาของพวกเ้าจะรอดชีวิตมาได้ ูเาจิงหั่วหลิงซานแห่งนี้ก็ไม่มีทางตกเป็ของพวกเ้าแน่ ในท้ายที่สุดก็จะสูญเสียทั้งยอดฝีมือและกลับมามือเปล่าอีกต่างหาก กลายเป็เื่ตลกในอาณาจักรไปเสีย
สำหรับเวลานี้ ข้อตกลงเช่นนี้ถือเป็หนทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเ้าแล้ว สูญเสียแค่นักยุทธ์ไม่สลักสำคัญไปไม่กี่คน ในขณะที่คนสำคัญๆ ไม่มีใครเป็อะไร ูเาจิงหั่วหลิงซานแห่งนี้ก็ยังได้ส่วนแบ่ง สิ่งเดียวที่ต้องทำก็คือผลักให้ตระกูลหลิ่วกลายเป็แพะ... อะแฮ่ม เป็คนผิด ข้อตกลงที่ดีเช่นนี้ ยังไม่พอใจอีกหรือไร?”
“เ้าเสือ อย่างไรเสียตระกูลหลิ่วก็เรียกได้ชื่อว่าเป็พวกพ้องของพวกเราอยู่ หากพวกเราทิ้งพวกเขาไป ก็จะกลายเป็ว่า...”
“พอเถอะ เ้าเจ็ด อย่าทำตัวเป็แมวร้องไห้ให้หนูอยู่เลย ถึงข้าจะไม่รู้เื่ตระกูลเจิ้งอ๋องของเ้ามากนัก แต่จะมีตระกูลใหญ่ในอาณาจักรนี้สักกี่ตระกูลกันที่สามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็พวกพ้องกันได้จริงๆ ตระกูลหลิ่วก็แค่พวกพ้องขยะเท่านั้น เมื่อมีผลประโยชน์ก็เข้าร่วม ไม่มีผลประโยชน์ก็บอกลา หากคิดจับมือกับตระกูลหลิ่วจริงๆ ก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรนอกจากปัญหาเท่านั้น หรือตระกูลเจิ้งของเ้าเต็มใจจะรับผิดแทนตระกูลหลิ่ว เพื่อชดใช้หนี้แค้นของตระกูลเซียวแทนล่ะ? หลิงอวิ๋น ฆ่าทั้งสองคนตรงนั้นได้เลย!”
“อย่าๆๆ เ้าเสือ นายน้อยหลิงอวิ๋น ข้อตกลงก็ได้ตกลงกันไปแล้วจะผิดสัญญาได้อย่างไร? ข้าก็แค่รู้สึกไม่สบายใจจึงได้พูดออกไปเช่นนั้น ขอทั้งสองอย่าได้เข้าใจความจริงใจของตระกูลเจิ้งของเราผิดไป! ขะ...ข้าจะพาตัวเจี่ยงอิงมาที่นี่ ส่วนหลิ่วอวิ๋นเทาถือว่ามีสถานะอยู่บ้างในตระกูลหลิ่ว หากนายน้อยหลิงอวิ๋นสามารถจับเป็ได้ คงจะทำให้หลิ่วอิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาได้บ้าง!”
“เมื่อท่านอาเจ็ดเรียกเด็กหนุ่มที่ใช้แส้เสร็จแล้ว ก็แจ้งข่าวให้หลิ่วิมาที่นี่ด้วย!” เซียวหลิงอวิ๋นลุกขึ้นยืน
เรียกหลิ่วิมาที่นี่ คนคนนี้คิดจะฆ่าหลิ่วิอย่างนั้นหรือ? หลิ่วิไม่ใช่พวกของหลิ่วอวิ๋นเทาที่เป็แค่นักยุทธ์ระดับเก้า แต่เป็ถึงผู้ใช้พลังิญญาระดับกลางเลยนะ! เจิ้งอวิ๋นเผิงมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋นอย่างอ้ำอึ้ง!
“มัวยืนเซ่ออะไรอยู่ รีบไปเรียกเจี่ยงอิงมาที่นี่ได้แล้ว!” ชิวเทียนฉี่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เ้าเจ็ดที่ฉลาดหลักแหลมคนนี้เมื่อเจอสัตว์ประหลาดเซียวหลิงอวิ๋นเข้าก็สติปัญญาลดลงฮวบฮาบทันที จนลืมคิดไปว่าหลิ่วิไม่ได้ฝึกวิชาประเภทขจัดจิตเสริมแกร่งิญญามา ดังนั้นภายในหมอกนี้ ตัวเขาย่อมไม่สามารถหลบเลี่ยงการลอบโจมตีของเซียวหลิงอวิ๋นได้!
