“ฮ่าฮ่า ทำได้ดีมาก เฟิงิ!”
ฟางหลิงจวินยิ้ม พอใจกับศิษย์ของตัวเองมาก
กลีบดอกไม้ที่มีสีแตกต่างกันสามกลีบ นั่นก็หมายความว่าศิษย์คนนี้ได้ท้าประลองหอคอยเลี่ยนถ่าผ่านสามด่าน เดิมท้าประลองได้สองด่านก็ถือว่าไม่ง่ายแล้ว ศิษย์คนนี้ของฟางหลิงจวินนั้นกลับสามารถใช้เวลาเพียงสั้นๆ ท้าประลองไปได้ถึงสามด่าน!
ตามหลักแล้ว ในหอคอยเลี่ยนถ่าทั้งเก้าชั้น หากสามารถท้าประลองได้สามด่านก็ถือว่าเป็ผู้มีความสามารถพร์ที่สูงมากแล้ว ที่ผ่านมาในแต่ละปีจะมีศิษย์ชั้นยอดไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถท้าประลองไปได้ถึงสามด่าน
เพราะในด่านที่สี่ของหอคอยเลี่ยนถ่านั้น หากไม่ใช่ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่ไม่มีทางสามารถผ่านไปได้ เพราะลมปราณภายในร่างกายมีไม่มากพอ ต่อให้จะมีพร์มากแค่ไหนก็ไม่มีทางผ่านด่านที่สี่ไปได้
ดังนั้น ศึกหอคอยเลี่ยนถ่าในแต่ละครั้งจึงใช้ความเร็วในการฝ่าสามด่านได้อย่างรวดเร็วมาจัดอันดับ จากนั้นถึงจะเป็ผู้กล้าที่ผ่านได้สองด่าน แต่ก็จะเป็การจัดอันดับด้วยความเร็วในการท้าประลองเช่นกัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ศิษย์ของฟางหลิงจวินก็ได้อันดับที่หนึ่งอีกแล้ว
ฟางหลิงจวินมองไปยังซ่งหยวนหยวนที่มีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด เขาส่ายหัวและพูดว่า “หยวนหยวน ครั้งนี้เ้าต้องพยายามเข้านะ ศิษย์ของข้าท้าประลองครบสามด่านได้ก่อนแล้ว หวังว่าจะได้เห็นศิษย์ของเ้าออกมาบ้างนะ ข้าจะได้ร่วมฉลองไปกับเ้าด้วย”
“เ้าหุบปากไปเลย”
ซ่งหยวนหยวนจ้องไปที่ฟางหลิงจวินด้วยสายตาไม่พอใจ ในทุกๆ ปีที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ นางรู้สึกขายหน้ามาก เพราะในแต่ละครั้งก่อนหน้านี้ ศิษย์ของนางไม่ติดอันดับหนึ่งในสิบเลยแม้แต่คนเดียว
แต่ศิษย์ของฟางหลิงจวินกลับได้อันดับหนึ่งอยู่ตลอด และในปีนี้ศิษย์ของเขาก็ผ่านสามด่านได้เร็วกว่าปีที่ผ่านมาด้วย
นั่นก็หมายความว่า ศิษย์ของฟางหลิงจวินนั้นก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา แต่ศิษย์ของนาง กลับถดถอยลงทุกปี
แล้วจะไม่ให้ซ่งหยวนหยวนโกรธได้อย่างไรกัน?
แต่ฟางหลิงจวินกลับเอาเื่นี้ขึ้นมาพูด มันเหมือนเติมน้ำมันเข้ากองไฟให้กับซ่งหยวนหยวน แต่นางก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย ทำได้แค่ต้องทนรับความอัปยศนี้ไปเท่านั้น
เห็นซ่งหยวนหยวนอดกลั้นจนหน้าแดง ผู้าุโใหญ่แต่ละคนก็รู้สึกเห็นใจ แต่ก็ไม่มีใครไปปลอบใจนาง
เหตุผลเพราะข้อแรก ซ่งหยวนหยวนเดิมก็เป็คนนิสัยแข็งกร้าวอยู่แล้ว มีทิฐิ หัวแข็ง ดื้อรั้น ผู้าุโใหญ่ที่เป็ผู้ชายก็อยากจะเข้าหา แต่ซ่งหยวนหยวนนั้นไม่สนใจเลย ส่วนผู้าุโหญิงก็มักจะอิจฉาหน้าอกทรงโตคู่นั้นของนางมาก และความสามารถของซ่งหยวนหยวนเองก็แข็งแกร่งมาก นางจึงเหมือนแม่เสือสาวที่ไม่ควรไปแหย่ ไม่มีใครกล้าไปยุ่งด้วย
ข้อที่สอง เพราะฟางหลิงจวินนั้นเคยจีบซ่งหยวนหยวนแต่ถูกนางปฏิเสธ จึงทำให้เขารู้สึกเสียหน้ามาก ดังนั้นก็เลยคอยจ้องจะเล่นงานนางอยู่ตลอดเวลา
แล้วฟางหลิงจวินก็เป็หนึ่งในผู้าุโใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุด ความสามารถสูสีกับซ่งหยวนหยวน หากพวกเขาไปปลอบใจนาง มันก็เท่ากับผิดใจกับฟางหลิงจวินไปด้วย
ที่จริงคนอื่นก็ไม่ได้โง่ ดังนั้นเื่อะไรที่ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ก็แค่รอดูซ่งหยวนหยวนกลายเป็ตัวตลกเท่านั้น
ส่วนผู้เฒ่าอูนั้นไม่ค่อยสนิทกับซ่งหยวนหยวนนัก ดังนั้น เขาเลยไม่ได้คิดจะไปช่วยนางอยู่แล้ว
ในเวลานี้เอง ประตูใหญ่ของหอคอยเลี่ยนถ่าก็มีความเคลื่อนไหวขึ้นมาอีกครั้ง มีเงาพุ่งออกมา เป็ศิษย์ขอบเขตอมฤตขั้นที่สองของท่านผู้เฒ่าอู
ท่านผู้เฒ่าอูลูบเคราและยิ้ม เขาดูอารมณ์ดีมาก ความสามารถของศิษย์เป็อย่างไรเขานั้นรู้ดี ได้อันดับที่สองมาได้ก็ไม่ง่ายแล้ว
อีกอย่าง ขอแค่ติดหนึ่งในสิบได้ ไม่ว่าจะเป็อันดับที่หนึ่งหรือสิบก็สามารถเข้าไปแช่สระเลี่ยนเหยียนได้ด้วยกันทั้งนั้น มันไม่ได้มีอะไรเสียหายเลย
ศิษย์ของผู้เฒ่าอูออกมาได้ไม่นานก็มีศิษย์อีกสองคนพุ่งออกมา และล้วนแต่เป็ศิษย์ของฟางหลิงจวินและผู้เฒ่าอู
ตอนนี้ทั้งสี่อันดับล้วนแต่เป็ศิษย์ของฟางหลิงจวินและผู้เฒ่าอูทั้งนั้น
เมื่อเห็นศิษย์เริ่มทยอยกันออกมา ซ่งหยวนหยวนก็กำหมัดแน่น เหงื่อเริ่มไหลออกมาจากฝ่ามือของนาง
นางกัดฟันแน่น ขมวดคิ้วแน่นมากเหมือนว่าแทบจะทนไม่ไหวแล้ว นางตัดสินใจแล้วว่า อีกเดี๋ยวเมื่อจบศึกหอคอยเลี่ยนถ่า นางจะหาข้ออ้างออกจากที่นี่ไปทันทีเลย เพราะอยู่นานก็ขายหน้านานขึ้น
ในเวลานี้เอง ประตูใหญ่ของหอคอยเลี่ยนถ่าก็เกิดความเคลื่อนไหว มีเงาสีแดงๆ ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน ตอนที่ซ่งหยวนหยวนเห็นเงานั้นก็ถึงกับใตาโตอย่างมาก!
เิหยูเยียน!
ถูกต้อง คนที่ห้าที่ออกมาคือเิหยูเยียน!
ถึงแม้หน้าอกของเิหยูเยียนนั้นจะยังกระเพื่อมอยู่ ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าผากมีเหงื่อไหลออกมาจำนวนมาก ริมฝีปากสีชมพูอ่อนก็มีรอยเื ลมปราณดูปั่นป่วน แต่นางก็ท้าประลองสำเร็จแล้วและมายืนอยู่ตรงนี้!
ซ่งหยวนหยวนรีบกวักมือ ดอกไม้สีขาวดอกหนึ่งที่หน้าอกของเิหยูเยียนก็ลอยออกมา มันเป็สีทอง สีเขียว และสีแดง นั่นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เิหยูเยียนนั้นท้าประลองผ่านทั้งสามด่านสำเร็จแล้ว!
ศิษย์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ทั้งสี่คนล้วนแต่เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง แต่เิหยูเยียนเป็เพียงผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุดเท่านั้น พลังฝีมือต่ำกว่าทั้งสี่คนก่อนหน้านี้อยู่หนึ่งขั้นเลย
ถึงแม้หอคอยเลี่ยนถ่าจะจัดระดับการท้าประลองตามพร์ของแต่ละคน แต่ว่าพลังลมปราณของเิหยูเยียนนั้นก็ยังไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง สามารถได้รับผลคะแนนที่ดีแบบนี้ มันเหนือคำบรรยายมากเลยทีเดียว!
เิหยูเยียนยืนอยู่ที่เดิม และพยายามทำให้หน้าอกของนางนั้นสงบลง
เมื่อครู่นางไม่ได้เสียแรงไปเท่าไร แต่ใช้พลังเวทของตนไปจนหมดสิ้น พลังจิตจึงเสียพลังไปไม่น้อย
เิหยูเยียนมองไปที่ศิษย์ขอบเขตอมฤตขั้นที่สองทั้งสี่คนที่อยู่รอบตัว ศิษย์เ่าั้ก็ยิ้มให้นางอย่างมีมารยาท แต่ท่าทีของเิหยูเยียนนั้นก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีความสะทกสะท้านใดๆ เลย
วันนี้ นางยืนอยู่ตรงนี้ สำเร็จการท้าประลองสามชั้น ได้รับอันดับที่ห้า พรุ่งนี้ พลังฝีมือของนางก็จะก้าวหน้าไปอีก และเหนือกว่าผู้กล้าพวกนี้ด้วย!
พลังเวท การสืบทอด สายเื พร์ ทุกอย่างนี้คือจุดเด่นของเิหยูเยียน
ั้แ่นี้ไปนางจะแข็งแกร่งขึ้น และที่นี่ก็เป็เพียงจุดเริ่มต้นของนางเท่านั้น สายเลี่ยนเหยียนไม่มีใครที่มีพร์เทียบเท่านางได้แน่นอน!
“ทำได้ดีมาก”
ซ่งหยวนหยวนยิ้มให้กับเิหยูเยียน นางน่าจะเดาออกให้เร็วกว่านี้ว่าเิหยูเยียนน่าจะมีผลคะแนนแบบนี้ พร์ของเด็กสาวคนนี้เหนือความคาดหมายของนางมาก
เิหยูเยียนพยักหน้าเบาๆ และยืนรออยู่ด้านข้าง ไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
ระหว่างนั้นก็มีหลายต่อหลายคนที่มองมาที่นาง แต่เิหยูเยียนกลับไม่ได้สนใจ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ไม่มีใครคู่ควรให้นางไปคบค้าสมาคมด้วยเลย
การทักทายมีแค่ทำให้เสียเวลาก็เท่านั้นเอง
หลังจากที่เิหยูเยียนปรากฏตัวอย่างน่าทึ่งแล้ว ผู้าุโใหญ่แทบทุกคนก็เริ่มรอคอยอย่างร้อนใจแล้ว
เวลาผ่านไปอีกระยะหนึ่งแล้ว ประตูใหญ่ก็มีเงาของอีกสามคนปรากฏขึ้น เมื่อรวมกับก่อนหน้านี้ เท่ากับตอนนี้ก็มีคนออกมาแล้วทั้งหมดแปดคน!
ฟางหลิงจวินมีศิษย์เข้าร่วมทั้งหมดห้าคน ตอนนี้ออกมาแล้วสี่คน ศิษย์ของผู้เฒ่าอูนั้นมีทั้งหมดสามคน ล้วนแต่เป็หนึ่งในแปดคนที่ออกมา
รวมเิหยูเยียนอีกคน ก็เป็แปดคนพอดี
ผู้าุโใหญ่ทุกคนมองไปที่หน้าประตูใหญ่ด้วยท่าทางตื่นเต้น พวกเขาหวังว่าคนต่อไปที่ออกมานั้นจะเป็ศิษย์ของตัวเอง
ดวงตาอันสวยงามของซ่งหยวนหยวนนั้นจับจ้องไปด้านหน้า ในความคิดของนาง ถึงแม้ถังเฉินกับเิหยูเยียนจะมีระยะห่างอยู่บ้าง แต่ก็น่าจะสามารถฝ่าด่านทั้งสามด่านได้สำเร็จ!
ทันใดนั้นเอง ก็มีศิษย์อีกคนปรากฏตัวขึ้น แต่ไม่ใช่ถังเฉิน เขาเป็ศิษย์ขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุดของผู้าุโใหญ่อีกคน
ตราประทับดอกไม้ลอยออกมาและมีสามสีเช่นกัน
“ไม่เลว!”
ผู้าุโใหญ่คนนั้นยิ้มอย่างดีใจ อารมณ์ดีมาก เดิมเขาคิดว่าอยากจะให้ศิษย์ของตนเองได้ฝึกแค่นั้น คิดไม่ถึงเลยว่าศิษย์ของเขาจะสามารถติดหนึ่งในสิบอันดับ แล้วเขาจะไม่ดีใจได้อย่างไรกัน?
ซ่งหยวนหยวนส่ายหน้าแล้วมองไปด้านหน้าอีกครั้ง ผ่านไปไม่ถึงสามนาที อากาศด้านหน้านั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เหมือนมีคนผ่านด่านสำเร็จแล้ว
เป็ถังเฉินหรือเปล่านะ?
ซ่งหยวนหยวนจ้องไปด้านหน้า ผู้าุโใหญ่คนอื่นอีกก็จ้องไปที่หน้าประตูใหญ่เช่นกัน หวังว่าจะเป็ศิษย์ของตัวแองที่ออกมา
โดยเฉพาะฟางหลิงจวิน ปกติแล้วศิษย์ของเขาทุกคนติดอันดับหนึ่งในสิบทั้งหมด ครั้งนี้ ศิษย์ของเขาติดอันดับแล้วสี่คน เหลืออีกหนึ่งคนก็น่าจะเป็ศิษย์ของเขา
และหลังจากนั้นก็มีเงาคนคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา เป็ใบหน้าที่ผู้าุโใหญ่ส่วนใหญ่นั้นไม่รู้จักเลย
แต่ซ่งหยวนหยวนกลับหลุดปากออกมาด้วยความตกตะลึงว่า “ิอวี่!”
ชายหนุ่มหน้าตาดีที่เสื้อผ้าขาดรุ่ย มีร่องรอยโดนกระบี่ฟัน และเืออกเต็มตัวไปหมดคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือิอวี่!
“ศิษย์ของเ้าหรือ?”
ฟางหลิงจวินหันหน้ากลับมามองิอวี่ หลังจากที่เขาเห็นสีหน้าท่าทางของซ่งหยวนหยวนถึงได้แน่ใจว่าิอวี่คือศิษย์ของนาง เมื่อครู่เขาไม่ได้สนใจอะไริอวี่เลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มที่ไม่มีใครรู้จักเลยคนนี้ กลับกลายมาเป็ม้ามืดที่ได้อันดับสิบ!
ที่จริง หากไม่ใช่เพราะิอวี่้าให้แก่นแท้แห่งเปลวเพลิงทั้งหนึ่งร้อยดวงนั้นสมบูรณ์ไม่ได้รับความเสียหาย ระดับการฆ่าสังหารของเขาก็จะเร็วกว่านี้อีก กระบี่เจ็ดมรณาเป็การสังหารด้วยพลังจิตที่แข็งแกร่งมาก หลังจากที่ิอวี่สังหาริญญานักโทษปะาทั้งหมดแล้ว ก็เก็บแก่นแท้แห่งเปลวเพลิงทั้งหนึ่งร้อยดวงไปไว้ในดวงจิตแห่งไฟทั้งหมด
ขอแค่แบ่งเวลาออกมาเผาผลาญและฝึกต่อเนื่อง ดวงจิตแห่งไฟก็จะสามารถถือกำเนิดเป็ร่างแยกของเขา ถึงเวลานั้น ความสามารถของเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก!
“ศิษย์ที่ชื่อิอวี่คนนี้ มีขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งเองอย่างนั้นหรือ?”
ในเวลานี้เอง ผู้าุโใหญ่คนหนึ่งก็พอจะมองเห็นอะไรบางอย่าง และถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
จากนั้น สายตาของทุกคนก็มองประเมินไปที่ิอวี่กันหมด พวกเขาพบว่าิอวี่เป็เพียงผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งจริงๆ !
เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
สิบอันดับแรกของศึกหอคอยเลี่ยนถ่า อย่างน้อยก็ต้องเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุด แต่ิอวี่กลับเป็แค่ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งเท่านั้นก็สามารถติดอันดับสิบได้ ความน่าทึ่งนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับเิหยูเยียนที่ติดอันดับห้าเลย
ซ่งหยวนหยวนเองก็ดูจะตะลึงไปเหมือนกัน เดิมคิดว่าวันนี้นางจะต้องขายหน้าจนไม่เหลืออะไรแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเิหยูเยียนจะสู้เพื่อนางก่อน หลังจากนั้นก็เป็ิอวี่ที่ช่วยกู้หน้าให้กับนางอีก?
ซ่งหยวนหยวนทั้งตะลึงทั้งดีใจ ความรู้สึกที่สลับซับซ้อนอยู่บนใบหน้าเดียวกัน มันเปล่งประกายออกมาหมดเหมือนกับดอกบัวที่ได้น้ำ งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ในเวลานี้เอง ที่ประตูใหญ่ของหอคอยเลี่ยนถ่าก็มีความเคลื่อนไหวขึ้นอีกครั้ง เงาของคนสวมชุดสีน้ำเงินเข้มสภาพย่ำแย่ปรากฏขึ้น เขาคือถังเฉิน
“ข้าติดอันดับหรือยัง ติดอันดับหรือเปล่า?”
ถังเฉินออกมาโดยไม่ได้สนใจอาการาเ็ใดๆ ของตนเองเลย เขามองไปรอบๆ แล้วถามขึ้นมาก่อนทันที
