เซี่ยเสี่ยวหลานเดินออกไปราวกับสายลมพัด
เฉินซีเหลียงคือคนที่รู้สึกผิดหวังเป็ที่สุด เสี่ยวหวังขับรถพาเซี่ยเสี่ยวหลานกลับไปแล้ว รถยนต์คันนั้นแล่นจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงสายลมจากท่อไอเสีย
“พอใจหรือยัง หากประธานเซี่ยถอนทุนเมื่อไร ธุรกิจของฉันก็จบกัน”
หลินเหม่ยเจวียนยิ้มเย็น “คิดว่าฉันจะถูกเธอกับนังจิ้งจอกนั่นขู่สำเร็จหรือไง!”
เหอฉงเซิงทนดูต่อไม่ไหวจึงพูดแทรกขึ้นมา “ซีเหลียง วันนี้ไปทำเื่ที่สำนักกิจการพลเรือนเถิด ชีวิตคู่ของพวกเธอคงไปต่อไม่ไหวแล้วล่ะ”
ครั้งนี้หากหลินเหม่ยเจวียนทำลายเฉินซีเหลียงไม่สำเร็จ ช้าเร็วคงทำให้เขาตายได้สักวัน สำหรับผู้ชายนั้นอาชีพการงานสำคัญเท่าชีวิต เมื่อครู่เซี่ยเสี่ยวหลานพูดถูก หลินเหม่ยเจวียนไม่รู้เื่รู้ราวก็บุกเข้ามาก่อเื่ ครั้งนี้เอาเื่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ แต่ครั้งหน้าไม่รู้จะไปหาเื่คนใหญ่คนโตที่ไหนอีกน่ะสิ
เหอฉงเซิงเป็ผู้อำนวยการโรงงาน เขารู้ดีว่าการทำธุรกิจจะต้องมีอัธยาศัยดีถึงจะร่ำรวย หากหลินเหม่ยเจวียนยังเป็ภรรยาของเฉินซีเหลียง และถ้าเฉินซีเหลียงไม่ยอมถอยให้โดยการยกบริษัทเสื้อผ้าให้กับคนตระกูลหลิน เช่นนั้นก็ควรตัดขาดกันไปเสียั้แ่ตอนนี้... เจ็บสั้นดีกว่าเจ็บยาว ครั้งนี้เหอฉงเซิงตระหนักได้แล้ว
สิ่งที่ยึดเหนี่ยวชีวิตแต่งงานของเฉินซีเหลียงเอาไว้ นอกจากลูกก็คือคำคัดค้านของคนตระกูลเฉิน
แม้เหอฉงเซิงจะไม่ได้ใช้แซ่เฉิน แต่เขาก็นับว่าเป็ลูกเขยที่คำพูดมีน้ำหนักมากที่สุดในตระกูลเฉิน ในเมื่อเหอฉงเซิงเห็นด้วยเช่นนี้ เฉินซีเหลียงก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก
วันนี้เดิมทีเขาพาเซี่ยเสี่ยวหลานมาดูความคืบหน้าของบริษัทอย่างอารมณ์ดี แต่กลับถูกหลินเหม่ยเจวียนทำลายจนหมดสิ้น
“ไป ไปเซ็นเอกสารที่สำนักกิจการพลเรือน เงินสดที่บ้านฉันจะให้เธอทั้งหมด แต่บริษัทนี้คงยกไม่ได้ เพราะมันคือหยาดเหงื่อแรงกายของฉัน”
ที่บ้านมีเงินสดอยู่เท่าไรนั้นหลินเหม่ยเจวียนไม่รู้ แม้เมื่อก่อนเธอจะคัดค้านเฉินซีเหลียงไม่ให้ทำธุรกิจ แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าการเปิดบริษัทเพื่อทำธุรกิจต่างหากที่มีมูลค่ามากที่สุด อย่างไรก็ตามคนตระกูลหลินกลับ้าเป็ผู้ควบคุมการเงินของบริษัท และอยากไล่เฉินซีเหลียงไปทำงานที่อื่น ทว่าถึงตระกูลหลินจะได้บริษัทไปก็ไม่รู้ว่าจะบริหารกิจการอย่างไรน่ะสิ
ก่อนหน้านี้เวลาเฉินซีเหลียงทะเลาะกับหลินเหม่ยเจวียนเมื่อไร หลินเหม่ยเจวียนมักจะคิดว่าตนมีลูกชายอยู่ในกำมือจึงไม่รู้สึกเกรงกลัวเฉินซีเหลียงแม้แต่น้อย
ทว่าพอเฉินซีเหลียงพูดคำว่า ‘หย่า’ ออกมาในตอนนี้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลินเหม่ยเจวียนกลับเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
เธอใช้ลูกชายมาข่มขู่เขา มาจับชู้ถึงที่ แน่นอนว่าทั้งหมดนี้คือวิธีบีบบังคับเฉินซีเหลียง แต่จะให้หย่าร้างกันจริงๆ นั้น หลินเหม่ยเจวียนไม่ใช่คนโง่
เฉินซีเหลียงหาเงินได้เป็จำนวนหมื่นกว่าหยวนต่อปี เธอถึงได้มีทองใส่เช่นนี้ การหย่าร้างทำให้เสียชื่อเสียง และเธอคงหาสามีที่รวยกว่าเฉินซีเหลียงไม่ได้อีกแล้วน่ะสิ
นี่ก็คือสาเหตุที่หลินเหม่ยเจวียนตื่นตระหนก
อยากพูดอ้อนวอนขอให้เฉินซีเหลียงยกโทษให้ แต่ก็ทำตัวกร่างเสียจนเป็นิสัย อีกทั้งยังอยู่ต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้จะเอ่ยปากได้อย่างไร
เฉินซีเหลียงอาศัยจังหวะที่พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายยังไม่ถูกลากเข้ามาเกี่ยว โดยเขาให้พี่เขยอย่างเหอฉงเซิงเป็พยาน ก่อนจะลากหลินเหม่ยเจวียนไปสำนักกิจการพลเรือนด้วยกัน ให้ตายอย่างไรหลินเหม่ยเจวียนก็ไม่ยอมหย่า ข้าราชการที่สำนักกิจการพลเรือนจึงช่วยไกล่เกลี่ยให้
เฉินซีเหลียงบอกว่าหากตกลงหย่าตอนนี้จะให้เงินสดจำนวนแปดหมื่นหยวน
น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนกลอกตาไปมาเล็กน้อย “แสนหนึ่ง ถ้าได้แสนหนึ่งผมจะบอกให้พี่สาวยอมเซ็นเอกสารนี้!”
เ้าหน้าที่ได้ยินแล้วสูดหายใจเฮือกใหญ่ เขารู้ว่านักธุรกิจบางคนร่ำรวยมากเหลือเกิน แต่จำเป็ต้องอวดรวยกันขนาดนี้เลยหรือ? เงินหนึ่งแสน หากอิงจากฐานเงินเดือนของเขาตอนนี้คงต้องใช้เวลาเก็บเงินไปอีกหลายสิบปี
เ้าหน้าที่เลิกประนีประนอมทันที เื่นี้เขาคงช่วยอะไรไม่ได้อีกต่อไป เพราะถ้าช่วยไกล่เกลี่ยให้ไม่หย่าร้าง ฝ่ายหญิงก็คงอดได้เงินแสนหนึ่ง ซึ่งเขาอาจจะซวยไปด้วย
ให้เฉินซีเหลียงเอาเงินสดมาให้แปดหมื่นเขายังพอกัดฟันยอมยกให้ได้ แต่แสนหนึ่งนี่มัน… แต่เมื่อเห็นหลินเหม่ยเจวียนไม่โต้แย้งสักคำ เฉินซีเหลียงก็ต้องยอมกัดฟันตอบตกลง
“แสนหนึ่ง ลูกชายเป็ของฉัน!”
หลินเหม่ยเจวียนกรีดร้องออกมาทันที “ลูกเป็ของฉัน เธอเล่นชู้กับคนอื่น เธอไม่มีสิทธิมาพรากลูกไปจากฉัน!”
น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนเองก็ไม่ตกลง เขาวางแผนไว้แล้ว หากเลี้ยงหลานชายไว้ที่ตระกูลหลิน อนาคตตระกูลหลินยังสามารถขอเงินพี่เขยคนนี้ได้อีก
เฉินซีเหลียงเดือดจัด และเลิกแย่งลูกชายกับเธอ ไม่เอาก็ไม่เป็ไร อนาคตเขาแต่งงานใหม่แล้วจะมีลูกเพิ่มอีกกี่คนก็ย่อมได้! ถุยๆๆ เขาพูดผิด แต่งงานแล้ววุ่นวายขนาดนี้ ทำไมเขาต้องหาเื่ใส่ตัวอีกครั้งกัน?
น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนลากพี่สาวไปกระซิบกระซาบอีกทาง ไม่รู้ว่าเขาเกลี้ยกล่อมพี่สาวอย่างไร หลินเหม่ยเจวียนจึงยอมหย่า แต่เธอจำเป็ต้องเห็นเงินก่อนถึงจะยอมเซ็นชื่อ เหอฉงเซิงจึงสั่งให้พนักงานบัญชีที่โรงงานเอาเงินสดมาให้จำนวนหนึ่งแสนหยวน
ธนบัตรกองพะเนินเป็ูเาวางอยู่ตรงหน้า จากทะเบียนสมรสกลายเป็ทะเบียนหย่า หลินเหม่ยเจวียนยังคงด่ากราดไม่ยอมหยุด ในขณะที่เฉินซีเหลียงเดินทางกลับทันที เขาหย่าแบบขาดทุน นั่นทำให้เขาไม่ได้รู้สึกดีใจอย่างที่คิด แต่กลับรู้สึกโล่งอกเสียมากกว่า
เซี่ยเสี่ยวหลานนั่งดูอยู่ในรถ ตอนนี้เฉินซีเหลียงหย่าร้างแล้ว เธอปิดสมุดบัญชีในมือพลางเอ่ยถามเสี่ยวหวัง
“พี่หวัง ฉันร้ายเกินไปหรือเปล่า”
ถ้าเมื่อครู่เธอไม่ช่วยกระตุ้น เื่นี้คงกลายเป็ความเสี่ยงที่แฝงเข้ามาสู่ธุรกิจของเธอกับเฉินซีเหลียง
ถึงอย่างไรเธอก็คงไม่ถอนหุ้นจริงๆ เพราะเงินส่วนหนึ่งของโจวเฉิงและเฉินซีเหลียงถูกใช้ไปกับการลงทุน่แรกแล้ว เงินค่าเช่าและตกแต่งภายในของร้านที่ปักกิ่งและหยางเฉิงเองก็คงเอากลับคืนมาไม่ได้
เซี่ยเสี่ยวหลานร้ายหรือไม่?
เสี่ยวหวังคิดว่าไม่
นี่คือการช่วยชีวิตคนชัดๆ ช่วยชีวิตของเฉินซีเหลียง มีเมียแบบนี้เสี่ยวหวังคิดว่าถ้าเป็เขาคงอายุสั้นไปหลายปี! ผู้หญิงเวลาไร้เหตุผลช่างน่ากลัวเหลือเกิน ดูอย่างเ้านายเขาก็รู้ อดีตภรรยาของนายกทังคือคนบ้า เมียของเฉินซีเหลียง อ่อไม่สิ อดีตเมียของเฉินซีเหลียงเองก็เป็คนบ้าเช่นกัน
คนปกติไม่มีทางอยู่ร่วมกับคนบ้าเป็เวลานานได้ ถ้าไม่ฝืนทนก็คงกลายเป็บ้าไปอีกคนแน่นอน
“แต่คราวนี้เถ้าแก่เฉินเสียหายมากเลยนะครับ”
เงินหนึ่งแสนหยวน สำหรับเสี่ยวหวังแล้วเป็จำนวนเงินที่เยอะมหาศาล แม้เขาจะได้เงินเดือนประจำ แต่เมื่อเห็นทังหงเอินเองก็ใช้เงินอย่างมีแบบแผน ลูกน้องคนสนิทอย่างเขาจึงเอาเยี่ยงอย่าง
“เถ้าแก่เฉินหย่าปีนี้ขาดทุนหนึ่งแสน แต่ถ้าช้ากว่านี้อีกสองปี เขาอาจจะเสียหายเป็หลักล้าน”
ดูอย่างไรการที่เซี่ยเสี่ยวหลานทำให้เฉินซีเหลียงตัดสินใจหย่าร้าง ก็ถือเป็การช่วยลดความเสียหายให้กับเฉินซีเหลียงอยู่ดี แน่นอนว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคงปฏิเสธความเห็นแก่ตัวของตัวเองไม่ได้ เพราะเธอสนิทกับโจวเฉิง เงินจากการขายบุหรี่ของโจวเฉิงเองก็ใช่ว่าได้มาง่ายๆ คังเหว่ยบอกว่าเมื่อก่อนเวลาเดินทางไกล พวกเขาจะต้องพกปืนติดตัวไปด้วยเสมอ หากไม่ระวังอาจจะถูกโจรดักปล้นฆ่าตายไปแล้ว ธุรกิจยิ่งได้กำไรมากเท่าไร หากไม่มีเส้นสายก็เท่ากับเอาชีวิตไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายนั่นเอง
ดังนั้นในเมื่อถอนหุ้นไม่ได้ เซี่ยเสี่ยวหลานก็จะต้องหาวิธีรักษาเงินทุนของโจวเฉิงเอาไว้ให้ดีที่สุด
สุดท้ายเธอก็แหกกฎของตัวเอง ยื่นมือไปยุ่งเื่ของครอบครัวคนอื่นจนได้ โดยเฉพาะกับเฉินซีเหลียง ชีวิตแต่งงานของเฉินซีเหลียงคือตัวกำหนดโชคชะตาในอนาคตของเขา แล้วการหย่าร้างครั้งนี้จะนำพาเคราะห์ร้ายมาให้เฉินซีเหลียงจริงหรือเปล่านะ?
เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าเกิดเป็คนไม่ควรขาดศีลธรรมมากเกินไป ในเมื่อยื่นมือเข้าไปแทรกแซงชะตากรรมของเฉินซีเหลียงแล้ว อนาคตเธอคงต้องช่วยเขาอย่างเต็มที่
อนาคตเฉินซีเหลียงจะร่ำรวยเป็เศรษฐีร้อยล้าน ปัจจุบันเงินจำนวนหนึ่งแสนสามารถช่วยชีวิตเฉินซีเหลียงเอาไว้ได้ อีกทั้งเงินก้อนนี้ก็หาใช่เงินของเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าตนคือผู้ปิดทองหลังพระจริงๆ
“ฉันขาดทุนเสียด้วยซ้ำ”
เซี่ยเสี่ยวหลานพึมพำกับตัวเอง เสี่ยวหวังได้ยินก็รู้สึกงงไปหมด
ขาดทุนอะไร?
วันนี้ถูกเมียเก่าของเฉินซีเหลียงด่า เลยอารมณ์ไม่ดีจนถึงตอนนี้เลยรึ?
เสี่ยวหวังรู้สึกว่าความจริงเซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนใจกว้างมาก ไม่เคยโอ้อวดว่าตัวเองมีเส้นสาย และไม่เคยอ้างชื่อนายกทังเพื่อข่มขู่คนอื่น อุปนิสัยของเธอก็ดีมากเช่นกัน คนที่ทำให้เธอโกรธได้มีไม่มากนัก ดังนั้นหากยั่วโมโหเธอสำเร็จย่อมแสดงว่ามีสาเหตุ