การเคลื่อนไหวของหลงเซี่ยวอวี่นั้นอ่อนโยนและทรงพลัง มีความแข็งแกร่งที่ไม่อาจต้านทานได้
ไม่รู้ว่าเมื่อไร รถม้าได้เข้าสู่ป่าที่เงียบสงบ ป่านี้เป็ทางเดียวที่จะกลับไปยังจวนฉีอ๋อง
ในป่าลึกที่เงียบสงัด ดูเหมือนว่าการที่รถม้าผ่านไปจะรบกวนนกูเาที่เกาะอยู่ในพุ่มไม้ จนเกิดเสียงร้องที่ไพเราะของพวกมันดังกึกก้องอยู่ในพงไม้ที่ทอดยาวไปตามแนวป่า
แสงแดดอบอุ่นส่องผ่านช่องว่างระหว่างใบไม้และตกกระทบบนรถม้าที่แล่นช้าๆ ใต้ต้นไม้ จนแลดูคล้ายดวงดาวที่เป็ประกายระยิบระยับ
ความงดงามที่พร่างพราวสุกใสงดงาม ภายใต้ความเงียบสงบที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ มีแสงและเงาสาดส่องลงมา พร้อมด้วยรถม้าเคลื่อนไหวเชื่องช้าราวกับกำลังเดินเล่นอย่างสบายอารมณ์ แสงและเงาที่ตกกระทบเคลื่อนที่พลิ้วไหวไปอย่างช้าๆ...
ทัศนียภาพภายนอกสวยงาม ไม่ต่างจากด้านในรถม้า
ดวงตาสีเข้มราวสีหมึกของหลงเซี่ยวอวี่ จ้องมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนของตนโดยไม่กะพริบ ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่ทำให้คนหลงใหล ราวกับจะทำให้คนมึนเมาได้ในชั่วพริบตา
ใบหน้าเล็กของมู่จื่อหลิงที่อยู่ตรงหน้าแดงระเรื่อ ริมฝีปากของนางแดงอวบอิ่ม ตาสวยเป็ประกายดั่งหยดน้ำ เต็มไปด้วยเงาสะท้อนของเขา ดวงตาใสพร่ามัวด้วยความมีเสน่ห์อย่างสุดจะพรรณนา
นางเผยหน้ารับอรุณ [1] แต่นางกลับงดงามยิ่งกว่าคนที่แต่งแต้มใบหน้าจนหนาหนัก แม้ว่าบนหน้าของนางจะไม่มีการแต่งแต้ม นางก็ยังงดงาม ให้ความรู้สึกสดชื่นน่ารื่นรมย์ราวกับน้ำค้างยามเช้าและสายฝนดอกไม้ที่โปรยปราย [2] ลงมาอย่างหนัก
แก้มอมชมพู ส่งให้ใบหน้ามีเสน่ห์ของนางราวกับอยู่ท่ามกลางหมอกควันที่งดงามดั่งภาพฝัน กลิ่นกายหอมจางๆ ที่มีอยู่แต่เดิมของนางกระจายออกมา บีบคั้นหัวใจของเขา
ดวงตาที่ลึกล้ำของหลงเซี่ยวอวี่มืดมนและไร้ก้นบึ้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนจากการมัวเมาจนพร่าเบลอ...แทบมองไม่เห็นสิ่งอื่นใด เขาค่อยๆ ถักทอสายใยแห่งความรักด้วยความอ่อนโยนที่ไม่มีที่สิ้นสุด
สำหรับหลงเซี่ยวอวี่แล้ว มู่จื่อหลิงเป็ดั่งยาพิษ ยาพิษแห่งความรักที่ไม่สามารถลบล้างออกไปได้ตลอดชีวิต!
ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นั้แ่เมื่อใด ที่เขาได้รับพิษนี้ บางทีอาจเป็ั้แ่ครั้งแรกบนหลังม้าเปินเหลย หรือจะเป็ในยามที่เขาประทับตราลงบนริมฝีปากของนาง
ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นเมื่อใด ที่หัวใจแสนเยือกเย็นของเขาค่อยๆ โดนนางละลายลงทีละนิด บางทีอาจเป็ครั้งแรกยามที่เขาได้ยินนางเล่นฉินในศาลากลางน้ำอันเงียบสงบ ดูเหมือนว่าในยามนั้นเขาจะมึนเมาจากคนและเสียงดนตรี
ไม่รู้ว่าเริ่มเมื่อใด เขามักจะได้รับอิทธิพลจากนางโดยไม่ได้ตั้งใจ บางทีอาจเป็ยามที่เราพบกันครั้งแรก ที่นางนอนอยู่บนเตียงหยกเหมันต์เพียงลำพัง และร้องไห้อย่างบอกอะไรไม่ถูก จนเขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปช่วยนาง
ไม่รู้ว่าเริ่มต้นจากตรงไหน...กายและใจของเขาอยากวนเวียนอยู่รอบกายนางเพียงผู้เดียว หรือบางทีอาจจะเป็ก่อนหน้านั้นเมื่อนานมาแล้ว บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นนานแล้วโดยที่เขาไม่ทันได้รู้ตัว...
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาไม่รู้ แต่เขารู้เพียงว่า ั้แ่เขาได้รับพิษรักของมู่จื่อหลิงมา เขาก็ไม่สามารถขจัดมันได้อีกตลอดชีวิต
เขาตกลึกลงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็ผู้หญิงที่เขาหลงเซี่ยวอวี่เลือก ผู้หญิงที่เขารักที่สุด เป็ผู้หญิงที่เขาไม่มีวันปล่อยมือ
เขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้ ยกเว้นนาง
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยกลิ่นหอมอันอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากกายหญิงสาว ในยามนี้นางมีเสน่ห์มากมายเพียงไร มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ เขาจะควบคุมตัวเองได้อย่างไร? เขาจะห้ามตนเองไม่ฟุ้งซ่านได้อย่างไร?
มู่จื่อหลิงยังจ้องมองเขาโดยไม่กะพริบตา
ดวงหน้าของหลงเซี่ยวอวี่สงบนิ่ง แต่ดวงตาของเขามีอาการสั่นไหวอย่างไม่อาจอธิบายได้
อย่างไรก็ตาม ในยามนี้ระลอกคลื่นภายในหัวใจของนางถูกกระตุ้นจนสั่นไหวด้วยดวงตาอ่อนโยนของหลงเซี่ยวอวี่ คลื่นพายุปั่นป่วน ไม่สามารถสงบลงได้เป็เวลานาน
นางค่อยๆ จมลงไปใต้สายใยแห่งรักที่เขาถักทอไว้โดยไม่รู้ตัว และไม่สามารถถอนตัวออกได้อีกต่อไป...
เสียงกีบม้าที่อยู่ด้านนอกและเสียงนกร้องที่แสนไพเราะในป่า ผสานกับความอบอุ่นของทั้งสองคน ประกอบเป็การเคลื่อนไหวที่งดงามที่สุด
---------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] เผยหน้ารับอรุณ (素面朝天) เป็สำนวน มีความหมายว่า เปิดเผยตัวตนของตนอย่างที่เป็ หรือเปิดเผยความงามที่แท้จริง ส่วนมากใช้กล่าวถึงผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้า
[2] น้ำค้างยามเช้าและสายฝนดอกไม้ที่โปรยปราย (朝露花雨) เป็คำอุปมา มีความหมายว่า บางสิ่งบางอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่ามีความงดงามที่บริสุทธิ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้