หลินเมิ้งหวู่เป็เพียงคุณหนูชนชั้นสูงและถูกเลี้ยงดูมาดั่งไข่ในหินไฉนเลยจะเป็คู่ปรับกับชายาขององค์ชาย
ทุกคนล้วนรอดูอะไรสนุกๆ ดังนั้นจึงเข้ามาห้อมล้อมทั้งสองเอาไว้
“เคยได้ยินมาว่าชายารองขององค์ชายแปดเก่งกาจเหนือคนได้เห็นกับตาจริงๆ ก็วันนี้นี่แหละ”
“นั่นน่ะสิ ได้ยินมาว่าชายารองขององค์ชายแปดเป็ลูกสาวของฮู่กว๋อกง1แห่งสกุลหยาง อารมณ์ของนางมิต่างอะไรจากพระบิดาเลย!”
ฮู่กว๋อกงแห่งสกุลหยาง? หลินเมิ้งหยาเหลือบตาขึ้นมองดูสาวงามที่หลินเมิ้งหวู่พลั้งมือไปหาเื่ด้วย
สกุลหยางมีวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ร่วมกันสร้างประเทศขึ้นและมีเพียงเ้าตระกูลของสกุลหยางเท่านั้นที่ผ่านามาถึงสามรัชสมัย
ชายารองสกุลหยางผู้นี้เป็หลานสาวแท้ๆ เพียงคนเดียวของเ้าตระกูลหยางนางมีความหยิ่งยโสมาั้แ่เด็กอีกทั้งยังมีอาจารย์สอนศิลปะการป้องกันตัวมาสอนวิชาการต่อสู้ให้กับนางั้แ่เล็กแต่น้อยดังนั้นร่างกายของนางจึงค่อนข้างแข็งแรง
อีกทั้งสถานะของนางยังค่อนข้างพิเศษดังนั้นแม้แต่ไท่จื่อและฮองเฮายังต้องเกรงใจสาเหตุที่องค์ชายแปดแต่งงานกับชายารองผู้นี้อาจเพราะ้าจะรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้
เกรงว่าหลินเมิ้งหวู่จะตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว
แม้ป๋ายซ่าวจะมีฝีมือในการต่อสู้อยู่บ้างแต่นางมิอาจเทียบได้กับฝีมือของชายารองผู้นั้น
ราวกับมิได้สนใจว่าตนเองเป็ชายารองดังนั้นสายตาเกือบยี่สิบคู่จึงจับจ้องมาทางนาง
ทั้งตบตี ทั้งด่าทอ
“ยังจะปากดีกับข้าอีกหรือ พูดออกมาเดี๋ยวนี้ว่าเ้าเป็ผู้ผิด! นังแพศยา จะไม่พูดใช่หรือไม่!เช่นนั้นข้าจะตีเ้าให้ตาย!”
มิใช่ว่าหลินเมิ้งหวู่พยายามดึงดันแต่เพราะนางไม่อาจส่งเสียงให้ชัดเจนได้
เหตุเพราะใบหน้าของนางถูกตบตีจนบวมเป่ง แม้แต่ริมฝีปากก็อ้าไม่ออก
“จะตายหรือไม่เ้าคะ?”
ป๋ายซ่าวแอบกระตุกชายเสื้อหลินเมิ้งหยาแม้การได้เห็นคุณหนูรองถูกตบตีจะเป็เื่น่าสนุกแต่นางไม่อาจแสดงท่าทีผ่อนคลายได้อย่างหลินเมิ้งหยา
“กลัวอะไร? ดูนั่นมีคนมาแล้วนั่นไง”
ขณะที่พูด ขันทีผู้รับผิดชอบดูแลงานสองสามคนเดินเข้ามา
ดูสถานการณ์สุดท้ายเอ่ยโน้มน้าวให้ชายารองสกุลหยางปล่อยหลินเมิ้งหวู่ไปสักครั้ง
บางทีชายารองสกุลหยางอาจคำนวณเอาไว้ก่อนแล้ว มิเช่นนั้นขันทีคนนั้นคงไม่ปล่อยให้นางตบตีจนพอใจก่อนจะปรากฏตัวออกมาห้าม
ช่างเป็ชายารองที่ใจกล้าบ้าบิ่นเสียจริงดูท่าชีวิตขององค์ชายแปดคงไม่ต่างอะไรจากการตกนรกทั้งเป็
“งานเลี้ยงตระเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกท่านได้โปรดตามหนู่ฉายมาเถิด”
ครู่ต่อมา มีขันทีจำนวนหนึ่งเข้ามาเชิญทุกคนเข้าไป
หลินเมิ้งหยาเดินตามหลังฝูงชน นางมิได้เปิดเผยตัวตน
มีบางคนสงสัยจึงเข้ามาถามว่านางเป็ฮูหยินของสกุลไหนทว่าหลินเมิ้งหยากลับทำเพียงยิ้มและเดินผ่านไป
งานเลี้ยงจัดขึ้นที่ตำหนักหยวนซาน
หลินเมิ้งหยาได้ยินเสียงต้นไผ่ลู่ลมไกลๆ
กลิ่นหอมของอาหารรสเลิศและเหล้าชั้นยอดโชยออกมาสายลมเย็นยามค่ำคืนอาบชโลมร่างจนผู้มาร่วมงานรู้สึกเมามาย
ฮูหยินและคุณหนูทุกคนล้วนเข้าไปนั่งยังตำแหน่งของตนเองมีเพียงหลินเมิ้งหยาที่ยังยืนอยู่หน้าประตูท่าทางสง่างามทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจ
“ฮูหยินท่านนี้ ไม่ทราบว่าฟู่จวินของท่านคือ?”
เป็ครั้งแรกที่เคยเห็นฮูหยินหน้าตาสวยสดงดงามแม้แต่ขันทียังรู้สึกเกรงใจ มองซ้ายมองขวามิมีฮูหยินคนไหนเลยที่จะงดงามเทียบเทียมนางได้
“ข้าคือ...”
“ท่านนี้คือชายาของข้าหลินเมิ้งหยา”
ยังไม่ทันที่หลินเมิ้งหยาจะได้พูดออกไป เสียงทุ้มต่ำพลันร้องขัดขึ้นขันทีรู้สึกราวกับถูกไฟช็อต สายตาจ้องมองพระชายาผู้งดงามตรงหน้า
นี่...นี่คือพระชายาโง่เขลาที่ถูกโจษจันกระนั้นหรือ?
“ท่านอ๋อง เหตุใดจึงมาที่นี่ได้หรือเพคะ?”
หลงเทียนอวี้สวมใส่ชุดสีขาว บนเสื้อปักดิ้นทองลายัสี่กรงเล็บเส้นผสยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นเป็มวย อีกทั้งยังประดับมงกุฎสีทองเอาไว้
ร่างกำยำสูงยาว ใบหน้าหล่อเหลาทรงเสน่ห์แม้จะอยู่ในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยเหล่าราชนิกุล แต่เขามิได้ด้อยไปกว่าใครเลย
อีกทั้งยังแย่งความโดดเด่นจากทุกคนไปอีกด้วย
เห็นหลินเมิ้งหยายืนอยู่หน้าประตูมิพูดมิจาเขาจึงละทิ้งแขกที่ต้องคอยต้อนรับแล้วเข้ามารับพระชายาผู้เลอโฉมของเขา
“ชายาอวี้เสด็จ...”
ขันทีรีบส่งเสียงร้องผ่านลำคอเสียงนี้ดึงดูดสายตาของผู้คนในงานให้หันมามองแววตาของพวกเขาล้วนเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม
ท่ามกลางสายตาของทุกคน หลงเทียนอวี้ยื่นมือเข้าไปกุมมือของหลินเมิ้งหยาและพาเดินมายังที่นั่งของทั้งคู่
พระสนมเต๋อเฟยมองดูลูกชายและลูกสะใภ้พร้อมทั้งรอยยิ้มเหล่าฮูหยินที่ตั้งหน้าตั้งตารอหัวเราะเยาะเย้ยต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
์โปรดมิใช่ว่าลูกสะใภ้ของพระสนมเต๋อเฟยเป็หญิงสาวโง่เขลาสติฟั่นเฟือนกระนั้นหรือ?เหตุใดจึงมิเหมือนตามคำเล่าลือเลยแม้แต่น้อย?
“ไท่จื่อและฮองเฮายังไม่มาหลังจากเ้าไปถวายคำนับหมู่เฟยแล้วก็กลับมานั่งที่เดิม”
หลงเทียนอวี้กระซิบเสียงเบาที่ข้างใบหูของหลินเมิ้งหยา การกระทำเล็กๆน้อยๆ นี้ทำให้ทุกคนล้วนรู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
คิดไม่ถึงเลยว่าท่านอ๋องอวี้และพระชายาอวี้จะรักใคร่ให้เกียรติกันมากถึงเพียงนี้ขณะเดียวกันการคาดเดาไร้สาระต่างๆ นานาต่างถูกตีตกไป
“ถวายคำนับหมู่เฟย ถวายคำนับเหนียงเหนียงทุกพระองค์เพคะ”
จากการถวายตัวเข้าวังคราวก่อนหลินเมิ้งหยารู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้าของพระสนมทั้งหลายบ้างแล้ว
ทว่าหลังจากที่พวกนางได้เห็นแววตาเปล่งประกายเปี่ยมไปด้วยความสุขของพระสนมเต๋อเฟยทุกคนอดไม่ได้ที่จะอิจฉาพระนางที่มีลูกชายที่ดีและลูกสะใภ้ที่น่ารัก
“อืม เ้าเหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถิด”
พระสนมเต๋อเฟยพยักหน้าลง สีหน้าแววตายิ้มแย้มแจ่มใส
ชำเลืองมองเหล่าชายาและคุณหนูทั้งหลาย
ลูกสะใภ้ของนางโดดเด่นเกินกว่าใครทั้งหมด
แม้แต่ชายาของไท่จื่อเองก็มิอาจเทียบได้กับลูกสะใภ้ของตนเองมิรู้ว่าอีกเดี๋ยวฮองเฮาจะกระอักเืขนาดไหน
หลินเมิ้งหยากลับไปยังตำแหน่งที่นั่งของตนเอง ทว่าหลงเทียนอวี้เดินอาดๆเข้ามา คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น
“ท่านอ๋อง?เป็อะไรหรือเพคะ?”
หลินเมิ้งหยากระซิบถาม
“เมื่อครู่ข้าเพิ่งได้รับข่าวมาว่าฮ่องเต้ิ้าคัดเลือกชายาให้กับองค์ชายฮองเฮาได้แอบวางแผนส่งรูปไปให้ล่วงหน้า ได้ข่าวมาว่าฮ่องเต้ิพึงพอใจเป็อย่างมากและกำลังตระเตรียมการที่จะสานสัมพันธ์กับต้าจิ้น”
หลินเมิ้งหยาเลิกคิ้ว ย่อยข้อมูลที่ตนเองเพิ่งจะได้รับ
ทำการสานสัมพันธ์ปรองดองกันในเวลานี้เกรงว่าที่ทำไปคงเพื่อวางรากฐานที่มั่นคงให้กับไท่จื่อสินะ
“ใครคือผู้ถูกเลือกหรือเพคะ? มีความเป็ไปได้หรือไม่?”
หากฮองเฮาทำสำเร็จ เกรงว่าจะมิต่างอะไรจากการฝากเนื้อไว้กับเสือ
ฮ่องเต้ิแห่งซีฟานจะยอมให้ถูกหลอกเช่นนั้นหรือ?
“หลินเมิ้งหวู่”
หลงเทียนอวี้เป็กังวลเล็กน้อย แม้เขาจะแต่งงานกับหลินเมิ้งหยาแต่อำนาจของสกุลหลินมิได้อยู่ในมือของเขาทั้งหมด
หลินเมิ้งหวู่เป็ลูกสาวของหลินมู่จือไม่ว่าอย่างไรก็ต้องได้รับการดูแล
ทว่าแม้เขาจะพูดเช่นนี้ออกมา ทว่าชายาของเขากลับไร้ซึ่งท่าทีร้อนใจแต่นางกลับเผยรอยยิ้มผิดปกติออกมา
“หรือเ้าจะมีแผนการรับมือเอาไว้แล้ว?”
ไม่มีทาง แม้หลินเมิ้งหยาจะฉลาด แต่่เวลาเพียงสั้นๆนางจะมีแผนรับมือได้อย่างไร?
“รอดูก่อนเถิดเพคะหลินเมิ้งหวู่ไม่มีทางได้เป็ลูกสะใภ้ของฮ่องเต้ิอย่างแน่นอน”
หน้าถูกตบจนบวมเปล่งเหมือนหัวหมู ใครยังจะอยากได้ไปเป็ลูกสะใภ้กัน?
โชคดีที่หลินเมิ้งหยาได้เห็นเหตุการณ์ทางด้านหน้าก่อนแล้วมิเช่นนั้นนางคงได้ปวดหัวเช่นเดียวกับหลงเทียนอวี้
“เ้า...ตกลงมีแผนอะไรกันแน่?”
ไม่รู้ว่าทำไม เพียงได้เห็นรอยยิ้มเ้าเล่ห์ของหลินเมิ้งหยาหัวใจของหลงเทียนอวี้เสมือนได้รับการปลอบโยน
บางทีอาจเพราะทุกครั้งที่นางแสดงท่าทางเช่นนี้จะต้องมีคนซวยอย่างแน่นอน
หลินเมิ้งหยาทำเพียงยิ้มไม่พูดอะไร เื่พวกนี้หากพูดออกมาหมดคนฟังจะประหลาดใจได้อย่างไร?
แขกเริ่มทยอยเข้ามาในตำหนักหยวนซานมากขึ้นเรื่อยๆ
ทว่าสายตาทุกคู่ล้วนตกอยู่ที่นางทั้งสิ้น
ยิ่งได้เห็นหลงเทียนอวี้คอยคุ้มกันนางไม่ห่างแม้เพียงก้าวเดียวทุกคนยิ่งพากันประหลาดใจ
แม้ริมฝีปากจะไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดทว่าหัวใจของหลินเมิ้งหยากลับรู้สึกปีติยินดีอย่างล้นเหลือ
ตอนแรกคิดว่าหากมาร่วมงานเลี้ยงจะต้องถูกฮองเฮาและไท่จื่อทำให้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเป็แน่แต่การได้เห็นภาพตรงหน้า...ช่างคุ้มค่าเหลือเกิน
“ฮ่องเต้ิแห่งซีฟานเสด็จ...องค์ชายแห่งซีฟานเสด็จ...”
เสียงร้องประกาศขึ้นสองครั้งดึงเอาความสนใจในตัวของหลินเมิ้งหยาจากไป
หลงเทียนอวี้ลุกขึ้น เดินออกไปรับที่หน้าประตู
รูปร่างของฮ่องเต้ิสูงใหญ่ แม้ใบหน้าจะมีริ้วรอยแต่ถึงกระนั้นก็มิอาจละทิ้งความน่าเกรงขามไปได้
โบกมือทักทายอย่างเกษมสำราญ ทว่าดวงตาตู่นั้นกลับเปล่งประกายเขามิใช่คนที่จะต่อกรด้วยได้ง่ายๆ
ทว่าหลังจากที่หลินเมิ้งหยาได้เห็นชายสองคนที่เดินตามหลังนางอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง
์โปรด สองคนนั้นมิใช่...
เดินอยู่ทางซ้ายมือของฮ่องเต้ิคือชายอายุน้อยสวมใส่ชุดสีเหลืองใบหน้าหล่อเหลา
ทว่าสีหน้าเคร่งขรึมราวกับว่ามีใครบางคนติดหนี้แค้นเขาอยู่อย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มสวมชุดเสวียนยี่ที่อยู่ข้างกายเขากลับส่งยิ้มเ้าเล่ห์
หลินเมิ้งหยาแอบส่งเสียงร้องในใจ
ชายที่สวมใส่ชุดสีเหลือคือชายที่แย่งขนมป๋ายจื่อในวัดวันนั้นส่วนชายที่ยืนอยู่ข้างเขาคือคนที่ลักพาตัวตนเองไป
ทั้งสองคือองค์ชายแห่งซีฟานกระนั้นหรือ?
ตอนนี้หลินเมิ้งหยารู้สึกตัวแล้วว่าตนเองได้ตกหลุมพรางของใครบางคนเข้าให้แล้ว
“ท่านอ๋องอวี้เป็คนละเอียดรอบคอบยิ่งนักแต่ถึงอย่างนั้นเปิ่นหวังและองค์ชายก็ยังอดที่จะตกตะลึงกับงานเลี้ยงอันแสนยิ่งใหญ่แห่งนี้ไม่ได้”
คำพูดของฮ่องเต้ิหาได้มีความหยิ่งยโสไม่
คนที่น่ากลัวที่สุดคือคนที่สามารถรับมือกับศัตรูได้อย่างใจเย็น
หลินเมิ้งหยายืนอยู่ตรงที่นั่งของตนเองสายตาพลันหันไปสบกับองค์ชายทั้งสองโดยบังเอิญ
องค์ชายจมูกงองุ้มยังดี เพราะเขาทำเพียงสบตาแล้วแค่นยิ้มเ็าก่อนจะเบือนหน้าหนีไป
ทว่าองค์ชายที่แย่งกล่องขนมของป๋ายจื่อกลับสาวเท้าอาดๆ ตรงมาที่นาง
“คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจะเป็พี่สะใภ้สามที่ชิงหานเคารพนับถือและเล่าให้ฟังคนนั้นข้าชื่อหูเทียนเป่ย เป็องค์ชายรัชทายาทแห่งซีฟาน”
พูดจบก็ส่งยิ้มให้หลินเมิ้งหยาจนเผยให้เห็นฟันเรียงสวยสีขาว
หูเทียนเป่ย? องค์ชายรัชทายาท?
“พี่ใหญ่ นางคือชายาของต้าจิ้นหรือว่าท่านเองก็ถูกใจนางเข้าให้แล้ว”
ขณะที่กำลังสนทนา จู่ๆ เสียงยียวนกวนประสาทกลับดังขึ้น เมื่อหันหน้าไปหลินเมิ้งหยาได้เห็นใบหน้าขององค์ชายจมูกงองุ้ม
“ลู่หนาน เ้า้าจะพูดอะไรกันแน่?”
หูลู่หนาน?หลินเมิ้งหยาเลื่อนสายตาไปมองชายที่เคยลักพาตัวนางไปเขาผู้นี้คือองค์ชายแห่งซีฟานจริงๆ อย่างนั้นหรือ?
“แต่ว่า...นางเปรียบเสมือนกุหลาบที่มีหนามแหลมคมหากพี่ใหญ่คิดจะเด็ดแล้วละก็ จะต้องดูก่อนว่าท่านมีความสามารถนั้นหรือไม่”
สีหน้าของหลินเมิ้งหยาดำถมึงทึงทันที
สองพี่น้องคู่นี้ไม่ถูกคอกัน อีกทั้งยังนำชื่อของนางมาล้อเล่น
ยังไม่ทันที่นางจะได้พูดอะไรออกมาบ่าบอบบางพลันถูกมือข้างหนึ่งโอบรัดเอาไว้
“พวกท่านสองพี่น้องมาหาชายาของข้าด้วยเหตุอันใด?”
หลินเมิ้งหยาหันหน้าไป ก่อนจะได้เห็นสีหน้าระแวดระวังของท่านอ๋องอวี้
ตอนนี้ตัวละครมาครบแล้ว
************************
1 ฮู้กว๋อกงคือตำแหน่งหนึ่ง มีหน้าที่พิทักษ์อารักขาความสงบสุขของประเทศ
