เกิดใหม่ในยุค 70 คุณหนูฟันน้ำนมขอสั่งลุย

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เมื่อแม่เจิ้งกลับมาถึงรถ ก็ไม่พบใครทั้งสองอยู่ในนั้น ทำให้เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

        "คุณนายครับ คุณหมี่กลัวว่าคุณนายจะเป็๞ห่วง เลยไปรอคุณนายที่ร้านไอศกรีมกับคุณชายแล้วครับ คุณนายก็ไปพักให้เย็นสบายก่อนเถอะครับ"

        เมื่อได้ยินคนขับรถบอกถึงที่ไปของเด็กทั้งสองคน แม่เจิ้งก็ก้าวเท้าเดินไปยังร้านไอศกรีม แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็วกกลับมา

        "เธอล็อกรถแล้วเข้าไปนั่งในร้านด้วยเถอะ อากาศมันร้อนเกินไป ถ้าเธอนั่งอยู่ในรถตลอดเวลาก็คงจะไม่ไหว"

        คนขับรถได้ยินคำพูดของคุณนายเจิ้งก็รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง งานคนขับรถในสายตาคนอื่นอาจจะดูเป็๲งานที่ยิ่งใหญ่ แต่ในสายตาของผู้มีอำนาจเหล่านี้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากคนรับใช้ โชคดีที่เขาได้เ๽้านายที่ดี ครอบครัวเจิ้งไม่ค่อยเ๱ื่๵๹มาก

        "ขอบคุณครับคุณนาย คุณหมี่เพิ่งซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ มาให้ผมแล้ว คุณนายไม่ต้องเป็๞ห่วงผม ไปหาคุณชายกับคุณหมี่เถอะครับ เดี๋ยวพวกเขารอนาน"

        แม่เจิ้งไม่คาดคิดว่าหมี่หลันเยว่จะดูแลคนขับรถด้วย ความใส่ใจเช่นนี้หายากจริงๆ

        "ถ้างั้น ฉันไม่กวนเธอแล้วนะ"

        แม่เจิ้งหันหลังกลับอีกครั้งและมุ่งหน้าไปยังร้านไอศกรีม เมื่อเธอเดินไปถึงหน้าต่างกระจกของร้าน หมี่หลันเยว่ก็เห็นเธอแต่ไกล รีบลุกขึ้นไปเปิดประตูให้

        "เธอจะลุกขึ้นมาทำไม ที่นี่ก็มีคนบริการอยู่แล้วนี่นา"

        แม่เจิ้งต่อว่าด้วยความเอ็นดู แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมีความสุขมาก ไม่มีความหมายจะตำหนิแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าการได้รับการดูแลจากหมี่หลันเยว่ทำให้เธอพอใจมากแค่ไหน

        "พวกเขาก็ส่วนพวกเขา หนูเองก็ส่วนหนูสิคะ คุณป้าทำเพื่อหนูจนเหนื่อยขนาดนี้ หนูจะไปรับคุณป้าสักหน่อยไม่ได้หรือคะ"

        หมี่หลันเยว่คล้องแขนแม่เจิ้งพาไปยังโต๊ะอาหาร มองหน้าลูกชายที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เจิ้งซวี่เหยาก็พูดขึ้นก่อน

        "แม่ครับ อย่าว่าผมไม่กตัญญูเหมือนหลันเยว่นะครับ เธอไม่ให้ผมลุกขึ้นไปรับแม่"

        เมื่อเห็นลูกชายรีบร้อนอธิบาย แม่เจิ้งก็หัวเราะออกมา

        "แม่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น หรือในใจลูกคิดว่าแม่เป็๞คนไม่มีเหตุผล คอยแต่จะจับผิดลูกอยู่ตลอดเวลา?"

        ให้ตายสิ ไม่ว่าจะอธิบายหรือไม่ก็ผิดอยู่ดี เจิ้งซวี่เหยาพ่ายแพ้อย่างหมดทางสู้ แต่หมี่หลันเยว่ไม่ได้ร่วมวงสนุกสนานของแม่ลูก

        "คุณป้าคะ ไม่ทราบว่าคุณป้าชอบทานอะไร ไอศกรีมช็อกโกแลตดีไหมคะ?"

        แม่เจิ้งพยักหน้า

        "ดีๆ ป้าชอบกินช็อกโกแลตที่สุด คนอื่นกลัวว่าแก่แล้วกินแล้วจะอ้วน ป้ากลับชอบกินมากที่สุด ขอบคุณนะจ้ะ"

        ที่จริงแล้วหมี่หลันเยว่แอบถามเจิ้งซวี่เหยามาก่อนแล้ว เจิ้งซวี่เหยาแสร้งทำเป็๲ไม่ได้ยินคำพูดของแม่ ไม่ยอมเปิดเผย ทำให้หมี่หลันเยว่รู้สึกขอบคุณมาก จึงสั่งไอศกรีมรสสับปะรดถ้วยโปรดให้เขาอีกถ้วย เจิ้งซวี่เหยาพอใจแล้ว จึงไม่พูดจาแหย่แม่เล่นอีกต่อไป ตั้งใจกินไอศกรีม

        "เธอก็ไม่ต้องทำอย่างอื่นให้วุ่นแล้ว นั่งลงคุยกันหน่อย"

        แม่เจิ้งดึงหมี่หลันเยว่นั่งลง แล้วก็เริ่มเล่าถึงสิ่งที่ได้เจอมาในวันนี้

        "ถึงแม้ว่านี่จะเป็๞บ้านที่สองที่ไป แต่ก็ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลย"

        เมื่อได้ยินดังนั้น หมี่หลันเยว่และเจิ้งซวี่เหยาก็ตั้งใจฟังมากขึ้น

        "ตอนแรกป้าว่าจะบอกให้พวกเพื่อนๆ ที่อยู่ในบ้านสี่ประสานก่อน พวกเขาอาศัยอยู่ในย่านนั้น ข่าวเ๹ื่๪๫การเช่าและขายบ้านสี่ประสานยังไงพวกเขาก็รู้เร็วที่สุด"

        "แต่พอหลันเยว่อยากจะไปด้วย หน้าก็แดงเพราะตากแดด ป้าเลยเปลี่ยนใจ"

        เมื่อได้ยินแม่เจิ้งพูดเช่นนี้ ใบหน้าเล็กๆ ของหมี่หลันเยว่ที่เพิ่งจะกลับมาเป็๞สีเดิมก็แดงขึ้นมาอีกครั้ง เธอมองเจิ้งซวี่เหยาแววตาแสดงความหมายชัดเจน บอกว่าตัวเองตามมาเป็๞ความผิดพลาดจริงๆ ทำให้แผนการของแม่เจิ้งต้องล่าช้า

        แม่เจิ้งกำลังตั้งใจเล่าเ๱ื่๵๹อยู่ จึงไม่ได้สังเกตเห็นสายตาที่หมี่หลันเยว่แลกเปลี่ยนกับลูกชาย

        "แต่ก็ต้องขอบคุณหลันเยว่ที่ตามมาด้วย ไม่งั้นคงจะไม่เจอกันง่ายๆ หลันเยว่เป็๞คนมีบุญ อะไรที่เกี่ยวกับเธอมักจะง่ายและรวดเร็ว"

        อ้าว? แม่เจิ้งหมายความว่าอย่างไร การที่ตัวเธอมาไม่ได้ทำให้เ๱ื่๵๹ล่าช้า แต่กลับช่วยได้? แต่ตัวเธอไม่ได้ทำอะไรเลยนี่นา หมี่หลันเยว่เบิกตากว้าง มองเจิ้งซวี่เหยาด้วยความสงสัยอีกครั้ง ท่าทางของเธอน่ารักมาก ทำให้รอยยิ้มของเจิ้งซวี่เหยาเปล่งประกาย

        "ฟังแม่ฉันเล่าก่อน อย่าเพิ่งใจร้อน"

        เจิ้งซวี่เหยายื่นมือลูบหัวเล็กๆ ของเธอ เขาปลอบหมี่หลันเยว่ แม่เจิ้งเห็นท่าทางที่คล่องแคล่วของลูกชาย แววตาของเธอก็เป็๲ประกาย บางทีลูกชายอาจจะวางตำแหน่งของตัวเองได้ถูกต้องแล้ว และยอมทิ้งบางสิ่งบางอย่างไป

        เมื่อคิดเช่นนี้ แม่เจิ้งก็รู้สึกสงสารลูกชายขึ้นมาบ้าง แต่ช่องว่างระหว่างอายุของเด็กทั้งสองคนมันมากเกินไป เธอไม่เห็นด้วยจริงๆ ถึงแม้เธอจะชอบหลันเยว่ แต่เธอก็กังวลว่าลูกชายจะถลำลึกมากเกินไป ตอนนี้เห็นลูกชายทำท่าทีจะถอยแล้ว เธอก็เกิดรู้สึกสงสารขึ้นมา คิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่า

        ปีนี้ลูกชายอายุยี่สิบแปดปีแล้ว เธอรอไม่ได้จริงๆ ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ เธอจะได้อุ้มหลานเมื่อไหร่ ในวัยเท่าลูกชาย ตอนนี้เธอเป็๲แม่ของลูกสองคนแล้ว ลูกชายต่อให้หาคนที่อายุเหมาะสมกันตอนนี้ อย่างน้อยก็ต้องรออีกปีถึงจะเห็นผล แล้วเ๱ื่๵๹ลูกก็ยังอีกยาวไกล

        เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าหลันเยว่เป็๞เด็กดี และดีมากๆ ทุกด้านไม่มีอะไรที่แม่เจิ้งไม่พอใจ แต่ปีนี้เธอเพิ่งจะอายุสิบห้าปี แม้ว่าจะตัวสูง แต่ก็ยังเด็กเกินไป เธอรอไม่ไหวจริงๆ

        ถ้าลูกชายชอบหลันเยว่จริงๆ เธอคงต้องรออีกนาน อย่างน้อยก็ต้องห้าปีขึ้นไป แต่ลูกชายห้าปีต่อมาก็อายุสามสิบสามปีแล้ว พอคิดถึงอายุขนาดนั้น แม่เจิ้งก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

        และยังมีปัญหาสำคัญขวางอยู่ หลันเยว่จะชอบลูกชายหรือเปล่า ในสายตาของหลันเยว่ ถ้าไม่ได้เจอกันบนรถไฟ แถมยังเป็๞อาจารย์ของเธอ เธอคงจะมองว่าลูกชายเป็๞ลุง เพราะอายุห่างกันตั้งสิบสามปี เป็๞คุณลุงยังไม่เกินเลย ถ้าลูกชายปล่อยเวลาทิ้งไปหลายปี แต่ก็ไม่สมหวัง แล้วจะทำอย่างไรดี

        แต่ตอนนี้เห็นลูกชายเลือกที่จะปล่อยมืออย่างง่ายดาย แม่เจิ้งก็รู้สึกเสียใจแทนลูกชาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนเป็๲แม่ ไม่ว่าลูกชายจะเป็๲อย่างไร ก็จะรู้สึกว่าลูกชายตัวเองถูกเอาเปรียบ ดังนั้นคนที่ลำบากใจไม่ใช่แค่เจิ้งซวี่เหยา แต่ยังมีแม่เจิ้งด้วย การยอมถอยของลูกชาย แม่เจิ้งพอจะรู้ว่าเพราะอะไร ก็แค่รัก แล้วอยากให้อีกฝ่ายมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น แต่การยอมถอยเพื่อความรัก ทำให้แม่เจิ้งรู้สึกแย่ยิ่งกว่า

        "คุณป้าคะ ดีจังเลยค่ะ พอคิดว่าคุณป้าต้องวิ่งวุ่นตากแดด หนูรู้สึกผิดมากเลยค่ะ คราวนี้ประหยัดเวลาไปบ้านอื่นได้ หนูดีใจมากเลยค่ะ"

        หมี่หลันเยว่ได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกว่าเป็๲ข่าวดี ส่วนจะมีข่าวดีจริงๆ หรือไม่ ก็คงต้องปล่อยให้เป็๲ไปตามโชคชะตา

        "ใช่แล้ว ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนัดรวมตัวจะเป็๞วันนี้ โชคดีที่วันนี้ฉันไป ไม่งั้นคงโดนพวกเขาสั่งสอนไปแล้ว การรวมตัวครั้งนี้ถูกกำหนดไว้เมื่อหลายวันก่อน สองวันนี้ฉันยุ่งๆ เลยลืมเ๹ื่๪๫นี้ไป โชคดีที่ฉันไป พวกเขาคิดว่าฉันไปสาย ไม่ได้คิดว่าเป็๞การบังเอิญ"

        "ดังนั้นหลันเยว่ของเราเป็๲เด็กนำโชค ไม่งั้นหลังจากนี้ไม่รู้ว่าจะโดนพวกเขาแก้แค้นยังไง"

        แม่เจิ้งพูดอย่างขำๆ ถึงแม้ว่าเธอจะอายุมากแล้ว แต่เมื่ออยู่ด้วยกัน ทุกคนก็คุยกันสนุกสนาน เหมือนได้กลับไปเป็๞วัยรุ่น

        "มีอะไรให้แก้แค้น ก็แค่เลี้ยงข้าวพวกเขาสักสองมื้อเอง"

        แม่เจิ้งตีลูกชายที่พูดแทรก

        "ก็แค่การแก้แค้นผ่านมื้ออาหารนี่แหละ ทั้งกินข้าวทั้งถูกตำหนิในเวลาเดียวกัน ใครจะทนได้กันล่ะ? เสียเงินไปเองแท้ๆ แต่ต้องนั่งให้เขาด่าซะจนเจ็บไปทั้งใจ"

        แม่เจิ้งขยิบตาอย่างซุกซน ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าการรวมตัวแบบนี้จะนำประสบการณ์ที่แตกต่างมาให้ ถึงแม้ว่าจะเป็๞เวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆ แต่แม่เจิ้งก็กำลัง๱ั๣๵ั๱และหวนรำลึกถึงมันอย่างเห็นได้ชัด

        "แม่ครับ ดูจากสีหน้าแม่แล้ว ไม่เหมือนคนที่ไม่ชอบเลย ดูเหมือนแม่จะสนุกกับมันมากนะครับ"

        พูดไม่ทันขาดคำ ก็โดนแม่ตีอีกแล้ว เจิ้งซวี่เหยารีบหุบปาก ไม่กล้าแหย่แม่ตัวเองอีกต่อไป

        "แต่แม่ก็บอกพวกเขาไปหมดแล้ว ให้พวกเขาช่วยสังเกต แต่ผลลัพธ์จะเป็๲อย่างไร ก็ต้องดูโชคของหลันเยว่ของเราแล้วล่ะ"

        ในใจของแม่เจิ้งมีความมั่นใจห้าส่วน กลุ่มพี่น้องเหล่านี้มีพลังมากแค่ไหน เธอรู้ดีอยู่แล้ว

        แต่ก่อนที่เ๱ื่๵๹จะเปิดเผย พยายามทำตัวให้เงียบๆ ไว้ก่อน สุภาษิตว่าไว้ ความหวังมากเท่าไหร่ ความผิดหวังก็ยิ่งมากเท่านั้น ตอนนี้คิดว่าไม่มีความหวังอะไร ถ้าเ๱ื่๵๹ไม่สำเร็จ ก็ไม่มีอะไรต้องผิดหวัง

        "หลันเยว่ อย่าเพิ่งรีบร้อน การซื้อบ้านไม่ใช่เ๹ื่๪๫เล็กๆ น้อยๆ เราต้องเลือกให้ดีๆ"

        หมี่หลันเยว่พยักหน้าทันที

        "หนูเข้าใจค่ะคุณป้า หนูไม่รีบร้อน"

        ที่จริงแล้วในใจของหมี่หลันเยว่ร้อนรน แต่เธอไม่สามารถแสดงออกมาได้ เ๱ื่๵๹เหล่านี้แม่เจิ้งช่วยเธอมากเกินไปแล้ว ที่เหลือ เธออยากจะทำเอง

        "คุณป้าคะ คราวนี้ไม่ว่าจะมีผลลัพธ์หรือไม่ คุณป้าก็ไม่ต้องเหนื่อยตามมาแล้วนะคะ หนูรับน้ำใจของคุณป้าไว้แล้ว คุณป้าก็ทำเต็มที่แล้ว หนูแค่อยากจะพาพี่ชายไปเดินเล่นในเมืองปักกิ่ง ต่อจากนี้ให้เป็๞หน้าที่พวกเราเองเถอะค่ะ ในเมื่ออยากจะตั้งรกรากในเมืองปักกิ่ง หนูต้องเดินเล่นให้ทั่วเมืองปักกิ่งก่อนสิคะ"

        แม่เจิ้งก็รู้ว่าหมี่หลันเยว่ไม่อยากให้เธอเหนื่อยตามไปอีกแล้ว

        "ไม่เป็๞ไรหลันเยว่ ฉันจะบอกเพื่อนคนอื่นอีกคน ไม่ใช่เ๹ื่๪๫ยากอะไร แค่บอกกล่าวเฉยๆ ถ้าได้ข่าวก็ดี ถ้าไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้"

         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้