เมื่อแม่นางฉินได้ยินคำถามของหลินฟู่อิน นางก็ใและระแวงขึ้นมา “คุณหนูคิดจะทำกิจการขายสบู่หรือ?”
หลินฟู่อินเห็นนางเริ่มมีท่าทีระวังตัวขึ้นมาเช่นนี้ก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดาใจนางได้ จึงรีบโบกไม้โบกมือทันที “ข้าไม่ได้อยากทำกิจการขายสบู่ ข้าแค่ได้ยินคุณชายหลี่อี้กล่าวว่าเขาอยากลองใช้ไขมันสัตว์ในการปรุงยา ข้าจึงถามเผื่อเขาเท่านั้น”
หลินฟู่อินตาเบิกกว้างพลางยกหลี่อี้ขึ้นมาอ้าง
คนที่อยากถามเื่นี้คือตัวนางเอง แต่นางลืมคิดไปว่าในยุคโบราณนั้นมีการแข่งขันด้านธุรกิจอย่างรุนแรง
ทั้งนางยังใช้จ่ายไปค่อนข้างมาก แม่นางฉินจึงเข้าใจได้ว่านางมีเงิน เลยเกิดกลัวขึ้นมาว่านางจะทำกิจการสบู่มาแข่ง
อย่างไรเสีย แม่นางฉินเองก็ค้าขายสบู่อยู่เช่นกัน
เมื่อแม่นางฉินได้ยินที่หลินฟู่อินกล่าวว่านางมิได้อยากทำกิจการขายสบู่ นางจึงมีสีหน้าโล่งอก “คุณชายหลี่้าหรอกหรือ? เช่นนั้นก็ง่าย เพราะสบู่น่ะมีไขมันสัตว์จริง แต่มันค่อนข้างไร้ประโยชน์ เพราะไม่เคยมีหมอที่ไหนบอกว่ามันใช้รักษาโรคได้เลย!”
ไขมันสัตว์!
หลินฟู่อินรู้ทันทีว่ามันคือกันโหยว จึงตื่นเต้นขึ้นมา แม้จะไม่แสดงออกทางสีหน้า จากนั้นนางก็ถูมือแล้วยิ้มออกมา “คุณชายหลี่เป็คนคิดใหม่ทำใหม่อยู่เสมอ ทั้งไขมันสัตว์นี้ยังไร้ผลเสียกับร่างกายมนุษย์ด้วยหากใช้เพียงภายนอก”
แม่นางฉินได้ยินแล้วก็เข้าใจได้ เพราะคนรุ่นใหม่นั้นมักมีความคิดใหม่ๆ กันเสมอจริงๆ นางจึงไม่คิดอะไรมากอีกและพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม หมอหลี่เป็หมอที่คอยช่วยรักษาคนมากมาย ควรค่าแก่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ แต่ที่ผ่านมานางไม่เคยมีโอกาสนั้น
แต่ตอนนี้หลินฟู่อินกลับพาโอกาสนั้นมาให้ตรงหน้า หากคุณชายหลี่อี้ของตระกูลหลี่้าของไร้ค่านั่นแล้ว นางก็จัดการให้ได้โดยมิต้องลงแรงอะไรมาก
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว นางจึงยิ้มแล้วกล่าวกับหลินฟู่อิน “พี่ใหญ่ของข้ามีโรงผลิตสบู่อยู่ ของที่ข้านำมาขายนี้ต่างก็มาจากที่เขาผลิตทั้งสิ้น แต่ตัวไขมันสัตว์มักจะถูกเททิ้งเพราะมันมีกลิ่นรุนแรง หากคุณชายหลี่้า จะให้ข้าส่งคนไปส่งให้เขาหรือไม่?”
ผู้ผลิตสินค้าให้แม่นางฉินเป็พี่ใหญ่ของนางนี่เอง มิน่าเล่าถึงได้หาตัวยากนัก!
เช่นนี้แล้วก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางจะแถมสบู่ให้อยู่เสมอ เพราะผู้ผลิตเป็พี่ใหญ่ของนางนี่เอง
หากเป็เช่นนี้ ในอนาคตนางก็อาจจะจับมือกับแม่นางฉินและพี่ใหญ่ของนางเพื่อทำธุรกิจได้ แต่เพราะอนาคตนั้นไม่แน่นอน ดังนั้นตอนนี้ก็อย่าเพิ่งไปกระตุกหนวดเสือน่าจะดีกว่า
“เยี่ยมเลย สุดท้ายนี้ข้าอยากถามอีกสักข้อ ไม่ทราบว่าแม่นางจะช่วยนำของไปส่งให้คุณชายหลี่อี้ได้หรือไม่เมื่อถึงเวลา” หลินฟู่อินถามด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ ราวกับไม่มีอะไรให้ปิดบัง แล้วแม่นางฉินจึงหัวเราะออกมาอีกครั้ง “เมื่อครั้งก่อนที่ข้าป่วย ข้าก็รอดมาได้เพราะคุณชายหลี่อี้มาดูอาการให้ข้า ยาที่ให้มาก็มีคุณภาพดีจนข้าไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดีเลย ดังนั้นหากข้าช่วยอะไรได้ ข้าก็ต้องช่วยแน่นอนอยู่แล้ว”
อีกทั้งนางยังไม่ต้องลงแรงอะไรมากด้วย เพียงบอกให้พี่ใหญ่ส่งใส่ลังไม้ไปยังโรงหมอของหมอหลี่เท่านั้น
หลินฟู่อินพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม และเพื่อไม่ให้นางเอะใจ หลินฟู่อินจึงถามโน่นถามนี่เื่ชาดต่ออีกสองสามคำถาม ซึ่งทำให้แม่นางฉินเข้าใจไปว่านางเริ่มลังเลที่จะซื้อแล้ว แม่นางจึงตอบให้อย่างจริงจัง
หลินฟู่อินจึงได้รู้วิธีการทำชาดแบบโบราณ แล้วปลีกตัวออกมาอย่างพอใจ
ในเมื่อนางอ้างถึงหลี่อี้ไปแล้ว และแม่นางฉินก็ยังบอกว่านางจะให้คนส่งไขมันสัตว์ไปยังโรงหมอของหมอหลี่ นางจึงต้องไปที่นั่นเพื่อทักทายหลี่อี้ก่อน
เมื่อนางไปถึงโรงหมอก็พบว่าวันนี้หลี่อี้ต้องอยู่เฝ้าโรงหมอพอดี ไม่ได้ออกไปข้างนอก เมื่อเขาเห็นว่านางมาเยือน เขาจึงจัดการจ่ายยาให้คนไข้สตรีจนเสร็จแล้วลุกขึ้น ก่อนเชิญหลินฟู่อินเข้าไปยังห้องด้านหลัง
“ฟู่อิน ที่มาวันนี้มีธุระอะไรหรือ? หรือเ้าพบปัญหาอะไรเข้ากัน?” หลี่อี้ดีใจจนออกนอกหน้าที่ได้พบหลินฟู่อิน จนน้ำสียงแฝงไปด้วยความตื่นเต้นมากมายโดยที่เขาเองยังไม่ทันสังเกต
หลินฟู่อินไม่เสียเวลา กล่าวไปตามตรง “ข้ามีเื่ต้องรายงานพี่หลี่อี้ ว่าข้าได้อ้างชื่อของพี่หลี่อี้ในการกระทำการอย่างหนึ่งลงไปแล้ว โปรดให้อภัยด้วยเ้าค่ะ”
หลี่อี้กะพริบตาอย่างงงงวย การที่หลินฟู่อินอ้างชื่อเขาในการทำบางสิ่งบางอย่าง นั่นแปลว่านางมีความเคารพในตัวเขามากพอที่จะทำเช่นนั้น นับเป็เื่น่ายินดี แล้วเขาจะไปว่าอะไรนางทำไมกัน?
อีกทั้งหลินฟู่อินที่เขารู้จักนั้นไม่มีทางทำเื่เลวร้ายอะไรอยู่แล้ว เขาจึงไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย
“ฟู่อิน เหตุใดเ้าถึงต้องทำท่าทางสุภาพเช่นนั้นด้วย? ข้าเคยบอกเ้าไปแล้วนี่ว่าไม่จำเป็ต้องสุภาพกับพี่ก็ได้ หากมีอะไรที่พี่ช่วยได้ ก็บอกมาได้เลย” หลี่อี้รินชาให้นางแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
นี่เป็คำพูดที่กล่าวอย่างจริงใจ หลินฟู่อินเข้าใจเื่นั้นได้ทันทีที่ได้ฟัง นางจึงทั้งโล่งอกและขอบคุณเขามาก “พี่หลี่อี้ ่นี้ข้าอยากลองทำชาดดู ดังนั้นแล้วข้าจึงต้องทำสบู่ และนำไขมันสัตว์จากกระบวนการนั้นมาทดลองต่อ”
“ไขมันสัตว์ จากตอนทำสบู่นั่นน่ะหรือ?” หลี่อี้เองก็รู้มาบ้างว่าเวลาทำสบู่จะมีของเสียที่ไม่สามารถนำไปทำอะไรต่อได้อยู่ หนึ่งในนั้นคือไขมันสัตว์นี่ เมื่อเขาได้ยินว่าหลินฟู่อินคิดจะนำมันไปทำชาดแล้วจึงตะลึงขึ้นมา
ใช้ของเช่นนั้นไปทำชาด ใครกันที่จะกล้าใช้?
ไม่กลัวจะมีปัญหาเลยหรืออย่างไร?
สบู่สำหรับซักผ้านั้นกัดมือมากเวลาใช้ หากนำของเหลือจากสบู่เ่าั้ไปทำชาดแล้ว… หลี่อี้ไม่แม้แต่จะกล้าคิดถึงผลที่จะตามมา
“ข้าไม่อยากให้คนอื่นรู้เื่ที่ข้ากำลังจะทำ ข้าจึงอ้างกับแม่นางฉินในเมืองไปว่าท่าน้าใช้ไขมันสัตว์เ่าั้ในการทำยา แม่นางฉินจึงยอมรับ แล้วจะส่งคนให้ขนไขมันสัตว์เ่าั้มาให้ท่าน ข้าจึงอยากให้พี่หลี่อี้ช่วยรับของและจ่ายเงินแทนข้า แน่นอนว่าเงินข้าจะเป็คนออกเอง…”
เมื่อเห็นความจริงจังของนางแล้ว เขาจึงรู้สึกว่าเขาต้องรีบเตือนนาง เขารีบลุกขึ้นเพื่อขัดนางทันที “ไม่ได้นะ ฟู่อิน เ้าคิดจะใช้ไขมันสัตว์นั่นทำชาดจริงๆ หรือ? ไม่ได้ ไม่ได้ ต่อให้ทำมาก็นำไปใช้งานไม่ได้หรอก!”
หลินฟู่อินรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องกังวลเื่นี้แน่ เพราะยุคโบราณยังไม่มีความรู้เื่สรรพคุณของสารเคมี การที่เขาจะกังวลจึงเป็เื่ธรรมดา แต่นางมีวิธีทำเครื่องสำอางด้วยสิ่งนี้อยู่!
“พี่หลี่อี้ ข้าไม่รู้ว่าท่านเคยได้ััไขมันสัตว์นั่นมาก่อนหรือไม่ แต่ความจริงแล้ว หากท่านลองหยดไขมันสัตว์ลงบนหลังมือแล้วถูดู ท่านจะพบว่าผิวของท่านนั้นเรียบเนียนขึ้น มันเป็วัตถุดิบที่ดีในการใช้ทำชาด ทั้งยังไม่มีข้อเสีย แต่คนที่รู้มีไม่มาก” หลินฟู่อินพยายามอธิบายให้หลี่อี้ฟัง เพราะความร่วมมือของเขาเป็สิ่งจำเป็
“จริงหรือ?” หลี่อี้ตะลึง พลางคิดไปถึงชื่อมารดาของหลินฟู่อิน จากนั้นดวงตาเขาจึงเบิกกว้างขึ้น “นี่มัน… เป็สิ่งที่แม่ของเ้าเหลือไว้ให้อีกแล้วหรือ?”
หลินฟู่อินอึ้งไปกับความเข้าใจผิดนี่ แต่เมื่อคิดดูแล้วว่าความเข้าใจผิดเช่นนี้มันก็ไม่ได้เป็ผลเสียอะไร นางจึงพยักหน้าตอบ
จากสายตาของหลี่อี้ เขาเห็นว่าหลินฟู่อินใเพราะเขาเดาถูกจนต้องยอมพยักหน้ายอมรับแม้ไม่อยาก
หากเป็เช่นนี้ เขาก็จะเชื่อได้แทบทั้งใจ
หลังจากครุ่นคิดพักหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจ ในเมื่อฟู่อินอยากลองก็ให้นางลอง ขอเพียงของที่ว่านี้มันไม่หลุดเข้าไปในตลาดก็พอ
หลี่อี้ไม่อยากทำให้หลินฟู่อินต้องผิดหวังนัก แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้นางกระจายชาดที่เป็ภัยต่อผู้คนจนอาจเกิดปัญหาตามมาออกไปได้ เขาจึงเลือกพบกันครึ่งทางว่ายอมให้ทำ แต่เขาจะเป็คนจับตาดูนางเอง
เมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว เขาจึงพยักหน้า “งั้นก็ได้ หากแม่นางฉินส่งคนให้นำไขมันสัตว์มาให้ข้าแล้ว ข้าจะรับของไว้แทน และหาโอกาสส่งต่อให้เ้าอีกที แต่หากเ้าคิดจะผลิตอะไรด้วยไขมันสัตว์นั่นจริงๆ ก็อย่าได้ใช้โดยไม่ไตร่ตรอง แล้วอย่าให้คนอื่นได้ใช้ ให้ข้าดูก่อนว่ามันปลอดภัยจริงๆ!”
หลินฟู่อินมองเขา ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย หลี่อี้เป็ห่วงนางจริงๆ นับว่าหาได้ยาก
ในเมื่อเขาหวังดีเช่นนี้แล้ว นางก็ควรตอบรับเอาไว้
“ได้ เช่นนั้นข้าจะให้ท่านดูผลงานก่อนเมื่อมีของนะเ้าคะ” หลินฟู่อินให้คำมั่น แต่จากนั้นนางก็เงยหน้ามองเขา “แต่ท่านเองก็ต้องสัญญากับข้าด้วยเช่นกัน ว่าเื่นี้จะเป็ความลับระหว่างเราสองคน อย่าได้บอกใครทั้งนั้น!”
ความลับระหว่างเราหรือ? สายตาของหลี่อี้เป็ประกายขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้