ซูจิ้งเถียนกับนางแซ่หลี่ต่างใจนหน้าถอดสี อะไร? เปลี่ยนเป็ซูเฟยซื่อตี? หากซูเฟยซื่อลงมือนั่นก็แตกต่างจากจือฉินลงมือแล้ว
สิบครั้งเท่ากับยี่สิบครั้ง แล้วเครื่องหน้าของนางจะยังสมบูรณ์ดีหรือ?
“ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย...” เสียงโหยหวนของซูจิ้งเถียนฟังราวกับเสียงหมาหอน เืสดๆ ไหลออกจากมุมปาก
นางแซ่หลี่พุ่งออกมาจากห้องอย่างฉับพลัน ผลักซูเฟยซื่อออก ดึงซูจิ้งเถียนเข้าสู่อ้อมแขน ปกป้องบุตรสาวคนดีสุดกำลัง ทุกการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วดุจเมฆเหินน้ำไหล
ไหนเลยจะมีท่าทางอย่างคนป่วย
“โอ๊ะ? แม่ใหญ่สบายดีแล้วหรือเ้าคะ?” ซูเฟยซื่อแกล้งทำเป็ประหลาดใจ แต่ในน้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความเสียดสีคุกรุ่น
นางแซ่หลี่ล้วนเข้าใจความนัยในวาจา แต่เพื่อซูจิ้งเถียนแล้วได้แต่จำทน “เฟยซื่อ เถียนเอ๋อร์ยังเด็กนัก ถ้าทำอะไรผิดพลาดก็ค่อยๆ ให้บทเรียนสั่งสอนเถิด แต่ไม่ใช่ใช้วิธีการอบรมที่รุนแรงแบบนี้”
“ในยามปกติแม่ใหญ่ยังอดทนสั่งสอนไม่เพียงพอหรือ? หรือว่าแม่ใหญ่ก็ไม่เคยสอนนางมาก่อนเลย มิฉะนั้นเถียนเอ่อร์ทำไมจึงไม่มีความเป็กุลสตรีสักนิด?” ซูเฟยซื่อไม่ไว้หน้านางแซ่หลี่สักนิด
ประโยคหนึ่งก็ทำเอานางแซ่หลี่จุกเป็ใบ้พูดไม่ออก นางกัดฟันหันศีรษะไปหาหลินมามาสั่งการว่า “ไปเอาสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีมา”
ซูเฟยซื่อพลันเลิกคิ้ว ในที่สุดก็ยอมเอาสิ่งของมาแลกเพื่อช่วยลูกสาว? ค่าตัวลูกของเ้าก็ยังถูกเหมือนเดิม “แม่ใหญ่เอาสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีออกมาในขณะนี้ หมายความว่าอย่างไรเ้าคะ?”
นางแซ่หลี่กัดริมฝีปากอย่างรุนแรงด้วยความโกรธเกรี้ยว กลิ่นคาวเืเต็มปาก ให้นางขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
นางเอากล่องสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีจากมือของหลินมามา แล้วส่งให้ซูเฟยซื่อไปอย่างไม่เต็มใจ “ปกติข้ามัวแต่จัดการเื่น้อยใหญ่ในครอบครัวจนละเลยการอบรมเลี้ยงดูเถียนเอ๋อร์ไป รู้สึกสำนึกเสียใจจริงๆ แต่ตอนนี้ข้ามอบสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีให้เ้า เพียงหวังว่าเ้าจะยอมปล่อยเถียนเอ๋อร์ อย่าหาเื่นางอีก”
นางรู้ซึ้งถึงวิธีการของซูเฟยซื่อแล้ว หากวันนี้นางไม่เอาสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีให้แก่อีกฝ่าย ก็เกรงว่าซูเฟยซื่อต้องมีวิธีอื่นๆ แน่
เพื่อซูจิ้งเถียนแล้ว นางจำต้องตัดรักขาดใยยอมเ็ปแล้ว
“ดู๊ดู แม่ใหญ่กล่าววาจานี้ ฟังอย่างกับข้าจงใจบีบคั้นให้ท่านมอบสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีออกมาเช่นนั้น เถียนเอ๋อร์ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ แต่สัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีเป็ท่านพ่อสั่งให้ท่านมอบให้ข้า นี่ไม่เกี่ยวกับเื่นี้นะเ้าคะ” ซูเฟยซื่อเอื้อมมือไปหยิบกล่อง ท่าทีไม่ยอมถอยหลีกทางให้สักนิด
นางแซ่หลี่ได้ยินก็ยิ่งร้อนใจ คว้ากล่องไว้แน่นไม่ปล่อย “เฟยซื่อ เ้าทำเกินไปแล้ว”
“เกินไปหรือ? ถ้าแม่ใหญ่รู้สึกว่าเฟยซื่อกระทำการอยุติธรรมตรงไหน ขอเพียงไปฟ้องท่านพ่อเอาเถิด แต่กล่องนี้ข้าคงต้องรับไปก่อน” ซูเฟยซื่อใช้แรงคว้ากล่องทั้งใบมา แล้วส่งให้ซางจื่อ
ดูกล่องซึ่งตนดูแลเป็สมบัติล้ำค่ามานับทศวรรษถูกชิงไปแบบนี้ ทำเอานางแซ่หลี่รู้สึกคล้ายว่าบอบช้ำไปทั้งร่าง คนทั้งคนกลายเป็หมดเรี่ยวแรงไปทันควัน
ซูเฟยซื่อมองนางด้วยสายตาเ็า เหยียดยิ้มอย่างผู้กำชัย “จือฉินถือกล่องไว้ แล้วพวกเรารีบไปกันเถิด ตบหน้าที่เหลือเก้าครั้งก็ให้ซางจื่อทำแทนข้าก็แล้วกัน”
กล่าวจบ ซูเฟยซื่อก็พาจือฉินจากไปอย่างสง่างาม ทิ้งเสียงกรีดร้องน่าสมเพชของซูจิ้งเถียนกับเสียงร่ำไห้ะโของนางแซ่หลี่ไว้เื้ั
ซูจิ้งเถียนได้รับบทเรียนแล้ว นางแซ่หลี่ก็สูญเสียสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีไปอีก ใน่เวลาต่อมาทั้งสองคนก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว ดูราวกับไร้ซึ่งเงาสองแม่ลูกคู่นี้ในจวนเช่นนั้น
ซูเฟยซื่อเห็นทั้งสองไม่คิดทำร้ายตนอีก ก็ปล่อยวาง หมดความสนใจจากคนทั้งคู่ไป
นางและซางจื่อมักจะเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าผู้ชายลอบออกไปจากจวนอัครมหาเสนาบดี เดินสำรวจผู้คน ทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง
“คุณชาย น้ำชาในร้านนี้ดี ให้บ่าวไปซื้อสักสองจินนำกลับไปด้วยไหมขอรับ?” เพราะซูเฟยซื่อได้กำชับไว้ ดังนั้นซางจื่อจึงเรียกนางว่าคุณชายยามที่อยู่ข้างนอก
ซูเฟยซื่อจิบน้ำชาคำหนึ่ง กำลังจะพยักหน้า ทว่าแววตากลับถูกผู้ชายในชุดสีดำที่กำลังเดินผ่านข้างล่างตึกดึงดูดไว้
เงาร่างของชายผู้นั้น ทำไมช่างคุ้นเคยนัก เหมือน...
คิดมาถึงตรงนี้ ซูเฟยซื่อรีบรุดพุ่งลงบันได ด้วยว่าจะตามชายคนดังกล่าวให้ทัน ทางด้านซางจื่อรีบโยนเงินค่าน้ำชาไว้ แล้วตามไปไม่รอช้า
แต่กลับเห็นซูเฟยซื่อกำลังตะลึงงันอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้น อารมณ์ในดวงตาแปรเปลี่ยนนับพันหมื่น ดวงตาสั่นระริกเหมือนจะะเิได้ทุกเมื่อปานนั้น
“คุณชาย เป็อะไรไปหรือขอรับ?” ซางจื่อไม่รู้ความจึงถามพลาง ในใจยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นว่าชายในชุดสีดำคนนั้นที่แท้คือใคร
ก่อนนางจะมาจวนอัครมหาเสนาบดีได้เคยตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับซูเฟยซื่อมาก่อน ทุกคนที่ซูเฟยซื่อรู้จักนางรู้หมด
หลังจากมาถึงจวนอัครมหาเสนาบดี แม้พบว่าซูเฟยซื่อต่างจากที่ร่ำลือ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกลับไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากเท่าใด แต่ผู้ชายในชุดสีดำคนนั้นเมื่อครู่...
ที่แท้เขาเป็ใคร ทำไมซูเฟยซื่อถึงตื่นเต้นขนาดนั้นที่ได้เห็น ทำไมนางไม่รู้กระทั่งข่าวคราวเกี่ยวกับเขาสักนิด?
หรือบนร่างซูเฟยซื่อยังมีความลับที่คนอื่นไม่รู้? อีกทั้งความลับนี้ กระทั่งอวี้เสวียนจีก็ไม่รู้ทั้งสิ้น!
คิดถึงตรงนี้ ซางจื่ออดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก ความลับที่แม้แต่อวี้เสวียนจียังไม่รู้คืออะไรกันแน่?
เป็เวลานาน ในที่สุดซูเฟยซื่อก็ได้สติกลับมา “ไม่มีอะไร เราตามไปดูเถอะ”
กล่าวจบ ก็พาซางจื่อติดตามไปยังทิศทางที่ผู้ชายคนนั้นจากไป พวกนางจงใจรักษาระยะห่างไว้ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ตื่นตัวอะไรด้วย
ตามไปแล้วสอง่ถนน ในที่สุดพวกนางก็เห็นผู้ชายคนนั้นเดินเข้าไปในสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ที่ต้องเรียกว่าสิ่งก่อสร้าง เพราะกระทั่งซูเฟยซื่อก็ยังไม่รู้ว่าที่นี่เป็สถานที่แบบไหน
เพียงเห็นตลอดทั้งตัวอาคารใช้หินสีเทาสร้างขึ้น ไม่มีการตกแต่งใดๆ แต่ให้ความรู้สึกบรรยากาศโอ่โถงกว้างขวางชนิดหนึ่งแก่ผู้คน
บนอาคารก่อสร้างมีธงหลากสีสัน ดูเหมือนบนธงยังเขียนชื่อของคนไว้ หรือกล่าวว่าเป็สมญานามจะยิ่งถูกต้อง สามหมัดชนะ ไอ้ก้อนใหญ่ หลี่ต่าน เซ่าชิง...
“เซ่าชิง?” ซูเฟยซื่อพึมพำชื่อนี้เบาๆ ในสมองราวกับมีสายฟ้าแวบผ่าน ทำเอานางสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง ราวกับจะแหลกสลายไปตรงนั้น
เซ่าชิง(少卿) เซ่าชิง(邵青) กลับเป็ทั้งสองตัวอักษรที่พ้องเสียงนั้นจริงๆ ใช่เขาไหม? ใช่ไหม?
“คุณหนู ที่นี่เป็สนามประลอง เป็สถานที่ที่ซับซ้อนเต็มไปด้วยปลากับัผสมผสาน ข้างในมีการค้าทาส ธุรกิจเนื้อหนัง นักสู้ที่ขึ้นสังเวียนเพื่อหาเงิน แล้วมีพนันการต่อสู้แพ้ชนะเป็พิเศษด้วย” ซางจื่อเห็นซูเฟยซื่อสนใจที่นี่ก็รีบอธิบาย
สนามประลอง? ซูเฟยซื่อหรี่ตาลง แม้จะไม่เคยมาที่นี่มาก่อน แต่เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสถานที่นี้มามากมาย กล่าวโดยสรุปก็คือ เป็ที่ซึ่งคนดีเขาไม่มา เพราะเป็คนเลวถึงต้องมา
“ไป เราเข้าไปข้างในดูกันเถอะ” ซูเฟยซื่อกล่าวจบ ก็จะก้าวเข้าไป
นางกลับไม่ได้สนใจการค้าของที่นี่ เพียงแต่คนคนนั้นเมื่อครู่… วัตถุประสงค์ที่เขาเข้าไปเป็อะไร เขาเป็ใครอีก ใช่คนคนนั้นที่นางคิดไว้หรือไม่? ชุดของคำถามต่อเนื่องทำให้นางต้องเข้าไปหาคำตอบ!
บนใบหน้าของซางจื่อกลับปรากฏความลังเลสักครู่ แล้วจึงเอ่ยปากขึ้นอย่างอดไม่ได้ “คุณหนู ที่บ่าวทราบว่าที่นี่เป็สนามประลองก็เพราะท่านอ๋องเก้าพันปีมักจะแวะเวียนมา ทุกครั้งที่มีการแข่งขันใหญ่ต้องมาที่นี่ ดูลำดับธงที่ปักไว้บนสนามประลองนี้ วันนี้ต้องเป็นัดชิงชัยของหลี่ต่านกับเซ่าชิง บ่าวคิดว่าท่านอ๋องเก้าพันปีไม่น่าพลาดแน่ๆ เ้าค่ะ”
ในความหมายของวาจาก็คือท่านอ๋องเก้าพันปีอยู่ที่นี่ เ้ายังคิดเข้าไปอีกหรือ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้