หัวหน้าจิ้งจอกขาวมองเย่เฟิงด้วยสายตาเย็นะเื พร้อมกับเดินไปหาเย่เฟิง
“เ้าหนู หรือเป็เ้าที่ปลุกปั่นให้ลูกน้องทรยศข้า?” หัวหน้าจิ้งจอกขาวไม่ใช่คนโง่เขลา แม้จะไม่พูด แต่เขาจะดูไม่ออกได้อย่างไร?
“ท่านโเี้อำมหิต ไม่เห็นค่าชีวิตของลูกน้อง ช้าหรือเร็ววันนี้ก็ต้องมาถึง ต่อให้ข้าไม่ปรากฏตัว เื่แบบนี้ก็เกิดขึ้นอยู่ดี!” เย่เฟิงกล่าว จากนั้นยาเม็ดปรากฏในมือและโยนใส่ปาก ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นฟูพลังหยวนในกายเขา
“จะตายอยู่รอมร่อ ยังจะใช้ยาอีกหรือ?” หัวหน้าจิ้งจอกขาวเผยสีหน้าเย็นเยียบ เขาคิดจะลงมือโจมตีเย่เฟิง แต่ััได้ว่ามีการพยายามลอบโจมตีมาเยือนที่ข้างหลัง
“รนหาที่ตายเสียจริง!” ดวงตาของหัวหน้าจิ้งจอกขาวฉายแววเยือกเย็น พลังิญญาถูกไข่มุกของเย่เฟิงดูดกลืนไปกว่าครึ่ง แต่ยังคงแข็งแกร่งเช่นเดิม จากนั้นเห็นเขาสะบัดมือก็ซัดปีศาจพิภพที่ลอบโจมตีเขากระเด็นปลิวออกไป
“ปัง!” ภายใต้การโจมตีของหัวหน้าจิ้งจอกขาว ปีศาจพิภพเ่าั้ทำได้เพียงถ่วงเวลา แม้การป้องกันทางกายของพวกเขาจะแข็งแรงทนทาน แต่ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของหัวหน้าจิ้งจอกขาวได้ พวกเขาจึงถูกซัดจนกระอักเือย่างต่อเนื่อง
“ตาย!” เย่เฟิงแผดเสียงะโพร้อมแทงหอกออกไป เป็ทักษะหอกปลิดชีวีกระบวนที่สอง หอกตัดิญญา รังสีหอกพลันกลายเป็ลำแสงที่แฝงด้วยอำนาจหอก
“แกว่งเท้าหาเสี้ยน!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวกล่าว จากนั้นซัดพลังฝ่ามือเข้าโจมตี ก่อนจะปะทะกับรังสีหอก ตามมาด้วยเสียงเคร้ง ภายใต้การโจมตีของหัวหน้าจิ้งจอกขาว หอกัเงินประกายถึงกับกระเด็นหลุดจากมือและถอยหลังไปหลายก้าว เืไหลออกจากปาก อวัยวะภายในปั่นป่วน
ปีศาจพิภพที่อยู่ระดับปลายยอดแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ไม่ใช่คนที่เย่เฟิงจะต่อต้านได้ หากปีศาจพิภพเ่าั้ไม่ช่วยเหลือ เกรงว่าเย่เฟิงคงถูกอีกฝ่ายยึดครองร่างสำเร็จไปแล้ว
“ไม่เจียมตัว ยังไงวันนี้ข้าก็ต้องยึดครองร่างเ้าให้จงได้ ดูซิว่าใครจะกล้าขวางทางข้าอีก?” หัวหน้าจิ้งจอกขาวแผดเสียงะโอย่างกราดเกรี้ยว เขาก้าวออกมา ก่อนจะไปปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของเย่เฟิงในพริบตา พร้อมคว้าศีรษะเย่เฟิงและปล่อยแรงดูด เพื่อบังคับจิติญญาของเย่เฟิงให้ออกจากร่าง
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบ จิติญญาถูกทำลายอย่างต่อเนื่องจนได้รับาเ็ แล้วมีหรือจะทนต่อการทรมานเช่นนี้ได้?
ภายใต้แรงดูดของหัวหน้าจิ้งจอกขาว เย่เฟิงรู้สึกว่าจิติญญาของตนค่อย ๆ หลุดลอย สติเริ่มเลอะเลือนและความรู้สึกเช่นนี้ก็เหมือนกำลังจะตาย
“ยังไม่ตายอีก!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวเผยสีหน้าดุดัน เขาคิดไม่ถึงว่าการจะกำจัดผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 2 คนหนึ่งจะต้องใช้พลังมากขนาดนี้ จากนั้นเขาจึงเพิ่มพลังให้กับแรงดูดนั่นอีกครั้ง
“ข้าต้องพึ่งเ้าแล้ว!” เย่เฟิงรู้สึกว่าจิติญญาของตนเริ่มหลุดลอยออกไปอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นิญญาแตกสลาย แต่ขณะนั้นเขาแผดเสียงะโพร้อมกับพลังปะทุออกจากร่าง จากนั้นปล่อยพลังจิตเข้าเชื่อมต่อกับไข่มุก
“วี้ด!” ทันใดนั้นมีเสียงหวีดร้องดังมาจากไข่มุก ก่อนจะปลดปล่อยพลังกลืนกินอันแกร่งกล้าและเข้าปกคลุมร่างหัวหน้าจิ้งจอกขาวในพริบตา นาทีต่อมาเห็นหัวหน้าจิ้งจอกขาวหน้าเปลี่ยนสี ไร้ความดุร้ายเฉกเช่นก่อนหน้านี้ รู้สึกว่ามีพลังบางอย่างมาพันธนาการ ขณะเดียวกันพลังงานภายในกายก็ไหลตามแขนของเขาไปสู่ศีรษะของเย่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง
“เกิดอะไรขึ้น?” หัวหน้าจิ้งจอกขาวหน้าถอดสี จากนั้นระดมพลังทั้งหมดเข้าหยุดยั้งการไหลเวียนของพลังนั่น แต่ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรก็ไร้ผล พลังกลืนกินนั้นไร้เทียมทาน
“เ้าหนู เ้าใช้วิชานอกรีตอะไรกับข้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวตวาดใส่อย่างกราดเกรี้ยว
เย่เฟิงในเวลานี้มีอาการไม่สู้ดีเช่นกัน ร่างกายของเขากลายเป็สะพานเชื่อมระหว่างพลังงานของหัวหน้าจิ้งจอกขาวกับไข่มุก อวัยวะภายในได้รับแรงกดดันอย่างมหาศาล หากเขาไม่ได้ฝึกสองเคล็ดวิชาบ่มเพาะร่างกาย เกรงว่าร่างกายคงแตกะเิเพราะแรงกดดันมหาศาลนี้แล้ว
“ตาเฒ่า คิดอยากหยุดข้ารึ ฝันไปเถอะ วันนี้แหละคือวันตายของท่าน!” เย่เฟิงแผดเสียงะโอย่างโกรธเกรี้ยว สีหน้าเริ่มบิดเบี้ยว จินตนาการได้เลยว่าตอนนี้เขาทนรับแรงกดดันมากเพียงใด
ไข่มุกเรืองรองแสง รัศมีแห่งการกลืนกินเข้าปกคลุมร่างหัวหน้าจิ้งจอกขาว พลังกลืนกินแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
“อยากให้ข้าตายมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวกล่าว พร้อมกับพลังในกายโคจรอย่างบ้าคลั่งและยังคงแข็งแกร่งเช่นเดิม ทั้งยังมีแสงกระหายเืปะทุออกจากดวงตา
“กร๊อบ!” เสียงกระดูกดังลั่น เห็นหัวหน้าจิ้งจอกขาวกัดฟันพลางยกร่างเย่เฟิงขึ้นขณะบีบคอด้วยความยากลำบาก
“ตายซะ!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวกล่าว เขาออกแรงที่มือหมายบีบคอเย่เฟิงให้หัก นี่ทำให้เย่เฟิงหายใจไม่ออก ใบหน้าเริ่มดำคล้ำ
“วูบ!” ขณะนั้นมีแสงเยือกสายหนึ่งส่องประกายระหว่างกลางของทั้งสองคน ก่อนจะมีเืสาดกระเซ็นโดนหน้าเย่เฟิง กลิ่นคาวเืคละคลุ้ง
“อ้าก!” นาทีต่อมาเห็นหัวหน้าจิ้งจอกขาวส่งเสียงร้องโหยหวน แขนข้างนั้นที่เขาใช้บีบคอเย่เฟิงถูกดาบใหญ่าาภูตพรายของปีศาจพิภพวานรตัดขาด
“พวกทรยศ พวกเ้าไม่ได้ตายดีแน่!” เสียงของหัวหน้าจิ้งจอกขาวดูโกรธเกรี้ยวมาก ทั้งยังมองปีศาจพิภพวานรตนนั้นด้วยสายตาอาฆาต เขาอยากลงมือจัดการ แต่กลับขยับร่างไม่ได้ พลังกลืนกินนั่นพันธนาการร่างเขาเอาไว้แน่น ถึงอย่างนั้นพลังในกายก็ยังคงโคจรอย่างบ้าคลั่งและยังห่อหุ้มพลังิญญาเสี้ยวสุดท้ายไว้
หัวหน้าจิ้งจอกขาวแผดเสียงคำราม ร่างกายเหมือนกำลังจะแห้งเหี่ยว ิัเหี่ยวย่นรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าระหว่างจิ้งจอกขาวและมนุษย์ปรากฏทับซ้อนไปมาไม่หยุด
แสงที่น่ากลัวปะทุออกจากดวงตาของเย่เฟิงจนตัวสั่นสะท้านไม่หยุด พลังกลืนกินนั่นแข็งแกร่งเกินไป มันส่งผลกระทบต่อร่างกายเขาถึงระดับที่น่าใมากความเ็ปจากทั้งร่างกายและจิติญญาเช่นนั้นทำให้เขาอดทนได้ยากยิ่ง
“ข้าไม่ยอมเด็ดขาด!” หัวหน้าจิ้งจอกขาวแผดเสียงะโด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นแสงแห่งการทำลายล้างปะทุออกจากร่าง เขาใช้เศษเสี้ยวพลังในร่างกายเพื่อพยายามะเิตัวเอง
“ข้าไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วจะมาลงเอยในเงื้อมมือของเ้าที่อยู่เพียงขั้นรวมชี่ แต่ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากเ้าไปลงนรกด้วย!” แสงแห่งการทำลายล้างที่ปะทุออกจากร่างหัวหน้าจิ้งจอกขาวรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะเหลือพลังเพียงน้อยนิดในการะเิตัวของปลายยอดปีศาจพิภพ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เย่เฟิงจะทนรับไหวได้
“โฮก!” ใน่เวลาสำคัญ ปีศาจพิภพวานรตนนั้นที่ตัดแขนของหัวหน้าจิ้งจอกขาวเคลื่อนไหว มันแผดเสียงคำรามพร้อมกับชกกำปั้นซัดเข้าที่ร่างหัวหน้าจิ้งจอกขาวเต็มแรง ทำให้หัวหน้าจิ้งจอกขาวถูกซัดกระเด็นปลิวออกไป
“ตูม!!!” เสียงะเิดังสนั่น ฟ้าดินสั่นไหว วินาทีที่หัวหน้าจิ้งจอกขาวกระเด็นปลิว พลังทำลายล้างก็ะเิออกจากร่างเขา คลื่นพลังแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ ทุกที่ที่คลื่นผ่านล้วนต้องสูญสิ้น
ส่งผลให้ปีศาจพิภพวานรตนนั้นที่อยู่ใกล้ที่สุดถูกคลื่นนั่นทำลายแขนไปหนึ่งข้าง ก่อนร่างอันใหญ่ั์จะกระเด็นออกไปกระแทกกับต้นไม้
เย่เฟิงเองก็อยู่บริเวณชายขอบคลื่นพลังนั่นเช่นกัน ใน่เวลาสำคัญเช่นนี้เขาป้องกันคลื่นพลังทำลายนั่นได้ด้วยเกราะเทพาที่เปล่งแสงสีแดงโลหิตและกำลังห่อหุ้มร่างเขาไว้
แต่พลังทำลายล้างที่เกิดจากการะเิตัวของปลายยอดปีศาจพิภพทรงพลังเกินไป แม้จะอยู่บริเวณชายขอบก็ไม่ใช่สิ่งที่เย่เฟิงจะต่อต้านได้ ดังนั้นเกราะเทพาจึงแตกสลายในพริบตา ก่อนร่างจะกระเด็นออกไปไกลพร้อมกระอักเืและหมดสติไปในที่สุด
การที่ผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์วัยเยาว์เข้าร่วมศึกที่มีแต่ปีศาจพิภพนั่น มีเพียงคำว่าน่าสังเวชที่จะอธิบายทุกอย่างได้
หัวหน้าจิ้งจอกขาวใช้วิธีะเิร่างตน ในขณะที่ถูกกลืนกินพลังงาน และยังคงสร้างความเสียหายให้กับเย่เฟิง เห็นชัดว่าถ้าปลายยอดปีศาจพิภพเกิดคลั่งขึ้นมาคงจะน่ากลัวไม่ใช่น้อยเลย
หากเย่เฟิงไม่มีไข่มุกเม็ดนั้นเป็ไพ่ตาย แม้จะมีปีศาจพิภพสิบตนเข้าร่วมสู้ ก็ไม่มีทางเป็คู่ปรับของปลายปีศาจพิภพอย่างหัวหน้าจิ้งจอกขาวได้
หมอกควันอันตรธานหายไป ปีศาจพิภพหลายตนมีาแทั่วร่าง ส่วนปีศาจพิภพวานรตนนั้นหายใจรวยริน จากนั้นเหล่าปีศาจพิภพที่เห็นว่าหัวหน้าจิ้งจอกขาวหายไปแล้วต่างก็ถอนหายใจยาว นับจากนี้ไปพวกเขาไม่ต้องทนทุกข์และคอยอกสั่นขวัญแขวนอีกต่อไป
ชายหนุ่มขั้นรวมชี่ผู้นั้นไม่ได้หลอกพวกเขา เขาทำมันได้จริง ๆ ทำลายหัวหน้าจิ้งจอกขาว แต่ดูเหมือนตัวเขาจะได้รับาเ็สาหัส ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็อย่างไรบ้าง?
เหล่าปีศาจพิภพเดินไปหาเย่เฟิง พวกเขาพบว่าสถานการณ์ของเย่เฟิงในเวลานี้อยู่ขั้นวิกฤติ สภาพดูไม่ได้ โชคดีที่ยังมีลมหายใจ แต่ก็อ่อนแอมาก ๆ
“เขายังไม่ตาย พวกเราพาเขากลับไปกันเถอะ” ปีศาจพิภพตนหนึ่งสื่อสารกับเหล่าสหาย
ปีศาจพิภพตนอื่น ๆ พยักหน้า จากนั้นอุ้มร่างเย่เฟิงขึ้นมา พร้อมกับพาตัวปีศาจพิภพวานรตนนั้นออกไปจากที่นี่