“ตูม!”
“ตูม ตูม ตูม…”
เพลิงอัสนีะเิะเืเลือนลั่น ท้องฟ้าถูกย้อมไปด้วยสีแดง
ทางเหนือของท่าเรือเกิดเหตุการณ์ะเิใหญ่เช่นนี้ จึงไปปลุกผู้บำเพ็ญเซียนของท่าเรือหลงหยาจำนวนไม่น้อย เพียงแต่สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน ทุกคนเพียงเข้าไปมุงดู แต่ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว
ในกลุ่มคนเหล่านี้ ลุงเยี่ยนได้สติกลับมาจากความตกตะลึง เขาพุ่งไปทางแสงไฟด้วยสีหน้าซีดขาว
……
“นายน้อย…นายน้อย…”
ลุงเยี่ยนพยายามะโออกไป เขาพลิกหาร่องรอยจั๋วอวิ๋นเซียนในซากปรักหักพัง
เนินเขาแบนราบเป็หน้ากลอง พื้นดินรอบๆ ไหม้ดำ คนธรรมดาไม่มีทางรอดชีวิตได้
นี่คือผลลัพธ์หลังการะเิของลูกปัดเพลิงอัสนี อีกทั้งไม่ได้ใช้เพียงลูกเดียวด้วย ััถึงกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตไม่ได้เลย
หรือว่านายน้อยจะ…ไม่! เป็ไปไม่ได้!
ความคิดลุงเยี่ยนเริ่มสับสน ท้ายที่สุดก็คุกเข่าลงพื้นด้วยจิตใจที่แตกสลาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ เขาไม่มีทางเชื่อว่าจั๋วอวิ๋นเซียนจะยอมตายไปพร้อมกับศัตรู และไม่เชื่อด้วยว่าจั๋วอวิ๋นเซียนจะตาย
……
“แคกๆ…”
ในฝุ่นควันมีเงาร่างหนึ่งมุดขึ้นมาจากพื้นดินไหม้ดำ
เมื่อได้ยินเสียงนี้ลุงเยี่ยนได้สติทันที เขารีบพุ่งตัวเข้าไป
เขาเห็นจั๋วอวิ๋นเซียนกำลังนอนหอบหายใจอยู่บนพื้น เกราะบนร่างพุพังจนไม่เหลือชิ้นดี เนื้อตัวมอมแมม ถึงแม้ดูไปแล้วจะน่าอนาถมาก แต่กลับไม่ได้รับาเ็อะไร
“นายน้อยหรือ?”
ลุงเยี่ยนรีบเข้าไปพยุงจั๋วอวิ๋นเซียน เขาป้อนโอสถิญญาให้เม็ดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ทนไม่ไหวที่จะบ่นออกมา “นายน้อย…ท่านบ้าไปแล้วหรือ? ถึงกับใช้ลูกปัดเพลิงอัสนี แล้วก็ไม่ใช่แค่ลูกเดียวด้วย! ยังดีที่ท่านไม่เป็อะไร มิเช่นนั้นข้าจะไปพบหน้าท่านผู้นำตระกูลได้อย่างไร?”
“ไม่เป็ไร ข้าคำนวณมาอย่างละเอียดแล้ว ถึงแม้จะกะทันหันไปบ้าง แต่ก็มิได้เป็อะไร…”
หลายวันมานี้จั๋วอวิ๋นเซียนติดตามลุงเยี่ยนหลบหนีไปทั่ว ตัวเขาก็มิได้อยู่เฉย ขอเพียงมีเวลาว่างเขาก็จะเรียนรู้มรดกสืบทอดของสำนักเทียนกง และลุงเยี่ยนก็ถ่ายทอดทุกอย่างที่รู้ให้แก่เขาโดยไม่ปิดบัง ดังนั้นพลังทำลาย ขอบเขต แม้กระทั่งจุดอ่อนของลูกปัดเพลิงอัสนี จั๋วอวิ๋นเซียนล้วนศึกษามาอย่างครบถ้วน
ลุงเยี่ยนรู้ว่าตัวเองเถียงไม่ชนะ จึงยิ้มอย่างขมขื่น “มิน่าเล่าเมื่อครู่นายน้อยถึงบอกว่าจะรอชำระผลกรรม ดูท่าคงจะเตรียมการอยู่นานแล้วกระมัง!”
“ลุงเยี่ยน ที่นี่มิควรอยู่นาน พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ”
จั๋วอวิ๋นเซียนฟื้นฟูเกือบสมบูรณ์แล้ว เขาจึงขี่ล้อเหินเวหาออกมาพร้อมลุงเยี่ยน…
และในเวลานี้เอง มีลำแสงพุ่งเข้ามาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว
จั๋วอวิ๋นเซียนเหมือนนึกอะไรขึ้นได้จึงขมวดคิ้วแน่น “แย่แล้ว! ยอดฝีมือของนิกายเซียนโม่เหมินมาแล้ว! ลุงเยี่ยนรีบหนีเร็ว!”
เมื่อกล่าวจบจั๋วอวิ๋นเซียนก็ดึงลุงเยี่ยนขึ้นมามุ่งหน้าไปทางท่าเรือหลงหยา
……
มีคำกล่าวไว้ว่า คนหรือจะสู้ลิขิตฟ้า บนโลกนี้ไม่มีใครที่คำนวณทุกอย่างได้อย่างแท้จริง!
เดิมทีจั๋วอวิ๋นเซียนคิดว่ามีเพียงตระกูลซีโหลวที่เดินทางมาที่นี่ คิดไม่ถึงว่าคนใหญ่คนโตของนิกายเซียนโม่เหมินก็ตามมารวดเร็วเช่นกัน
“ฟุ่บ!”
เสียงทะลวงผ่านอากาศ ลำแสงกะพริบไหว
จั๋วอวิ๋นเซียนกับลุงเยี่ยนกำลังจะบินเข้าท่าเรือแล้ว เงาบุรุษวัยกลางคนกลับปรากฏตัวด้านหน้าขวางทางพวกเขาเอาไว้
“ในเมื่อข้ามาแล้ว จะปล่อยให้พวกเ้าหนีไปได้อย่างไร?”
ผู้มาเยือนสวมชุดคลุมดำ เส้นผมปลิวไสว เขากำลังขี่ล้อเหินจันทร์เสี้ยว ส่องแสงหนาวเย็นภายใต้ท้องฟ้ายามราตรี
“ผู้าุโโม่เหมิน ซือคงอวี่!”
ลุงเยี่ยนปกป้องจั๋วอวิ๋นเซียนไว้ด้านหลัง เขาจ้องมองบุรุษวัยกลางคนอย่างเ็า สายตาแฝงด้วยความเคียดแค้น!
ซือคงอวี่เป็ยอดฝีมือระดับกำเนิดปราณ ทั้งยังเป็หนึ่งในคนร้ายที่ทำลายสำนักเทียนกงในปีนั้น ลุงเยี่ยนไม่มีวันลืมหน้าตาของอีกฝ่ายแน่!
“ดีมาก! ในเมื่อจำข้าได้ คิดว่าเ้าคงเป็เศษเดนของสำนักเทียนกงสินะ…หืม? บริเวณนี้ยังมีกลิ่นะเิเพลิงอัสนีด้วย น่าจะเป็ลูกปัดเพลิงอัสนีมิผิดแน่! ดูท่าพวกเสิ่นว่านโหลวจะมิได้โกหกข้า!”
ซือคงอวี่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยความพอใจ “ไอ้แก่ เ้าชื่ออะไรนะ? ส่งมรดกสืบทอดของสำนักเทียนกงมาเสีย ข้าจะไว้ชีวิตเ้า”
“ไว้ชีวิตหรือ? เกรงว่าจะอยู่ไม่สู้ตายเสียมากกว่า?”
ลุงเยี่ยนเม้มปากอย่างดูแคลนแล้วกล่าวเยาะเย้ยตรงๆ “ข้าเป็ศิษย์เฝ้าประตูของสำนักเทียนกง จะมีมรดกสืบทอดได้อย่างไร?”
“เหอะเหอะ”
ซือคงอวี่มิได้โกรธแต่กลับหัวเราะ เขาเอ่ยปากว่า “ศาสตร์ทักษะที่สามารถสร้างลูกปัดเพลิงอัสนีได้ มิใช่สิ่งที่คนตัวเล็กจะมีไว้ ข้ารู้ว่าเ้าเกลียดชัง แต่มิเป็ไร ข้าชอบคนที่ไม่ให้ร่วมมืออย่างเ้า จะได้ลองใช้เมล็ดปีศาจกลืนใจเสียที…”
เมื่อกล่าวจบซือคงอวี่พลิกมือหยิบโอสถสีดำเม็ดหนึ่งออกมา ลอยอยู่กลางฝ่ามือเงียบๆ
“เมล็ดปีศาจกลืนใจหรือ?”
จั๋วอวิ๋นเซียนกับลุงเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขาแอบถือลูกปัดเพลิงอัสนีเอาไว้ลูกหนึ่ง
ขอเพียงยังมีความหวังหนึ่งในหมื่น พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกเส้นทางตาย แต่ความน่ากลัวของเมล็ดปีศาจกลืนใจ ถ้าถูกฝังในร่างคน คนผู้นั้นจะกลายเป็ทาสเสมือนหุ่นเชิดของอีกฝ่าย ไม่มีความคิด ไม่มีอิสระ…นี่ถึงจะเป็การอยู่ไม่สู้ตายของจริง!
โม่เหมิน? หมอเหมิน? มิใช่คนดีอะไรจริงๆ!
เทียบกับการถูกควบคุม มิสู้ทุ่มสุดตัวดีกว่า…นี่ก็คือความกล้าและความรับผิดชอบของชายหนุ่มคนหนึ่ง!
ลุงเยี่ยนสังเกตเห็นแววตาเด็ดเดี่ยวของจั๋วอวิ๋นเซียน ในใจเต็มไปด้วยความชื่นชมและซาบซึ้ง
“ช้าก่อนซือคงอวี่ ข้าสามารถให้ศาสตร์วิชาที่เ้า้าได้ แต่เ้าต้องปล่อยเด็กคนนี้ไป เขาเป็ผู้บริสุทธิ์”
เมื่อได้ยินคำขอของลุงเยี่ยน จั๋วอวิ๋นเซียนมึนงง เขากำลูกปัดเพลิงอัสนีแน่นยิ่งขึ้น
ซือคงอวี่หัวเราะออกมา “พวกเ้าคิดว่าข้ามาทำการค้าหรือ? เ้าเสนอแบบไหนข้าก็ต้องยอมรับหรือ? ไอ้แก่วางใจเถอะ พวกเ้าหนีไม่พ้นแล้ว!”
“เ้า…”
ลุงเยี่ยนฝืนกลั้นความโกรธ หันไปกล่าวกับจั๋วอวิ๋นเซียนด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “นายน้อย ที่จริงแล้วชีวิตของข้า ท่านผู้นำเป็คนช่วยเอาไว้ มิเช่นนั้นข้าคงตายไปั้แ่เมื่อสามสิบปีก่อนแล้ว ข้ามีชีวิตมาเกือบร้อยปีแล้ว เฉยชากับความเป็ความตายแล้ว เสียดายแค่มิอาจแก้แค้นได้ แต่ชีวิตของท่านเพิ่งเริ่มต้น…สิ่งที่ต้องสอนท่านก็สอนไปแล้ว ต่อไปต้องพึ่งตัวเองแล้ว!”
“ลุงเยี่ยน! นี่ท่าน…”
จั๋วอวิ๋นเซียนจิตใจเริ่มสั่นไหว เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นในใจ
จากนั้นลุงเยี่ยนยกตัวจั๋วอวิ๋นเซียนปาออกไปด้านหน้า “เรือออกทะเลถูกเตรียมไว้แล้ว ใช้ชื่อของท่าน ขอแค่เข้าไปในท่าเรือหลงหยาได้ ท่านก็ออกไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว”
“วิ่ง! เร็วเข้า…”
ลุงเยี่ยนแอบเอายันต์หยกสีดำแผ่นหนึ่งติดร่างของจั๋วอวิ๋นเซียน ในเวลาเดียวกันก็จุดะเิลูกปัดเพลิงอัสนี
“ตูม…”
เสียงะเิดังสะนั่น โลหิตกระจายทั่วท้องฟ้า พลังเพลิงอัสนีบ้าคลั่งฉีกลุงเยี่ยนเป็ฝุ่นผง
ส่วนที่หน้าอกของจั๋วอวิ๋นเซียนมีแสงยันต์กะพริบวาบ เผยเกราะไร้ลักษณ์ที่คุ้มครองเขาเอาไว้ จากนั้นถูกคลื่นพลังน่ากลัวผลักออกไปทางท่าเรือ
เห็นได้ชัดว่าซือคงอวี่คิดไม่ถึงว่าลุงเยี่ยนจะเด็ดขาดเช่นนี้ เขารีบป้องกันอย่างไม่ทันตั้งตัว หลังจากนั้นถูกเพลิงอัสนีกลืนกินเข้าไปจนาเ็สาหัส
……
“ลุงเยี่ยน…”
จั๋วอวิ๋นเซียนโมโหจนตาแทบหลุดออกจากเบ้า สายตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเ็ป
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเห็นญาติสนิทข้างกายตายไปต่อหน้าต่อตาหลังจากที่มารดาของเขาจากโลกนี้ไป อีกทั้งยังตายเพื่อช่วยเขา
เขาเกลียดตัวเอง...เกลียดตัวเองที่คิดว่าตัวเองฉลาด เกลียดที่คิดว่าตัวเองเก่ง เกลียดที่เป็ตัวถ่วงคนข้างกาย เขาเกลียดที่ตัวเองอ่อนแอ
“เ้าหนู อยากแก้แค้นหรือไม่?”
ทันใดนั้นมีน้ำเสียงดังในสมองของจั๋วอวิ๋นเซียนโดยมิมีการเตือนล่วงหน้า น้ำเสียงแฝงด้วยความชั่วร้ายและเ็า
