ถูกต้องซูเต๋อเหยียนกับนางแซ่หลี่ต้องใช้ครั้งนี้ก่อเหตุเป็เื่ใหญ่แน่ๆ
ซูเฟยซื่อแทบไม่ต้องคิดก็สั่งการอย่างเด็ดขาดว่า“หากระสอบใบหนึ่งบรรจุนางเข้าไป ผูกกับก้อนหินหลายก้อนถ่วงให้จมลงไปในบ่อที่สวนบุปผชาติ”
“คุณหนูคิดจะทำลายซากศพกลบร่องรอย?” ซางจื่อแปลกใจนิดหน่อย
“คนก็ฆ่าตายไปแล้วยังต้องทำลายซากศพกลบร่องรอย?” ซูเฟยซื่อกล่าวอย่างสบายๆ แล้วเอากล่องอาหารจากในมือของซางจื่อเดินไปที่โต๊ะอีกตัว“เซ่าชิง เรากินข้าวกันเถอะ”
ถึงอย่างไรนางก็ไม่ได้เป็คนดีอะไรอยู่แล้วอย่าว่าแต่นี่เป็คนที่คิดให้ร้ายนาง
หลังใช้แส้เฆี่ยนศพนางไม่แม้แต่จะกะพริบตาสักครา เพราะทุกคนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนได้ทำเอาไว้
หากทำผิดพลาดก็มีราคาที่ต้องจ่าย
คิดฆ่านางก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต
“เ้าค่ะ”ซางจื่อยิ้มรับทันที ยิ่งชื่นชมนิสัยของซูเฟยซื่อ รีบลากหลิงเอ๋อร์ออกไปจัดการ
เห็นซูเฟยซื่อนั่งลงเซ่าชิงก็ตามเข้าไปด้วย“คิดไม่ถึงว่าทวนเปิดเผยเกาทัณฑ์ลับของจวนอัครมหาเสนาบดีนี้ไม่ได้ด้อยกว่าในสนามรบสักนิด”
ซูเฟยซื่อช่วยเซ่าชิงจัดเตรียมอาหารเสร็จจึงยิ้มแล้วเอ่ยปาก “เ้าไม่เคยได้ยินคำพูดประโยคหนึ่ง? ระหว่างผู้หญิงก็เป็สนามรบที่ไร้ฝุ่นตลบ! ไม่ใช้ดาบหรือทวนยังสามารถให้เ้าตายไร้ที่ฝังได้”
“ฟังจากน้ำเสียงเ้ารู้ว่าใครวางยาแล้ว?”เซ่าชิงคีบเนื้อชิ้นหนึ่งโยนเข้าปาก ในเมื่อเป็อาหารที่ซูเฟยซื่อนำมาย่อมไม่มีพิษแน่นอน
ซูเฟยซื่อส่งเสียงฮึ่มอย่างเ็าทันที“นอกจากนางแซ่หลี่กับซูจิ้งเถียนแล้ว ยังจะมีใคร เื่นี้ข้าย่อมจัดการได้เองวันข้างหน้าเ้าเองก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น อย่าได้หลงกลพวกเขา”
สำหรับนางแซ่หลี่กับซูจิ้งเถียน...ฮึ่ม กล้าลงมือใส่คนของนาง แค้นนี้นางต้องชำระแน่
เซ่าชิงยิ้มอย่างสบายใจทันที“ข้าอยู่ที่นี่เ้าวางใจเถิด ผู้ชายตัวใหญ่เช่นข้าหากถูกพวกนางสองคนฆ่า จะยังมีหน้าอยู่ในโลกนี้ได้หรือ? สำหรับวิธีของเ้าข้านั้นเห็นด้วย เพียงแต่ถ่วงซากศพของสาวรับใช้คนนั้นไว้ในน้ำไม่ได้เป็แผนการระยะยาวอันใดไม่ช้าก็เร็วต้องถูกคนพบแน่คืนนี้ให้ข้าฉวยโอกาสยามวิกาลส่งศพออกไปจากจวนอัครมหาเสนาบดีดีหรือไม่?”
“เ้าอย่าดูถูกเื่เหล่านี้สักพักข้าจะให้ซางจื่อเอากล่องเข็มเงินมา ไม่กลัวพวกนางมาอย่างโจ่งแจ้งก็กลัวพวกนางเล่นหมกเม็ด ไม่รบกวนเ้าเื่สาวรับใช้คนนั้นแช่น้ำไปก่อนสักหลายวันค่อยว่ากัน ศพนี้ยังมีที่ข้าจะใช้ประโยชน์ได้”ซูเฟยซื่อยิ้มอย่างลึกลับคราหนึ่ง ดูแล้วเ้าเล่ห์มากเหมือนสุนัขจิ้งจอก
จุดนี้นางก็คิดไว้มานานแล้วขนย้ายศพออกไปจากจวนอัครมหาเสนาบดีในยามวิกาลกลับเป็เื่ง่าย แต่ตอนนี้เป็นางที่ปกครองตระกูลในจวนอัครมหาเสนาบดีสาวรับใช้คนหนึ่งหายตัวไปอย่างไม่รู้สาเหตุไม่ได้เป็เื่สำคัญอะไร
ในเมื่อเป็เช่นนี้ใช้ประโยชน์จากความตายของหลิงเอ๋อร์ไม่ดีกว่าหรือ ให้นางแซ่หลี่และซูจิ้งเถียนได้ััว่าอะไรที่เรียกว่าความกลัวด้วย
“เอาเถอะ”เซ่าชิงเห็นนางแบบนี้ก็รู้ว่านางมีความคิดแล้ว ไม่พูดอะไรมากอีก ตั้งใจกินอาหาร
หลังจากกินอาหารเสร็จซูเฟยซื่อจึงออกมาจากห้องของเซ่าชิง ส่วนซางจื่อได้จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เห็นซูเฟยซื่อออกมานางรีบเข้าไปหา “คุณหนู”
“นางแซ่หลี่กับซูจิ้งเถียนมีการเคลื่อนไหวใดหรือไม่?” ซูเฟยซื่อถามเสียงต่ำ
“ยังไม่มีเ้าค่ะคาดว่าตอนนี้กำลังรอหลิงเอ๋อร์กลับไปรับคำสั่งเ้าค่ะ” ซางจื่อยิ้มเยาะทันทีอยากเห็นสีหน้าขณะที่นางแซ่หลี่กับซูจิ้งเถียนรู้ว่าหลิงเอ๋อร์ตายแล้วจริงๆ
ซูเฟยซื่อพยักหน้า“เ้าติดตามอยู่ข้างกายข้าทั้งวัน ถ้าต้องแบ่งเวลาไปดูแลเซ่าชิงย่อมถูกคนมุดผ่านช่องว่างแล้ว เื่นี้ก็มอบให้จือฉินไปแทนซะนิสัยจือฉินเป็คนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา แม้จะเถรตรง แต่ก็ยังใช้งานได้”
“จือฉินเป็คนที่เหมาะสมคนหนึ่งจริงๆสักพักบ่าวจะออกไปจัดการเ้าค่ะ” ซางจื่อกล่าวอย่างเห็นด้วย คิดๆแล้วกล่าวต่อไปอีก “คุณหนูคิดจะจัดการเื่นี้อย่างไร? หรือว่าให้ศพของหลิงเอ๋อร์จมอยู่ตรงนั้นไปตลอดเ้าคะ?”
“เ้าคิดว่าควรจัดการอย่างไร?” จู่ๆซูเฟยซื่อก็ถามกลับ อยากลองฟังความคิดที่แตกต่าง
ซางจื่ออึ้งไปแล้ว“เมื่อครู่ ขณะที่บ่าวจัดการศพของหลิงเอ๋อร์เห็นบนร่างนางมีแผลเป็เก่าใหม่ไม่น้อยหลังจากตรวจสอบจึงรู้ว่าหลิงเอ๋อร์เป็สาวรับใช้ในห้องของซูจิ้งเถียนซูจิ้งเถียนมักจะด่าตีสาวรับใช้ บ่าวรู้สึกว่าคุณหนูสามารถเริ่มลงมือจากเื่นี้ได้เ้าค่ะ”
ซูเฟยซื่อตาสว่างขึ้นทันทีซางจื่อให้ความคิดใหม่แก่นางแล้วจริงๆ
นางกลอกตาคราหนึ่ง“เ้าปล่อยข่าวเื่ซูจิ้งเถียนด่าตีสาวรับใช้ออกไป หลังจากนั้นสามวัน หาผู้ชายคนหนึ่งมาแสร้งเป็คู่รักที่เป็เพื่อนสมัยเด็กของหลิงเอ๋อร์ให้เขามาหาคนที่จวนอัครมหาเสนาบดีก่อเื่อาละวาดเสียงดังให้มากหน่อย ทางที่ดีที่สุดให้ทุกคนได้รู้กันไปทั่ว”
“ถ้าเช่นนั้นนางแซ่หลี่กับซูจิ้งเถียน ท่านคิดจะจัดการอย่างไรเ้าคะ?” ซางจื่อถามอย่างกังวล
ตอนนี้นางแซ่หลี่กับซูจิ้งเถียนยังไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติแต่ถ้ารอจนถึงตอนกลางคืนหลิงเอ๋อร์ยังไม่กลับไป พวกนางต้องมีการเคลื่อนไหวแน่นอน
“นิ่งเฉยไว้ก็เป็การจัดการที่ดีที่สุดเ้าปล่อยข่าวออกไป บอกว่ามีคนเห็นสาวรับใช้ของจวนอัครมหาเสนาบดีหนีไปแล้วเมื่อพวกนางเห็นพวกเราไม่มีการเคลื่อนไหว ทั้งได้ยินข่าวนี้อีก ต้องคิดว่าคนที่หนีไปเป็หลิงเอ๋อร์แน่ๆทำให้ยังไม่คิดถึงเราชั่วคราว รอจนพวกนางคิดได้ก็สายไปแล้ว”
ดวงตาของซูเฟยซื่อหรี่เล็กน้อยครั้งนี้นางไม่เพียงแต่จะตีนางแซ่หลี่กับซูจิ้งเถียนโดยไม่ทันตั้งตัวทำอะไรไม่ถูกแต่ยังจะทำให้ชื่อเสียงซูจิ้งเถียนป่นปี้ไปด้วย
นางแซ่หลี่ไม่ใช่คิดอยากให้ซูจิ้งเถียนเข้าวังหรือ? นาง้าดูว่าผู้หญิงที่สูญเสียความนิยมของปวงชนไปแล้วคนหนึ่งจะเข้าวังมาได้อย่างไร!
สามวันต่อมาบัณฑิตคนหนึ่งมาถึงหน้าประตูของจวนอัครมหาเสนาบดีดั่งคาด แต่ด้านหลังเขายังตามมาด้วยประชาชนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งเกือบจะปิดกั้นประตูใหญ่ของจวนอัครมหาเสนาบดีไปแล้วข่าวเื่ซูจิ้งเถียนทารุณสาวรับใช้แพร่กระจายอย่างกว้างขวางอีกทั้งบัณฑิตคนนี้ยังกล่าวอีกว่าหญิงสาวคู่รักที่เป็เพื่อนสมัยเด็กของเขาเป็สาวรับใช้ที่ปรนนิบัติของซูจิ้งเถียนพอดีแต่เมื่อเร็วๆ นี้กลับหายสาบสูญไป ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะมาร่วมสนุก
แต่ก็มีคนที่ใจดีขู่ว่าจะกั้นประตูใหญ่ของจวนอัครมหาเสนาบดีหากจวนอัครมหาเสนาบดีไม่ให้คำอธิบายก็จะไม่ไป ต้องช่วยทวงความยุติธรรมให้บัณฑิตได้แน่นอน
“พี่ป้าน้าอาทุกท่านข้ากับหลิงเอ๋อร์เป็คู่รักเป็เพื่อนสมัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกัน สัญญาหมั้นหมายในบ้านก็เรียบร้อยแล้วรอก็แต่ปีหน้าตอนขึ้นปีใหม่จะจัดงานแต่งงาน ใครจะนึก เมื่อสามวันก่อนจู่ๆหลิงเอ๋อร์จะไร้ข่าวคราว ทั้งจวนอัครมหาเสนาบดียังมีข่าวของคุณหนูสี่ที่ชอบทารุณสาวใช้แพร่ออกมาทั้งหลิงเอ๋อร์ก็เป็สาวรับใช้ที่คอยปรนนิบัติคุณหนูสี่พอดีด้วยหลิงเอ๋อร์ที่น่าสงสารของข้าน้อย นางเพิ่งอายุสิบสี่เอง...” บัณฑิตกล่าวจบยังไม่ลืมที่จะใช้แขนเสื้อคลุมเช็ดน้ำตา
ซูเฟยซื่อสวมใส่เสื้อผ้าชาวบ้านธรรมดาซ่อนอยู่ในฝูงชนเห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมนี้ของบัณฑิตอดไม่ได้ที่จะชื่นชมประสิทธิภาพการทำงานของซางจื่อ
มีบัณฑิตนี้ะโร้องไห้อยู่ที่นี่มีชาวบ้านเหล่านี้ล้อมมุงดูอยู่ที่นี่ ไม่ช้าก็เร็วต้องสั่นคลอนไปถึงซูเต๋อเหยียนถึงเวลานั้นซูจิ้งเถียนไม่คิดแก้ปัญหาเื่นี้ก็ทำไม่ได้แล้ว
คิดจบนางรีบเบี่ยงร่างหลบเข้าไปในตรอกเล็กๆ ทันที ปีนกำแพงกลับไปที่สวนปี้หวิน
ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบชาเบาๆราวกับว่าไม่เคยออกไปข้างนอกอย่างไรอย่างนั้น
แต่ในเรือนของซูจิ้งเถียนก็ยุ่งเหยิงวุ่นวายไปตั้งนานแล้ว
“รีบไปหาข้าไม่เชื่อว่าคนเป็ๆ คนหนึ่งจะหายไปแบบนี้ได้” ซูจิ้งเถียนโกรธมากะโใส่คนรับใช้พลาง ขว้างปาข้าวของพลาง ข่มขู่จนคนรับใช้รีบวิ่งออกไปตามหาต่อ
ทันทีที่นางแซ่หลี่ได้ยินข่าวก็รีบวิ่งมาอย่างเร่งด่วนเห็นซูจิ้งเถียนกำลังอารมณ์เสียอาละวาด พลันขมวดคิ้ว “นี่เ้ากำลังทำอะไร? ตอนนี้ข้างนอกกำลังลือเื่เ้าทารุณสาวรับใช้กระจายไปอย่างบ้าคลั่งเ้าเป็แบบนี้อีก ใช่คิดให้ข่าวลือนั่นเป็จริงหรือ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้