ณ ห้องรับรองแขกพิเศษจากลานประมูล
หลินเฟิงและเมิ่งฉิงต่างนั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่มๆ ส่วนป้าเตาก็ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา
หลังผ้าม่านที่มีลวดลายแปลกตานั้น พวกเขาทั้งสามสามารถมองเห็นลานประมูลที่อยู่ข้างนอกได้ชัดเจน
ในขณะนั้นด้านหน้าลานประมูล จู่ๆ ก็มีหญิงสาวรูปร่างสมส่วนเดินออกมา ที่แท้นางก็เป็หญิงสาวที่มาต้อนรับหลินเฟิง ทว่าตอนนี้นางได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็ชุดยาวสีฟ้าซึ่งส่วนกระโปรงของชุดยาวลากพื้น แต่ยังคงเผยให้เห็นไหล่ทั้งสองข้าง เมื่อดูจากมุมมองของหลินเฟิง ก็จะเห็นหน้าอกอวบอิ่มและร่องอกที่ลึกอย่างเห็นได้ชัด มันทำให้หลินเฟิงรู้สึกแปลกๆ
ทางด้านเมิ่งฉิงกำลังจ้องมองหลินเฟิงด้วยดวงตาเปล่งประกาย ตอนนี้เองที่หลินเฟิงพลันรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จึงหันไปตามสัญชาตญาณจนทั้งสองหันมาสบตากันพอดี หลินเฟิงจึงยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน
ในขณะเดียวกัน ที่ห้องรับรองข้างๆ ก็มีชายหนุ่มที่ดูธรรมดาคนหนึ่งนั่งอยู่ ทว่าชายคนดังกล่าวมีดวงตาที่แหลมคมราวกับมีด ข้างหลังของเขามีกลุ่มคนยืนอยู่ ซึ่งกลุ่มคนนั้นเป็ผู้ชายสองคนและผู้หญิงสองคน ที่หลินเฟิงเห็นตอนอยู่ภัตตาคาร
“หลันเจียว ผู้หญิงคนนี้นับวันยิ่งน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ” เหลิ่งเยว่กล่าวอย่างเ็า
“หากศิษย์พี่เหลิ่งเยว่ชื่นชอบ ข้าเชื่อว่าหลันเจียวจะต้องไม่ปฏิเสธศิษย์พี่อย่างแน่นอน” หนึ่งในคนที่อยู่ด้านหลังเหลิ่งเยว่กล่าวประจบสอพลอ
กลับเห็นเหลิ่งเยว่ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก จากนั้นก็หัวเราะก่อนกล่าวว่า “หากคล้อยตามเกินไปแล้วมันจะมีความหมายอะไร ข้าชอบใช้กำลังมากกว่า”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทั้งสี่คนก็มองไปทางอื่นทันที คุณชายเตาผู้นี้มีรสนิยมประหลาดและชอบความรุนแรง โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะเชื่อฟังเขาหรือไม่ เขาสนุกไปกับการใช้มีดเพื่อทำให้อีกฝ่ายเชื่อฟัง แม้แต่ผู้หญิงก็ไม่ละเว้น เห็นได้ชัดว่าเขาก็รักในการใช้กำลังมากขนาดไหน
“การเดินทางมาถึงเมืองเทียนลั้วนั้นไม่ใช่เื่ง่าย เพราะฉะนั้นข้าต้องได้ทั้งมีดและผู้หญิงกลับไป”
เหลิ่งเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจนทั้งสี่คนข้างหลังต่างประหลาดใจ เกรงว่าหลันเจียวคงไม่อาจรอดจากเงื้อมมือของเหลิ่งเยว่ได้แล้ว เพราะเธอเป็สาวงามและมีเสน่ห์ล้นเหลือ นอกจากนี้นางยังมีร่างกายที่ยอดเยี่ยมอีก
การประมูลในวันนี้ก็เหมือนเช่นเคย ยังคงมีการประมูลของสิบชิ้น ซึ่งบางอย่างหลินเฟิงก็ไม่ได้สนใจนัก เขาแค่นั่งเงียบๆ ขณะมองดูผู้คนประมูลสินค้าอย่างกันดุเดือด
ขณะที่หลันเจียวประกาศเปิดตัวสินค้าประมูลลำดับที่แปด หลินเฟิงก็เริ่มสนใจมากขึ้น
อาวุธจิติญญาระดับสูง มีดเสี้ยวจันทรา! ซึ่งราคาเริ่มประมูลของมันอยู่ที่ 1,000 หินหยวนระดับกลาง
วันนี้มีผู้คนมากมายต่างจับจ้องมีดเสี้ยวจันทรา เพียงแค่เริ่มประมูลราคาของเสี้ยวจันทราก็เพิ่มขึ้นถึง 2,000 หินหยวนระดับกลาง และด้วยราคานี้มันก็มีบางคนที่ไม่สามารถประมูลต่อได้
อาวุธจิติญญาระดับสูงถึงแม้เป็ของล้ำค่า แต่ด้วย 2,000 หินหยวนระดับกลางนั้นก็ถือว่าเป็จำนวนที่มากเกินกว่าที่คาดคิด
“3,000 หินหยวนระดับกลาง!”
ในขณะนั้นได้มีเสียงที่แหลมคมราวกับใบมีดดังขึ้น ทันใดนั้นเจตจำนงมีดก็แผ่ปกคลุมไปทั้งลานประมูล
มันทำให้ผู้คนต่างประหลาดใจ จากนั้นพวกเขาก็หันมองไปยังห้องรับรองแขกพิเศษ ซึ่งเจตจำนงมีดได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากในนั้น
“นั่นคุณชายเตา!”
ฝูงชนต่างตัวสั่น เจตจำนงมีดนี้น่าจะปลดปล่อยออกมาจากคุณชายเตา ผู้คนล้วนได้ยินข่าวลือว่าเขาได้มาถึงเมืองเทียนลั้วแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าจะปลดปล่อยเจตจำนงมีดมายังฝูงชนโดยตรง ช่างร้ายกาจยิ่งนัก
อย่างไรก็ตามคุณชายเตานั้นมีพร์และความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าพวกเขามาก ประกอบกับมีนิกายเฮ่าเยว่อยู่เื้ัอีก แน่นอนว่าเขาต้องมีอำนาจมาก และผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับนั้น คุณชายเตาก็ไม่แม้แต่จะชายตามองแม้แต่น้อย
หลังจากปลดปล่อยเจตจำนงมีดออกมา บรรยากาศในลานประมูลก็กลายเป็เงียบสงัด
“3,100 หินหยวนระดับกลาง!”
ขณะนั้นเองได้มีเสียงที่ไม่แยแสดังขึ้น เสียงนี้ได้ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดลง โดยต้นตอของเสียงน่าจะมาจากแถวๆ ห้องรับรองของคุณชายเตา นอกจากห้องรับรองพิเศษของคุณชายเตาแล้ว ยังมีห้องรับรองอีกห้องที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน
“หืม?” เหลิ่งเยว่ประหลาดใจ จากนั้นก็กล่าวอย่างเ็าว่า “4,000 หินหยวนระดับกลาง”
“4,100 หินหยวนระดับกลาง”
น้ำเสียงเยือกเย็นดังสวนขึ้นอีกครั้ง ทำให้สีหน้าของเหลิ่งเยว่ค่อยๆ เปลี่ยนไป เขาพลันปลดปล่อยเจตจำนงมีดพุ่งไปยังห้องรับรองข้างๆ อย่างไม่พอใจ
“คุณชายเตา นี่มันหมายความว่ายังไง? การประมูลคือการแข่งขันที่ยุติธรรม เพราะเหตุใดท่านถึงทำเช่นนี้?” ตอนนี้เองได้มีลมปราณอันหนาวเหน็บแผ่ออกมาสายหนึ่ง ซึ่งเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง โดยลมปราณดังกล่าวได้ขัดขวางเจตจำนงมีดเอาไว้
“คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซาน!”
ผู้คนต่างต้องประหลาดใจ เนื่องจากศิษย์ที่มาจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซาน และยังกล้ายั่วยุคุณชายเตานั้น มีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ
“ปิงหยวน!”
คุณชายเตากัดฟันะโชื่อดังกล่าวอย่างเ็า จากนั้นค่อยขานราคาต่อว่า “5,000 หินหยวนระดับกลาง!”
“5,100 หินหยวนระดับกลาง!”
“8,000 หินหยวนระดับกลาง!” คราวนี้เหลิ่งเยว่ได้เพิ่มราคาการประมูลถึง 8,000 ในขณะเดียวกัน อำนาจมีดที่แหลมคมก็ยิ่งพรั่งพรูออกมาอย่างรุนแรง
ผู้คนที่เฝ้าดูเหตุการณ์ต่างใจเต้นแรง สำหรับราคาสินค้าที่เพิ่งขานออกมาถือว่าสูงกว่ามาตรฐานไปมาก เห็นได้ชัดว่าคุณชายเตาร่ำรวยมากขนาดไหน
“ในเมื่อเหลิ่งเยว่ชอบเช่นนี้ งั้นข้าก็จะถอย”
เหลิ่งเยว่ยิ้มอย่างไม่แยแส เจตจำนงอันเยือกเย็นได้รุนแรงขึ้นอีกครั้ง น้ำค้างแข็งสีขาวแผ่กระจายไปในอากาศพร้อมเสียงคำราม ห้องรับรองทั้งสองจึงถูกแยกออกและเผยให้เห็นร่างเงาสามร่าง
เป็ผู้ชายกับผู้หญิงนั่งอยู่ และยังมีอีกชายสวมหน้ากากอีกคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลัง
“งั้นข้าก็ต้องขอขอบคุณปิงหยวนมาก มีดเสี้ยวจันทราจะต้องเป็ของข้า” คุณชายเตากล่าว โดยไม่สนใจหลินเฟิงและอีกสองคน
ผู้คนต่างส่ายหน้าขณะมองพวกหลินเฟิง นี่ถือว่าเป็ความโชคร้ายของพวกเขาที่เลือกห้องรับรองพิเศษที่อยู่ระหว่างปิงหยวนและคุณชายเตา พวกเขาต้องเดือดร้อนอย่างแน่นอน
“หลันเจียว ประกาศเถิด” คุณชายเตาพูดเกี่ยวกับการประมูล หลันเจียวก็เหลือบมองมาที่ห้องรับรอง และพยักหน้าเล็กน้อยให้กับหลินเฟิงพลางยิ้มอย่างรู้สึกผิด
นางกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างออกมา แต่กลับได้ยินหลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “8,100 หินหยวนระดับกลาง”
เมื่อสิ้นสุดเสียงหลินเฟิง ทันใดนั้นบรรยากาศก็เงียบงัน หลินเฟิง... เสนอราคา 8,100 หินหยวนระดับกลางเพื่อสู้กับคุณชายเตา
“เขา้าจะเอาคืน?”
“บางทีเขาอาจจะอยากเดือดร้อนก่อน แล้วค่อยสำนึกผิด ท่าทางชายผู้นี้จะดวงไม่ดีเสียแล้ว”
หลายคนเริ่มคิดกันไปต่างๆ นานา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยั่วยุแค่ปิงหยวนคนเดียว ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะยั่วยุคุณชายเตาด้วย
เมื่อเหลิ่งเยว่ได้ยินก็ต้องตะตกลึง นอกจากปิงหยวนแล้ว ยังมีใครกล้ายั่วยุเขาอีก?
คุณชายเตาหลับตาลง ทันใดนั้นเขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็ใคร เขาลืมตาขึ้นกะทันหันขณะที่คลี่รอยยิ้มเยือกเย็นที่มุมปาก
“ดูเหมือนว่าเื่ที่ภัตตาคาร คงยังไม่เพียงพอที่จะสยบพวกเ้าได้สินะ”
เหลิ่งเยว่กล่าวอย่างเ็า จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “9,000 หินหยวนระดับกลาง”
“9,100 หินหยวนระดับกลาง” เมื่อเหลิ่งเยว่กล่าวจบ เสียงของหลินเฟิงก็ดังขึ้นทันที สิ่งที่น่ารังเกียจไปกว่านั้นก็คือ น้ำเสียงของหลินเฟิงเป็น้ำเสียงที่นิ่งสงบอย่างมาก ไม่มีความผันผวนใดๆ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจคุณชายเตาเลยแม้แต่นิด
“เ้ารนหาที่ตาย!” เหลิ่งเยว่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปลดปล่อยเจตจำนงมีดที่รุนแรงออกมา เหลิ่วเยว่เปิดม่านออกมาปรากฏตัวต่อหน้าฝูงชน
ในตอนนี้ทั้งเขาและหลินเฟิงต่างถูกที่กั้นขวางเอาไว้ หากทั้งสองคนต่างก้าวออกมาเพียงหนึ่งก้าวก็จะเจอกันทันที
ป้าเตาขยับตัวเล็กน้อยก็มาถึงด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นอำนาจมีดที่ดุเดือดก็พุ่งตรงออกไป
ตอนนี้เองเกิดเสียงดังขึ้น เมื่อมีดของทั้งสองปะทะกันในอากาศ
“ประมูลไม่ได้ก็อย่ามาทำให้ตัวเองขายหน้าเลย เปลี่ยนจากชื่อคุณชายเตาเป็ชื่อคุณชายผู้ไร้ยางอาย ยังจะเหมาะเสียกว่า”
หลินเฟิงกล่าวล้อเลียน ชายหนุ่มคนนี้กล้ายั่วยุเหลิ่งเยว่ต่อหน้าผู้คน
“12,000 หินหยวนระดับกลาง”
เหลิ่งเย่วกล่าวขณะกัดฟันแน่น ไม่คาดคิดว่าหลินเฟิงจะกล้ายั่วยุว่าเขาประมูลไม่ได้
“ฮ่าๆๆ เป็ไปตามคาดจริงๆ ที่ว่าคนจากนิกายเฮ่าเยว่ช่างร่ำรวยยิ่งนัก” หลินเฟิงหัวเราะ “อาวุธจิติญญาที่ล้ำค่าขนาดนี้ มันแพงเกินไปสำหรับข้า”
“สมควรตาย! นี่เป็เจตนาของเขา!”
“เ้าหมอนี่ช่างน่าสนใจนัก จงใจยั่วโมโหคุณชายเตา ทำให้เขาต้องเสนอราคาประมูลมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟิงแล้ง ฝูงชนก็ต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน เ้าหมอนี่ช่างหน้าหนายิ่งนัก
ทั้งสี่คนที่อยู่ด้านหลังเหลิ่งเยว่ ต่างก็ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก
“ฮ่าๆๆ พูดถูกแล้วเ้าน้องชาย แต่ดูเหมือนว่านิกายเฮ่าเยว่จะร่ำรวยและมีหินหยวนจำนวนมาก” ปิงหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทะเล้น คำพูดของเขาราวกับน้ำมันที่ราดบนกองไฟ หากเขาทำให้ปิงหยวนสู้กับหลินเฟิงได้คงเป็เื่ที่น่าสนใจไม่น้อย
อย่างไรก็ตามหลินเฟิงกลับยิ้มอย่างเ็า ริมฝีปากเขาเปิดเล็กน้อยราวกับกำลังคิดหาคำพูด ก่อนจะกล่าวออกไปอย่างเ็าว่า “เ้าเรียกใครว่าน้องชาย? คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานก็เหมือนกับเ้าที่ไร้ยางอายและทำสิ่งต่างๆ ในเงามืด”
เมื่อหลินเฟิงกล่าวจบก็ทำให้ฝูงชนต้องแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น หลินเฟิงไม่เพียงแต่ยั่วยุคุณชายเตาเท่านั้น ในตอนนี้แม้แต่ปิงหยวนเขาก็ยังดูแคลน เขาพูดจาเหยียดหยามทั้งสองฝ่ายอย่างไร้ซึ่งความเกรงกลัว!