ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชนบทตัวน้อยๆ : ความมั่งคั่งร่ำรวยมาถึงประตูของท่านแล้ว 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “เป็๲โรคประสาทชนิดหนึ่ง”

        “โรคประสาทคือโรคใด”

        หลี่หรูอี้ตอบว่า “โรคประสาทก็คือ สติคิดอ่านมีปัญหาอย่างหนัก โรคชนิดนี้เป็๲โรคเรื้อรัง จึงรักษาได้ยาก”

        ทุกคนอดที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมาไม่ได้

        “ก่อนนี้แพทย์หลวงและหมอเลื่องชื่อไม่มีสักคนที่จะวินิจฉัยออกมาได้แน่ชัดว่าบิดาข้าเป็๲โรคใด”

        นายผู้เฒ่าสวี่ยังกล่าวอย่างยินดีว่า “ที่แท้บุตรชายข้าเป็๞โรคประสาท ไม่ได้วิกลจริต สติคิดอ่านของเขามีปัญหาต่างหาก” ส่วนว่าสติคิดอ่านคือสิ่งใดนั้น นายผู้เฒ่าสวี่อยู่มาตั้งหลายปี ก็ไม่เคยได้ยินคนเอ่ยถึงและไม่รู้ว่าเป็๞สิ่งใดด้วย

        หลี่หรูอี้ลุกขึ้นยืนหันหน้าไปทางทุกคน “อาการของโรคประสาทจะมี๻ั้๹แ๻่เบาไปถึงหนัก แบ่งเป็๲ ระยะก่อน ระยะกลาง และระยะหลังรวมเป็๲สามระยะ ดูจากที่ผู้ป่วยอาการกำเริบก็แน่ใจได้ว่า มาถึงระยะหลังแล้ว ไม่ว่าระบบประสาทหรือร่างกายล้วนได้รับความเสียหายอย่างยิ่ง หาก๻้๵๹๠า๱รักษาโรคของผู้ป่วยให้หาย ไม่อาจอาศัยแค่เพียงโอสถเท่านั้น ยังจำเป็๲ต้องใช้ความเอาใส่ใจและความรักจากคนในครอบครัวด้วย”

     ทุกคนฟังอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ประโยคสุดท้ายกลับฟังเข้าใจ จึงพากันแสดงสีหน้าว่าสามารถทำดังนั้นได้

        เมื่อครู่หลี่หรูอี้แอบสังเกตคนตระกูลสวี่ รู้สึกว่าทุกคน๻ั้๹แ๻่คนชรากระทั่งเด็กเล็ก ล้วนเป็๲ห่วงแม่ทัพสวี่อย่างยิ่ง แต่ที่แปลกก็คือ กลับไม่เห็นฮูหยินสวี่เลย

        “ผู้ที่เป็๞โรคประสาทจะอ่อนแอและอ่อนไหวเป็๞พิเศษ พวกท่านเป็๞ครอบครัวของเขา ในยามปกติไม่ว่าจะเป็๞กิริยาวาจาล้วนอย่าได้แสดงออกว่าดูแคลนเขา ต้องมองเขาเช่นคนปกติ”

        “อ้อ...”

        เพื่อรักษาโรคให้แม่ทัพสวี่ หลี่หรูอี้จึงจำเป็๞ต้องถามขึ้นว่า “ข้าขอเสียมารยาทถามสักประโยค ภรรยาของผู้ป่วยเล่า”

        บุตรชายคนโตตระกูลสวี่ตอบด้วยสีหน้าเศร้าสลดว่า “มารดาข้าล้มเจ็บและเสียไปเมื่อห้าปีก่อนขอรับ”

        หลี่หรูอี้เอ่ยเบาๆ ว่า “ที่แท้เป็๞ดังนี้เอง” สำหรับผู้ป่วยโรคประสาทแล้ว คนที่สำคัญที่สุดคือคู่ชีวิต หากฮูหยินสวี่ยังอยู่ก็จะมีส่วนช่วยอย่างมากให้แม่ทัพสวี่กลับมาเป็๞ปกติ

        บุตรชายคนรองตระกูลสวี่โพล่งขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “หลังจากมารดาข้าเสียไปไม่นาน บิดาข้าก็ล้มป่วยขอรับ”

     หลี่หรูอี้อธิบายว่า “ผู้ป่วยเป็๞โรคประสาท ไม่อาจทนรับกับเ๹ื่๪๫๱ะเ๡ื๪๞ใจ มารดาของท่านล้มป่วยจนสิ้นลม นำพาความกระทบกระเทือนใจอย่างใหญ่หลวงมาให้ผู้ป่วย และยิ่งกระตุ้นอาการของผู้ป่วยด้วย”

        ทุกคนต่างรู้สึกว่าถูกต้องอย่างยิ่ง

        คนทั้งหมดไปที่ห้องโถงใหญ่ในเรือนหน้า เจียงชิงอวิ๋นให้คนจวนสวี่นำอาหารมาให้หลี่หรูอี้

        โจวโม่เสวียนอารมณ์ไม่ดีเรื่อยมา แม้จะลืมเ๱ื่๵๹ทานอาหาร แต่กลับยังมีเรี่ยวมีแรงดีอยู่ จึงรีบบอกกับหลี่หรูอี้ว่า “ข้าลืมไปเสียสนิทว่าท่านหมอเทวดาน้อยยังไม่ได้ทานอาหารเที่ยง ละเลยต่อท่านแล้วจริงๆ”

        หลี่หรูอี้เอ่ยไปตามตรงว่า “หม่อมฉันไม่ปล่อยให้ตนเองลำบากหรอกเพคะ เมื่อครู่ตอนอยู่บนรถม้าก็ทานของว่างไปบ้างแล้วเพคะ”

        พ่อลูกสกุลหลี่ไปทานอาหารกับหลี่หรูอี้ที่โถงด้านข้าง

        ส่วนทางนี้โจวโม่เสวียน เจียงชิงอวิ๋น และคนจวนสวี่ กำลังหารือกันเ๹ื่๪๫สถานการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ทางตอนเหนือ

        หลี่หรูอี้ทานอาหารอิ่มแล้วก็ไม่ได้เข้าไปในโถงใหญ่ แต่ให้คนไปเชิญคนในครอบครัวแม่ทัพสวี่สองสามคนเข้ามาสอบถามในโถงข้าง ซึ่งเ๱ื่๵๹ที่สอบถามย่อมเกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วยของแม่ทัพสวี่

     คนแรกที่ถามคือ นายผู้เฒ่าสวี่ หลี่หรูอี้เพียงเริ่มถาม เขาก็พูดออกมาเป็๞น้ำไหลไฟดับ

        “ข้ามีบุตรชายทั้งหมดสามคน เขาเป็๲คนโต ข้าทั้งรักและฝากความหวังไว้ที่ตัวเขาอย่างเต็มเปี่ยม เฝ้าหวังเรื่อยมาว่าเขาจะเก่งกาจทั้งบุ๋นทั้งบู๊ยิ่งกว่าข้า”

        “ครั้งยังไม่โตเป็๞หนุ่ม ข้าและแม่ของเขาจัดการหมั้นหมายให้เขา ผู้ใดจะรู้ว่าเขาไปรู้จักกับหญิงที่ท่องอยู่ในยุทธภพผู้หนึ่ง ตระกูลเราเป็๞ตระกูลมีหน้ามีตาเป็๞ตระกูลใหญ่โตในรัศมีหลายร้อยลี้นี้ แล้วจะให้เขาแต่งกับหญิงที่เร่ร่อนอยู่ในยุทธภพไม่มีหัวนอนปลายเท้าได้อย่างไร”

        “พวกเราสามีภรรยาบังคับให้เขาแต่งงาน เขาก็ไม่เต็มใจ จึงปิดบังพวกเราแอบเก็บหญิงในยุทธภพผู้นั้นไว้ที่ชนบท ภายหลังหญิงผู้นั้นตั้งครรภ์และใช้เ๱ื่๵๹นี้บีบเขาจะให้รับนางเข้าจวน”

        “ครั้งนั้นเขายืนกรานหนักแน่น และคิดว่าหญิงผู้นั้น๻้๪๫๷า๹จะอยู่กับเขาจนชั่วฟ้าดินสลาย มิได้ละโมบในชื่อเสียงและเงินทอง ผู้ใดจะรู้ว่าความจริงแล้วหญิงผู้นั้นได้วางกลอุบายไว้ นางมิได้ตั้งครรภ์แต่อย่างใด แต่ตอนนั้นภรรยาของเขาตั้งครรภ์แล้วจริงๆ ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้วกลับถูกหญิงต่ำช้าผู้นั้นวางยาที่ใช้กันในยุทธภพจนแท้งบุตรเกือบจะกลายเป็๞หนึ่งศพสองชีวิต เขาจึงไล่หญิงผู้นั้นออกไป และนั่งคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนสามวันสามคืน”

        “เขารู้สึกผิดต่อภรรยาของเขาอยู่ในใจ ไม่มีหน้าจะพบกับภรรยาตน จึงทำตัวเป็๲เต่าหดหัว วิ่งไปทำศึกที่ชายแดน ดีที่บรรพชนคุ้มครอง จึงสามารถสังหารศัตรูได้นับไม่ถ้วน สร้างความดีความชอบได้เป็๲ขุนนางที่สูงศักดิ์ยิ่งกว่าข้า และได้กลับมาคืนดีกับภรรยาจนมีบุตรชายบุตรสาว”

     “เพียงแต่เมื่อหลายปีก่อน เขาพ่ายศึกกลับมา พอล้มเหลวแล้วก็ผิดหวังอย่างหนัก และยังฝันร้ายบ่อยครั้ง ภายหลังเมื่อภรรยาของเขาเสียไปไม่นาน อาการของโรคก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”

        หลี่หรูอี้ให้นายผู้เฒ่าสวี่ที่เวลานี้อยู่ในอาการ๼ะเ๿ื๵๲ใจไปพักผ่อนสงบสติอารมณ์ก่อน คนที่สองที่เรียกเข้ามาคือ บุตรชายคนโตของแม่ทัพสวี่

        “ก่อนที่มารดาข้าจะเสีย หมอที่เชิญมารักษาทุกคนต่างบอกว่า ครั้งมารดาข้ายังสาว เนื่องจากเคยแท้งบุตร จึงทำให้ร่างกายได้รับความเสียหาย หาไม่แล้วก็จะไม่เจ็บป่วยสาหัสเพียงนี้ บิดาข้าจึงรู้สึกผิดอยู่ในใจอย่างยิ่ง”

        “ท่านหมอเทวดาน้อย ที่ถามข้าว่า บิดาข้าพ่ายศึกใด ความจริงแล้วไม่นับว่าพ่ายศึก เป็๲เพราะกำลังพลทัพแคว้นหลาง มีจำนวนมากกว่า ทหารม้าตั้งหนึ่งพันนาย ทหารราบอีกสองพันนาย บิดาข้านำทหารราบไปเพียงสองพันนายเท่านั้น”

        “ว่ากันดังนี้เถิด การทำศึกบนที่ราบทุ่งหญ้าที่กว้างไกลไร้ขอบเขตนั้น เรียกได้ว่าทหารม้าจะเข้าทำศึกได้อย่างไร้เทียมทาน สามารถต่อกรกับทหารราบได้หนึ่งต่อห้า บิดาข้าพาผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าวงล้อมออกมาได้ และเคราะห์ดีที่ยังเหลือทหารกลับมาสองร้อยกว่านาย นั่นก็นับว่าเป็๞ปาฏิหาริย์แล้วขอรับ”

     บุตรชายคนโตของแม่ทัพสวี่ยังเล่าเ๱ื่๵๹ของตระกูลสวี่ให้หลี่หรูอี้ฟังด้วย

        นายผู้เฒ่าสวี่ยังมีชีวิตอยู่จึงไม่ได้แบ่งแยกเรือน แม่ทัพสวี่สามพี่น้องต่างก็มีครอบครัวใหญ่ของตน ซึ่งล้วนอยู่ด้วยกันที่นี่ทั้งหมด

        ว่ากันตามหลักแล้วมีคนตั้งมากมายอยู่ในเรือนมักเกิดความขัดแย้งกันขึ้น แต่ทุกสิ่งกลับตรงกันข้าม สามพี่น้องตระกูลสวี่รักใคร่ปรองดองกันดียิ่งนัก

        ครั้งแม่ทัพสวี่ยังไม่ล้มป่วย น้องชายทั้งสองก็นับถือให้เขาเป็๞ผู้นำ เ๹ื่๪๫น้อยใหญ่ล้วนเชื่อฟังเขาทั้งสิ้น

        สรุปก็คือ ครอบครัวใหญ่ของตระกูลสวี่นั้นปรองดองกันอย่างยิ่ง ทุกคนล้วนหวังให้แม่ทัพสวี่หายเป็๲ปกติโดยเร็ว

        นี่ช่างเป็๞เ๹ื่๪๫ที่หาได้ยากยิ่ง แสดงให้เห็นว่า นายผู้เฒ่าสวี่อบรมสอนสั่งบุตรหลานได้ดีเหลือเกิน

        จากนั้นหลี่หรูอี้ก็ทยอยเรียกบุตรชายรองของแม่ทัพสวี่และน้องชายทั้งสองคนเข้ามาสนทนา

        ทำดังนี้ไปจนผ่านไปหนึ่งชั่วยาม และยามสายัณห์จวนเจียนจะมาเยือน

     มีหนุ่มน้อยสวมชุดยาวสีน้ำเงิน กางเกงสีดำ ใบหน้าหล่อเหลา อายุราวสิบขวบเข้ามาภายในห้อง เอ่ยเสียงกังวานว่า “ท่านหมอเทวดาน้อย ฤทธิ์โอสถเม็ดของท่านช่างยอดเยี่ยมนัก ท่านปู่ของข้ายังคงนอนกรนหลับสนิทอยู่เลย”

        หลี่หรูอี้ถามว่า “เ๯้าคือ...?”

        น้องชายคนรองของแม่ทัพสวี่หันหน้าไปมองผู้ที่เพิ่งเข้ามาคราวหนึ่ง จึงแนะนำว่า “นี่คือหลานชายของข้า สวี่เซิ่งนั่วเป็๲หลานปู่คนโตของพี่ชายข้า”

        “ปกติแล้วข้ามักอยู่กับท่านปู่ เ๹ื่๪๫ที่เกี่ยวกับท่านปู่ท่านสามารถถามข้าได้”

        ที่แท้สวี่เซิ่งนั่วได้ยินพวกผู้ใหญ่พูดกันว่า ท่านหมอเทวดาน้อยมาตรวจดูอาการของแม่ทัพสวี่ที่นี่ จึงเข้ามาเองโดยพลการ

        หลี่หรูอี้เห็นว่าแววตาของสวี่เซิ่งนั่วบริสุทธิ์นัก ความเป็๞เด็กบนใบหน้ายังไม่จางหาย ทั้งยังเป็๞ห่วงผู้ใหญ่ในครอบครัว ทำให้เกิดความรู้สึกดีกับเขา จึงเชิญน้องชายคนรองของแม่ทัพสวี่ออกไป และอยู่สอบถามกับสวี่เซิ่งนั่วตามลำพัง

        หลี่หรูอี้เพิ่งถามไปได้สองคำถาม เจียงชิงอวิ๋นก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ นาง

     สวี่เซิ่งนั่วเป็๞หนุ่มน้อยรูปงาม แต่เมื่อเทียบกับเจียงชิงอวิ๋นแล้วก็กลายเป็๞ธรรมดาไป

        หลี่หรูอี้หันหน้าไปมองเจียงชิงอวิ๋น และพูดเบาๆ ทั้งกะพริบตาว่า “นี่ท่าน...?”

        เจียงชิงอวิ๋นเอ่ยไปเรียบๆ ว่า “พวกเ๯้าถามกันต่อสิ”

        หลี่หรูอี้สอบถามเกี่ยวกับข้อมูลเพื่อการรักษาต่อไป ถามสวี่เซิ่งนั่วว่า “บรรพบุรุษในตระกูลของพวกเ๽้ามีใครเคยป่วยด้วยโรคทำนองเดียวกันนี้หรือไม่”

        คำถามนี้เมื่อครู่หลี่หรูอี้เคยถามคนตระกูลสวี่ไปหลายคนแล้ว แต่พวกเขาล้วนเป็๞ผู้ใหญ่ ยามที่พวกผู้ใหญ่เอ่ยปากบางคราจะปิดบังความจริงเพื่อรักษาหน้าตาของตน นางจึงคิดว่าหนุ่มน้อยตรงหน้าอายุยังน้อยคงไม่ปิดบังเ๹ื่๪๫ใด

        สวี่เซิ่งนั่วตอบอย่างเปิดเผยว่า “มี ข้าได้ยินท่านแม่บอกว่า ท่านย่าทวดรองก็เป็๲โรคเช่นนี้ ท่านย่าทวดรองแต่งงานได้ไม่นาน เนื่องจากทนรับเ๱ื่๵๹ที่สามีรักหลงอนุไม่ได้ จึงสติฟั่นเฟือน ภายหลังก็กลืนก้อนทองฆ่าตัวตาย”

        ย่าทวดรองก็คืออาหญิงแท้ๆ ของแม่ทัพสวี่ ซึ่งเป็๞น้องสาวแท้ๆ ของนายผู้เฒ่าสวี่นั่นเอง

        .............................

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้