บุรุษที่อยู่ด้านหลังกล่าวอย่างไม่ยินดียินร้าย “เช่นนั้นข้าลักลอบกับเ้าสักครั้งเป็อย่างไรเล่า?”
หลินชิงเวยชะงักฝีเท้าจากนั้นหันกายกลับมา มองเขาขึ้นๆ ลงๆ อย่างประเมินคำรบหนึ่ง“อย่างท่าน? ซื้อหนึ่งแถมสิบ ข้าก็ไม่้า”
บุรุษดูเหมือนจะถูกนางทำให้เกิดโทสะ แต่ที่มีมากกว่าโทสะคือความสนใจเขากล่าวว่า“แต่ข้าได้ยินมาว่าเ้าถูกส่งเข้าตำหนักเย็นด้วยความผิดฐานคบชู้สู่ชายเช่นกันเ้าคิดว่าเ้าสูงส่งเหลือเกิน?”
หลินชิงเวยคร้านจะตอบเขา นางไม่พูดอะไรอีกแต่ปล่อยงูออกไปกัดเขาทันที
ชิงหลันเลื้อยออกมาจากร่างของหลินชิงเวย เลื้อยเข้าไปหาร่างของบุรุษคนนั้นอย่างดุดันมันอ้าปากกว้าง พ่นเสียงดังฟู่ๆ
บุรุษเห็นเช่นนั้นจึงรีบหลบหลีก เมื่อสงบจิตใจได้แล้วมองอีกครั้งรอบด้านล้วนไม่พบเห็นเงาร่างของชิงหลัน
เขาเงยหน้าขึ้นมองเงาร่างของหลินชิงเวย ท่ามกลางแสงจากโคมไฟที่ไม่สว่างนักเงาร่างของนางเล็กแบบบาง ทว่ารอบกายนางราวกับมีแสงสว่างบางๆ ชั้นหนึ่งครอบคลุมอยู่ชิงหลันพันกายอยู่บนไหล่ของนาง นางเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองเขา
สายลมในยามราตรีพัดเส้นผมและชายอาภรณ์ของนาง นางเยือกเย็นราวกับเป็เทพเซียนที่มิอาจล่วงเกินได้
หลินชิงเวย...บุรุษคนนั้นกลับนั่งอยู่ที่นั่นอย่างไม่รีบร้อนมือของเขาเอื้อมไปด้านหลังเพื่อพยุงร่างของตน สีหน้าของเขาในนี้ดูไม่อนาทรร้อนใจนางแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง ราวกับเปลี่ยนไปเป็คนละคนอย่างไรอย่างนั้นเมื่อก่อนนางเป็เช่นท่อนไม้ท่อนหนึ่งอย่างไร้ข้อกังขาแตกต่างจากเวลานี้ราวฟ้ากับดิน มิน่าเล่า นางจึงออกมาจากสถานที่เช่นตำหนักเย็นได้ซ้ำยังไปอยู่ข้างกายฮ่องเต้ได้
หลินชิงเวยเดินไปพักหนึ่ง ในที่สุดนางก็เดินมาถึงริมสระไท่เยี่ยศาลาหลังนั้นยังคงอยู่ที่นั่น ในเวลาดึกดื่นเช่นนี้ส่งผลให้ที่นี่ดูอ้างว้างผิดธรรมดามันเป็เสมือนสัญลักษณ์นำทางของหลินชิงเวย ขอเพียงนางมองเห็นศาลาแห่งนั้นนางก็รู้ว่าต่อไปจะต้องเดินอย่างไร
เมื่อกลับมาถึงตำหนักฉางเหยี่ยน ทุกคนต่างพักผ่อนกันหมดแล้ว หลินชิงเวยกลับเข้ามาถึงในเรือนร่างกายของนางเต็มไปด้วยไอเย็น เห็นภายในเรือนยังมีแสงสว่างจากตะเกียงและซินหรูนั่งยองๆหลับไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวระหว่างรอนางอยู่เพียงลำพังที่บันไดหน้าประตู
เด็กคนนี้ คิดแล้วคงมารอนางกลับมาหลินชิงเวยคิดได้เช่นนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าอ่อนโยนลงหลายส่วนใบหน้าพลันปรากฏรอยยิ้มอบอุ่นขึ้น
หลินชิงเวยเดินเข้าไปอย่างเบามือเบาเท้า เดิมทีนางคิดจะอุ้มซินหรูกลับห้องไหนเลยจะคิดว่าเพิ่งจะยื่นมือออกไปก็ทำให้สาวน้อยใตื่นขึ้นมาเสียก่อนนางเงยหน้าขึ้นมองทันทีที่เห็นว่าเป็หลินชิงเวยจึงเอ่ยขึ้นอย่างยินดีว่า “พี่สาวในที่สุดท่านก็กลับมาเสียที ข้าคิดว่าจะไม่ได้พบท่านแล้วเ้าค่ะ”
หลินชิงเวยกล่าว “นั่นเป็เพราะเ้าโง่เขลา ไม่รู้จักเข้าไปรอในห้องรอให้เ้านอนหลับไปตื่นหนึ่งข้าก็กลับมาแล้วไงเล่า”
ซินหรูไหนเลยจะยังหลงเหลือความง่วงนอน นางลุกขึ้นแล้วเข้าไปจุดตะเกียงภายในห้องเป็ลำดับแรกแล้วจึงหันกลับมากล่าวว่า“พี่สาว ท่านกินอะไรมาหรือยังเ้าคะ หิวหรือไม่เ้าคะ ข้ายังเก็บกับข้าวไว้ให้ท่านเวลานี้อุ่นอยู่ในหม้อเ้าค่ะ”
ภายในตำหนักฉางเหยี่ยนมีครัวเล็กอยู่ แม้อาหารของห้องครัวเล็กจะไม่ดีเลิศเทียบเท่ากับอาหารจากห้องเครื่องแต่รสชาติอาหารยังถือได้ว่าโอชายิ่งยวด หลินชิงเวยกล่าวยิ้มๆ ว่า“ได้ยินเ้าพูดเช่นนี้ ข้ารู้สึกหิวขึ้นมาบ้างแล้วน่ะสิ”
ซินหรูวิ่งออกไปนอกห้องด้วยความดีใจ “เช่นนั้นพี่สาวรอสักครู่เ้าค่ะข้าจะไปยกมาให้ท่านเดี๋ยวนี้”
ซินหรูทำทุกอย่างด้วยความว่องไว อาหารถูกนำมาขึ้นโต๊ะอย่างรวดเร็วอีกทั้งยังเป็อาหารร้อนๆ หลินชิงเวยกินแล้วรู้สึกว่ารสชาติดีกว่าอาหารที่ตำหนักซวี่หยางด้วยซ้ำไปจึงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วกล่าวว่า “วันนี้ข้าได้กินอาหารจากห้องเครื่องแล้วแต่พี่สาวคิดว่าอร่อยสู้กับข้าวที่ซินหรูเก็บไว้ให้พี่สาวไม่ได้”
“จริงหรือเ้าคะ?” ดวงตาของซินหรูทอประกายวิบวับชัดเจนยิ่งนักว่าปลาบปลื้มยินดีอย่างที่สุด นางกล่าวอีกว่า“พี่สาวจะอาบน้ำหรือไม่เ้าคะ? ข้าไปจะไปต้มน้ำร้อนให้พี่สาว”
หลินชิงเวยกล่าว “ดึกเช่นนี้แล้ว ยังจะอาบน้ำอะไรอีกเล่าอย่างไรเวลานี้อากาศก็ไม่ร้อน ไม่อาบสักวันหนึ่งคงไม่กระไรก่อนหน้านี้พวกเราอยู่ในตำหนักเย็นมิใช่หลายวันจึงจะอาบน้ำสักครั้งหรอกหรือ?”
ซินหรูกล่าวอย่างเบิกบานใจว่า “ก็ใช่เ้าค่ะพี่สาวกลับมาทั้งร่างมีแต่กลิ่นหอมกรุ่นเช่นนั้นข้าไปตักน้ำมาให้พี่สาวล้างขานะเ้าคะ กลางคืนจะได้นอนหลับสบายขึ้น”
ไม่รอให้หลินชิงเวยตอบคำ ซินหรูออกไปทันทีสาวน้อยคนนี้บทจะทำงานขึ้นมา ล้วนไม่รู้จักง่วงเหงาหาวนอนเลยหรือไร
เพียงแต่ทันทีที่ซินหรูเอ่ยขึ้น หลินชิงเวยเองจึงอดไม่ได้ที่จะดอมดมตัวเองบนร่างของนางมีกลิ่นชนิดนั้นจริงๆ แม้จะดมแล้วเป็กลิ่นหอม แต่นางกลับไม่ชอบใจนักทันทีที่คิดได้ว่าด้านหลังของนางถูกชายหนุ่มคนนั้นเข้าใกล้แนบชิดขนบนกายทั้งร่างของนางก็พากันลุกเกรียว
ดังนั้นหลังจากที่ซินหรูนำน้ำร้อนมาให้หลินชิงเวยจึงไม่ได้รีบร้อนแช่ขาแต่อย่างใด นางให้ซินหรูกลับห้องไปพักผ่อนจากนั้นปิดประตูหน้าต่างเหลือเพียงโคมไฟจากตะเกียงผ้าโปร่งที่ส่องแสงมลังเมลืองภายในห้องดวงเดียวนางหยิบเสื้อนอนแล้วเข้าไปในห้องอาบน้ำ ถอดเสื้อผ้าอาภรณ์บนร่างกายออกอีกทั้งเห็นว่าภายในห้องอาบน้ำยังมีน้ำเย็นอีกสองถัง จึงนำน้ำร้อนมาผสมกับน้ำเย็นแล้วอาบน้ำ
นางเช็ดตัวอย่างง่ายๆแล้วผลัดเปลี่ยนมาสวมเสื้อนอนผ้าไหมเนื้อบางตัวหลวม เดินเท้าเปล่าออกมา
ทว่าเมื่อนางออกมาจากห้องอาบน้ำ ภายในห้องกลับมีคนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
หลินชิงเวยจ้องเขม็ง นี่มิใช่เซ่อเจิ้งอ๋อง เซียวเยี่ยนที่หายตัวไปตลอดทั้งบ่ายเลยหรือ เขามาที่นี่ทำอะไรซ้ำยังกล้าหาญชาญชัยเข้ามาในห้องนอนของเจาอี๋หลินชิงเวยกลอกลูกั์ตาของตนในใจพลันกระจ่างแจ้งขึ้นทันที
หลินชิงเวยกล่าว“หยกสีม่วงชิ้นนั้นมีความสำคัญกับท่านถึงเพียงนั้นจริงๆ หรือ?”
เซียวเยี่ยนชะงัก ร่างกายใหญ่โตของเขาหันกลับมานาทีที่สายตาของเขาจับจ้องหลินชิงเวย ดูเหมือนร่างของเขาแข็งเกร็งเล็กน้อยยามนี้นางเกล้าผมไว้กลางศีรษะด้วยปิ่นปักผมอันหนึ่งเพื่อสะดวกในการอาบน้ำเส้นผมบางส่วนแนบติดไปกับลำคองามระหงผุดผ่องที่ยังชุ่มชื่นด้วยมีละอองน้ำจับอยู่
เสื้อนอนนั้นหลวมโพรก ปรากฏให้เห็นกระดูกไหปลาร้าและลาดไหล่งดงามทั้งๆ ที่มองไม่เห็นรูปร่างของนางชัดเจน ทว่าเมื่ออยู่ภายใต้เสื้อนอนตัวนั้นกลับทำให้นางดูไปแล้วรูปร่างเล็กบางกว่าเมื่อตอนกลางวันเรือนกายภายใต้เสื้อผ้าอาภรณ์นั้นมองไม่เห็นทว่ากลับให้ความรู้สึกยั่วยวนผู้คนอย่างร้ายกาจ
เซียวเยี่ยนคิดว่าตนเองเป็คนเปิดเผยตรงไปตรงมาคนหนึ่งทว่าเขายังคงลอบเข้ามาในห้องนอนของหลินชิงเวยในยามวิกาลเช่นนี้เดิมทีเขาคิดว่าในเวลานี้หลินชิงเวยน่าจะหลับสนิทไปแล้วคิดไม่ถึงว่าบนเตียงนอนกลับว่างเปล่า
ชัดเจนอย่างยิ่งว่าเมื่อหลินชิงเวยเห็นเขาก็รู้ถึงจุดประสงค์ในการมาของเขาทันที
เซียวเยี่ยนเลื่อนสายตาไปทางอื่น ไม่มองนาง“เ้าคืนหยกชิ้นนั้นมาให้เปิ่นหวางจะดีที่สุด หาไม่แล้วหากถูกคนอื่นพบเห็นเข้าย่อม เกิดผลเสียกับเ้า”
หลินชิงเวยกล่าว “ก็ใช่ นั่นเป็เครื่องประดับที่พกพาติดกายของเสด็จอาหากถูกผู้อื่นพบเห็นเข้า จะต้องสงสัยว่าระหว่างข้าและเสด็จอามีอะไรกันเป็แน่เช่นนั้นข้าจะซ่อนเอาไว้อย่างดีไม่ให้ผู้ใดพบเห็นเป็พอ?”
“เ้า...” เซียวเยี่ยนจนปัญญากับนางเสมออีกทั้งยังเดือดดาลอย่างที่สุด “เ้าจะคืนหรือไม่?”
“หากข้าไม่คืน ท่านคิดจะขโมยใช่หรือไม่?” หลินชิงเวยเดินเข้ามากลิ่นอายสะอาดสะอ้านผ่องใสที่ปนเปไปด้วยความสดชื่นทำให้ดูเหมือนนางปีศาจที่แปลงร่างจากดอกพุดตาน “เวลานี้พบว่าข้ายังไม่หลับดังนั้นเสด็จอาจึงไม่สะดวกใจที่จะขโมยสิ่งของ?”
ชายอาภรณ์อันอ่อนโยนราวกับจะคั้นน้ำได้ของหลินชิงเวยัักับชายอาภรณ์สีม่วงเข้มของเซียวเยี่ยนทำให้บรรยากาศภายในห้องดูอบอุ่นและกำกวมขึ้นมาสองส่วน นางเดินวนรอบๆกายเซียวเยี่ยนพร้อมกับเลิกคิ้วถามว่า “คิดจะให้ข้าคืนสิ่งของให้ท่านก็ได้ท่านตอบคำถามข้ามาหนึ่งข้อ”
“เ้าพูดมา”
หลินชิงเวยหยุดยืนเบื้องหน้าเขา จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา“คืนนั้น ชายหนุ่มที่เข้ามาบนเตียงนอนของข้า เป็ท่านใช่หรือไม่?”