เมื่อหลิงชางไห่เห็นเช่นนั้นก็รีบออกจากห้อง ก่อนจากไปยังไม่ลืมหวังดีช่วยพวกเขาปิดประตูอีกด้วย
ชีเหนียงหน้าแดงกับการกระทำนี้ของเขา ั์ตาคู่กลมไม่กล้ามองสบกับดวงตาพยัคฆ์ที่มองมาอย่างลึกซึ้งของจ้าวจือชิง
“ยอมรับหรือปฏิเสธอะไรกัน ข้าเป็หญิงม่ายสามีทอดทิ้งมีลูกติดสามคน สำหรับเื่รักๆ ใคร่ๆ ข้าได้ลืมไปนานแล้ว”
คำพูดปากไม่ตรงกับใจของชีเหนียงทำให้จ้าวจือชิงรับรู้ว่านางยังไม่อาจก้าวข้ามจิตใจของตนไปได้ ทว่า ท่าทางของชีเหนียงก็ทำให้เขารู้เช่นกันว่า เขาไม่ได้หมดโอกาสไปเสียทีเดียว
อีกอย่างตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม การกระทำของตนเองแม้ว่าจะเปิดเผยต่อชีเหนียงโดยตรง แต่ก็กลายเป็การทำให้อาเฉินโกรธเคืองอย่างแท้จริง ถ้าเขาอยากอยู่กับชีเหนียง แล้วได้รับการยอมรับและอวยพรจากทุกฝ่ายเขายังต้องพยายามให้มากขึ้นอีก
“อย่าพูดเช่นนี้เลย ข้ารู้ว่าเ้าไม่เคยคิดเื่แต่งงานใหม่ แต่ตอนนี้เ้าก็ควรลองคิดได้แล้ว” เมื่อเห็นนางปฏิเสธ จ้าวจือชิงจึงพูดขึ้น “ข้าเองก็รู้ว่าเ้าอยากเลี้ยงดูลูกๆ ให้เติบโตเป็ผู้เป็คน ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานมีครอบครัว ข้ารับรองว่าจะไม่บังคับเร่งรัดเอาคำตอบจากเ้า เพียงแต่ชีเหนียงก็รู้ว่าหัวใจของข้าก็มีเืมีเนื้อ หากทำร้ายหลายครั้งเข้าข้าเองก็เ็ปเป็”
“หวังเพียงว่าภายภาคหน้า ชีเหนียงจะอ่อนโยนกับข้าบ้าง อย่าเอะอะก็ไล่ข้าไป เ้าก็รู้ว่า โลกใบนี้กว้างใหญ่ แต่ข้าไม่มีครอบครัวเหลืออีกแล้ว”
คำพูดของจ้าวจือชิงไม่ใช่เื่โกหก หลายวันก่อนหน้านี้มีข่าวจากทางการ บอกว่าจ้าวเหลยผู้เป็บิดา ซึ่งมุ่งหน้าสู่ชายแดน ทนความตรากตรำไม่ไหวจึงได้จากไปทั้งแบบนั้น ด้วยเหตุนี้จ้าวจือชิงจึงถือว่าไร้ซึ่งครอบครัวแล้วจริงๆ
เมื่อเห็นเขามองอย่างอ่อนโยนและจริงจังเช่นนี้ หัวใจของชีเหนียงก็เต้นรัวและเร็วขึ้น ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว วินาทีนี้นางเกิดคิดความวู่วามอย่างน่าประหลาด แต่ความเ็ปที่แผ่ซ่านออกจากหัวใจกลับทำให้นางได้สติในทันใด
นางผลักจ้าวจือชิงออก “เ้าวางใจได้ ขอเพียงเ้าไม่คิดจากไป สกุลลั่วจะไม่มีทางผลักไสไล่ส่งเ้า ข้าพูดเช่นนี้ มิได้้าให้คำมั่นสัญญาอะไรกับเ้า เพียงแต่สิ่งที่เ้าทำเพื่อพวกข้า พวกข้าจดจำเป็อย่างดี ไม่ว่าข้าหรือลูกๆ ต่างก็รู้ถึงความดีของเ้า เพียงแต่การแต่งงานใหม่ที่เ้าพูดถึง…”
ชีเหนียงยิ้มขมขื่นและส่ายหน้า “เื่นี้ข้าไม่มีทางตกลงเด็ดขาด แม้ว่าตอนนี้จะมีคนรับรู้ ทว่าสำหรับข้าแล้วไม่ได้เป็อุปสรรค สถานที่แห่งนี้ก็คงอยู่ได้ไม่นานแล้ว”
ตอนนี้นางตัดสินใจดีแล้ว นางต้องรีบทิ้งกิจการนี้ไว้ให้คนที่เชื่อถือได้ รอจนผลสอบของจิ่งเฉินออกมา พวกเขาจะย้ายออกจากที่นี่ ขณะนี้นางคาดคิดไม่ถึงเลยว่าความคิดของตนจะเหมือนกับความคิดของจ้าวจือชิง
เมื่อได้ยินคำปฏิเสธที่แสนหนักแน่นของลั่วชีเหนียง จ้าวจือชิงก็ผิดหวังอยู่บ้าง แต่ตนก็รู้ว่าไม่ควรบังคับ “ตกลง เื่นี้ข้าจะไม่บังคับเ้า ขอเพียงเ้าไม่ไล่ข้าไปก็พอ”
ทั้งสองจึงนั่งอยู่ในห้องจนฟ้าสาง คนที่นอนไม่หลับเหมือนกับพวกเขายังมีลั่วจิ่งเฉินอีกคน เขาคิดตลอดทั้งคืนว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ท่านแม่ตกลงรับคำขอแต่งงานจากจ้าวจือชิง จะทำอย่างไรให้หนังสือสมรสนี้เป็โมฆะ นอกจากจ้าวจือชิงจะเสียชีวิต เื่นี้จึงจะจบลง
แต่ท่านแม่เป็หญิงม่ายสามีทอดทิ้ง หากพ่วงชื่อเสียงเื่ดวงข่มสามีอีก เกรงว่าชื่อเสียงที่เพิ่งเริ่มดีขึ้นคงจะถูกประณามอีกครั้ง แม้ว่าพวกเขารู้ว่าท่านแม่มิใช่คนที่ใส่ใจเื่เช่นนี้ แต่เขากลับไม่อยากให้ท่านแม่ต้องใช้ชีวิตเหมือนศพเดินได้ดั่งในอดีต
ลั่วจิ่งเฉินคิดอยู่ทั้งคืนแต่ก็คิดไม่ตก เมื่อยามรุ่งมาถึงจึงได้ยินคำอธิบายจากชีเหนียงตอนมื้อเช้า
พอเห็นทุกคนทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ชีเหนียงก็เช็ดริมฝีปากก่อนจะพูดขึ้น “ข้ามีเื่จะคุยกับพวกเ้า”
จ้าวจือชิงรู้ดีว่านางจะพูดอะไร แต่คำพูดเหล่านี้เขาไม่ยินดีจะฟัง ดังนั้นจึงคว้าเครื่องมือล่าสัตว์และออกจากบ้านไป สำหรับการกระทำของเขา ชีเหนียงไม่ได้ห้ามปราม
เด็กทั้งหลายมองพฤติกรรมของท่านแม่กับลุงจ้าวอย่างสงสัยใคร่รู้ พร้อมกับฟังกันอย่างเงียบๆ ไม่ส่งเสียง
“หนังสือสมรสที่ลุงจ้าวของพวกเ้าเอาออกมาเมื่อวาน แม่ไม่ได้รู้เื่ด้วย เื่นี้พวกเ้าจะโทษเขาก็ไม่ได้ พวกเ้าก็รู้เื่แผนวางยาพิษของเฉินเจ๋อิที่จ้องเล่นงานจิ่งเฉินก่อนหน้านี้แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็แผนการรับมือของลุงจ้าว” ชีเหนียงอธิบายกับพวกเขาอย่างเรียบง่าย จากนั้นจึงบอกกับพวกเขาว่าจะไม่มีทางแต่งงานใหม่
ไหลไหลน้อยตาโตและสงสัย พลันนึกเสียดายเล็กน้อย “เช่นนั้นข้าก็ไม่สามารถเรียกท่านลุงจ้าวว่าท่านพ่อสินะ”
จ้าวจือชิงได้หลอกล่อให้ไหลไหลน้อยเรียกเขาว่าพ่อเป็การส่วนตัวมานานแล้ว พอตอนนี้เมื่อเห็นว่าพ่อที่กำลังจะได้กลับหลุดลอยไป ก็ทำให้ไหลไหลน้อยรู้สึกเศร้าเสียใจอยู่บ้าง
“ไม่ได้” ชีเหนียงมองไหลไหลน้อยอย่างเข้มงวด “ลุงจ้าวของพวกเ้ายังหนุ่ม ต่อไปจะต้องแต่งงานมีครอบครัวแน่ แม้เ้าจะอายุยังน้อย แต่ห้ามทำผิดกฎระเบียบและเรียกไปเรื่อย เข้าใจหรือไม่?”
ชีเหนียงกำชับลั่วจิ่งไหลซ้ำไปมา อีกฝ่ายจึงได้แต่หน้าละห้อยและรับปาก
ลั่วจิ่งซีเองก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย หลังจากย้ำอยู่หลายรอบกว่าจะมั่นใจว่าท่านแม่จะไม่แต่งงานใหม่ ก็มีเพียงลั่วจิ่งเฉินที่หัวใจหนักอึ้ง
แม้ว่าท่านแม่บอกว่าจะไม่แต่งงานใหม่และอธิบายเื่หนังสือสมรส แต่เขาอ่านสีหน้าของท่านแม่ออกว่ามีความทุกข์และไม่มีความสุข การปฏิเสธการแต่งงานกับจ้าวจือชิงทำให้ท่านแม่ทรมานถึงขั้นนี้เลยหรือ?
“เหตุใดท่านแม่จึงไม่ยอมแต่ง?” ลั่วจิ่งเฉินลองถามออกไป “หากท่านแม่ยินดีจริงๆ พวกข้าไม่มีทางห้ามท่านหรอก”
ชีเหนียงคิดไม่ถึงว่าลั่วจิ่งเฉินจะถามเช่นนี้ ชั่วขณะนั้นจึงไม่รู้จะตอบอย่างไร นางจะพูดความจริงออกมาก็คงไม่ได้ เพียงแต่ท่าทางครุ่นคิดของนาง ในสายตาของลั่วจิ่งเฉินกลับกลายเป็การตอกย้ำความคิดของตนให้มั่นใจยิ่งขึ้น
“ท่านแม่ไม่จำเป็ต้องทำให้ตนเองลำบากเพื่อพวกข้า คนอย่างท่านลุงจ้าว แม้ท่านแม่จะแต่งงานกับเขา เขาก็ไม่มีทางชักสีหน้าใส่ท่านแม่ ยิ่งไม่มีทางทำไม่ดีกับพวกข้า นอกจากนี้ข้ากับอาซีก็เริ่มโตแล้ว ไม่จำเป็ต้องให้ท่านแม่ดูแล หากท่านแม่ยินดี พวกข้าก็เคารพความปรารถนาของท่านแม่”
พูดอ้อมไปมา สุดท้ายก็ถามเพื่ออยากทดสอบความคิดของชีเหนียง ชีเหนียงถูกลูกชายคนโตทำให้ทั้งโมโหทั้งขำ ทั้งที่ไม่อยากให้ตนเองแต่งงาน แต่กลับรั้นจะโน้มน้าวให้ตนตอบรับการแต่งงานให้ได้ การทดสอบเช่นนี้มีความหมายลึกซึ้ง นางมีหรือจะไม่ทราบ
“เ้าอยากให้ข้าแต่งงานเช่นนี้ หมายความอย่างไรกันแน่? หรือเ้าคิดว่าเ้าจะเลี้ยงข้าไม่ไหวในภายภาคหน้ากัน?”
ลั่วจิ่งเฉินเห็นนางสีหน้าย่ำแย่ พลันเม้มปากไม่พูดจาอีก
“เหอะ? เ้าช่างดีนัก ข้าไม่อยากแต่ง ก็เพราะข้ามีเหตุผล หากข้าอยากแต่งจริง เ้าคิดว่าลำพังแค่พวกเ้าไม่เห็นด้วยก็จะห้ามข้าได้หรือ? ข้าลั่วชีเหนียงใช่คนที่ไม่มีความคิดเป็ของตนเองถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?” ชีเหนียงมองลั่วจิ่งเฉิน น้ำเสียงปะปนด้วยความโกรธเล็กน้อย
“เ้าเองไม่ต้องทดสอบข้าเช่นนี้ ในเมื่อข้าบอกว่าจะไม่แต่ง ย่อมต้องคิดดีแล้ว หากมีวันใดข้าอยากแต่งงานใหม่ พวกเ้าก็ทำได้เพียงเตรียมสินเ้าสาวแต่งข้าออกไป ทว่าเ้าวางใจได้ ตอนนี้ข้ายังไม่มีความคิดนั้น”
“กลับกลายเป็เ้า มีเวลาว่างมายุ่งเื่ของข้า มิสู้ลองดูว่าการสอบระดับจังหวัดของเ้าเป็เช่นไรบ้าง ข้าเองก็ไม่ปิดบังและจะบอกกับพวกเ้าไว้ให้รู้ ข้าได้ตัดสินใจแล้วว่าจะขยายการค้าไปที่เมืองหลวง ตอนนี้ได้หารือกับิเจวียนเรียบร้อย หากจิ่งเฉินมีความกระตือรือร้นก็ตามพวกเราไป แต่หากไม่เอาไหนก็อยู่เฝ้าที่บ้านเสีย”
ชีเหนียงจงใจพูดเช่นนี้ เ้าเด็กตัวดีที่กล้าทดสอบแม่ตัวเอง ก็อย่ากลัวหากแม่จะจี้ใจเ้ากลับ
ลั่วจิ่งเฉินตกตะลึง ก่อนที่ริมฝีปากบางสวยจะยกโค้งขึ้นเบาๆ “เกรงว่าคงต้องทำให้ท่านแม่ผิดหวังแล้ว ครั้งนี้ข้ามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะได้อันดับหนึ่ง”
-----