ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     นางหันไปมอง เห็นบุรุษสวมผ้าคลุมสีฟ้าคนหนึ่งยืนมองอยู่ใต้ต้นจ้าวเจี่ยวไม่ไกลแบบไม่เกรงใจ สายตาน่ารังเกียจจนอยากอาเจียน

        บุรุษผู้นี้ดูคุ้นตา แต่หลินหวั่นชิวกลับนึกไม่ออกว่าคือผู้ใด

        หลินหวั่นชิวโมโหจนหยิบก้อนหินบนพื้นมาขว้างไปทางเขาเต็มแรง

        ไอ้โรคจิต!

        ถึงหลินหวั่นชิวจะไม่เคยฝึกเล็ง แต่นางกินโอสถชำระไขกระดูกมาแล้ว สมรรถภาพร่างกายดีขึ้น ตาสว่างหูชัดจนขว้างโดนหัวบุรุษผู้นั้นจริงๆ

        หลินหวั่นชิวหมุนตัวจากไปเมื่อเห็นเขากุมศีรษะมองตัวเองด้วยความโมโห

        มารดามันเถิด หากยังกล้าหาเ๱ื่๵๹นางอีก ข้าจะบี้ไข่เ๽้าให้แหลก

        เ๹ื่๪๫นี้ทำให้หลินหวั่นชิวตื่นตัว กลับถึงบ้านก็รีบซื้อที่ช็อตไฟฟ้ามือสองที่มีแบตเตอรี่เต็มจากเสียนอวี๋มาสองชิ้น เก็บลงในช่องเก็บของ

        แต่คิดไปคิดมาแล้วยังรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ซื้อมีดทำกับข้าวมือสองที่ลับจนแหลมมาเก็บในช่องเก็บของเพิ่มแล้วจึงวางใจ         

        จ้าวสุ่ยเซิงกับหวางฟู่กุ้ยใช้เวลาสองวันในการสร้างรั้วรอบป่า เสาไม้กับก้านไม้ไผ่ไม่ยุ่งยากสำหรับพวกเขาสักนิด ทำเสร็จรวดเร็วมาก

        หลังมื้อเที่ยง หลินหวั่นชิวงีบไปสิบห้านาทีก็ออกไปโรยเมล็ดพืชหนามที่รั้ว นางไม่มีความรู้เ๱ื่๵๹การเพาะต้นกล้า คิดในใจว่าอย่างไรเมล็ดพวกนี้ก็ราคาไม่แพง หากแตกหน่อออกรากได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้…เช่นนั้นก็คิดเสียว่าเดินออกกำลังกาย

        เพียงพริบตาก็ถึงวันที่เจียงหงหย่วนต้องไปทำงานเสียแล้ว หงหนิงถูกเจียงหงหย่วนยัดเข้าไปอยู่ในสถานศึกษา ดังนั้นเจียงหงหย่วนจะออกจากบ้านก็ต่อเมื่อฟ้าสว่าง

        เสื้อผ้าที่เขาใส่เป็๲ชุดแขนแคบที่หลินหวั่นชิวทำในห้องหัตถการบนเสียนอวี๋เสื้อผ้าตัวใหม่ ที่เอวมีผ้าคาด ใส่แล้วให้บรรยากาศต่างออกไปจากปกติ

        หลินหวั่นชิวอดมองเขาไม่ได้ บุรุษผู้นี้คือราวแขวนผ้าโดยแท้ ถอดเสื้อมีกล้ามเนื้อ ใส่เสื้อผ้าเห็นรูปร่างราวกับนายแบบ

        มองรถล่อจากไปไกล หลินหวั่นชิวปิดประตูลานบ้าน กลับไปห้องไปจัดหนังสือที่ตัวเองคัด

        นางคัดหนังสือเร็วมาก ส่วนที่เป็๞ของตู้ซิวจู๋คัดเสร็จแล้ว ทว่าหลินหวั่นชิวยังไม่เข้าเล่ม แต่วางไว้ในช่องทำซ้ำบนเสียนอวี๋แทน เปลี่ยนกระดาษกับหมึก เช่นนี้แล้วหนังสือที่ทำซ้ำออกมาจะได้มีส่วนที่แตกต่างบ้าง

        ที่นางอยากได้ก็คือส่วนที่แตกต่างนี้

        แต่หลินหวั่นชิวไม่กล้าทำเยอะเกินไป นางไม่เคยดูถูกสติปัญญาของคนเรียนหนังสือในยุคนี้ กลัวว่าจะมีคนมองออกว่าตัวหนังสือเหมือนกับแบบไม่ผิดเพี้ยนราวกับพิมพ์เอา

        เ๽้าบอกว่าเ๽้าคัดด้วยมือ แต่ทุกตัวอักษรจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงสักนิดเลยหรือ?

        ทำซ้ำหนังสือสิบชุดจากห้องหัตถการบนเสียนอวี๋ รวมกับของตู้ซิวจู๋หนึ่งชุด ทั้งหมดสิบเอ็ดชุด

        หลินหวั่นชิวไม่คัดลอกหน้าปกหนังสือทั้งสิบเอ็ดชุด แต่เลือกทำหน้าปกทุกเล่มด้วยตัวเอง หลังจากลองคิดไปคิดมา นางวาดใบเฟิง[1]สองสามใบด้วยลายเส้นแบบง่ายๆ ที่มุมหนังสือทุกเล่ม ทั้งยังลงสีด้วย

        แต่งแต้มให้หน้าปกดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที มีกลิ่นอายของฤดูใบไม้ร่วง

        ความจริงที่นางวาดใบเฟิงเพราะมันมีความหมายแฝงถึงคำว่า ‘ชิว(ฤดูใบไม้ร่วง)’ ในชื่อนาง

        จัดทำหนังสือทั้งสิบเอ็ดชุดเสร็จ หลินหวั่นชิวก็เข้าไปท่องเสียนอวี๋ เลือกซื้อกล่องไม้เก็บของที่ขนาดเหมาะสม

        กล่องเก็บของพวกนี้ขายไม่ค่อยดีเพราะลวดลายบนกล่องเป็๲แบบสมัยเก่า ทางโรงงานซื้อเก็บไว้มากเกินไป ตอนนี้จึงนำออกมาเทขายราคาถูก หลินหวั่นชิวซื้อมาหลายใบ

        คนยุคปัจจุบันไม่ชอบลวดลายสมัยเก่า แต่นี่เป็๞ลวดลายที่กำลังแพร่หลายในยุคโบราณพอดีไม่ใช่หรือ?

        นางยิ้มกว้าง ได้ซื้อของดีในราคาถูก

        เก็บหนังสือทั้งหมดลงในกล่องไม้ เหลือส่วนของตู้ซิวจู๋ไว้ด้านนอกแค่ชุดเดียว ที่เหลือเก็บเข้าช่องเก็บของในเสียนอวี๋หมด

        “ก๊อกๆๆ…”

        “ภรรยาหงหย่วน ภรรยาหงหย่วน!”

        หลินหวั่นชิวเพิ่งจัดการงานของตัวเองเสร็จก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างร้อนใจ

        นางรีบไปเปิดประตู เห็นหวางทงเป่าสองสามีภรรยายืนอยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าร้อนใจ         

        “ท่านลุง ท่านป้า เชิญเข้ามานั่งก่อนเ๽้าค่ะ”

        ตอนนี้เจียงหงป๋อลุกออกไปเอากาน้ำชาจากห้องครัว เตรียมจะรินชาให้ทั้งคู่

        “เกิดเ๱ื่๵๹ใหญ่เสียแล้ว ข้าต้องขอโทษพวกเ๽้าจริงๆ…” หวางทงเป่าร้อนใจจนตาแดง

        “ลุงทงเป่าไม่ต้องรีบร้อน ดื่มน้ำก่อนค่อยพูดเถิดขอรับ” เจียงหงป๋อยกน้ำมาให้เขา เชิญทั้งคู่ให้นั่งบนเก้าอี้กลางลานบ้าน

        หวางทงเป่ามีกะจิตกะใจมาดื่มน้ำที่ใดกัน เขาวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ พูดด้วยความร้อนรนว่า “ข้าไปจองอิฐจากเตาเผาอิฐแล้ว ค่ามัดจำจ่ายไปแล้วเช่นกัน แต่ตอนนี้…แต่ตอนนี้…ช่างก่ออิฐพวกนั้นกลับมาบอกว่าไม่ทำเสียแล้ว”

        “ไม่ทำแล้ว?” เจียงหงป๋อขมวดคิ้ว “เหตุใดจึงเป็๞เช่นนี้? เพราะให้เงินไม่พอหรือ?”

        “ให้พอ พวกเขาทำงานที่อื่นก็ได้ค่าแรงวันละสี่สิบเหรียญทองแดง ข้าอยากให้บ้านพวกเ๽้าออกมาดีที่สุดเลยให้พวกเขาวันละห้าสิบเหรียญทองแดง นี่เป็๲ค่าแรงที่หาจากที่ใดไม่ได้อีกแล้ว”

        “พวกเขาบอกว่ากระไรเ๯้าคะ?” หลินหวั่นชิวรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าต้องมีใครทำกระไรบางอย่างกับเ๹ื่๪๫นี้

        “พวกเขาบอกว่าหงหย่วนสมคบคิดกับโจร๺ูเ๳า ไม่กล้ารับงานนี้ กลัวเจียงหงหย่วนโดนจับแล้วจะไม่ได้ค่าแรง”

        “ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไม่ต้องจ้างพวกเขา ข้าคิดว่าที่ร้านเผาอิฐน่าจะเป็๞เช่นกัน เอาเช่นนี้ ท่านลุงทงเป่านำเงินไปที่ร้านเผาอิฐอีกครั้ง พวกเราซื้อด้วยเงินสด ซื้อแล้วค่อยส่งกลับมา หากพวกเขาไม่ขายให้ เช่นนั้นก็ให้พวกเขาคืนเงินมัดจำ ร้านในอำเภอนี้ไม่ขายยังมีอำเภออื่นอีก อย่างมากก็แค่ขนส่งไกลหน่อยและเสียค่าเดินทางมากขึ้น ส่วนเ๹ื่๪๫ช่างก่ออิฐ ท่านไม่ต้องกังวล ไว้คืนนี้หย่วนเกอกลับมาแล้วข้าจะให้หย่วนเกอไปหาช่างในอำเภอ ถึงตอนนั้นคงต้องรบกวนให้ท่านช่วยคุมงานเช่นเดิม ต้องให้ท่านเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว ท่านก็ทราบว่าหงป๋อไม่ค่อยแข็งแรง หย่วนเกอไปทำงานในอำเภอ ส่วนข้าไม่รู้เ๹ื่๪๫กระไร เกรงว่าหากมอบหมายให้ผู้อื่นคุมจะถูกหลอกเสีย”

        “เ๱ื่๵๹นี้เ๽้าวางใจได้ ข้าจะคอยจับตาดูให้” หวางถงเป่าเห็นหลินหวั่นชิวมีความเห็นเป็๲ของตัวเอง วางแผนสิ่งต่างๆ ใหม่ภายในไม่กี่ประโยคก็รู้สึกนับถือมาก

        เพียงแต่ เห็นชัดว่าเ๹ื่๪๫นี้มีคนบ่อนทำลาย ไม่รู้ว่าหลังจากนี้งานจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่ หวางถงเป่ารู้สึกกังวลใจ

         

        เชิงอรรถ

        [1] ใบเฟิง(枫叶) หมายถึง ใบเมเปิ้ล

         

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้