ดูเหมือนว่าสายตาของอวี๋เคอจะทรงพลังมากจนเกินไปซ่งฉียวนที่นั่งอยู่บนตำแหน่งที่สูงและอยู่ไกลออกไปจึงหันหน้าไปมาอย่างรับรู้อะไรบางอย่างได้จนมองมายังทิศทางที่อวี๋เคออยู่พอดีเขาทอดสายตาผ่านเงาของผู้คนไปสบตาเข้ากับอวี๋เคออย่างจัง อีกฝ่ายจึงก้มศีรษะลงและแอบสบถคำหยาบออกมาจากนั้นก็ซ่อนกลิ่นอายของตนเองเอาไว้ให้ลึกเพื่อลดการรับรู้ถึงการมีตัวตนของตนเอง
ซ่งฉียวนขมวดคิ้วแน่นมือถือจอกสุราค้างเอาไว้อย่างลืมตัว หร่วนสือจิ่วเห็นแล้วรู้สึกประหลาดใจจึงกระแอมไอ เพื่อเรียกสติของคนข้างกายกลับมา แล้วเอ่ยถามว่า “นี่ฉียวนตรงนั้นมีอะไรน่าดูหรือ? นานทีถึงจะเห็นเ้าถูกดึงความสนใจจนเหม่อลอยได้แบบนี้”
ซ่งฉียวนวางจอกสุราลง แล้วถอยกลับไปนั่งที่ตัวเองก่อนจะส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “เมื่อครู่แสงแดดมันเข้าตาน่ะขอรับ เลยนิ่งไปครู่หนึ่งแต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ท่านผู้าุโไม่ต้องคิดมากนะขอรับ” หลังจากพูดจบก็มองไปบนเวทีประลองซึ่งกำลังมีศิษย์ที่เริ่มทำการแข่งขันเป็คู่แรกของ่บ่ายและด้วยท่าทางที่ตั้งใจดูจึงทำให้หร่วนสือจิ่วล้มเลิกความคิดที่จะถามต่อ
หร่วนสือจิ่วรู้ว่าเขาเป็ลูกชายคนเดียวของพี่ชายซ่งผู้นั้นของตนหลังจากการต่อสู้ที่แม่น้ำแห่ง์ เขาคิดว่าเด็กคนนี้คงถูกฝังอยู่ในท้องปลาไปแล้วความเครียดหนักบวกกับอาการาเ็ที่ถูกอวี๋เคอโจมตีส่งผลให้เขาล้มป่วยหนักเป็สองเท่าเป็เวลานานกว่าครึ่งปีและยังเอาแต่ประณามตนเองที่ไร้ฝีมือในความฝันอยู่บ่อยครั้ง
ตอนที่เด็กคนนี้เข้ามายังสำนักเพื่อกราบอาจารย์เมื่อครึ่งปีก่อน เขามองปราดเดียวก็จำซ่งฉียวนได้แล้วเมื่อเห็นว่าเด็กคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ เขาก็ดีใจจนแทบคลั่งแต่เขารู้ว่าเื่นี้จะถูกแพร่งพรายออกไปไม่ได้เด็ดขาด หากเื่นี้รู้ไปถึงหูอวี๋เคอเส้นทางในอนาคตของซ่งฉียวนจะต้องยากเย็นแสนเข็ญอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ทำให้เขาปวดหัวก็คือนิสัยของเด็กคนนี้เปลี่ยนไปจากตอนอายุสิบขวบมากท่าทางนั้นหมางเมินเหลือเกินทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าหร่วนสือจิ่วเป็เพื่อนรักบิดาของตนเอง แต่ก็ยังยืนกรานว่าจะไม่กราบเป็อาจารย์ใครห้ามปรามก็ไม่ยอมฟังสุดท้ายเขาก็ถูกบังคับให้ต้องแบกหน้าไปเอาใจไป๋ลี่โดยไม่มีทางเลือกเพื่อฝืนรั้งเด็กคนนี้เอาไว้
หลังจากที่ได้อยู่ต่อก็ถามว่าใครช่วยเขาไว้เด็กคนนี้ก็บอกว่าอาจารย์ที่ชื่อเยี่ยวั่งจือ ส่วนเื่อื่นนอกจากนั้นก็ไม่รู้แล้วหลังจากฟังแล้วเขาก็งงเป็ไก่ตาแตกไปเลย เพราะเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้นำตระกูลซ่งเป็อย่างดีแต่ก็ไม่เคยได้ยินชื่อเยี่ยวั่งจือมาก่อนเลยอีกทั้งยังมีความสามารถที่เก่งกล้าในการรักษาอาการาเ็ทั้งร่างกายของซ่งฉียวนได้อีกด้วยอีกอย่างเด็กที่เรียกตนเองว่าตาเฒ่าขี้เมาด้วยความสนิทสนมอย่างเต็มปากเมื่อคืนแต่วันนี้กลับมีสีหน้าเ็ายิ่งกว่าวันที่ผ่านๆ มาเสียอีก
หร่วนสือจิ่วถอนสายตาที่มองซ่งฉียวนกลับมาก่อนจะถอนหายใจ นับวันก็ยิ่งเดาใจเด็กคนนี้ไม่ออกจริงๆ
ส่วนซ่งฉียวนก็ไม่ได้สนใจสายตาของหร่วนสือจิ่วเลยเนื่องจากหร่วนสือจิ่วช่วยตนเอาไว้ จึงเคารพเขาได้มากขึ้นมาจนทุกวันนี้แต่เขากลับล้ำเส้นผู้าุโที่มีอายุมากเช่นนี้ไม่ได้เหมือนอีกคนที่อยู่ในร่างและอาจเป็เพราะนิสัยอันแสนจะเ็าและกลิ่นอายของความหยิ่งยโสของเขามันแสดงออกมาชัดเจนมากเกินไปดังนั้นนับั้แ่วันที่เข้ามายังสำนักฉิงชางแม้ว่าเขาจะเป็เพียงศิษย์ที่เฝ้าเตาหลอมยา แต่คนที่มาหาเื่เขากลับมีมากมายจนสามารถเรียงแถวกันั้แ่เรือนเซียนสุราไปจนถึงตำหนักชางหยุนได้เลยหนำซ้ำยังเป็ประเภทที่เมื่อทุบตี “ศิษย์น้อง” และ “ศิษย์พี่” เสร็จแล้ว ก็จะวิ่งออกมาต่อสู้กับตนเองประเภทนั้น
ตอนแรกเขาก็ยังนับถือคนที่เข้ามาหาว่าคือศิษย์พี่ซึ่งหากเรียงตามลำดับรุ่นตนก็ควรเคารพนับถือ จึงคิดว่าอดทนเอาแต่ความอ่อนน้อมเช่นนี้กลับทำให้การดูถูกและการยั่วยุรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนกระทั่งวันหนึ่งคนเ่าั้ด่าว่าท่านอาจารย์ต่อหน้าเขา...
หลังจากวันนั้นเขาก็ถูกกักบริเวณเป็เวลาหนึ่งสัปดาห์เนื่องจากต่อยตีกับศิษย์พี่
ทุกคนล้วนมีจุดอ่อนซ่งฉียวนรู้ดีว่าจุดอ่อนของตนเองก็คือท่านอาจารย์ ตลอดระยะเวลาสองปีที่อยู่ร่วมกันเขาเข้าใจคำพูดและการกระทำของอาจารย์เป็อย่างดีดังนั้นแม้ใบหน้าของเขาในตอนนี้จะนิ่งสงบ แต่ในใจกลับปั่นป่วนไปตั้งนานแล้วเพราะคนที่สบตากับตนเองโดยบังเอิญเมื่อครู่นี้ช่างเหมือนท่านอาจารย์เหลือเกิน
เพียงแต่คนผู้นั้นกลับมีใบหน้าแตกต่างจากอาจารย์โดยสิ้นเชิงกลับไปคล้ายกับศิษย์พี่ท่านหนึ่ง เขาคงเคยเห็นใบหน้านั้นภายในสำนักมาก่อน แต่พอนึกย้อนกลับไปหลายครั้งก็จำไม่ได้ว่าศิษย์พี่ผู้นั้นมีสายตาเช่นนี้
หรือว่าอาจารย์มาหาเขาแล้ว?
เสียงเต้นของหัวใจดังขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซ่งฉียวนรู้สึกเพียงว่าหายใจได้ลำบากมากขึ้น
“รอบต่อไป เฉิงเซียง เซียวอวิ๋น! ”
ทันใดนั้นเสียงของผู้าุโก็ดังขึ้นมาจากในสนามเสียงก้องกังวานที่ถูกโอบอุ้มด้วยพลังปราณทำให้ซ่งฉียวนหยุดครุ่นคิดไปชั่วคราวและเริ่มได้สติขึ้นมา เขาเงยหน้ามองตรงไป จนสายตาไปหยุดอยู่ที่เซียวอวิ๋นจากนั้นก็หรี่ตาลง ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของอาจารย์ที่เ้าเด็กนี่นำมาเล่าให้ตนเองฟังเมื่อครึ่งปีก่อนจากนั้นดวงตาก็หม่นหมองลง พร้อมกับอารมณ์ที่ไม่ตื่นเต้นเหมือนก่อนหน้านี้
ในเมื่ออาจารย์พูดเป็มั่นเป็เหมาะแล้ว ว่าจะปรากฏตัวหลังจากที่ตนเองแก้แค้นได้แล้วแล้วคนที่เขาเห็นในตอนนี้จะเป็อาจารย์ไปได้อย่างไร?
จู่ๆ ก็รู้สึกวูบโหวงจนเศร้าสลด ซ่งฉียวนก้มหน้ามองลงไปเพื่อ้าที่จะพบกับสายตาที่คุ้นเคยนั้นอีกครั้งแต่กลับพบว่าร่างของคนผู้นั้นได้กลืนเข้าไปอยู่ในฝูงชนอันหนาแน่นแล้ว