เมื่อใกล้ถึงเวลากราบไหว้ฟ้าดิน ขบวนรับเ้าสาวก็มาถึงบ้านซ่งพอดี เมื่อผู้คนเห็นสินสมรสสิบหกคนหามแล้วต่างก็พากันอิจฉาตาร้อน
“คุณหนูบ้านนายท่านซิ่วไฉมิธรรมดาเลย สินสมรสใกล้เคียงกับคนในเมืองแล้ว”
“จื่อเฉินโชคดียิ่งนัก ภรรยาของเขามิเพียงมีหน้าตางดงาม แต่ยังมีความสามารถอีก นางหาเงินได้หลายร้อยตำลึงภายในหนึ่งวัน”
“ได้ยินว่าภรรยาของจื่อเฉินหน้าตางดงามยิ่งกว่านางฟ้า มิรู้ว่าจริงหรือไม่?”
“ต้องจริงอยู่แล้ว อาผิงเห็นกับตาของตนเอง จะไม่จริงได้อย่างไร?”
“เช่นนั้นนางจะงดงามกว่าซู่ซินหรือไม่?”
“ต้องงดงามกว่าสิ!”
ทุกคนอยากรู้อยากเห็นในตัวของเ้าสาวยิ่งนัก พวกเขาเลยล้อมกันอยู่สองข้างของประตูหลักและมองตรงไปที่เกี้ยว
“เ้าสาวลงจากเกี้ยวแล้ว พวกเ้ารีบดูเร็วเข้า”
ซ่งจื่อเฉินเลื่อนรถเข็นของตนเองไปที่หน้าเกี้ยว ยื่นมือไปประคองจิ่นเซวียนให้ลงจากเกี้ยว นางวางมือลงบนมือของเขา ทุกคนจึงเห็นเต็มตาว่ามือของจิ่นเซวียนที่ขาวผ่องและนวลเนียนข้างนั้นมิเหมือนมือของคนที่ทำนาเลยสักนิด เทียบกันแล้ว มือของพวกเขาดูหยาบกร้านกว่ามาก
พวกเขาเห็นใบหน้างดงามล่มเมืองรางๆ ผ่านผ้าโปร่งคลุมหน้าเ้าสาว จึงยังััถึงความงามได้มิค่อยชัดนัก
“จื่อเฉิน ให้ทุกคนได้เห็นภรรยาของเ้าเร็ว” มีคนในฝูงชนส่งเสียงร้องเซ็งแซ่ เมื่อคนชนบทแต่งงาน ขอเพียงแค่สามีเลิกผ้าคลุมหน้าของเ้าสาวออก ผู้อื่นก็สามารถมองดูเ้าสาวได้
“พวกเราอยากเห็นเ้าสาวๆ” ทุกคนร้องเป็เสียงเดียวกัน
จิ่นเซวียนมิถือที่ต้องเปิดผ้าคลุมหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย เพียงแต่บุรุษเ็าที่อยู่เบื้องหน้านางนั้นมิแสดงท่าทีใดๆ ออกมาเลย เอาแต่ทำหน้านิ่งเหมือนูเาน้ำแข็ง ั้แ่หมู่บ้านสกุลซย่าจนมาถึงที่นี่ ราวกับเขาไม่ยินดีแต่งกับนาง
แม้เขาจะมีหน้าตาเหมือนพี่จื่อเฟิง แต่นางจะไม่หลอกตนเองเด็ดขาด
“ทุกท่าน น้องชายของข้าอายหมดแล้ว” ซ่งหวายิ้มหยอกซ่งจื่อเฉิน
ซ่งจื่อเฉินเห็นว่าทุกคนอยากเห็นหน้าของจิ่นเซวียนให้ได้ จึงเอ่ยออกมาอย่างมิเต็มใจนัก “ภรรยา ทุกคนอยากเห็นเ้า”
“สามี ท่านช่วยข้าเปิดผ้าคลุมหน้าเถิด” จิ่นเซวียนเอ่ยแล้วก้มตัวลงมาหาซ่งจื่อเฉิน นางรู้ว่าซ่งจื่อเฉินต้องนั่งรถเข็น จะให้เขาลุกขึ้นก็คงจะมิสะดวก
เสียงของจิ่นเซวียนไพเราะราวกับเสียงน้ำตกรินไหล เมื่อได้ฟัง ทำให้รู้สึกสดชื่นและสบายหู เมื่อทุกคนได้ยินที่นางพูดก็ยิ่งตั้งตารอชมใบหน้าของนาง
“แค่เสียงยังไพเราะมากถึงเพียงนี้ นางต้องงดงามมากแน่”
“เสียงของนางราวกับมีมนต์สะกด ช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก”
สตรีที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างโจวซู่ซิน เมื่อได้ยินที่ทุกคนชมจิ่นเซวียน นางก็รู้สึกอึดอัด นางต่างหาก สตรีที่งดงามที่สุด ซย่าจิ่นเซวียนมีสิทธิ์อะไรมาชิงความโดดเด่นไปจากนาง
“เหมือนนางฟ้าจริงๆ งดงามมาก”
วินาทีที่ซ่งจื่อเฉินเปิดผ้าคลุมหน้าออก ทุกคนต่างตกตะลึงไปกับความงามของจิ่นเซวียนจนเกือบลืมหายใจ
ผิวเนียนนุ่มนั่น ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก
“เป่าจู ข้าบอกเ้าแล้ว พี่สะใภ้ห้าของเ้าต้องงดงามกว่าญาติผู้พี่ของข้าแน่ เ้ามิเชื่อข้าเอง” โจวซู่อิงดีใจนักที่เห็นสตรีที่งดงามกว่าลูกพี่ลูกน้องของนาง
“พี่สะใภ้ห้าช่างงดงามจริงๆ” ซ่งเป่าจูอยากเอาใจจิ่นเซวียน นางจึงพูดชมออกมาอย่างมิติดใจ
“จื่อเฉินเอ๋ย ภรรยาของเ้ามิเพียงงดงามเหมือนนาง์ ยังมีความสามารถอีกด้วย เ้าช่างโชคดีจริงๆ” ชาวบ้านชายมองซ่งจื่อเฉินอย่างอิจฉา เมื่อซ่งจื่อเฉินเห็นหลายสายตาจับจ้องมาที่จิ่นเซวียนก็รู้สึกมิพอใจ อยากหากล่องมาคลุมจิ่นเซวียนเอาไว้มิให้ผู้ใดเห็นนาง
“พวกท่านเลิกตะลึงกันได้แล้ว พวกเรารีบเข้าไปทักทายเหล่าชิ่งเจียเถิด” ซ่งผิงเอ่ยขัดจังหวะทุกคน และบอกให้ลูกบุญธรรมคนที่สามกับสะใภ้สามไปทักทายคนที่มาส่งเ้าสาว
“พี่สาม ข้าเข็นเองเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนคว้ารถเข็น มาเข็นซ่งจื่อเฉินเข้าบ้านแทนซ่งหง
ซ่งจื่อเฉินค่อนข้างดีใจที่เห็นจิ่นเซวียนมิรังเกียจเขา
“ภรรยา เ้ามิเสียใจหรือ?” ซ่งจื่อเฉินกดเสียงถาม จิ่นเซวียนโดดเด่นและงดงามถึงเพียงนี้ เขามิอยากให้จิ่นเซวียนมาเสียเวลากับคนพิการอย่างเขา
“แม้ข้าจะยังมิได้รักท่าน แต่ข้าเป็คนรักษาสัจจะ ท่านวางใจเถิด ข้าจะหาวิธีมารักษาท่านเอง” จิ่นเซวียนมิอยากโกหกซ่งจื่อเฉิน นางมิได้รักเขา นางเพียงแค่แต่งเข้ามา เพื่อหลบหนีพ่อเฮงซวยกับย่าชั่วเท่านั้น
เหตุใดถึงรู้สึกเสียใจที่ได้ยินนางพูดเช่นนี้ เป็หนแรกที่เขามีความรู้สึกแปลกๆ กับผู้หญิงคนหนึ่ง หรือเขาจะตายก่อนได้สารภาพกับนางกัน?
เขาคิดว่านางกับสตรีในฝันอาจจะเป็คนๆ เดียวกัน แววตาของพวกนางคล้ายกันยิ่งนัก
“ภรรยาของจื่อเฉินเป็สตรีที่ดีจริงๆ นางมิรังเกียจจื่อเฉินเลยสักนิดและยังดูแลเขาเองด้วย”
“สตรีเช่นนี้หายากนัก ไม่แน่นางอาจจะนำความโชคดีมาสู่จื่อเฉิน”
สตรีออกเรือนที่อยู่รอบๆ ดีใจแทนซ่งจื่อเฉิน เมื่อพวกนางเห็นจิ่นเซวียนตั้งใจดูแลซ่งจื่อเฉิน
“อาผิง ถึงฤกษ์ดีแล้ว บูชาพระโพธิสัตว์ก่อน แล้วค่อยให้พวกจื่อเฉินกราบไหว้ฟ้าดิน” ผู้นำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินคือแม่สื่อโจว นางยิ้มและบอกให้ทุกคนเตรียมตัว คู่บ่าวสาวจะเริ่มพิธีแล้ว
คนที่มาส่งเ้าสาวถูกพาไปนั่งตรงเรือนฝั่งตะวันออก โดยมีเฉียวซื่อ ลูกชายทั้งสามคนและสะใภ้ทั้งสามคนมาดูแลพวกเขา
“อาหวา เ้าช่วยแนะนำหน่อย ชิ่งเจียเหล่านี้มีนามว่าอย่างไรบ้าง” นอกจากพ่อของซย่าตงชิงกับซย่าหลี่เจิ้งแล้ว นางก็มิรู้จักผู้ใดอีกเลย
“ท่านแม่ ผู้นี้คือท่านอาเล็กซย่าชุนอวิ๋น......” ซย่าตงชิงเป็คนในหมู่บ้านสกุลซย่า นางเลยรู้จักคนที่นั่งอยู่ที่นี่ทุกคน หลังจากที่นางแนะนำพวกเขาเสร็จสิ้นแล้ว เฉียวซื่อค่อยยิ้มทักทายทุกคนอีกหน
“ชิ่งเจียหมู่[1] เซวียนเซวียนของข้าเป็แม่นางที่ดี ขอแค่เ้าดูแลนางอย่างจริงใจ นางจะเคารพท่านเหมือนแม่แท้ๆ แน่นอน” สวี่ติ้งหรงมองเฉียวซื่อกับพวกลูกสะใภ้ของนางในแง่ลบ นางกลัวว่าพวกนางจะรังแกจิ่นเซวียน
“ชิ่งเจียโปรดวางใจ ครอบครัวของพวกเรามีจิตใจดี มิมีวันปฏิบัติแย่ๆ กับจิ่นเซวียนแน่” เฉียวซื่อตอบกลับอย่างสุภาพ แต่กลับมิรู้สึกสบายใจ บ้านพ่อแม่ของจิ่นเซวียนเป็คนมีหน้ามีตา หากเกิดเื่ขึ้นมานางมิควรไปยั่วโมโหพวกเขา
“หลังกราบไหว้ฟ้าดินเรียบร้อยแล้ว เซวียนเซวียนต้องพาคนบ้านพ่อแม่ไปทานข้าว รบกวนชิ่งเจียหมู่ช่วยแจ้งด้วย” ซย่าชุนอวิ๋นยังทำใจให้หลานสาวของตนเองแต่งเข้าบ้านซ่งมิได้
“ได้!” เฉียวซื่อพยักหน้ายิ้มๆ ขณะที่พูดนางลอบประเมินชุดของซย่าชุนอวิ๋นและสวี่ติ้งหรง เครื่องแต่งกายพวกเขามิธรรมดาเลย อย่างปิ่นปักผมเงินอันนั้นก็เป็แบบที่เพิ่งวางขาย
เสียงประทัดดังขึ้นหน้าประตูใหญ่บ้านซ่ง เฉียวซื่อจึงรีบเดินออกจากเรือนฝั่งตะวันออก นางคือแม่บุญธรรมของฝ่ายชาย ควรไปนั่งในห้องโถงใหญ่ เพื่อรับการคำนับจากคู่บ่าวสาว
“เ้าสาวถือผ้าผูกดอกไม้และกราบไหว้ฟ้าดินร่วมกับเ้าบ่าว” แม่สื่อโจววางผ้าไหมสีแดงลงบนมือของจิ่นเซวียนและถืออีกฝั่งไปให้ซ่งจื่อเฉิน
เพราะซ่งจื่อเฉินนั่งอยู่บนรถเข็น จึงมิสะดวกที่จะคำนับบนพื้น จึงมีเพียงจิ่นเซวียนที่คำนับ
เมื่อสามีภรรยาคำนับกันและกัน ซ่งจื่อเฉินผงกศีรษะเล็กน้อย
“เสร็จพิธี ส่งตัวเข้าหอได้” แม่สื่อโจวะโ ซ่งจื่อเฉินจึงนำจิ่นเซวียนเข้าเรือนหอ
“ที่นี่คือเรือนโม่อวิ้นเซวียน จากนี้พวกเราจะอยู่กันที่นี่” เมื่อซ่งจื่อเฉินและจิ่นเซวียนมาถึงเรือนโม่อวิ้นเซวียน สินสมรสของนางก็ถูกย้ายมาที่ฝั่งตะวันออกของเรือนโม่อวิ้นเซวียนแล้ว
“โอ้!” จิ่นเซวียนมองสำรวจเรือนโม่อวิ้นเซวียนไปเรื่อยๆ เรือนแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน มิเพียงมีห้องฝั่งตะวันออก ห้องฝั่งตะวันตกและห้องครัว ยังมีสวนเล็กๆ กับห้องหนังสือด้วย ดูท่าซ่งผิงจะรักซ่งจื่อเฉินจริงๆ เขาถึงยอมให้ซ่งจื่อเฉินอาศัยอยู่ที่เรือนใหญ่เช่นนี้เพียงคนเดียว ลูกบุญธรรมคนอื่นๆ ของซ่งผิงต้องอิจฉาแน่
เชิงอรรถ
[1] ชิ่งเจียหมู่ หมายถึง ครอบครัวที่ลูกหลานแต่งงานกัน จะเรียกแม่อีกฝ่ายเช่นนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้