นักรบระดับสูงของเมืองัสามคนที่อยู่ด้านหลังใจนเหงื่อเย็นไหลพลั่ก คุณหนูจะบอกก็ไม่บอกสักคำกลับเพิ่มระดับความเร็วขึ้นในฉับพลันแล้วพุ่งปราดเข้าไปท่ามกลางกลุ่มของนักรบระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นพวกเขาทั้งสามเชือดคอตัวเองตายก็ไม่สามารถชดเชยความผิดได้ ดังนั้นจึงร้องคำรามออกมาครั้งหนึ่งพร้อมกับเพิ่มระดับความเร็วขึ้นพุ่งทะยานติดตามหลงไซ้หนานออกไป นักรบระดับขอบเขตจ้าวนักรบสิบกว่าคนที่อยู่ด้านหลังมองเห็นหลงไซ้หนานดุดันห้าวหาญถึงเพียงนั้น จึงไม่ยอมน้อยหน้ารีบควงดาบและกระบี่ในมือพุ่งตามออกไปเช่นกัน
ปัง! ปัง! ปัง!
นักรบเผ่าคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนทั้งสิบกว่าคนเผชิญหน้ากับการโจมตีจากคมดาบและคมกระบี่พลังปราณรบของผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบของเผ่ามนุษย์ที่กระหน่ำฟาดฟันเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งสิบคนแผดร้องออกมาพร้อมกันบนร่างพลันปรากฏพลังแสงสีเหลืองสว่างวาบขึ้นมา คมดาบและคมกระบี่พลังปราณรบจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนฟันลงมายังศีรษะของพวกมันทั้งสิบกว่าคน
เพียงแต่ว่าพลังปราณรบที่แหลมคมเ่าั้เมื่อกระทบเข้ากับพลังแสงสีเหลืองที่เปล่งออกมาจากร่างของนักรบเผ่าคนเถื่อนก็พลันเลือนหายไปในทันที ไม่ได้ทำร้ายผิวเนื้อของนักรบเผ่าคนเถื่อนเ่าั้เลยแม้แต่น้อย มันเพียงแต่ทำให้แสงพลังสีเหลืองเ่าั้จางลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นักรบเผ่าปีศาจระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจที่ยืนรายล้อมกันอยู่ทั้งสองข้างเห็นดังนั้นก็ไม่ยอมที่จะน้อยหน้า กระหน่ำโจมตีออกมาด้วยวิชาอาคมของเผ่าปีศาจอย่างไม่เสียดายพลัง ทันใดนั้นทำให้ตำแหน่งรูทางเข้าขนาดเล็กนั้นมีประกายแสงแปลบปลาบและเสียงะเิดังขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง
“หืม? ถึงกับใช้การเผาไหม้พลังคนเถื่อนเพื่อสร้างเป็เกราะเสื้อคลุมแสงเลยอย่างนั้นรึ?” หลงไซ้หนานสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เขตปกครองเทพารบกับเขตปกครองเทพคนเถื่อนมานานหลายปี สำหรับวิชาต่อสู้ด้านต่างๆ ของอีกฝ่ายล้วนรู้จักกันเป็อย่างดี วิชาต่อสู้ที่พวกนักรบเผ่าคนเถื่อนระดับราชันย์คนเถื่อนใช้รับการโจมตีจากพลังปราณรบของพวกเขา คือหนึ่งในสุดยอดเคล็ดวิชาต่อสู้ของเผ่าคนเถื่อนที่ใช้การเผาไหม้พลังคนเถื่อนภายในร่างให้กลายมาเป็เกราะเสื้อคลุมแสงที่มีพลังป้องกันระดับสุดยอดขึ้น
คนเถื่อนเกิดมาพร้อมกับพละกำลังมหาศาลมาแต่กำเนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแทบทุกคนล้วนสามารถฝึกพลังคนเถื่อนได้ แต่การฝึกฝนของพวกเขานั้นเชื่องช้าเป็อย่างมาก การสะสมพลังคนเถื่อนเป็ไปอย่างยากลำบาก สุดยอดเคล็ดวิชาที่ใช้การเผาไหม้พลังคนเถื่อนเพื่อเปลี่ยนเป็สุดยอดเกราะเสื้อคลุมแสงนี้ มีเพียงผู้ที่มีพลังฝีมืออยู่ในระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนเพียงเท่านั้นที่จะฝึกฝนได้สำเร็จ เพียงแต่...สุดยอดเคล็ดวิชาเช่นนี้โดยทั่วไปแล้วผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนไม่อยากที่จะใช้เท่าใดนัก เพราะการใช้แต่ละครั้งอาจจะต้องสิ้นเปลืองพลังคนเถื่อนที่ต้องใช้เวลาสะสมเป็เวลาถึงปีสองปี
แต่ตอนนี้นักรบคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนทั้งสิบกว่าคนที่อยู่ตรงหน้ากลับเผาไหม้พลังคนเถื่อนสร้างเป็เกราะเสื้อคลุมแสงอย่างไม่เสียดาย เดิมทีพลังป้องกันทางร่างกายธรรมดาของพวกมันก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว ตอนนี้เผาไหม้พลังคนเถื่อนเพื่อใช้สุดยอดเคล็ดวิชาสร้างเกราะเสื้อคลุมแสงขึ้นมาอีกพลังป้องกันยิ่งบรรลุถึงระดับสูงสุด เป็เหมือนกับแมลงสาบที่อดถึกทนฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย แล้วแต่ศัตรูจะกระหน่ำโจมตีเข้าใส่ เพราะอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายพวกมันได้แม้แต่น้อย
แน่นอนว่าหากให้เวลาพวกหลงไซ้หนานย่อมต้องสามารถค่อยๆ นวดพวกมันให้ตายไปได้ แต่เ้าพวกนักรบระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจที่อยู่ข้างๆ จะให้เวลาเช่นนั้นแก่พวกเขาได้อย่างไรกัน?
“ทุกคนระวัง! รีบปิดกลั้นลมหายใจ ปีศาจจิ้งจอกปล่อยไอพลังจิ้งจอกหอมออกมาแล้ว!” หลงไซ้หนานหลบหมัดใหญ่ของนักรบเผ่าคนเถื่อนคนหนึ่งที่โจมตีออกมา ทันใดนั้นนางพบว่าภายในอากาศตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจางๆ กลิ่นหอมนี้น่าสูดดมเป็อย่างมาก แม้จะเบาบางแต่เหมือนกับมีพลังงานดึงดูดอะไรบางอย่างทำให้คนอยากที่จะทำการสูดดมอยู่อย่างนั้นต่อไปเรื่อยๆ หลงไซ้หนานสูดดมไปเพียงแค่ครั้งเดียวกลับพบว่าการไหลเวียนของพลังปราณรบภายในร่างกายเชื่องช้าลงไประดับหนึ่ง การเคลื่อนไหวก็ไม่คล่องแคล่วปราดเปรียวดังเดิม รู้สึกเอะใจและรู้สึกตัวขึ้นมาทันที จึงได้รีบร้องะโบอกออกมา
เพียงแต่ว่าช้าไปก้าวหนึ่ง รอจนกระทั่งหลงไซ้หนานพูดจบผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบสิบกว่าคนที่พุ่งตามมาล้วนสูดดมกันเข้าไปแล้วทั้งหมดทุกคน จากเดิมที่ต่างพากันโจมตีออกไปได้อย่างดุดันรุนแรง หลบหลีกการโจมตีของฝ่ายนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนได้อย่างคล่องแคล่วง่ายดาย ถึงแม้จะยังไม่สามารถทะลวงผ่านแนวป้องกันไปได้ แต่ก็สามารถสังหารนักรบระดับขอบเขตจอมพลปีศาจและจอมพลคนเถื่อนที่ลอบโจมตีเข้ามาไปได้หลายคน แต่ตอนนี้การเคลื่อนไหวของทุกคนพลันเชื่องช้าลงไปหลายระดับ หลายคนเริ่มได้รับาเ็จากการลอบโจมตีของนักรบระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจ
“ถอย!”
หลงไซ้หนานถอนหายใจออกมาอย่างอับจนปัญญา รีบออกคำสั่งถอนกำลังกลับ นักรบระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนร่วมมือสอดประสานกันได้ดี อีกทั้งนักรบคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนสิบกว่าคนเผาไหม้พลังคนเถื่อนของตนเองที่ฝึกฝนอย่างยากลำบากโดยไม่เสียดาย สร้างขึ้นเป็เกราะเสื้อคลุมแสงราวกับกำแพงเหล็กกล้าที่แข็งแกร่งปิดกั้นถนนทางเดินด้านหน้าของพวกเขาจนหมดสิ้น
ด้วยพลังป้องกันที่แข็งแกร่งจนยากที่จะทำลาย พวกมันไม่ได้สนใจต่อการโจมตีของพวกหลงไซ้หนานเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงแค่ปกป้องดวงตาไว้ให้ดีก็สามารถควงหมัดควงกระบองโจมตีออกมาได้อย่างไม่ต้องเป็กังวลใดๆ ส่วนพวกนักรบระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจสิบกว่าคนที่อยู่ข้างๆ ล้วนไปหลบอยู่ด้านหลังของพวกคนเถื่อน จากนั้นรอจังหวะโอกาสลอบโจมตีออกมาตอนที่นักรบเขตปกครองเทพาไม่ทันตั้งตัว ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศที่คับแคบทำให้จำนวนคนของตนเองที่มีมากมายไม่สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ท้ายที่สุดกลับกลายเป็ว่าถูกเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนโจมตีกลับฝ่ายเดียวโดยสมบูรณ์
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
หลังจากที่หลงไซ้หนานสั่งการให้ล่าถอยกลับไปแล้ว กระบี่บินของตระกูลเฟิงก็ลอยออกไปในทันที แน่นอนว่าถูกสะกัดไว้โดยนักรบคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อน ด้วยระยะทางที่ห่างไกลทำให้พลังทำลายล้างของกระบี่ไม่สามารถที่จะทำให้เกิดการาเ็อะไรได้มาก ทำได้เพียงคุ้มกันให้พวกหลงไซ้หนานถอยร่นกลับมาได้อย่างปลอดภัยก็ดีมากที่สุดแล้ว
ปัง! ปัง! ปัง!
นักรบระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนปล่อยหมัดออกไปปะทะเข้ากับกระบี่บินที่ลอยแหวกอากาศเข้ามาจนบังเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระบี่บินจำนวนมากถูกหมัดกระแทกลอยปลิวออกไป ส่วนพวกเผ่าปีศาจในตอนที่เห็นกระบี่บินลอยเข้ามาต่างพากันเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังของนักรบเผ่าคนเถื่อนในทันที พวกเขาไม่ได้มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างเผ่าคนเถื่อนแน่นอนว่าไม่กล้าที่จะทำการปะทะซึ่งๆ หน้ากับกระบี่บินเ่าั้ ในจำนวนกระบี่บินมากมายนับไม่ถ้วนเ่าั้ มีของผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบอยู่สองคนที่สามารถสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นมากที่สุด สามารถสังหารนักรบระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจไปได้คนหนึ่ง และยังสามารถทำลายเกราะเสื้อคลุมแสงของนักรบเผ่าคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนไปได้หลายคน แต่ภายใต้การโจมตีกลับที่ดุดันของนักรบเผ่าคนเถื่อนทำให้นักกระบี่ตระกูลเฟิงาเ็เช่นเดียวกัน สุดท้ายจึงจำต้องเรียกกระบี่บินเ่าั้กลับมา
ในตอนที่กระบี่บินลอยมา พวกหลงไซ้หนานไม่ได้หยุดชะงักลงแต่อย่างใด ต่างพากันหมุนตัวถอยกลับอย่างเด็ดขาดไม่ลังเลใดๆ พวกเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนถูกกระบี่บินกระหน่ำโจมตีเข้าใส่จึงไม่กล้าที่จะไล่ตามออกมา ทำการเคลื่อนตัวถอยหลังกลับไปพร้อมกับป้องกันการโจมตีจากกระบี่บินไปพร้อมๆ กัน สุดท้ายทั้งสองฝ่ายต่างยุติการโจมตีและกลับมาคุมเชิงกันอยู่ตีนเขาและยอดเขาดังเดิม
การสู้รบประมือในครั้งนี้กินเวลาค่อนข้างสั้นแค่ไม่กี่นาที แต่สถานการณ์การสู้รบกลับรุนแรงล่อแหลมและอันตราย ทั้งสองฝ่ายไม่ได้สูญเสียมากมายเท่าใดนัก ทางฝ่ายเขตปกครองเทพาสูญเสียนักรบระดับขอบเขตจ้าวนักรบไปหนึ่งคน ส่วนทางฝ่ายเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนถูกนักกระบี่ของตระกูลเฟิงสังหารนักรบระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจไปได้คนหนึ่ง และระดับขอบเขตจอมพลปีศาจอีกหลายคน
ผลของการสู้รบแม้จะดูเหมือนว่าทางฝ่ายเขตปกครองเทพาเป็ฝ่ายได้เปรียบเป็อย่างมาก แต่ความจริงแล้วหลงไซ้หนานและพวกเฟิงจื่อรู้ดีว่าพวกเขาแพ้และแพ้อย่างถึงที่สุด จำนวนคนของเขตปกครองเทพามีมากว่าหนึ่งเท่าตัว ขวัญกำลังใจในการรบเต็มเปี่ยม แต่ไม่สามารถบุกทำลายฝ่ายเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่ถูกัดำบดขยี้จนขวัญกระเจิงมาได้ ขวัญกำลังใจในการสู้รบในตอนนี้ตกไปอยู่ก้นหุบเหวที่ไม่ต่างจากกองกำลังที่ปราศจากผู้บัญชาการ
ฝ่ายหนึ่งรับฝ่ายหนึ่งโจมตี ฝ่ายที่โจมตีแทบจะนำยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีออกไป ส่วนฝ่ายตั้งรับเหมือนกับว่ายังมียอดฝีมือที่ยังไม่ได้นำออกมาอยู่ อย่างน้อยก็ยังมีเยาขาข่าและหมันก้านทั้งสองที่มีพลังในระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนไม่ได้เข้าร่วมสู้ด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ การโจมตีที่ดุดันรุนแรงเมื่อสักครู่ของเขตปกครองเทพากลับต่อเนื่องได้เพียงไม่กี่นาทีก็ถูกบีบบังคับให้ถอยร่นกลับมา
คนโบราณกล่าวไว้ว่า “ในการรุกรบนั้นต้องโหมทำรวดเดียวให้สำเร็จ” แต่ในตอนนี้ ทำการบุกโจมตีออกไปอย่างเต็มกำลังกลับไม่ได้เกิดผลอะไรขึ้นมาแม้แต่น้อย แค่แนวป้องกันด้านหน้ารูทางผ่านเล็กของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนก็ยังตีแตกไม่ได้ เป็เช่นนี้ต่อไปคงมองไม่เห็นความหวังอย่างแน่นอน ทำให้ขวัญกำลังใจและความมั่นใจของนักรบเขตปกครองเทพาถูกสั่นคลอนไปเป็อย่างมาก
“มารดามันเถอะ! ลักษณะภูมิประเทศของยอดเขาขาดนี่มันจะพิเศษพิสดารเกินไปแล้ว อย่างนี้จะบุกโจมตีขึ้นไปได้อย่างไร?” เฟิงจื่อสู้รบั้แ่ต้นจนจบล้วนทำการลอบสังเกตพิจารณาอยู่ตลอด เพื่อจะหาดูว่าพอจะมีหนทางใดบ้างที่จะสามารถบุกโจมตีลักษณะภูมิประเทศที่อันตรายเช่นนี้ เพื่อบุกโจมตีทำลายแนวป้องกันของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนให้แตกลงได้ เพียงแต่สำรวจและขบคิดอยู่เนิ่นนานก็ไม่เห็นว่าจะมีทางใดที่จะสามารถทำได้ คล้ายกับว่าทุกทางเป็ทางตันทั้งหมดไม่สามารถที่จะบุกฝ่าขึ้นไปได้ ดังนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะสบถด่าทอออกมา
ใบหน้าสวยของฮวาเฉ่าก็กลัดกลุ้มไม่แพ้กัน มองยอดเขาขาดอย่างอับจนปัญญาพร้อมกับถอนหายใจออกมา “ถูกต้อง! ถนนทางเดินสั้นๆ บนเขาเส้นนี้ราวกับประตูปิดตาย เพียงแค่เผ่าคนเถื่อนะโออกมายืนขวาง เส้นทางเบื้องหน้าก็ถูกตัดขาดออกไปในทันที!”
“ที่สำคัญคือไม่คิดว่าพวกคนเถื่อนจะกล้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุดเช่นนี้ คาดว่าต่อสู้กันสักสิบรอบพลังคนเถื่อนที่พวกมันฝึกฝนสะสมมาเป็สิบๆ ปีคงถูกใช้จนหมดอย่างแน่นอน! ดูท่าพวกมันคงจะต่อสู้แบบแลกชีวิตแล้วละ!” เยว่ชิงเฉิงคิ้วงามขมวดขึ้น พูดออกมาอย่างขุ่นเคือง
“โจมตียากก็ต้องโจมตี! หากครั้งนี้ไม่ตีให้พวกมันแตกย่อยยับเยิน อีกไม่กี่วันข้างหน้าหากให้พวกมันหนีรอดไปได้ ถึงเวลานั้นไม่รู้ว่าจะต้องมีคนตายอีกเท่าไร! ถ่ายทอดคำสั่งลงไป พักผ่อนเอาแรงอีกสักหน่อย ตอนบ่ายลงมือบุกโจมตีต่อ!” สีหน้าของหลงไซ้หนานยังคงราบเรียบ สายตายังคงเด็ดเดี่ยว เพียงแต่ในตอนที่ไม่ได้มีคนทันสังเกตนั้น หางตาของนางเกิดการกระตุกขึ้นครั้งหนึ่ง
“อืม!” ทั้งหมดต่างพยักหน้าตอบรับพร้อมกัน ต่างพากันมองขึ้นไปยังยอดเขาขาดอีกครั้ง ยอดบนสุดด้านหน้าของยอดเขาขาดยังคงดูราวกับกระบี่ที่ไร้คมเสียบแทงขึ้นไปบนชั้นยอดเมฆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้