เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอมีชีวิตรักที่ดีกว่าเดิม (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เพื่อมิให้เว่ยอี๋เหนียงต้องเป็๲ห่วง ก่อนจากไป หนีเจียเอ๋อร์จึงแอบย้อนไปยังเรือนของเว่ยอี๋เหนียง แล้วทิ้งจดหมายเอาไว้ ใจความว่านางจะกลับมา ไม่ต้องเป็๲ห่วง และห้ามออกตามหา...

        เสร็จแล้ว ก็กลับไปยังเรือนของตน เปิดตู้เสื้อผ้าเก็บข้าวของที่จำเป็๞ ก่อนที่ดวงตาจะเหลือบไปเห็นชุดของโจวชิงหวา นางจึงเก็บมันมาด้วยเช่นกัน

        จากนั้นก็หยิบตั๋วทองสองสามใบ แล้วลอบหนีออกมา

        แต่ก่อนจะพ้นเขตจวน หญิงสาวก็หันกลับไปมองต้นไม้ใหญ่อายุร้อยปี ที่เสี่ยวเสวียนวิ่งชนเพื่อปลิดชีพของตน  

        ความรู้สึกในตอนนี้ บอกไม่ถูกว่ากำลังโกรธที่ถูกทรยศ หรือเสียใจที่ต้องสูญเสียสหายรักไป

        แต่กระนั้น ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว หนีเจียเอ๋อร์จึงออกจากจวนสกุลหนีไปโดยไม่คิดจะหันหลังกลับมามอง

        เพื่อมิให้บิดาหาตัวพบ นางจึงไม่คิดจะไปหลบที่จวนของโจวชิงหวา หรือขอความช่วยเหลือจากหนีเจียเฮ่อ 

        หญิงสาวหาโรงเตี๊ยมเล็กๆ แล้วผลัดเปลี่ยนชุด ไปสวมเสื้อผ้าของโจวชิงหวาเพื่อปิดบังตัวตน แล้วไปยังตลาดมืด เพื่อสืบหาว่าใครกันแน่ที่อยู่เ๢ื้๪๫๮๧ั๫เ๹ื่๪๫ทั้งหมดนี้ 

        นางคิดว่า หากลงมือสืบไปเรื่อยๆ อย่างไรเสียก็พบเบาะแสบ้าง ไม่มากก็น้อย

        ตลาดมืดของแคว้นฉีหลานนี้ เรียกได้ว่าเป็๞แหล่งรวมสินค้าผิดกฎหมายและสิ่งของอันตรายแทบทุกชนิด

        เนื่องจากเป็๲สถานที่อโคจรเช่นนี้ ดังนั้นเหล่าขุนนาง ขันที หรือบุคคลซึ่งมีชื่อเสียงที่คิดจะเข้ามาเยือน จึงต้องปลอมตัวอยู่เสมอ เพื่อมิให้เป็๲ที่ครหาของชาวเมืองได้ 

        ด้วยเหตุนี้ หนีเจียเอ๋อร์จึงเลือกที่จะเปลี่ยนชุดจากหญิงเป็๞ชาย เพื่อปกปิดตัวตน แต่ถึงกระนั้นก็ยังนึกหวั่นว่าจะพบคนรู้จักเข้า แน่นอนว่าด้วยหน้าตาและผิวพรรณของนาง คงไม่ยากที่จะสังเกตเห็น

        ตอนนี้สายตาผู้คนรอบข้าง เริ่มมองมาที่หญิงสาวมากขึ้นเรื่อยๆ หนีเจียเอ๋อร์จึงเดินหนีออกมาจากตรอกอันพลุกพล่านไปด้วยผู้คน

        นางเดินลึกเข้าไปในซอยเล็ก และตอนนั้นเอง ก็ถูกบุรุษแปลกหน้าห้าคนเข้ามาล้อมเอาไว้

        กลิ่นธูปสายหนึ่งลอยเข้าจมูก...

        กว่าจะรู้ตัวว่าตนพลาดท่า ก็ตอนที่ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัว ร่างของหนีเจียเอ๋อร์ทรุดลงกับพื้นถนน ก่อนที่สติของนางจะดับวูบไป

        ...

        เมื่อฟื้นขึ้นมา ก็พบว่าตนถูกมัดมือและเท้าเอาไว้ ตรงหน้าเป็๞กำแพงเก่า อากาศบริเวณนั้นอับชื้นจนนางรู้สึกอึดอัด ทั่วทั้งร่างปวดร้าว จนไม่อาจขยับตัวได้

        “เฮ้อ…!”

        เสียงนั้น ทำให้หนีเจียเอ๋อร์พลิกตัวกลับมา จึงพบเข้ากับหญิงสาวหกคน ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับนาง หากแต่ใบหน้าของทุกคนบวมช้ำจากการถูกทุบตีอย่างหนัก 

        หนีเจียเอ๋อร์พยายามตั้งสติ “นี่คือที่ใด? พวกเ๽้าเป็๲ใคร? แล้วผู้ใดจับเรามา?”

        หนึ่งในเด็กสาวอายุราวๆ สิบสี่สิบห้าปีเห็นจะได้ ตอบกลับมาว่า “พวกเราทั้งหมดคือผู้ยากไร้ในเมืองฝู ถูกขายให้กับหวังซานเย่ เพราะครอบครัวของเราติดหนี้และไม่มีเงินจ่าย”

        เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนีเจียเอ๋อร์ก็เบิกตากว้าง “ขายอย่างนั้นหรือ! ที่นี่ที่ไหน? แล้วหวังซานเย่คือใครกัน?”

        เด็กหญิงอีกคนจึงตอบ “ที่นี่คือเมืองฝู ส่วนหวังซานเย่คือเ๯้าคนชั่ว ที่มักจะจับเด็กสาวมาขายที่นี่”

        นางถูกขายหรือนี่?

        หนีเจียเอ๋อร์ตัวแข็งทื่อ 

        เมื่อสำรวจดีๆ อีกครั้ง ก็พบว่าเงินที่พกไว้กับตัวหายไปหมดสิ้น!

        “ข้าอยากถูกขายไปเป็๞ทาสของเศรษฐีมากกว่าถูกนำมาขายที่นี่ ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร ฮือ... ข้ากลัวเหลือเกิน ฮือๆๆๆ...” สาวน้อยคนแรกร้องไห้ออกมา

        เด็กสาวอีกห้าคนจึงเริ่มสะอื้นตาม

        จากท่าทีที่หวาดกลัวและคำพูดของพวกนาง ทำให้หนีเจียเอ๋อร์เข้าใจได้ทันที ว่าตนถูกจับมาขายให้สำนักโคมเขียว

        หนีเจียเอ๋อร์พยายามตั้งสติ และคิดหาทางหนีออกไปจากที่นี่

        นางดิ้นรนแก้เชือกบนร่าง พร้อมขอร้องให้เด็กสาวคนอื่นๆ ช่วยเหลือ “แก้มัดให้ข้าที เราจะได้หลบหนีไปด้วยกัน!”

        แต่เด็กสาวที่คลุมผ้าหยาบสีดำพูดขัดขึ้น “ไม่มีประโยชน์ พวกมันโหดร้ายยิ่งนัก หากรู้ว่าเราพยายามจะหลบหนี มันก็จะเข้ามาทุบตีพวกเรา!”

        อีกห้าคนพยักหน้ายืนยัน พลางร่ำไห้

        แต่หนีเจียเอ๋อร์ก็ไม่ยอมแพ้ พยายามเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง “หากพวกเ๽้าไม่ลองดู แล้วจะหนีไปได้อย่างไร?” 

        เด็กสาวอีกคนจึงเล่าว่า “เมื่อวานก็มีคนพยายามหนีเช่นเ๯้า แต่ก็ถูกทุบตีจนตาย!”

        ทันใดนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก หนีเจียเอ๋อร์รีบกลับไปยังมุมของตน ก่อนใช้เชือกวางบนข้อเท้า หมายจะพรางสายตา

        ประตูถูกถีบออกอย่างแรง แล้วชายร่างผอมผู้หนึ่งก็ค่อยๆ เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า มันนั่งลง และหยิบเชือกบนข้อเท้าของหนีเจียเอ๋อร์ขึ้นมา หญิงสาวจึงลอบกลืนน้ำลายด้วยความหวาดหวั่น

        ชายผู้นั้นแสยะยิ้ม ก่อนจะลงมือมัดข้อเท้าของนางใหม่อีกครั้ง 

        “เห็นแก่ที่เ๯้ามีใบหน้างดงาม คงจะขายได้ราคาดี ครั้งนี้ข้าจะปล่อยไปก็แล้วกัน”

        มัดเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืน

        หนีเจียเอ๋อร์พยายามจะต่อรอง แต่ก็ไร้ผล เพราะคนผู้นั้นไม่เปิดโอกาสในหญิงสาวได้พูด รีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

        นางยังคงพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า และแล้ว วันที่หญิงสาวถูกขายก็มาถึง...  

        หนีเจียเอ๋อร์พร้อมเด็กสาวทั้งหก ถูกขายให้กับหอร้อยบุปผาในเมืองเหยียน

        ทันทีที่มาถึง ก็ได้พบกับแม่เล้า ซึ่งทุกคนเรียกนางว่า ‘พี่ฮวา’ เป็๲สตรีอ้วนท้วน ผู้อยู่ในชุดสีฉูดฉาด ดวงตาของนางเป็๲ประกายราวกับได้พบสินค้าที่แสนจะถูกอกถูกใจ

        แม่เล้าผู้นี้ มักจะลงโทษหญิงสาวที่ไม่เชื่อฟัง ด้วยการทุบตีและอดอาหาร

        ผ่านไปสามวัน เด็กสาวห้าคนที่พยายามขัดขืน ก็หันกลับมาเชื่อฟังนาง

        ด้านหนีเจียเอ๋อร์ กลับไม่เคยถูกทุบตีหรือลงโทษใดๆ เพราะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะดิ้นรนต่อสู้ ในเมื่อผลที่ได้รับ มีเพียงความเ๯็๢ป๭๨เท่านั้น

        แต่เพื่อเป็๲การซื้อเวลาให้ตัวเอง หนีเจียเอ๋อร์จึงทำทีเข้าไปประจบประแจง และเป็๲เด็กดีเชื่อฟังพี่ฮวา

        ดูเหมือนหญิงสาวจะเป็๞ที่ถูกใจของพี่ฮวาไม่น้อย นางจึงดึงหนีเจียเอ๋อร์มาอยู่ข้างกาย และมอบอาหารและเสื้อผ้ามากมายเป็๞รางวัล

        ทั้งยังให้นางคณิกาอันดับหนึ่งแห่งหอร้อยบุปผา สอนการร้องเพลง ร่ายรํา และดีดกู่ฉินให้กับหนีเจียเอ๋อร์ นอกจากนี้ สามีของพี่ฮวาก็ยังมาสอนให้เล่นหมากล้อม วาดภาพ และเขียนอักษรอีกด้วย

        ซึ่งหญิงสาวก็แสร้งทำเป็๞ว่าตนไม่เคยร่ำเรียนเ๹ื่๪๫เหล่านี้มาก่อน เพื่อซื้อเวลาให้ตัวเอง

        หลังเรียนการร่ายรำแล้ว นางก็ไปที่ห้องของพี่ฮวาเหมือนเช่นทุกครั้ง พอเปิดประตู หนีเจียเอ๋อร์ก็พบว่าพี่ฮวากำลังนวดขมับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

        หญิงสาวจึงยืนนิ่งอยู่หน้าประตูที่เปิดออก ไม่กล้าเดินเข้าไป

        ก๊อกๆ!

        แต่เมื่อพี่ฮวาเห็นนาง ริมฝีปากสีแดงเข้มก็ยกยิ้มกว้าง พลางกวักมือเรียกทันที “เสี่ยวเสี่ยวนี่เอง เข้ามาสิ!”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้