'หมอบ!' เอ็ดเวิร์ดส่งความคิด
ชาร์ลส์ะโลงกับพื้น เอามือปิดหู ในวินาทีนั้นเอง เสียงะเิก็ดังสนั่นหวั่นไหว แรงอัดจากการะเิกระแทกร่างของเขาอย่างรุนแรง ฝุ่นและเศษไม้ปลิวว่อน ควันดำพวยพุ่ง
เมื่อเสียงอื้ออึงจางหายไป ชาร์ลส์ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ผ่านม่านควันสีดำ เขาเห็นว่าประตูที่เคยปิดสนิทบัดนี้พังยับเยิน เผยให้เห็นทางออกสู่โลกภายนอก
"ได้ผล!" แอนดรูว์ร้องอย่างตื่นเต้น "เรารีบ…"
แต่คำพูดของเขาต้องสะดุดลง เมื่อเส้นเอ็นสีแดงเปื้อนโลหิตพวยพุ่งออกมาจากความมืด ปิดกั้นทางออกอีกครั้ง
"ไม่..." โจเซฟะโ น้ำเสียงสิ้นหวัง
พร้อมกันนั้น เสียงประหลาดก็ดังมาจากบันได พวกเขาหันไปมอง เห็นหญิงสาวในชุดขาวเปื้อนเืกำลังเคลื่อนที่ลงมาอย่างช้าๆ เส้นเอ็นสีเืทำหน้าที่เป็ขาและแขน พยุงร่างของเธอให้เคลื่อนที่ได้อย่างผิดธรรมชาติ
ด้านหลังของเธอ ศพสตรีสองคนที่หน้าตาคล้ายคลึงกับเธอ ศพสุนัข และศพชายอีกสองคน ต่างเคลื่อนไหวตามเธอมาติดๆ ราวกับขบวนแห่ไร้ชีวิต
ดวงตาว่างเปล่าของเธอจ้องมองมาที่พวกเขา ริมฝีปากซีดเผือดขยับ เอ่ยถ้อยคำที่ฟังไม่รู้เื่ แต่ทุกคำพูดทำให้อากาศรอบๆ สั่นะเื
ชาร์ลส์รู้สึกหมดหวัง เขาฟาดฟันดาบในมือใส่เส้นเอ็นที่ปิดกั้นทางออกอย่างบ้าคลั่ง แต่ดาบของเขาไม่อาจทำให้เกิดรอยแม้แต่น้อย แอนดรูว์ยิงปืนใส่หญิงสาว หวังจะหยุดยั้งเธอ ะุทุกนัดพุ่งเข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ แต่กลับไม่สามารถทำอันตรายใดๆ กับเธอได้เลย ส่วนะุที่เหลือพุ่งเข้าใส่หัวของศพที่รายล้อมเธอ ศพเ่าั้ล้มลง เศษเนื้อและเืกระจาย แต่ร่างกายของพวกมันยังคงเคลื่อนไหวได้
โจเซฟรวบรวมพลังทั้งหมดที่มี ะโประกาศคำสั่ง "หยุด! อย่าขยับ!" พลังอำนาจของเขาขัดขวางเธอและพวกศพ แต่ครั้งนี้เขากลับต้องฝืน เนื่องจากพลังต่อต้านของเธอนั้นรุนแรงมาก โจเซฟส่งเสียงครางด้วยความเ็ป เืไหลออกจากจมูกของเขา เหงื่อไหลโซมกาย ใบหน้าซีดเผือดราวกับคนตาย การใช้พลังครั้งนี้ทำให้เขาอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เขายังคงยืนหยัด พยายามรักษาพลังเพื่อขัดขวางเธอไว้
ในวินาทีแห่งความสิ้นหวังนั้นเอง เอ็ดเวิร์ดก็ตัดสินใจเสี่ยงครั้งสุดท้าย เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ ฝืนความเ็ปที่แล่นริ้วไปทั่วร่างราวกับถูกทรมานด้วยมีดร้อน พุ่งจิตของตนเข้าสู่ห้วงความคิดของหญิงสาว
ปกติแล้ว การแทรกซึมเข้าไปในจิตใจผู้อื่นและแปรเปลี่ยนความทรงจำเป็เื่ง่ายดายสำหรับเอ็ดเวิร์ด แต่ครั้งนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะตัวตนร้ายก่อนหน้านี้ ทันทีที่จิตของเขาัักับความคิดของหญิงสาว ความรู้สึกเหมือนถูกกระชากเข้าสู่ห้วงเวิ้งว้างอันไร้ขอบเขต ภาพความทรงจำและความรู้สึกนับพันนับหมื่นพุ่งเข้าใส่เขาอย่างรุนแรง ราวกับถูกพายุทรายกระหน่ำใส่ิั กัดกร่อนเนื้อและิญญาทีละชั้น
เอ็ดเวิร์ดพยายามสุดความสามารถที่จะแปรเปลี่ยนภาพของพวกเขาในความทรงจำของหญิงสาว จากคนแปลกหน้าและศัตรูให้กลายเป็ญาติที่มาเยี่ยมเยียน แต่ทุกครั้งที่เขาพยายาม เขากลับรู้สึกถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ซ่านออกมา ราวกับมีทุกอารมณ์ด้านลบนับล้านถาโถมใส่เขา แต่ละความรู้สึกแฝงไปด้วยความอาฆาตและหวาดกลัว
นั่นคือตัวตนที่หญิงสาวได้ทำพันธสัญญาด้วย สิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์ธรรมดา แม้แต่เอ็ดเวิร์ดเองก็ยังรู้สึกหวาดกลัว ความรู้สึกนี้เหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางพายุหมุนขนาดมหึมา พลังอำนาจที่โอบล้อมรอบตัวเขานั้นมหาศาลเสียจนแทบจะบดขยี้จิติญญาของเขาให้แหลกละเอียด ทุกอณูในร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัว แต่ทว่าเอ็ดเวิร์ดเขาไม่ใช่คนธรรมดา และนี่คือการดิ้นรนที่เขาต้องเอาชนะให้ได้
ทุกวินาทีที่ผ่านไป อาการาเ็ของเอ็ดเวิร์ดยิ่งทวีความรุนแรง เือุ่นๆ ไหลออกจากตา หู จมูก และปากของเอ็ดเวิร์ด ราวกับร่างกายของเขากำลังพยายามขับไล่พิษร้ายออกไป แต่ไม่สำเร็จ ความเ็ปแล่นริ้วไปทั่วร่าง ราวกับมีหนอนนับล้านตัวกำลังกัดกินเนื้อของเขาจากภายใน กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเขาสั่นะเื ราวกับกำลังจะแตกออกเป็เสี่ยงๆ
สติของเอ็ดเวิร์ดเริ่มเลือนราง โลกรอบตัวบิดเบี้ยวและหมุนคว้าง สีสันและเสียงผสมปนเปกันจนไม่อาจแยกแยะได้ ในบาง่ขณะ เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังละลายหายไปในความว่างเปล่า แต่เขาก็ยังคงฝืนทน จดจ่ออยู่กับเป้าหมายเดียว การเปลี่ยนแปลงความทรงจำของหญิงสาว
ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดต่อสู้กับพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ ความคิดและตัวตนของเขากำลังแตกสลายและประกอบรวมกันใหม่ในแบบที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทุกวินาทีที่ผ่านไป เขารู้สึกว่าตัวของเขากำลังถูกกัดกร่อนไปทีละน้อย แต่เขาก็ยังคงพยายามต่อไป เพื่อโอกาสสุดท้ายที่จะช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากสถานการณ์นี้
ในห้วงความคิดของหญิงสาว เอ็ดเวิร์ดค่อยๆ แทรกซึมภาพใหม่เข้าไป ทีละน้อย ทีละน้อย เปลี่ยนใบหน้าของคนแปลกหน้าให้คุ้นเคยมากขึ้น เปลี่ยนความรู้สึกหวาดกลัวและโกรธแค้นให้เป็ความอบอุ่นและคิดถึง
แต่ละครั้งที่เขาพยายาม พลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นก็พยายามขัดขวาง กดดันจิตใจของเอ็ดเวิร์ดจนแทบแตกสลาย เขารู้สึกถึงความเ็ปที่ทวีคูณขึ้นทุกวินาที เืไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านรุนแรง
แต่เอ็ดเวิร์ดไม่ยอมแพ้ เขารู้ว่านี่เป็โอกาสเดียวที่พวกเขาจะรอดออกไปได้ เขาทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มี พุ่งทะยานเข้าสู่ความทรงจำของหญิงสาวอีกครั้ง
ในที่สุด เขาก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง เส้นใยแห่งความทรงจำเริ่มคลี่คลาย ภาพของพวกเขาในความคิดของหญิงสาวค่อยๆ เปลี่ยนไป จากผู้บุกรุกกลายเป็ญาติที่มาเยี่ยมเยียน
เอ็ดเวิร์ดรู้สึกถึงแรงต้านที่อ่อนลง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะสลายไปด้วย สติของเขาเริ่มดับวูบ โลกรอบตัวมืดมิดลงเรื่อยๆ
ด้วยความพยายามครั้งสุดท้าย เขาส่งความคิดไปยังเพื่อนร่วมหน่วย 'หนี... เดี๋ยวนี้…' ก่อนที่ร่างของเขาจะทรุดลงกับพื้น
เส้นใยโลหิตที่ขวางประตูเริ่มคลายตัว เปิดทางให้สายลมจากภายนอกพัดผ่านเข้ามา ชาร์ลส์และแอนดรูว์ไม่รอช้า พวกเขารีบฉวยโอกาสนี้ แหวกเส้นเอ็นและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว โจเซฟพยุงร่างของเอ็ดเวิร์ดออกไปเป็คนสุดท้าย
พวกเขาวิ่งออกจากบ้านอย่างไม่คิดชีวิต หัวใจเต้นรัวด้วยความกลัวว่าหญิงสาวจะตามมา แต่เธอยังคงอยู่ในบ้าน ไม่ได้ไล่ตามออกมา
เมื่อวิ่งออกมาได้ระยะหนึ่ง ความเครียดที่สะสมมาตลอดก็ผ่อนคลายลงอย่างฉับพลัน ราวกับสายรัดที่ตรึงร่างกายและจิตใจไว้ถูกตัดขาดในทันที แต่พร้อมกันนั้น อาการาเ็และความอ่อนล้าเกินขีดจำกัดก็ถาโถมเข้าใส่พวกเขาแทน
ชาร์ลส์รู้สึกวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ขาของเขาอ่อนแรงลงทุกก้าว จนในที่สุดก็ทรุดลงกับพื้น หน้าทิ่มดิน หมดสติไป เขานอนหายใจหอบอยู่บนแอ่งโคลน เสียงหายใจแห้งผากดังขึ้นเป็จังหวะ
สายฝนที่โปรยปรายลงมาชะล้างเืบนใบหน้าของชาร์ลส์ ผสมกับโคลนสีน้ำตาลเข้มจนกลายเป็แอ่งน้ำสีแดงอิฐ กลิ่นคาวเืและดินเปียกลอยคลุ้งในอากาศ
แอนดรูว์รีบเข้าไปประคองชาร์ลส์ พลิกร่างของเขาให้หงายขึ้น น้ำโคลนไหลออกจากปากและจมูกของชายหนุ่ม เขาพยายามเช็ดเศษดินออกอย่างรวดเร็ว กลัวว่าเพื่อนร่วมหน่วยจะสำลักตาย มือที่สั่นเทาบ่งบอกถึงความกลัวและความอ่อนล้าที่ยังคงหลงเหลืออยู่
เอ็ดเวิร์ดอาการสาหัสไม่แพ้กัน ร่างของเขาซีดเผือดและเย็นเฉียบราวกับศพ เืยังคงซึมออกมาจากหู จมูก และมุมปากเป็ระยะ โจเซฟพยายามประคองเอ็ดเวิร์ดให้อยู่ในท่าที่ปลอดภัย ขณะที่สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง
"ต้อง... แจ้งหน่วยปราบปราม..." เอ็ดเวิร์ดพูดเสียงแ่ ริมฝีปากสั่นระริก "บอกพวกเขา... ว่าเป็ผู้ทำพันธสัญญา... กับตัวตนลำดับมหาชีวิต... อันตราย... มาก..." ก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะหมดสติไป
โจเซฟรวบรวมแรงที่เหลือ ยืนประคองญาติของตนเองอย่างทุลักทุเล ขาสั่นเทาราวกับจะรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว เขาเดินโซเซไปที่รถม้าของหน่วยที่จอดรออยู่ไม่ไกล
เมื่อถึงรถม้า ทั้งสองช่วยกันประคองร่างของเอ็ดเวิร์ดและชาร์ลส์ที่ไร้สติ ขึ้นไปบนรถม้าก่อนที่ทุกคนจะปีนขึ้นตาม
เสียงแหบแห้งของโจเซฟดังขึ้นขณะสั่งการคนขับรถ "กลับ... หน่วย... ด่วน... แจ้งหน่วยปราบปราม..." คนขับรถที่รออยู่อย่างกระวนกระวายรีบบังคับม้าให้ออกวิ่งทันทีที่ทุกคนขึ้นรถเรียบร้อย
ขณะที่รถม้าเคลื่อนออกไป ล้อหมุนบดย่ำโคลนแฉะ ส่งเสียงดังไปตลอดทาง ฝ่าความมืดและสายฝนที่ยังคงโปรยปรายไม่หยุด โจเซฟประคองเอ็ดเวิร์ดให้นั่งลงข้างๆ ชาร์ลส์ที่ยังคงไม่ได้สติ
เอ็ดเวิร์ดลืมตาขึ้นเป็ครั้งสุดท้าย มองไปที่บ้านหลังนั้นด้วยสายตาพร่าเลือน ก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้ง ทิ้งไว้เพียงความหวังริบหรี่ว่าหน่วยปราบปรามจะมาถึงทันเวลา ก่อนที่สิ่งชั่วร้ายในบ้านหลังนั้นจะออกมาสู่โลกภายนอก
เสียงล้อรถบดถนนหินดังกึกก้องในความเงียบของค่ำคืน ภายในรถ โจเซฟรีบหยิบกระดาษสื่อสารส่งข่าวออกมา
ด้วยมือที่สั่นเทา เขาเขียนข้อความสั้นๆ ลงบนกระดาษม้วนเล็ก
"พบผู้ทำพันธสัญญากับตัวตนลำดับมหาชีวิต ้าความช่วยเหลือจากหน่วยปราบปรามด่วน อันตรายสูงสุด"
ก่อนจะจุดไฟเผามันด้วยเวทมนตร์ เมื่อโจเซฟจุดไฟเผากระดาษด้วยเวทมนตร์ เปลวไฟลุกโชนขึ้นในมือของเขา กลืนกินกระดาษอย่างรวดเร็ว ควันสีเทาบางเบาลอยขึ้นสู่เพดานรถม้า หายลับไป
โจเซฟทรุดตัวลงพิงพนัก หอบหายใจเล็กน้อย การใช้เวทมนตร์แม้เพียงเล็กน้อยในสภาพร่างกายที่อ่อนล้าเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกหมดเรี่ยวแรงยิ่งกว่าเดิม
แอนดรูว์มองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนยังคงโปรยปรายไม่หยุด ทำให้ทัศนวิสัยแทบมองไม่เห็นอะไร นอกจากเงาบ้านและต้นไม้ที่ทอดยาวในความมืด เขาหันกลับมามองเพื่อนร่วมหน่วย ใบหน้าของทุกคนซีดเซียวและเต็มไปด้วยร่องรอยความเหนื่อยล้า
"คิดว่าพวกเราจะกลับถึงกรมเมื่อไหร่?" แอนดรูว์ถามคนขับรถด้วยน้ำเสียงกังวล
คนขับรถตอบโดยไม่หันมามอง สายตายังคงจับจ้องไปที่ถนนเบื้องหน้า "อีกประมาณครึ่งชั่วโมง ถ้าไม่มีอะไรขัดขวาง"
"ไม่พอ เร่งความเร็วขึ้นอีก" แอนดรูว์พูดอย่างร้อนใจ ก่อนจะหันไปดูอาการของเอ็ดเวิร์ดและชาร์ลส์ ทั้งคู่ยังคงไม่ได้สติ
โจเซฟนั่งหลับตา พยายามรวบรวมสมาธิที่เหลืออยู่ เขารู้ดีว่าเมื่อถึงหน่วยงาน พวกเขาจะต้องรายงานเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด และอาจจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจต่อไปทันที
ขณะที่รถม้าแล่นฝ่าความมืดและสายฝน ทุกคนภาวนาในใจ หวังว่าพวกเขาจะกลับถึงที่ตั้งหน่วยได้อย่างปลอดภัย และหน่วยปราบปรามจะไปถึงบ้านหลังนั้นได้ทันเวลา ก่อนที่สิ่งชั่วร้ายจะแผ่ขยายออกไปสร้างความเสียหายมากกว่านี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้