ขณะนี้เป็เวลาเที่ยงคืน ในฐานะเมืองชั้นสามอย่างเมืองอู แค่แสงไฟบนถนนก็ถูกเปิดเพียงครึ่งเดียวแล้ว ทว่า ภายในโรงงานสารเคมีซึ่งถูกทิ้งร้างท่ามกลางหุบเขานั่นกลับสว่างไสวไปด้วยไฟสปอตไลท์ดวงใหญ่ จนดูคล้ายเวลากลางวัน
สถานที่ซึ่งไม่มีบุคคลภายนอกย่างกรายเข้ามาเป็เวลาหลายปี ตอนนี้กลับคับคั่งไปด้วยผู้คน รถตำรวจหลายสิบคันพร้อมด้วยรถถังหุ้มเกราะและรถพยาบาลได้โอบล้อมอาคารโรงงานทางด้านทิศตะวันออกเอาไว้หมดแล้ว
ที่บนดาดฟ้าของตัวอาคาร เสิ่นิกำลังเอนหลังพิงราวบันไดคอนกรีตที่ถูกสร้างขึ้นอย่างหยาบๆ ั้แ่เขาเริ่มฝึกยิงปืนไรเฟิลมาอย่างหนัก เขาไม่เคยหายใจด้วยความกังวลเช่นนี้มาก่อนเลย
ทั้งหมดเป็เพราะไอ้บ้าปาเหลี่ยงจินตรงหน้านี่คนเดียว บุคคลซึ่งเป็ผู้มีอิทธิพลที่สุดในเมืองอูและเป็ที่รู้จักกันในนามเ้าพ่อแห่งโลกใต้ดินของที่นี่
บุคคลผู้ซึ่งมีใบหน้าเ้าเนื้อ ทั้งปากมีแต่ฟันสีเหลืองทอง โดยปกติแล้วเมื่อผู้ชายคนใดเห็นเขาเข้าก็ต้องพากันก้มหัวหลีกทางให้ ส่วนผู้หญิงนั้นก็ต่างพากันวิ่งหนีไปในทันที ว่ากันว่าในตอนกลางวันเมืองอูอยู่ภายใต้การดูแลของตำรวจ แต่พอตกกลางคืนกลับกลายเป็ปาเหลี่ยงจินที่สามารถชี้นิ้วสั่งได้ทั้งหมด
แต่ ณ ตอนนี้ สองมือของปาเหลี่ยงจินกำลังกุมศีรษะหันหลังให้เสิ่นิและคุกเข่าลงบนพื้น เขาไม่เหลือคราบอันธพาลนั้นอีกแล้ว ฟันทองคำของเขาถูกถอนออกมาทีละซี่ คีมที่ขึ้นสนิมและฟันยังกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น เสิ่นิใช้โซ่ล่ามสุนัขล่ามคอของเขาเอาไว้ โซ่นั่นช่วยออมแรงให้เสิ่นิผู้ซึ่งเป็แชมป์ไรเฟิลจูเนียร์ระดับจังหวัด ตอนนี้ตัวของเขาพิงติดอยู่กับด้านหลังของเ้าอันธพาล ขอแค่เพียงเสิ่นิลั่นไกเบาๆ ก็สามารถปลิดชีวิตของเ้านี่ได้แล้ว
แต่เสิ่นินั้นเหนื่อยเกินที่จะคิดว่าจะเหนี่ยวไกดีหรือไม่ สามชั่วโมงที่ผ่านมา เขาบุกเข้าไปในโรงงานสารเคมีที่ปาเหลี่ยงจินและลูกสมุนนับร้อยยึดเป็ที่มั่นอยู่ เขาสังหารคนร้ายติดอาวุธไปมากกว่าร้อยคน ฝีมือของคนพวกนี้ไม่ใช่แค่อันธพาลข้างถนน ทุกคนล้วนพกอาวุธและเป็พ่อค้ายาที่ได้รับการฝึกฝนการใช้อาวุธามาเป็อย่างดี
ไรเฟิลของเสิ่นิสามารถทำเป้ากระดาษทะลุได้ในระยะร้อยเมตร แต่ถ้าอยากยิงศีรษะ เขาจำเป็ต้องลดระยะยิงให้เหลือเพียงแค่สี่สิบเมตร ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาแทบจะผ่านด่านกองกำลังติดอาวุธพวกนี้ไปได้ด้วยการเข่นฆ่ามาตลอดทาง
ในขณะที่เสิ่นิหายใจหอบ บุคลากรทางการแพทย์ต่างพากันเข้ามาเคลื่อนย้ายซากศพออกจากตัวอาคาร พวกมันไม่มีาแตามตัวใดๆ ทุกคนล้วนถูกยิงแสกหน้า หรือไม่ก็ทะลุเข้าที่ขั้วหัวใจ ผู้เชี่ยวชาญในทีมตำรวจพิเศษถึงกับแตกตื่นเมื่อได้เห็นสภาพของซากศพเ่าั้
พวกมือสมัครเล่นต่างพากันมองอย่างเสียขวัญขณะก้าวย่างเข้าไปตามทางเดิน มีแต่ผู้เชี่ยวชาญด้านแม่นปืนในหน่วยรบพิเศษเท่านั้นที่เข้าใจว่าฝีมือของเขานั้นร้ายกาจมากเพียงใด
เพราะตำแหน่งของลูกปืนบนซากศพเ่าั้ล้วนอยู่ที่บริเวณดวงตาทั้งสิ้น ะุทะลุผ่านเบ้าตาเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อสมอง ทำให้หมดหนทางกู้ชีพ ะุที่ยิงทะลุหัวใจก็แทรกผ่านช่องว่างระหว่างซี่โครงทั้งสองซี่ ทำให้ไรเฟิลกลายเป็อาวุธในการสังหารอันน่าสะพรึง ช่างแม่นยำและทรงประสิทธิภาพเสียจริง
หน่วยรบพิเศษอาจทำสิบแต้มเต็มได้ในสนามยิงปืน แต่ในสภาพแวดล้อมในสถานการณ์จริงนั้นกลับเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเป้าหมายทำให้ความแม่นยำลดลงทันที แต่มือสังหารนั่นสามารถควบคุมความผิดพลาดของการเหนี่ยวไกปืนในแต่ละครั้งให้อยู่ในระยะ 0.1 มิลลิเมตรได้ ช่างแม่นยำราวกับเครื่องจักรสังหาร
พลซุ่มยิงของหน่วยรบพิเศษแบ่งกำลังออกเป็สี่สาย พลแม่นปืนปีนขึ้นไปประจำการยังปล่องไฟบนหอคอยซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับมือสังหาร เพื่อสร้างความมั่นใจว่าภารกิจนี้จะประสบความสำเร็จพวกเขาได้ติดตั้งปืนไรเฟิลซุ่มยิงพิเศษ JS7.62 ซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายขนาดเท่าลูกแอปเปิลได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะ 800 เมตร และในรัศมี 500 เมตรสามารถเข้าถึงเป้าหมายขนาดเท่าเหรียญได้อย่างสบายๆ
พวกเขาอยู่ห่างจากมือสังหารเพียง 480 เมตรเท่านั้น คืนนี้ลมสงบ มวลอากาศปานกลาง ช่างเป็สภาพอากาศในอุดมคติของเหล่านักแม่นปืนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม การรวมตัวของพลซุ่มยิงสี่นายและผู้สังเกตการณ์อีกสี่นาย กลับไม่สามารถล็อกเป้าเหยื่อได้ ตำแหน่งของเสิ่นิถูกปาเหลี่ยงจินซึ่งตัวอวบอ้วนบดบังเอาไว้ ทำให้มองไม่เห็นแม้แต่ปลายผม
“เหยี่ยวหนึ่งรายงาน ไม่สามารถล็อกเป้าหมายได้”
“เหยี่ยวสองรายงาน ไม่สามารถล็อกเป้าหมายได้”
“เหยี่ยวสามรายงาน ไม่สามารถล็อกเป้าหมายได้”
“เหยี่ยวสี่รายงาน ไม่สามารถล็อกเป้าหมายได้”
ข้อความอันน่าผิดหวังดังผ่านลำโพงขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย มันเป็ไปไม่ได้เลยที่จะจู่โจมเป้าหมายโดยที่ไม่ทำร้ายตัวประกัน ซึ่งในสถานการณ์จริงแบบนี้ การซุ่มยิงนั้นจะต้องทำอย่างประจวบเหมาะเลยทีเดียว
เ้าหน้าที่ตำรวจผมสีเทานายหนึ่งอาสาทำหน้าที่เป็ผู้เจรจา เขาเดินออกมาจากแถวพร้อมกับปืนไรเฟิลจู่โจม 9.5
“น้องชาย นายชื่ออะไร” เ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวด้วยความจริงใจ
“ผู้กองเ้า ช่วยผมด้วย!” ตำรวจนายหนึ่งที่ปกติปาเหลี่ยงจินเกลียดเข้าไส้ แต่ตอนนี้กลับเรียกเขาอย่างสนิทชิดเชื้อราวกับเรียกหาบิดาบังเกิดเกล้า
“พูดบ้าอะไร คนเขากำลังถามฉัน” เสิ่นิดึงโซ่เหล็กในมือ เกือบทำเอาคอของปาเหลี่ยงจินขาด
“น้องชาย ฉันรู้ว่านายคงจะมีความแค้นใจกับไอ้บ้านี่ หน่วยเฉพาะกิจของเราได้รวบรวมหลักฐานว่าเขาคุกคามคนในหมู่บ้านมานานหลายปีแล้ว เขาสมควรได้รับโทษปะาหลายสิบหน แต่นายไม่จำเป็ต้องต่อสู้เอาชีวิตของตัวเองมาแลกที่นี่เลย ส่งตัวเขาให้เรา กฎหมายจะให้ความยุติธรรมแก่นายเอง” ผู้กองเ้าใช้เหตุผลกล่าวด้วยความเข้าอกเข้าใจ
“น่าเสียดาย…” เสิ่นิเอ่ยเสียงอ่อย
“น่าเสียดายอะไรกัน”
“น่าเสียดายที่เขาติดค้างชีวิตพ่อ ชีวิตแม่และชีวิตน้องสาวของผมไว้ ถ้าไม่ได้ะเิสมองเขาด้วยตัวเอง ผมคงนอนไม่หลับ…” เสิ่นิพูดอย่างเคียดแค้น มือที่ถือปืนอยู่สั่นไหว เพื่อฝึกฝนการยิงปืนที่แม่นยำ เขาใช้เวลานานอยู่หลายปีจนสามารถยกดัมเบลหนักสิบกิโลกรัมได้นานถึงสามชั่วโมง และั้แ่แปดขวบเป็ต้นมาแขนเขาก็ไม่เคยสั่นเลยแม้แต่น้อย
“นายเป็ลูกชายของเสิ่นฉงหยางใช่ไหม” ผู้กองเ้าประหลาดใจ เสิ่นฉงหยางและภรรยาเป็บอดี้การ์ดส่วนตัวมืออาชีพ พวกเขาตอบรับภารกิจจึงได้เดินทางมาที่เมืองอู แม้แต่ลูกสาวแท้ๆ ที่อายุเพียงหกขวบ พวกเขาก็พาเธอมาด้วย แต่ก็ปล่อยให้เธออยู่ที่โรงแรมตลอด
เมื่อสองวันก่อน เสิ่นฉงหยางและภรรยาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนถึงแก่ความตาย รวมถึงลูกสาวของพวกเขาก็ได้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลด้วยอาการาเ็สาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์นั่นเช่นกัน
ตำรวจระบุว่าทั้งสองคดีเป็การฆาตกรรมโดยเจตนา หลักฐานที่มีทั้งหมดชี้ไปยังตัวผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นปาเหลี่ยงจิน แต่การแก้แค้นของเสิ่นิกลับเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเสียยิ่งกว่าการทำงานของตำรวจ เขาได้ยินจากปากของน้องสาวในขณะที่คนกำลังช่วยชีวิตเธอว่าคนคนนั้นมีฟันสีทองทั้งปาก แค่ถามจากอันธพาลท้องถิ่นก็พอจะรู้ได้แล้วว่าปาเหลี่ยงจินอาศัยอยู่ที่ไหน
เพียงแค่ชั่วข้ามคืนเขาก็ตามไล่ฆ่ามันมาถึงนี่ ความโกรธท่วมท้นจนกัดกินหัวใจ ในที่สุดเขาก็หันปากกระบอกปืนจ่อไปที่หลังศีรษะของมัน
“พ่อผมตาย… แม่ผมก็ตาย…น้องสาวผมหยุดหายใจไปต่อหน้าต่อตาผม…แต่ไอ้สารเลวนี่กลับยังมีชีวิตอยู่…มันยุติธรรมตรงไหนกัน” เสิ่นิสูดลมหายใจลึกๆ
“เ้าหน้าที่ทุกนายจับตาดูเขาไว้ เขาเตรียมจะเหนี่ยวไกแล้ว…” มีคนใช้เครื่องแปลงเสียงเตือนขึ้นภายในหูฟัง เสียงแห่งความช่วยเหลือเดียวของเสิ่นิกำลังจะดับหายไป เ้าเด็กคนนี้ทำให้พลแม่นปืนต้องเตรียมตัวยิง
“พอได้แล้ว!” จู่ๆ ผู้กองเ้าก็ะโขึ้นมา “นายรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองฆ่าคนไปแล้วกี่คน 103 คน! นายยังล้างแค้นไม่พออีกเหรอ ถึงพวกเขาจะเป็คนชั่ว แต่ก็มีชีวิตมีเืเนื้อ ฟังจากเสียงของนาย นายน่าจะยังเด็กอยู่ใช่ไหม นายอยากตกนรกไปพร้อมกับไอ้พวกสารเลวนี่หรือไง”
“ผมไม่เหลือใครแล้ว...อยู่ไปก็เหมือนตกนรกทั้งเป็” เสิ่นิเหนี่ยวไกเพื่อจะขับะุลูกสุดท้ายออกจากลำกล้อง
“มาสิวะ! ยิงเลยไอ้เด็กเมื่อวานซืน! กล้าหรือเปล่า ตำรวจพวกนี้ไม่ยอมง่ายๆ แน่ ร่างแกคงพรุนกว่าฉันแน่นอน แกกล้าหรือเปล่าล่ะ” ปาเหลี่ยงจินกลัวจนเสียสติไปแล้ว จู่ๆ เขาก็หัวเราะลั่นขึ้นมา
“แกนี่ช่างไม่รู้อะไรเลย…” มือของเสิ่นิไม่สั่นอีกต่อไป “เหนี่ยวไกแล้วลังเลน่ะ มันเป็ ‘หลักสูตรนอกเวลา’ ของเด็กประถม ฉันเหนี่ยวไกแล้วไม่เคยคิดอีกว่ากล้าหรือไม่กล้า มีแต่ดูว่าต้องปรับวิถีใหม่อีกหรือไม่ก็เท่านั้น”
นิ้วชี้โค้งงออย่างเชื่องช้า เพื่อกระตุกไกปืนทางด้านล่าง และเมื่อะุพุ่งทะลุออกจากปากกระบอกปืนของเสิ่นิ พลซุ่มปืนซึ่งแอบซ่อนอยู่ที่จุดที่ห้าก็เริ่มจู่โจมเพื่อตอบโต้
ปืนที่พลแม่นปืนใช้นั้นไวกว่าไรเฟิลของเสิ่นิถึง 8 เท่า ลูกะุที่สามารถเจาะทะลุหัวปาเหลี่ยงจินให้ตายได้ภายใน 0.05 วินาทีพลันพุ่งใส่หน้าเสิ่นิ
สิ่งมหัศจรรย์ก็คือ ะุของมือปืนลึกลับนั่นปะทะเข้ากับะุของเสิ่นิกลางอากาศ ด้วยการเคลื่อนที่อันเชื่องช้า วิถีะุซึ่งถูกซุ่มยิงนั้นเปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์ ะุที่ควรจะฆ่าเสิ่นิ กลับทะลุผ่านไหล่เขาไปเพียงเท่านั้น
“ไอ้เด็กคนนี้…มากับดวงจริงๆ” มือปืนถอดสลักปืนเพื่อจะเอาปลอกะุออก ชั่วขณะที่มือเขาจับได้นั้น โดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งลำ เด็กนั่นก็หายวับไปในความมืดแล้ว
...
หลังจากผ่านไป 36 ชั่วโมง เสิ่นิก็ฟื้นขึ้นมาบนเตียงในโรงพยาบาล เคราะห์ดีที่เขารอดชีวิตมาได้ แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นเงื้อมมือของกฎหมายได้
การตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรงถือเป็ความผิด การล้างแค้นต้องชดใช้ด้วยราคาของชีวิต เสิ่นิมีความผิดฐานฆาตกรรมโดยเจตนา และยังเป็การฆาตกรรมต่อเนื่องถึง 104 ชีวิต การกระทำของเขาถูกรายงานไปตามสื่อโทรทัศน์และหน้าหนังสือพิมพ์รายใหญ่
อดีตดาวรุ่งแชมป์ยิงปืนรุ่นจูเนียร์ ปัจจุบันได้รับโทษหนักข้อหาฆาตกรรม มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นและข่าวนี้ก็ได้รับความสนใจเป็อย่างมาก กระทั่งมีรายงานใน่ข่าวต่างประเทศ
ต้องรู้ก่อนว่าปีนี้เสิ่นิอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น เด็กอายุ 16 จะฆ่าคนอย่างโเี้ถึง 104 ศพได้อย่างไร นี่เป็ความจริงที่ใครก็ยากจะเชื่อ
ทว่า ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเตียงเสิ่นินั้น กลับคิดว่าเื่นี้เป็แค่เื่ธรรมดา
“ฟื้นแล้วเหรอ พ่อหนุ่ม ดูเหมือนสภาพร่างกายของนายจะแย่ไปหน่อยนะ าเ็เล็กน้อยแค่นี้ถึงกับต้องใช้เวลาตั้ง 36 ชั่วโมงในการฟื้นตัว ถ้านายอยู่ในสนามรบละก็ ป่านนี้นายได้ตายไปสิบรอบแล้ว” เขาสวมชุดทหารลายพราง แต่กลับไม่ได้มีป้ายยศอย่างเช่นคนใหญ่คนโต
“ผมไม่ใช่ทหาร…ที่นั่นก็ไม่ใช่สนามรบ…” เสิ่นิแหงนมองเพดานสีเทาอย่างเมินเฉยขณะพูด เขาไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล แต่อยู่ในคุก รั้วเหล็กเย็นเยียบที่หัวเตียงเป็ช่องว่างที่ขวางกั้นระหว่างเขากับอิสรภาพเอาไว้
“ใช่ ที่นั่นไม่ใช่สนามรบ แต่เป็นรก พวกคนที่ถูกนายฆ่าตาย สีหน้านั้นน่ากลัวยิ่งกว่าผีในนรกเสียอีก ศพส่วนมากไม่ฉี่ก็อึราดรดเป้ากันทั้งนั้น บางคนอยู่ด้านหลัง เห็นชัดๆ อยู่แล้วว่าไม่ต่อสู้ขัดขืน นายก็ยังเจาะะุทะลุขั้วหัวใจพวกเขา” ชายร่างกำยำในชุดทหารกล่าวพรรณนา
“ถ้าคุณอยากให้ผมรู้สึกผิด อย่างนั้นคุณคงต้องผิดหวังแล้วล่ะผมไม่เคยเสียใจกับเป้าหมายที่ผมโจมตีมาั้แ่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็กระดาษ หรือว่าเืเนื้อจริงๆ” เสิ่นิเืเย็นราวกับไม่ใช่มนุษย์
“เด็กน้อย รู้หรือเปล่าว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น” ชายร่างกำยำในเครื่องแบบทหารถามด้วยรอยยิ้ม
“ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตรวจสอบหลักฐาน หรือโทษปะา” เสิ่นิไม่กลัวใดๆ ทั้งสิ้น
“นั่นมันกระบวนการปกติ อันที่จริงแล้วมีความเป็ไปได้อย่างหนึ่งสำหรับอนาคตของนาย เข้าร่วม ‘โครงการนิรวาน’ สิ ทำงานที่มนุษย์ไม่อาจทำได้ หากนายสามารถรอดชีวิตอยู่ได้เกิน 10 ปี ต่อให้โอกาสนั้นน้อยมากเพียงใด แต่ถ้านายผ่านมันไปได้ นายก็จะกลับไปเริ่มต้นใช้ชีวิตข้างนอกได้อีกครั้ง เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
แต่อย่างไรก็ต้องตาย ขึ้นอยู่กับว่านายอยากจะตายอย่างโดดเดี่ยวไร้ค่า หรือจะหลั่งเืในสนามรบ” ชายร่างใหญ่ในชุดทหารวางปลอกะุที่เอาออกมาจากร่างของเสิ่นิไว้บนหมอน “ฉันชื่อคาร์ล นายเรียกฉันว่าพันเอก หรือว่าปีศาจก็ได้ หน่วยจู่โจมของฉันไม่เคยยิงใครในระยะ 500 เมตรแล้วไม่ตายมาก่อน นายเป็คนแรก”
“โครงการนิรวาน นายมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมทีม”
“โครงการนิรวาน อย่างนั้นเหรอ” เสิ่นิพึมพำกับตัวเอง