มนุษย์เราเกิดมา สิ่งที่มีติดตัวมาั้แ่ในครรภ์มารดาจวบจนเป็ทารกแรกเกิด มีเพียงแต่ความว่างเปล่า ดั่งคำที่กล่าวขานว่าเด็กคือผ้าขาว ไม่ว่าจะเป็ภาษา วัฒนธรรม สังคม ความเป็อยู่ หรือคุณค่าของการเกิดมาล้วนต้องถูกสั่งสอน แต่งเติมเข้าไป ไม่มีใครพกติดตัวมาได้ั้แ่เกิดหรอก
คงไม่ใช่กับนางเล่า อวิ๋นเสียนหนาน สาวน้อยวัยยี่สิบปี นักพรตปราบผีประจำวัดมู่หญง ถ้าหากเป็โลกเก่าที่นางเคยอยู่ก็คงเป็สาวน้อยเพิ่งเข้าสู่วัยมหาลัย แต่ไม่ใช่กับสถานที่แห่งนี้
โลกที่นางอยู่ในตอนนี้ วัฒนธรรม ความเป็อยู่ สาววัยยี่สิบไม่แต่งงานเรียกนางว่าสาวเทื้อ มารดามันเถอะ หากเป็โลกเก่าที่นางจากมา วัยนางมีลูกเร็วไปด้วยซ้ำ นางเคยสงสัยเช่นกันนางได้ทะลุมิติมาเหมือนนิยายที่นางเคยอ่านมาหรือไม่
ชีวิตนางในโลกเก่ามีชื่อว่า ไป๋อวิ๋นฮวา อายุยี่สิบห้าปี เป็สาวตกงานไม่มีงานทำเป็หลักแหล่ง ประสบอุบัติเหตุโดนรถชนระหว่างข้ามถนนทางม้าลายเพื่อไปซื้อข้าวกิน สาเหตุคือคนขับเมาแล้วขับ จึงทำให้อวิ๋นฮวาเสียชีวิตคาที่
เพ้ย ๆ คิดแล้วก็อยากสาปส่งคนขับ งานศพของนางจัดอย่างสงบเรียบง่าย ตอนนั้นที่ล่องลอยเป็ิญญา นางรู้สึกเสียดายอยู่หลายอย่าง ยังไม่ได้อยากทำสิ่งที่อยากทำ
พ่อแม่ของนางจะอยู่ได้ไหม คนรักก็ยังไม่มี หน้าที่การงานก็ยังไม่รุ่งอยากไปสัมภาษณ์งานที่ใฝ่ฝันอยู่เลย อ่าตอนนั้นในหัวของนางคือ เสียดายจัง
หลังจากนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมา กลับพบว่าตัวเองอยู่ในร่างเด็กทารก คราแรกนางคิดว่าตัวเองทะลุมิติมายังอีกโลกเหมือนนิยายที่เคยอ่านทั่วไปตามเว็บ แต่เดี๋ยวนะ ไม่ถูกสิในโลกเก่านางตายแล้ว นางโดนสวดส่งิญญาอยู่เลย ล่องลอยไปมาจนถึงเวลาที่นางต้องข้ามสะพานไปเจอยายเมิ่ง
แต่ยายเมิ่งไม่ได้ให้นางกินน้ำเบญจรส[1] หรืออย่างไร มันต้องลบเลือนความทรงจำในอดีตชาติสิแต่นี่นางกลับจำอดีตชาติในโลกเก่าตัวเองได้หมด
ต่อมาเมื่อนางเริ่มโตขึ้น มีนามว่าอวิ๋นเสียนหนาน เกิดจากภรรยาเอกของท่านแม่ทัพอวิ๋น บิดาของนางในโลกนี้มีชื่อว่า อวิ๋นเสี่ยวโม่ เป็ถึงแม่ทัพประจำแดนใต้แห่งต้าเฟิ่ง ส่วนมารดานางมีชื่อว่า ไป๋จวิ้นหลัน เป็ภรรยาเอกของท่านแม่ทัพ
จะว่าไงดีตลอดเวลาที่นางยังเป็ทารกจวบจนอายุได้สามขวบ ชีวิตนางสุขสบายมากมาย เป็ที่รักของท่านพ่อท่านแม่ ต่อมาท่านแม่ตั้งครรภ์ นางรับรู้ได้ทันทีในครรภ์ของท่านแม่เป็บุตรชาย ถามว่านางรู้ได้ไง
ิญญาบรรพบุรุษที่อยู่ปกปักรักษาตระกูลอวิ๋นบอกนาง ใช่นางเห็นสิ่งที่เรียกิญญาหรือผี แต่เห็นั้แ่เมื่อไหร่ นางก็ตอบไม่ได้ แรกๆก็ไม่ชินมีกลัวบ้าง เพราะที่มาปรากฏให้เห็น ก็มีทั้งแบบปกติและไม่ปกติ จนหลังๆเริ่มชินกับการที่ตัวเองเห็นิญญา บางครั้งนางก็คุยกับผีมากกว่าเด็กคนอื่นในจวนเสียอีก
จู่ ๆ ในวันหนึ่งท่านบรรพบุรุษปรากฏกายบอกกับนางว่าให้เตือนท่านแม่ระวังการนั่งรถม้า มีคนไม่หวังดี้าให้ท่านแม่แท้ง นี่คือสิ่งทีี่นางไม่นึกเสียใจที่ได้กล่าวออกไป แม้นจะทำให้นางในหลังจากนั้นถูกส่งตัวมาอยู่กับท่านอาจารย์ ที่วัดอารามมู่หญง เดินทางเข้าสู่เต๋าั้แ่ยังเด็กจวบจนถึงตอนนี้
ตอนนั้นที่นางบอกท่านแม่ไป นางยอมรับว่าต่อให้นางมีความทรงจำจากโลกเก่า อายุขัยจากโลกที่แล้วหรือวุฒิภาวะต่างๆแล้วอย่างไร ร่างของนางในตอนนั้นคือเด็กวัยสามขวบ อารมณ์ย่อมมีมากกว่าสติเสียอีก ท่านบรรพบุรุษตระกูลอวิ๋นบอกกับนางว่าน้องสาวของท่านแม่จะจ้างให้คนทำให้รถม้าพลิกคว่ำ ตั้งใจให้ท่านแม่แท้ง
หลังจากที่นางได้ยินสติแตกกระเจิ้งทันที ด้วยความเป็ห่วงท่านแม่นางรีบวิ่งด้วยสองเท้าป้อมและพูดสิ่งที่ได้ยินมาจนหมด แต่สิ่งที่นางได้รับคือ ท่านพ่อไม่เชื่อ ส่วนท่านแม่คิดว่ามีคนตั้งใจยุแยงความสัมพันธ์ของนางกับน้องสาวตนเอง โดยการมาพูดหลอกล่อลูกสาวนางให้กลัว
เื่มันยุ่งยากยิ่งขึ้นเมื่อท่านน้าหรือน้องสาวท่านแม่เชิญนักพรตชื่อดังมาดูดวงชะตาให้นาง บอกนางมีดวงกาลกิณี มีดวงตาของความเป็มาร เป็ภัยต่อครรภ์ที่จะออกมาเป็ชายชาตรี หากบุตรคนนี้รอดปลอดภัยจะได้รับใช้บ้านเมือง ต้องส่งนางไปทางเหนือดินแดนแห่งความยากจนของต้าเฟิ่งเพื่อให้ชำระล้างดวงชะตาของนาง
แน่นอนท่านแม่ย่อมยอมรับไม่ได้ ยังไงเสียอวิ๋นเสียนหนานก็เป็ลูกสาวที่นางให้กำเนิด ฟ้าฝนคงไม่เป็ใจ ท่านแม่เจ็บครรภ์เกือบแท้งด้วยสาเหตุใดไม่ทราบ เหล่าผู้าุโตระกูลอวิ๋นเชื่อว่าเป็เพราะดวงชะตาของอวิ๋นเสียนหนาน
อวิ๋นเสียนหนานอยากะโบอกทุกคนว่าท่านแม่มีภาวะเครียดเลยส่งผลต่อเด็กในครรภ์ แต่นั้นและนางพูดไปใครจะเชื่อ เหล่าผู้าุโต่างกดดันท่านพ่อ ให้ขับอวิ๋นเสียนหนานออกจากตระกูล ทำตามสิ่งที่นักพรตจอมล่วงโลกนั้นกล่าว
คิดไปแล้วช่างตลก โลกเก่าที่นางจากมาการเห็นผีไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นด้วยซ้ำ แต่โลกแห่งนี้ สถานที่ที่มีแต่ความเชื่อเื่เหนือธรรมชาติเป็อย่างมาก พูดกลับขาวเป็ดำ คนอื่นเห็นผีคือพรจาก์ อวิ๋นเสียนหนานเห็นผีคือดวงตาเป็มาร
ท่านพ่อในตอนนั้นพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องลูกสาวเพียงคนเดียว แต่นั้นยิ่งกลับทำให้อาการท่านแม่แย่ลง
เหมือนอวิ๋นเสียนหนานยังมีบุญอยู่บ้าง จู่ ๆ ก็มีนักพรตเฒ่าท่านหนึ่งมาเคาะประตูจวนตระกูลอวิ๋น ขอพบท่านแม่ทัพ จะว่าไปท่านอาจารย์นางในตอนนั้น ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่
ชุดนักพรตเต๋าที่ท่านใส่มาก็สีซีด มีรอยปะเต็มตัว ใครจะเชื่อว่านี่คือท่านเ้าอาวาสแห่งวัดมู่หญง วัดเลื่องชื่อของลัทธิเต๋า อดีตปฐมฮ่องเต้ศรัทธาวัดแห่งนี้เป็อย่างมาก
แต่อย่างว่ากาลเวลาเปลี่ยน ลัทธิมีมากมายเพิิ่มยิ่งขึ้น ทำให้วัดนี้จางหายไปตามการเวลาแต่ถึงกระนั้นก็ยังขึ้นชื่อของความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองปิดประตูคุยอยู่นานสอง จนสรุปออกมาได้ว่า
ท่านอาจารย์้าตัวอวิ๋นเสียนหนานไปเลี้ยงดู สั่งสอนเข้าสู่ลัทธิเต๋า ท่านพ่อเห็นว่านี่คือทางที่ดีจากตัวเลือกที่มีทั้งหมด เขาย่อมเสียใครไปไม่ได้สักคน แต่หากเขาต้องสละ เขาจำเป็ต้องเลือกสละลูกสาวคนโต
นางถูกส่งตัวออกจากจวนไปพร้อมอาจารย์ในคืนนั้นทันที ไม่ได้ร่ำลา บอกกล่าวท่านแม่ หรือพบหน้าท่านพ่อ นางไม่ได้เห็นพบใครเลยเสียด้วยซ้ำ
และนี้คือจุดเริ่มต้นของการเป็นักพรตของอวิ๋นเสียนหนาน ผู้คนต่างรับรู้ว่าลูกสาวของท่านแม่ทัพถูกส่งไปอยู่อีกเมืองเนื่องจากสุขภาพไม่ดี หลังจากนางมาอยู่กับท่านอาจารย์ ได้รับการสั่งสอนอย่างดี ััพิเศษของนาง
นางไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็เื่เลวร้ายอะไรเลย ท่านอาจารย์ก็บอกเอง ว่ามันช่วยกอบกู้โลกมนุษย์ไม่มากก็น้อย แต่เอาเถิดอาจารย์จะกู้โลกอย่างไร นางไม่รู้ แต่นางจะเป็นักพรตปราบผีชื่อเสียงกว้างไกลดีกว่า เดินทางปราบผี พูดคุยกัับผีง่ายกว่าคุยกับคนเสียอีก
อวิ๋นเสียนหนานไม่ได้ข่าวคราวของตระกูลอวิ๋นเลย สิ่งที่นางเป็ห่วงก็มีเพียงท่านแม่และน้องชายของนาง ไม่รู้ว่าท่านพ่อท่านแม่จะรู้เท่าทันคนหรือไม่ สิ่งที่น่ากลัวกว่าผี ิญญา คือ จิตใจของคน นางก็ได้แต่หวังว่าการที่สละนางไปจะเป็เื่ที่ดีแก่ตระกูล แก่ทุกคน
เชิงอรรถ
^
[1] ิญญาทุกดวงจะได้ดื่มน้ำเบจรสหรือ น้ำแกงห้ารสจากยายเมิ่งเทพาุโที่ประจำการอยู่ในนรกภูมิ น้ำเบจรสมีอนุภาพคือ ทำให้ลบเลือนความทรงจำในอดีตชาติหมดสิ้นเชิงไม่เหลือความทรงจำใดใดเลยแม้แต่เื่เดียว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้