"เ้าหมาสีเหลืองมันอยู่ที่ไหน?"
ศิษย์จากนิกายเทียนเจี้ยนถามอย่างดุร้าย ทำให้ผู้คนคิดว่าเ้าหมานั่นไปทำอะไรไว้ ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนถึงได้มีการตอบสนองเช่นนี้ ราวกับมันไปสังหารบิดาของพวกเขา
"มันอยู่นี่! เ้าหมานั่นมันโกงเม็ดยามนุษย์หยวนจากพวกเรา! อย่าปล่อยมันไป!"
บางคนขบฟันขณะที่เขาพูดออกมา ในใจเขารู้สึกว่าถูกเ้าหมานี่โกง เมื่อคิดเช่นนั้นหลายคนก็มองไปยังที่เ้าหมาเหลือง แต่เ้าหมาเหลืองได้หายไป ในตอนนี้เหลือแต่เพียงสาวน้อยรูปร่างงดงามในชุดกระโปรงสีม่วงยืนอยู่ตรงนั้น
"บัดซบ! เมื่อกี้ยังเห็นเ้าหมานั่นอยู่ตรงนี้แท้ๆ! มันหนีไปั้แ่เมื่อไหร่?"
"เ้าหมาเหลืองหนีไปแล้ว! รีบค้นหามันเร็วเข้า มันคงจะยังหนีไปได้ไม่ไกล!"
บางคนร้องเตือนขึ้นมา หลายคนต่างมองไปยังทางเข้า-ออกของเมืองเซียงหยาง แต่ไม่พบวี่แววเ้าหมาเหลืองแม้แต่น้อย พวกเขาไม่รู้ว่าเ้าหมาเหลืองหายไปั้แ่เมื่อไร มันเหมือนกับว่ามันไม่เคยอยู่ตรงนั้น
"บัดซบ! เ้ากล้าหลอกพวกข้าอย่างนั้นรึ?!"
ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนเกรี้ยวกราด กระชากคอชายคนนั้นไว้
ชายคนนั้นหวาดกลัวจนใบหน้าของเขาโชกไปด้วยเหงื่อ
"ไม่ ข้าไม่ได้หลอกท่าน มันอยู่ตรงนี้จนถึงเมื่อสักครู่ มันเป็หมาตัวใหญ่และมีกล้ามเนื้อ ปกคลุมไปด้วยขนสีเหลือง! ทุกคนที่นี่เป็พยานให้ข้าได้ ข้าไม่ใช่คนเดียวที่ถูกมันโกงไป!"
"ถูกต้องแล้ว! จนถึงเมื่อสักครู่เ้าหมามันยังอยู่ตรงนี้ แต่เมื่อพวกท่านมาถึงมันก็หายไปในพริบตา!"
"พวกท่านทั้งหมดเป็ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยน ต่อให้พวกเรามีความกล้าแค่ไหน พวกเราไม่อาจหลอกลวงท่านได้! พวกเราไม่รู้จริงๆว่ามันหนีไปจากตรงนี้! มีหลายคนอยู่ที่นี่แต่ไม่มีใครผิดสังเกต มันน่าประหลาดใจเสียจริง!"
ทุกคนเป็พยานในการดำรงอยู่ของหวงต้าในก่อนหน้านี้ พวกเขารู้สึกรันทดยิ่งนัก พวกเขาอยากที่จะสับหวงต้าออกเป็ชิ้นๆ
เมื่อศิษย์ของนิกายเทียนเจี้ยนได้ยินดังนั้น ศิษย์ของนิกายเทียนเจี้ยนได้ใช้ััเทวะเพื่อค้นหาทั่วทั้งลานกว้าง แต่ก็ยังไร้ซึ่งวี่แววของหวงต้า เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปจึงก่นด่ามัน
"บัดซบ! เ้าหมานี่มันเ้าเล่ห์นักนะ พวกเราปล่อยให้มันหนีไปได้อีกแล้ว!"
"โอ้ ใช่แล้ว สาวน้อยคนนี้มาพร้อมกับเ้าหมาเหลืองนี่นา อีกทั้งพวกเขามาด้วยกันกับเจียงเฉิน!"
บางคนมองไปยังเยี่ยนเฉินหยวี่
ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนทั้งหมดต่างมองไปยังเยี่ยนเฉินหยวี่ ดวงตาของพวกเขาลุกวาวแม้ว่าสาวน้อยได้สวมผ้าปิดบังใบหน้าของนาง แต่มันไม่ได้ช่วยปกปิดความงดงามระดับโลกของนางได้ พวกเขาอยากรู้ว่าภายใต้ผ้าปิดหน้าของนางนั้น หนาตาของนางจะเป็เช่นไร
"บอกมาซะ! เ้าหมานั่นมันไปไหน?"
ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนถามอย่างหยาบคาย
"ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?ขาข้าไม่ได้ติดกับมันสักหน่อย ถ้ามันจะไปไหน ข้าจะไปหยุดมันได้อย่างไร?"
เยี่ยนเฉินหยวี่ตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ ชายทั้งหมดตรงหน้านางเป็ศัตรูของเจียงเฉิน ไม่มีทางที่นางจะญาติดีกับเ้าพวกนี้
"บัดซบ! นังหนูนี่ก็ยโสนัก! มาให้บิดาผู้นี้ยลหน่อยสิว่าหน้าตาของเ้าเป็เช่นไร! ถึงได้วางท่าและสวมผ้าปิดบังใบหน้าเช่นนี่"
ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนได้ยื่นมือ คว้าไปยังที่ผ้าคลุมหน้าของเยี่ยนเฉินยหวี่
เจียงเฉินที่ยืนอยู่ไกลจากที่นี่ เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและส่ายหัว ทำไมถึงมีแต่คนที่อยากที่จะหาที่ตายทั้งนั้น เยี่ยนเฉินหยวี่ในตอนนี้ไม่เหมือนกับเยี่ยนเฉินหยวี่ตอนที่อยู่เมืองชื่อ แม้ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนทั้งหมดลงมือพร้อมกันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยนเฉินหยวี่ต้องรู้สึกเจ็บด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวศิษย์นิกายเทียนเจี้ยน สายตาของเยี่ยนเฉินหยวี่พลันเปลี่ยนเป็เ็า นางสะบัดมือไปยังศิษย์นิกายเทียนเจี้ยน
กึก...!
ชั้นของน้ำแข็งได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากเยี่ยนเฉินหยวี่ มันได้ปกคลุมไปทั่วร่างกายของศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนโดยทันที เหล่าศิษย์ขั้นแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางได้กลายเป็รูปปั้นน้ำแข็ง และเขายังอยู่ในตำแหน่งเดิม ชีวิตของเขากำลังจบลงด้วยไอเย็นที่รุนแรง
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นงงงวย ฝูงชนต่างเงียบกริบ ทุกคนตกตะลึงที่สาวหน้าชุดม่วงที่สวมผ้าคลุมหน้าคนนี้ จะสังหารศิษย์ของนิกายเทียนเจี้ยนด้วยการแช่แข็ง
เหวอ...!
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ฝูงชนที่เงียบกริบได้ตกสู่ความวุ่นวาย มันช่วยไม่ได้ที่หลายคนถอยพยายามถอยออกห่างจากเยี่ยนเฉินหยวี่ ไม่มีใครคิดว่าสาวน้อยเช่นนางจะแข็งแกร่งขนาดนี้? สังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางของนิกายเทียนเจี้ยนได้
ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางของนิกายเทียนเจี้ยนไม่ใช่คนที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางทั่วไปสามารถเทียบได้ แม้เป็เช่นนั้นเขายังถูกสาวน้อยผู้นี้ฆ่าตายในทันที มันไม่ได้หมายความว่าศิษย์ของนิกายเทียนเจี้ยนอ่อนแอ แต่หมายความว่าสาวน้อยชุดม่วงนั้นแข็งแกร่งเกินไป
"บัดซบ! สาวน้อยคนนี้แข็งแกร่งถึงเพียงใดกันแน่? นางปกปิดพลังได้มิดชิดนัก"
"นางมีกายเยือกแข็ง! นี่มันหายากยิ่งนัก นางสามารถสังหารศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนได้อย่างง่ายดาย! หากว่านางลงแข่งขันประจำแคว้นฉี นางต้องเป็ม้ามืดอีกตัวแน่"
"นางมาที่นี่พร้อมกับเจียงเฉิน ทั้งสองผิดปกติยิ่งนัก"
หลายคนต่างถกเถียงกันว่าพวกเขานั้นคิดผิด ในใจพวกเขาตกตะลึงถึงขีดสุด แค่เพียงเจียงเฉินคนเดียวก็แปลกประหลาดพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าสาวน้อยที่มาด้วยกันกับเจียงเฉินเองก็น่าสะพรึงกลัวไม่แพ้กัน!
เหล่าศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนต่างหวาดกลัว พวกเขาได้เห็นใครบางคนสังหารคนฝ่ายพวกเขา ความภาคภูมิของผู้ที่เหนือกว่าได้ฝังลึกลงไปในกระดูกของพวกเขาได้รับการสั่นคลอน พวกเขาทุกคนต่างมองไปยังสาวน้อยในชุดสีม่วงต่อหน้าพวกเขาด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะลงมือ
"หาที่ตาย!"
อีกฟากหนึ่ง เมื่อเหลียงเซียวเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็เ็า เขายื่นมือของเขาแล้วยื่นมือไปกระชากคอเยี่ยนเฉินหยวี่ที่อยู่ต่อหน้า
เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ท่าทางของเจียงเฉินพลันเปลี่ยนไป ปีกโลหิตบนหลังของเขากระพือออกและเขาพุ่งตรงไปยังเยี่ยนเฉินหยวี่ ในขณะเดียวกันเขาได้บอกกวนอี้หยุนว่า
"ศิษย์พี่กวน ช่วยข้าหยุดเขาที!"
กวนอี้หยุนไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำขอของเจียงเฉิน เขารู้ว่าสาวน้อยคนนี้ได้มากับเจียงเฉิน เขาขยับตัวไปหยุดเหลียงเซียวในทันที นอกจากนี้เขาได้เห็นด้วยตาของเขาเองว่าเยี่ยนเฉินหยวี่แข็งแกร่งถึงเพียงใด นางไม่มีทางที่จะอ่อนแอกว่าเจียงเฉิน นางคืออัจฉริยะถ้าหากว่านางเข้าร่วมนิกายเซวียนอี้ละก็ถือได้ว่าเป็ข่าวดีสำหรับพวกเขา
ปัง....!
กวนอี้หยุนพุ่งเข้าไปขวางการโจมตีของเหลียงเซียว การปะทะกันของพลังก่อให้เกิดเสียงแสบแก้วหู ขณะเดียวกันเจียงเฉินได้ร่อนลงข้างหยานเฉินหยู่ เขาโอบไหล่เยี่ยนเฉินหยวี่ และ ะโออกไปอย่างเ็าต่อหน้าศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนว่า
"ไสหัวไป!"
ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนทั้งหมดต่างหวาดกลัว ใบหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนเป็ซีดขาว พวกเขาทั้งหมดเริ่มถอยหลังไปแม้ว่าใจจริงของพวกเขาอยากจะฉีกเนื้อของเจียงเฉินออกมากินก็ตาม พวกเขารู้ถึงความน่ากลัวของเจียงเฉินดี เขาไม่ใช่คนที่พวกเขาสามารถตอแยได้ ถ้าหากพวกเขาไปกระตุ้นโทสะของเจียงเฉินขึ้นมา พวกเขาอาจถูกฆ่าด้วยการตบเพียงครั้งเดียวก็เป็ได้ และพวกเขาจะตายอย่างไร้ค่า มันไม่ใช่ที่ซึ่งพวกเขาจะสามารถปริปากบ่นได้
เจียงเฉินโอบกอดเยี่ยนเฉินหยวี่ไว้ในอ้อมแขนของเขา จากนั้นเขาวางนางไว้ด้านหลังของกลุ่มนิกายเซวียนอี้ เขามีความสง่างามและมีท่าทีสูงส่งทุกย่างก้าวที่เขาก้าวเดิน
"กวนอี้หยุน อย่ามาขวางทางข้า! ศิษย์ของนิกายเทียนเจี้ยนไม่ใช่ใครที่คนนอกจะสามารถมาฆ่าได้โดยง่าย! "
เหลียงเซียวกล่าวขึ้นมาอย่างกราดเกรี้ยวเขารู้สึกราวกับปอดของเขาแทบจะะเิออกมา ในวันนี้นิกายเทียนเจี้ยน ได้ถูกดูิ่เหยียดหยามถึงขนาดนี้ เป็ธรรมดาที่เขาจะรู้สึกเช่นนี้
"เหลียงเซียว สาวน้อยคนนั้นเป็ศิษย์ของนิกายเซวียนอี้ของเรา! นางสังหารศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนของเ้าเพราะว่าพวกเขาไม่ได้ให้เกียรตินาง! หลายคนตรงนี้เป็พยานได้! ถ้าหากเ้า้าที่แหกกฏการแข่งขัน และเริ่มสู้กันที่ลานกว้างเมืองเซียงหยาง พวกข้านิกายเซวียนอี้จะเป็คู่ต่อสู้แก่พวกเ้าเอง พวกเ้ากล้าหรือเปล่า! ข้าสงสัยว่าหากพวกเราสู้กันตอนนี้ ใครกันแน่จะเป็คนที่ยืนอยู้ในจุดสุดท้าย!"
กวนอี้หยุนพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันหนักแน่น ก่อนหน้านี้เขาพ่ายแพ้ต่อหน้าหนานเป่ยเฉา และทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ แต่ตอนนี้ เมื่อเหลียงเซียว้ามีปัญหาเขาไม่คิดจะยอมแพ้
"ดีมาก! กวนอี้หยุน เ้ากล้าดีนี่! เจอกันในครั้งหน้า ข้าจะฆ่าเ้าซะ! "
เหลียงเซียวโกรธจนหน้าเปลี่ยนเป็สีเขียว แต่ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าหากพวกเขาทั้งคู่ต่อสู้กัน นิกายเทียนเจี้ยนคงเสียเปรียบเป็แน่ ถ้าหากเขาสู้กับกวนอี้หยุนอย่างมากที่สุดคงทำได้แค่เสมอ แต่ศิษย์นอกของนิกายนั้นแตกต่างไป หลี่หวู่ซวงได้ตายไปแล้ว และพวกเขาไม่ได้มีผู้ที่แข็งแกร่งมากมายในศิษย์นอก ส่วนอีกด้านหนึ่ง นิกายเซวียนอี้ยังคงมีเจียงเฉินและสาวน้อยชุดสีม่วงที่น่าสะพรึงกลัว แค่าาปีศาจน้อยคนเดียวก็เพียงพอที่จะสังหารพวกเขาแล้ว
"มันเร็วไปที่จะบอกว่าใครกันแน่ที่ถูกฆ่า"
กวนอี้หยุนแค่นเสียงอย่างเ็า แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้แก่หนานเป่ยเฉา แต่เขาไม่ได้กลัวเหลียงเซียว
"ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนทั้งหมดจงฟัง!กลับยังหุบเขาเทียนเจี้ยนเดี๋ยวนี้ นับจากนี้ไป เจียงเฉิน คือเป้าหมายที่เรานิกายเทียนเจี้ยนต้องสังหาร!"
เหลียงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็า จากนั้นเขาก็ได้พาศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนทั้งหมดออกไปจากเมืองเซียงหยาง หลังจากการแข่งขันในวันนี้ นิกายเทียนเจี้ยนได้สูญเสียครั้งใหญ่ ทุกอย่างทั้งหมดเป็เพราะเจียงเฉิน ด้วยคำพูดของเหลียงเซียวเจียงเฉินได้ตกเป็เป้าหมายสังหารของนิกายเทียนเจี้ยน สี่นิกายใหญ่นั้นหาได้ยากที่จะใส่ชื่อลงไปในเป้าหมายสังหาร เพราะว่านั่นเป็การประกาศว่าคนผู้นั้นจะเป็ศัตรูกับคนทั้งนิกาย เมื่อพบเจอที่ใดให้เข้าสังหารได้ทันที
ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนได้จากไปในทิศทางเดียวกับที่พวกเขาเข้ามา เมื่อเจียงเฉินได้ตกเป็เป้าสังหารของนิกายเทียนเจี้ยน เจียงเฉินก็ไม่ใส่อะไร ศัตรูที่แข็งแกร่งได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็หนานเป่ยเฉา หรือนิกายเทียนเจี้ยน
ไป๋หัวเตี๋ย นำอี้ฉิงจื่อและศิษย์จากหุบเขาสุขสันต์มาหาเจียงเฉิน
"ยินดีด้วยคุณชายเจียงเฉิน สำหรับอันดับหนึ่งของการแข่งขัน ! พวกเราต้องขอตัวกลับก่อน ในอนาคตหากคุณชายเจียงเฉินมีเวลาว่างมาเยี่ยมเยียนพวกเรา พวกเราหุบเขาสุขสันต์ยินดีต้อนรับเสมอ!"
ไป่หัวไต๋แสดงท่าทีอันทรงเสน่ห์และเริ่มหว่านเสน่ห์กับเจียงเฉิน เมื่อเจียงเฉินได้ยินนางเรียกเขาว่า 'คุณชาย' เขาก็แทบทรุดลงบนพื้น
"ท่านพี่เจียงเฉินไม่มีทางไปเยี่ยมเยียนเ้าหรอก! "
เยี่ยนเฉินหยวี่พูดอย่างโกรธเคือง นางมองไปที่ไป๋หัวเตี๋ยและอี้ฉิงจื่อด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์
"คิกๆ!น้องสาวผู้นี้หึงซะแล้ว"
ไป๋หัวเตี๋ยหัวเราะคิกคัก ราวกับฉากรักที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้ ปลิวไสวไปตามสายลม จากนั้นนางก็จากไปพร้อมกับศิษย์จากหุบเขาสุขสันต์ทั้งหมด
เมื่อการแข่งขันจบลง ผู้คนในลานกว้างกลางเมืองต่างทยอยกันกลับ จนท้ายที่สุดเหลือเพียงศิษย์ของนิกายเซวียนอี้ที่ยังคงอยู่
"น้องเจียง เ้าจะไม่แนะนำสาวน้อยคนนี้ให้ทุกคนรู้จักหน่อยหรือ? ตอนนี้พวกเราเป็ศิษย์พี่ศิษย์น้องกันแล้วนะ"
าาปีศาจน้อยใช้แขนของเขาวางพาดไว้บนไหล่ของเจียงเฉิน และมองไปยังเยี่ยนเฉินหยวี่ เขาเป็เพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นใบหน้าของหยานเฉินหยู่ สาวงามเช่นนี้ต่อให้หาทั่วทั้งแคว้นฉีก็ไม่อาจพบเจอได้ และ แน่นอนว่าสาวสวยแบบนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับเจียงเฉิน
"ข้าขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือเยี่ยนเฉินหยวี่...... นางคือคู่หมั้นของข้า"
เจียงเฉินพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มประดับ
"ทะ... ท่านพี่เจียงเฉิน ท่าน..."
เยี่ยนเฉินหยวี่ถึงกับอายม้วน เจียงเฉินกล้าที่ประกาศว่านางเป็คู่หมั้นของเขาต่อหน้าคนมากมาย นี่มันน่าอายจริงๆ ทำไมเขาถึงไม่ได้พูดเื่นี้กับนางก่อน? จากแววตาที่ดูมีความสุขของเยี่ยนเฉินหยวี่ ไม่ว่าใครก็สามารถบอกได้ว่านางรู้สึกเช่นไรกับคู่หมั้นของนาง
ฮ่าฮ่า.........
ศิษย์ทุกคนในนิกายเซวียนอี้ต่างหัวเราะออกมา บรรยากาศในตอนนี้อบอุ่นนัก
"ศิษย์น้องเยี่ยน ตอนนี้เ้าเป็ส่วนหนึ่งของพวกเราแล้ว! ไม่จำเป็ต้องสวมผ้าคลุมหน้านั่นหรอก!เมื่อเ้าไปยังนิกายเซวียนอี้ เ้าคงไม่สวมผ้าคลุมหน้าตลอดทั้งวัน ใช่หรือไม่?"
กวนอี้หยุนหยอกล้อนางเล่น ศิษย์ในระดับสูงของนิกายเซวียนอี้นั้นยากที่จะมาปรากฏตัวต่อหน้าศิษย์นอก สำหรับทุกคนกวนอี้หยุนอยู่ในจุดที่เหนือกว่าพวกเขามาก แต่วันนี้เขาได้มาหยอกล้อกับพวกเขา ทั้งหมดเป็เช่นนี้ได้เพราะว่าเจียงเฉิน
