บทที่ 11
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนที่อยู่ภายในงานต่างจับจ้องมาที่เดือนอ้าย ร่างเล็กยืนมองญาติตัวเองด้วยสายตาเรียบนิ่ง ส่วนญาติก็ยังคงโวยวายไม่หยุด ร่างสูงที่อยู่อีกฝั่งเห็นก็รีบเดินมาทางร่างเล็กทันที
อิงดาวรีบให้คนไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้น้าสาวตัวเอง แม้ว่าเสียงซุบซิบจะนินทาว่าร้ายเดือนอ้ายยังไง เขาก็ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยเพราะความโกรธที่ยังคงเหลืออยู่
“แกกล้ามาสาดน้ำใส่ฉันหรอ?!”
“เหอะ ถ้าผมไม่กล้าน้าจะตัวเปียกหรอครับ”
“อย่ามาย้อนฉันนะ อีเด็กนี่ มารยาทไม่มีรึไง”
“ใครกันแน่ไม่มีมารยาท มาพูดนินทาคนอื่นเขาตัวเองดีตายแหละ-“ยังไม่ทันที่เดือนอ้ายจะพูดจบ ใบหน้าเล็กถูกฝ่ามือฟาดลงข้างแก้มโดยที่ไม่ทันตั้งตัวจน แรงที่ลงน้ำหนักมาไปทำให้มุมปากเกิดแตกขึ้นมา
“หุบปากของแกไปเลยนะ”
“เกิดอะไรขึ้น”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนที่น้าสาวจะเดินเข้าหาพ่อของเขา เดชามองลูกชายตัวเองด้วยสายตาแข็งกร้าว น้ำเสียงที่ถามนั่นดูเหมือนจะใช้เพื่อถามเขามากกว่า
“ทำไมถึงทำแบบนี้เดือนอ้าย!”เสียงตะคอกแผดไปทั่วงานบรรยากาศเต็มไปด้วยตึงเครียด
“คุณต้องสอนลูกคุณบ้างนะคะ ไม่มีมารยาท”
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่อิงดาว บอกพ่อมา”
“คือว่า...”อิงดาวหันหน้ามามองเดือนอ้ายก่อนจะหันไปพูดกับพ่อ
”จู่ๆอ้ายก็สาดน้ำใส่คุณน้าครับ ดาวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้องถึงทำ” ร่างเล็กแสยะยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินแฝดพี่พูดจบ เขาว่าแล้วเชียวว่าอิงดาวต้องพูดแบบนี้ มือเล็กที่กำแน่นจู่ๆก็ถูกกุมมือเอาไว้ ร่างสูงเดินเข้ามาอยู่ข้างกายเดือนอ้ายช้าๆ
“ผมว่าไม่น่าจะเป็แบบนั้นนะครับ”หากเป็คำพูดของเ้าสัวศิวาลัยแล้ว ใครก็ไม่กล้าขัด
“เ้าสัวจะเข้าข้างนังเด็กนี่หรอคะ?”
“เมื่อกี้คุณเรียกใครว่านังเด็กนี่?”แขนแกร่งโอบร่างเล็กไว้ข้างกาย เดือนอ้ายก็ยังเห็นว่าอีกคนเริ่มทำสีหน้าหวาดกลัวเพียงเพราะน้ำเสียงเมื่อกี้ของพี่อาทิตย์นั่นดูน่าเกรงขาม
“แต่ว่าฉันโดนสาดน้ำใส่นะคะ คุณเดชาต้องสอนลูกคุณนะคะ”เมื่อน้าสาวเห็นว่าพึ่งพาเ้าสัวไม่ได้ก็หันไปออเซาะที่เดชาแทน
“แกเป็บ้าอะไรขึ้นไปสาดน้ำใส่เขาห้ะ?!”
“หึ พ่อควรไปถามเขามากกว่านะว่าทำไมถึงกล้าทำแบบนั้นก่อน”เขาเดินเข้าไปหาอีกคนใกล้ๆ “คนที่ทำผิดก็รู้อยู่! แก่ใจ!” นิ้วชี้ของเดือนอ้ายถูกจิ้มไปบนอกของน้าสาวรวมไปถึงสายตาที่จ้องไปที่อิงดาว
“หยุดนะเดือนอ้าย!”
“ดูสิ ขนาดอ้ายพูดขนาดนี้อ่ะ พ่อยังไม่เคยคิดจะเชื่ออ้ายเลยด้วยซ้ำ!”อาทิตย์มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างรอบคอบเมื่อเห็นว่าท่าทีของอิงดาวดูลุกลนแปลกๆก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น
“ก็ดูแกทำตัว อายเขาไหมเนี่ยที่ก่อเื่วุ่นวายน่ะ!”
“อ้ายไม่คิดจะก่อเื่หรอกนะถ้าคุณน้าเขาไม่มาทำอ้ายก่อน!”
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!”
“อิงดาว คุณน้าเขาพูดจริงไหม?”เขามองอีกคนที่พยักหน้าลงอย่างช้าๆ นี่มันรวมคนตอแหลรึไงวะ
“อ้ายพูดเื่จริง และอ้าย้าให้เขาขอโทษด้วย” ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและไม่ยอมให้อีกคนเอาเปรียบ
“ขอโทษคุณน้าเขาเดี๋ยวนี้”
“ไม่ครับ”
“เดือนอ้าย!”
“ จะต้องให้พูดอีกกี่รอบอ้ายก็ไม่มีทางขอโทษเขาแ-“เดชาง้างฝ่ามือเตรียมลงที่ใบหน้าลูกตัวเองแต่ก็ต้องถูกอีกคนมารับเอาไว้แทน อาทิตย์บังตัวเดือนอ้ายไว้ทำให้คนที่โดนแทนคือตัวเอง
ทันทีที่คนในงานเห็นว่าเดชาได้ตบหน้าเ้าสัวศิวาลัยก็รีบยกมือขึ้นปิดปากด้วยความใ ส่วนเดชาก็ไม่คิดว่าอีกคนจะมาขวางไว้แบบนี้ เดือนอ้ายที่เห็นว่าอีกคนมาบังก็รีบจับตัวอีกคนหันมาทันที “พี่อาทิตย์มาบังอ้ายทำไม!”
“หลบไปก่อน”ร่างสูงดันร่างเล็กให้ยืนด้านหลังตนเอง
“จะ..เ้าสัวไม่น่ามาบังแบบนี้นะครับ ผมกำลังสั่งสอนลูกผม”
“การสั่งสอนลูกของคุณคือการใช้ความรุนแรงหรอครับ?”ในตอนนี้ทุกคนต่างกลัวเ้าสัวมากเพราะเหมือนรังสีบางอย่างเริ่มออกมาจากตัวอีกคน อาทิตย์กำลังโกรธมากจริงๆแต่ก็ต้องข่มเอาไว้
“มันคือการสอนของโชตินันท์ ยังไงเ้าสัวก็หลบเถอะครับ”
“เหมือนคุณจะลืมอะไรไปนะครับคุณเดชา”
“?”เดชาไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ทำหน้าสงสัยกับสิ่งที่อาทิตย์พูดออกมา
“ตอนนี้เดือนอ้ายเป็คนของศิวาลัย และคุณก็ไม่มีสิทธิ์ในการสั่งสอนภรรยาของผมอีกต่อไปแล้ว”อาทิตย์เอื้อมมือเล็กมากุมไว้แน่นก่อนจะหันหน้าไปทางฝั่งอิงดาว “แล้วคนที่คุณควรสั่งสอนน่าจะเป็อีกคนมากกว่า”
“…”
“แล้วอีกอย่างหนึ่งนะครับ ผมจะไม่ยอมให้คนนอกคอกและชั้นต่ำมาทำร้ายคนของศิวาลัยได้ง่ายๆ”เพียงแค่นี้ทุกคนก็ต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ “ระวังตัวไว้แล้วกัน”
เดือนอ้ายถูกอาทิตย์จูงมือเดินออกจากงานทันที เขารู้สึกสะใจไม่น้อยเลยที่สามีตัวเองนั่นแซ่บสุด ไม่เสียแรงที่ชอบมาหลายปี แผลที่แก้มยังไม่เจ็บเท่าคำพูดของพี่อาทิตย์แล้วมั้ง เขาเดินออกจากงานก็เห็นว่ามีรถมารอแล้วก็ถูกพี่อาทิตย์ดึงเข้าไปด้วยความเร็ว
“เอาหน้ามึงมาให้กูดู” ฝ่ามือหนาจับใบหน้าสวยหันไปด้านข้าง อาทิตย์เห็นแผลที่มุมปากก็รู้สึกโกรธมาก สงสัยคงต้องไปจัดการทีหลัง
“พี่อาทิตย์เท่มากเลย”
“ยังจะมาชมกูอีกนะ กลับบ้านมาให้กูทำแผลเลย”
“พี่มีแผลรึเปล่า อ้ายขอดูหน่อย”สองมือคว้าหมับเข้าที่ใบหน้าร่างสูงก่อนจะจับพลิกไปพลิกมาก็พบว่าไม่มีอะไร
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ เขาทำอะไรมึงกันแน่?”ร่างเล็กดึงมือกลับมาก่อนกุมมือหนาเอาไว้ เขาเงยหน้ามองอีกคนด้วยแววตาหม่น “ยัยแก่นั่นมาว่าพี่ว่าเป็เสี่ยเลี้ยงเด็กหลายคนอ่ะ”
“เขาพูดแบบนั้นหรอ?”
“อื้อ อ้ายคิดว่าเขาก็น่าจะเล่าไปทั่วแน่ก็เลยสาดน้ำใส่เลย มันโมโหอ่ะ”
“คราวหลังใจเย็นกว่านี้หน่อยได้ไหม กูกลัวมึงจะโดนมากกว่านี้”
“อ้ายขอโทษนะ…อ้ายแค่ไม่อยากให้ใครมาว่าพี่”ร่างเล็กขยับตัวเข้าไปกอดอีกคนแน่นจนอาทิตย์กอดอีกคนเอาไว้ก่อนจะค่อยๆลูบหัวเดือนอ้ายช้าๆ
“มึงไม่ได้ผิดอะไรหรอก ไม่ต้องขอโทษ แต่กูเป็ห่วงมึงมากนะอ้าย กูไม่อยากให้มึงเจ็บตัวเลย” น้ำเสียงของพี่อาทิตย์ทำให้เขารู้เลยว่าอีกคนเป็ห่วงเขาจริงๆ
“ขออ้ายกอดพี่แบบนี้ได้ไหม”
“นอนไป เดี๋ยวถึงบ้านกูจะปลุก”ร่างเล็กเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุดเมื่อได้อ้อมกอดของพี่อาทิตย์มันเยียวยาให้ความเ็ปของเขาแล้ว เพราะในตอนนี้โลกทั้งใบของเขาคือพี่อาทิตย์คนเดียวเท่านั้น
โชคดีของวันนี้ที่ร่างเล็กตื่นทันขึ้นมาแต่เช้าเพราะตั้งใจจะทำอาหารให้สามีไปกินที่ทำงาน เหล่าแม่บ้านต่างเอ็นดูเดือนอ้ายสุดๆ พอรู้ว่าอีกคนจะกลับไร่แล้วก็รีบพาทำอาหารเลี้ยงยกใหญ่ ถ้าภรรยาเ้าสัวไม่อยู่บ้านก็เหงาแย่ แถมตอนนี้เ้าสัวก็วางแผนเอาไว้ด้วย
เมื่อคืนหลังจากที่เ้าสัวกับภรรยากลับมาบ้าน เ้าตัวก็รีบมาหาแม่บ้านทันที และก็ขอให้แม่บ้านทำยังไงก็ได้ให้เดือนอ้ายอยู่กรุงเทพต่อ แต่ดูเหมือนว่าเมื่อเช้าก็เป่าหูอย่างสุดความสามารถแล้ว คุณหนูตัวเล็กก็จะกลับไร่อย่างเดียว เธอเองก็จนปัญญาแล้วจริงๆ
“ป้านาวครับ อันนี้อ้ายทำขนมให้ด้วย เอาไปให้เด็กๆกินด้วยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณเดือนอ้าย ว่าแต่จะกลับจริงๆหรอคะ”
“ป้านาวไม่ต้องมาหลอกล่ออ้ายเลยนะครับ อ้ายต้องกลับจริงๆ”
“โถ่คุณเดือนอ้ายคะ อยู่อีกสักเดือนก็ยังดีนี่คะ”
“ ถ้าอยู่อีกเดือนนึงก็หมดเวลาฝึกงานอ้ายพอดีนี่ครับ ไม่ได้หรอกน้า”
“ป้าเหงาแน่ๆเลยไม่มีคนดูละครเป็เพื่อนแล้ว” ป้านาวแกล้งทำเป็เอาผ้ามาเช็ดน้ำตาตัวเองแต่เขาดูออก
“เดี๋ยวเถอะครับ ใช้วิธีนี้แล้วหรอ”
“ไม่หลงกลเลยแหะ”
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าทำไมป้านาวถึงมาออดอ้อนเขาแบบนี้ก็คงเป็เพราะคำสั่งของพี่อาทิตย์นั่นแหละที่้าให้เขาอยู่ที่บ้านต่อ เมื่อคืนอีกคนก็ถามย้ำอยู่แบบนั้นว่าจะกลับไร่จริงรึเปล่า
ั้แ่เขามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนไปมาก ความรู้สึกของเขาที่มีต่อพี่อาทิตย์ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าอีกคนจะไม่เคยบอกว่ารักเขาก็ตาม แต่เขาก็เข้าใจอยู่แล้วว่านิสัยที่ทำผ่านการกระทำของอีกคนคืออะไร
พี่อาทิตย์จะไม่พูดเื่ที่มันทำให้ตัวเองเขิน เขาสังเกตหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งที่เขาหยอดอีกคน พี่อาทิตย์ก็มักจะหลบสายตาตลอด แต่ก็บ้างบางครั้งที่อีกคนนึกคึกอยากจะแกล้งเขาคืน ซึ่งก็ทำเอาหัวใจเดือนอ้ายเกือบวายมาแล้ว
ร่างเล็กมองโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะด้วยสายตาเรียบนิ่ง แม้ว่ามันจะสั่นอยู่นานแล้ว เขาก็ไม่คิดที่จะเดินไปรับมันเพราะรู้ว่าปลายสายคือใคร เขาจัดเตรียมข้าวกล่องใส่ถุงเสร็จก็เดินไปหาพี่อาทิตย์ทันที อีกคนยืนอยู่หน้าประตูพอดี
“เอานี่ไปด้วย” เขายื่นกล่องข้าวให้อีกคนก่อนที่มือหนาจะไปรับไว้
“กินไม่หมดโดนไร”
“โดนทุบไง ถามได้”
“เดี๋ยวนี้มึงกล้าทุบกูแล้วหรอ?”เขาหัวเราะออกมาก่อนจะเอ่ยหยอกอีกคน “ทุบด้วยปากไง แบบนี้”ร่างเล็กเขย่งขึ้นไปจุ้บปากอีกคนจนร่างสูงนิ่งค้างไปเลย สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นเนกไทที่เบี้ยวพอดี
“ แล้วนี่ตอนผูกไม่ได้มองกระจกรึไงมันเบี้ยวหมดแล้วเนี่ย”เขาจัดเนกไทให้อีกคนตรงๆก่อนที่จะเงยหน้าไปเห็นใบหน้าของพี่อาทิตย์นั้นกำลังอมยิ้มให้กับเขา
“มึงยังไม่ได้ทำอย่างหนึ่งนะ”
“ทำอะไรอ่ะ-อุ้บ”ปากเล็กถูกปิดด้วยริมฝีปากหนาทันที
“มอนิ่งคิสครับเบบี๋”อาทิตย์พูดจบก็รีบไปขึ้นรถทันที ร่างเล็กที่ใกับจูบเมื่อกี้ก็ได้แต่ก่นด่าในใจ “พี่อาทิตย์! ร้ายนักนะ”
และแล้วเค้าก็ถึงไร่ศิวาลัยอย่างปลอดภัย ตอนนั่งรถระหว่างก็มีสามีคอลมาบาง่ แถมยังบอกอีกว่าจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จแล้วกลับไปที่ไร่สักที เขาเดินเข้าไร่มาด้วยเคยชินก่อนจะทักทายคนงาน ั้แ่พี่ขมิ้นออกไปทุกอย่างในไร่กลับดูดีขึ้นมาทันที
“พี่คนสวย!!!!!”
“เขียว!”เด็กหนุ่มตอนนี้วิ่งมาด้วยสีหน้าดีใจ เขามองอีกคนพร้อมกับดวงตาเบิกกว้าง “ไปทำอะไรมาเนี่ย สูงกว่าพี่แล้วนะ!”
“ก็ผมโตแล้วไง มีสาวมาจีบด้วยนะ”
“มาขิงใหญ่เลยนะตัวแสบ”
“ พี่รู้มั้ยเนี่ยระหว่างที่พี่ไม่อยู่อ่ะ ผมเนี่ยโคตรเหงาเลย ไม่มีใครเล่นกับผมเลยอ่ะ”
“ฮ่าๆ นี่ไงพี่กลับมาแล้ว เ้าตะวันเป็ไงบ้างล่ะ”
“มันท้องโตแล้วพี่ อีกหน่อยก็คงใกล้คลอดแล้ว”
“พี่ตื่นเต้นไม่ไหวแล้วล่ะ”
“ พี่เอาของมาให้ผมช่วยถือก่อนมา“
หลังจากที่เขาเอาข้าวของไปเก็บที่บ้านก็ได้เดินไปดูสวนก่อนจะไปที่คอกวัว เมื่อเห็นว่าเ้าวัวเห็นร่างเล็กเดินมาก็ร้องเสียงดังขึ้นมาตามๆกัน เดือนอ้ายเดินเข้าไปในคอกก็โดนพวกวัวรุมกัน ด้วยความคิดถึงคนที่เลี้ยงมา พวกจำได้ว่าใครคือคนที่เลี้ยงมาแต่แรก
“โอ๋ๆ คิดถึงพวกเด็กมากๆเลยนะ”เขาดีใจมากที่เห็นเ้าพวกตัวเล็กมาถึงก็รุมกอดทันที
“โห่ ตอนพี่ไม่อยู่ผมก็เลี้ยงมันนะ ไม่เห็นมันจะรุมงี้เลยอ่ะ”
“น้อยใจหรอๆๆ”
“น้อยใจที่พี่ไม่กอดผมอ่ะ ฮือๆ”
“ไม่ต้องเลยเขียว ไม่เนียนนะ”
“นึกว่าเนียนได้กอดซะอีก”ร่างเล็กหัวเราะลั่นก่อนจะเหลือบไปเห็นว่ากล้องวงจรปิดถูกติดเอาไว้แล้ว ไม่รู้ว่าอีกคนกำลังจับตาดูอยู่รึเปล่าเลยเลือกที่จะเดินไปหน้ากล้องก่อนจะชูรูปหัวใจให้
แววตาคมยังคงมองภาพที่ฉายบนจอคอมพิวเตอร์ และรอยยิ้มก็ผุดขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าร่างเล็กโชว์รูปหัวใจใส่กล้องวงจรปิด “แสบจริงๆ..”
“มันแสบหรอคะ?”เหล่าผู้บริหารที่นั่งอยู่กลางโต๊ะประชุมถามด้วยความสงสัย เนื่องจากมีการเสนอสินค้าชิ้นใหม่ที่กำลังทำอยู่ จึงเอามาให้ลองพิสูจน์
“เปล่าครับ เสนอต่อเลย”โจมองพี่ชายตัวเองพร้อมกับส่ายหน้าทันที พี่กูนี่คลั่งรักจริงๆ ถึงกับต้องมองกล้องวงจรปิดไปด้วย ประชุมงานไปด้วย
เดือนอ้ายใช้เวลาไม่นานก็จัดการคอกวัวให้สะอาดเสร็จก็รีบเดินมาดูสวนทันทีก่อนจะบุคคลที่คุ้นตากำลังทำความสะอาดสวนหลังบ้าน ร่างเล็กเดินเข้าไปทักด้วยรอยยิ้มกว้างทันที
“สวัสดีครับป้าแมว!”ร่างเล็กเดินเข้าไปหาอีกคนพร้อมกับพนมมือไหว้ เมื่ออีกคนเห็นก็รีบยกมือรับไว้ทันทีก่อนจะเดินเอาไม้กวาดที่ถือไว้ในมือไปเก็บ
“อ้าว! คุณอ้ายกลับมาแล้วหรอคะเนี่ย”
“ใช่ครับ ผมคิดถึงเ้าตัวน้อยไม่ไหวแล้วด้วย”
“เ้าตัวน้อยหรอคะ?”
“วัวของไร่นี่แหละครับ ผมชอบเรียกพวกมันแบบนี้กัน”
“เ้าพวกวัวนี่เอง คุณอ้ายเหมือนคนหนึ่งที่ป้ารู้จักเลยนะคะ เขาก็ชอบดูแลพวกนี้เหมือนกัน”
“เหมือนใครหรอครับ?”
“คนรู้จักของป้าน่ะค่ะ”
“ตอนแรกอ้ายก็ไม่ได้ชอบหรอกครับ แต่ว่าพอทำไปทำมาก็รู้สึกว่ามันมีความสุข สุดท้ายก็ชอบไปเลยฮ่าๆ”
“ป้าก็คล้ายคุณอ้ายเลยค่ะ แล้วนี่กินอะไรมารึยังคะ?”
“ยังเลยครับ”จนถึงตอนนี้ก็เย็นแล้ว เขายังไม่ได้กินอะไรเลยั้แ่เที่ยงด้วย จนกระทั่งเสียงท้องร้องดัวขึ้นมาทันที
“ป้าทำกับข้าวไว้มากินด้วยกันไหมคะ?”
“อ้ายเกรงใจน่ะครับ..ยิ่งกินเยอะด้วย”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ ไปๆๆเดี๋ยวป้านำ”ป้าแมวจับไหล่เขาหมุนตัวเดินทันที
ในตอนนี้เขาโดนป้าแมวลากมานั่งที่ศาลาไม้สีขาวหน้าบ้าน ตอนแรกเขาเห็นก็ไม่รู้สร้างไว้ก็ไม่มีใครมานั่งจนตอนนี้มานั่งกินได้แล้ว
ร่างเล็กมองอาหารตรงหน้าตาลุกวาวทันทีเพราะว่ามีแต่ของโปรดทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็แกงเขียวหวาน ไส้ย่าง ไหนจะแกงขี้เหล็กนั่นอีก เขาไม่ได้กินมานานแค่ไหนแล้วนะของพวกนี้ ต่อมน้ำลายเริ่มทำงานแล้วล่ะ ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าอะไรก็น่ากินไปหมด
“ป้าว่าคุณอ้ายจะกินได้หรือเปล่านะคะ เพราะเมนูก็บ้านๆนิดนึงน่ะค่ะ”
“อ้ายกินได้ครับ!”
“มันค่อนข้างเผ็ดนะคะ”
“ไม่เป็ไรครับ อ้ายกินเผ็ดได้”ร่างเล็กคว้าจานมาทันทีก่อนจะตักข้าวใส่จานยื่นให้อีกคนก่อนที่จะตักให้ตัวเอง โดยการกระทำแบบนี้ติดเป็นิสัยของเดือนอ้ายไปแล้ว และทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของอีกคน
ร่างเล็กตักแกงขี้เหล็กมาใส่จานตัวเองก่อนจะตักข้าวเข้าปากตามกัน พอได้เคี้ยวก็เผลอยิ้มออกมาด้วยความอร่อย
“อร่อยมากๆเลยครับ! อ้ายไม่ได้กินแกงขี้เหล็กอร่อยๆแบบนี้มานานแล้ว”
“ลองอันนี้ไหมคะแกงเขียวหวาน”
“อันนี้ก็อร่อยครับ”
“อันนี้เด็ดฝีมือป้า ไส้ย่างสูตรพิเศษเลย”เขาตักตามที่อีกคนว่าทุกอย่างก็ล้วนอร่อยไปหมดเลย เชื่อแล้วว่าป้าแมวสมกับการเป็แม่บ้านสารพัดสิ่ง “อร่อยสุดๆไปเลยครับ..” ถ้าหากเป็แกงขี้เหล็กที่อร่อยที่สุดก็คือของแม่นมของเขา แม่นมที่เลี้ยงเดือนอ้ายมาั้แ่เด็กแต่ต้องด่วนจากไปด้วยโรคมะเร็ง
“ป้าได้ยินแบบนี้ก็ชื่นใจมากเลยค่ะ กินเยอะๆนะคะ เดี๋ยวป้าไปเอาน้ำมาให้”
“ไม่ต้องครับๆ ป้าแมวนั่งนี่เลย ให้อ้ายไปเอาให้ดีกว่า”ร่างเล็กรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปในตัวบ้านเหลือเพียงแมวที่นั่งอยู่คนเดียว โทรศัพท์มือถือถูกหยิบขึ้นมาก่อนจะพิมพ์อะไรอย่างส่งให้อีกคนโดยที่เดือนอ้ายไม่รู้ตัว