“ข้าขอเข้าร่วมการประลองด้วย!” หลังจากที่ฉินหรูเยียนพูดเช่นนี้ นางก็รีบนั่งขัดสมาธิเพื่อปรับลมปราณและรักษาอาการาเ็ที่แขนขวาของนางทันที
“ประลองกันสามครั้ง ศิษย์พี่ฉินหรูเยียนหนึ่งครั้ง ข้าหนึ่งครั้ง มีพวกเ้าคนไหนอยากเข้าร่วมบ้างหรือไม่!” เซียวหลิงอวิ๋นถาม
ถังเซียวกำลังจะอ้าปาก แต่ก็สุดท้ายก็หุบลงไป การประลองนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการเดิมพันวัตถุดิบวิเศษสิบเอ็ดชิ้นเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องถึงเกียรติยศของสำนักด้วย
“พวกเราแค่ต้องชนะสองครั้งก็พอแล้ว!” เซียวหลิงอวิ๋นยิ้มและกล่าวว่า “ซึ่งข้ากับศิษย์พี่ฉินหรูเยียนสามารถเอาชนะสองครั้งได้สบายๆ อยู่แล้ว!”
ดวงตาของถังเซียวก็เปล่งประกายด้วยความหวังและกำลังจะพูดออกไป แต่ก็มีคนอื่นที่พูดเร็วกว่า “ข้าขอเข้าร่วมการประลองรอบแรก!” เสียงที่นุ่มนวลแต่หนักแน่นและไพเราะดังขึ้นมา
จ้าวหนีอิ่ง!
“ศิษย์น้องหญิง...”
ถังเซียวยังพูดไม่ทันจบ จ้าวหนีอิ่งก็จ้องมาที่เขาด้วยดวงตาที่แหลมคม “ข้า้าการต่อสู้เพื่อเปิดขดพลังิญญาขดที่สาม”
โอ้ นางกำลังจะเปิดขดพลังิญญาขดที่สามแล้วอย่างนั้นหรือ?
ทุกคนต่างก็มองไปที่จ้าวหนีอิ่ง ทั้งหยวนอิ่ง เฉียนหม่านควง และคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกใ สมกับเป็ศิษย์ที่สำนักเลือกให้เป็ศิษย์ก้นกุฏิั้แ่เนิ่นๆ ความเร็วในการฝึกวิชาของนางรวดเร็วอย่างน่าใ
ทางด้านหลินอิ๋งกับเจียงอิ่งต้างอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ และมองไปที่จ้าวหนีอิ่ง สำนักิญญาเมฆาส่งศิษย์ที่เปิดขดพลังิญญาได้แค่สองขดเข้าร่วมการฝึกวิชาในเมืองโบราณหลิงกุ่ยแห่งนี้อย่างนั้นหรือ!
นอกจากนั้น หญิงสาวที่เงียบขรึมคนนี้ยังคิดเผชิญหน้ากับหนึ่งในห้าศิษย์ก้นกุฏิของสำนักแม่มดเพลิงร้อนอีกด้วย! เพียงแค่ความกล้าหาญนี้ก็ทำให้หญิงสาวทั้งสองรู้สึกเคารพแล้ว
ทั้งสองสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความใและชื่นชม!
...
การต่อสู้ที่ดุเดือดจะช่วยให้นางเปิดขดพลังิญญาได้จริงๆ ซึ่งเหตุผลนี้ของจ้าวหนีอิ่งทำให้คนอื่นโต้แย้งไม่ได้
จึงได้ผู้เข้าร่วมคนที่สามด้วยเหตุนี้
จ้าวหนีอิ่ง เซียวหลิงอวิ๋น และฉินหรูเยียน
ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งสำนักแม่มดเพลิงร้อนก็ได้หารือกันถึงผู้เข้าร่วมประลองสามคนเช่นกัน! เยี่ยหนาน เลี่ยวเคอ และหลงเฮ่อ
จนเวลาสองชั่วยามผ่านไป
จ้าวหนีอิ่งก็ก้าวเดินออกมา หญิงสาวผู้งดงามและเงียบขรึมคนนี้ กลับมีออร่าที่สง่างามมาก! “รอบแรก เข้ามาได้เลย!”
การปรากฏตัวของจ้าวหนีอิ่งทำให้เหล่าศิษย์ของสำนักแม่มดเพลิงร้อนต้องใ
สิ่งนี้ต่างไปจากที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้โดยสิ้นเชิง พวกเขาคาดว่าจะเป็เซียวหลิงอวิ๋น ฉินหรูเยียน หม่าิฮุ่ย อูเสี่ยวหมิน หรือแม้กระทั่งคาดเดาว่าอาจจะเป็ถังเซียวก็เป็ได้ แต่พวกเขาไม่คิดว่าจะเป็จ้าวหนีอิ่ง
“พวกนี้ดูถูกพวกเรามากเกินไปแล้ว ถึงได้ส่งเด็กสาวตัวเล็กๆ แบบนี้มา!” หลิ่วเฉิงิ่พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
สีหน้าของซูเหม่ยไม่ค่อยดีนัก แต่นางกลับใจเย็นกว่าและกล่าว “แบบนี้ก็ดีแล้วนี่ พวกเราชนะเห็นๆ อยู่แล้ว ดูถูกพวกเราก็ต้องแลกด้วยวัตถุดิบวิเศษระดับสามสิบชิ้นและระดับสี่หนึ่งชิ้นเลยนะ ข้าหวังให้พวกเขาส่งเด็กสาวที่เพิ่งอยู่ขั้นต้นแบบนางมาประลองเยอะๆ ด้วยซ้ำ!”
“ใช่ๆๆ! เ้าพวกสำนักิญญาเมฆานี่โง่เง่าจริงๆ เป็การประลองที่มีเดิมพันสูงมากแท้ๆ ไม่ใช่การประลองระหว่างเพื่อนร่วมสำนักสักหน่อย ถึงได้ส่งเด็กสาวตัวเล็กๆ แบบนี้ออกมา นี่มันเหมือนกับพวกเขายินดีส่งวัตถุดิบวิเศษให้กับพวกเราเลย!”
“ฮ่าๆ ก่อนหน้านี้หากรู้ว่าจะเป็เด็กสาวตัวเล็กๆ แบบนี้ ไม่ต้องให้หัวหน้า ศิษย์พี่เลี่ยว กับศิษย์พี่หญิงเยี่ยออกหรอก ข้าออกไปก็ชนะแล้ว!”
“ฮ่าๆ เด็กสาวตัวเล็กๆ แบบนั้น พวกเราคนไหนออกไปก็ชนะ!”
เยี่ยหนานได้ยินเพื่อนๆ ของนางพูดกันอย่างออกรสแล้ว ก็รู้สึกยินดีขึ้นในใจ นางลุกขึ้นยืนและกล่าว “ข้าจะไปเอาชัยชนะครั้งแรกมาให้เอง!”
ที่ด้านหลัง หลงเฮ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “อย่าประมาทจนเกินไป”
“วางใจเถอะ สิงโตน่ะต่อให้สู้กับกระต่ายก็ต้องสู้อย่างเต็มที่เสมอ ข้าก็รู้ดีถึงความสำคัญของการประลองครั้งนี้ ข้าไม่ประมาทนางแน่นอน!” เยี่ยหนานตอบและขึ้นสังเวียนโดยไม่หันหลังกลับมามอง
เยี่ยหนานมองไปที่คู่ต่อสู้ที่มีรูปโฉมงดงามราวกับนางฟ้าซึ่งอยู่ห่างออกไปสามสิบหมี่ ความรู้สึกอิจฉาก็ผุดขึ้นมาในใจ ก่อนหน้านี้เยี่ยหนานมั่นใจในรูปโฉมของตนเองมาก นางคิดว่าตนเองเป็หนึ่งในผู้ที่มีรูปโฉมงดงามที่สุดในโลกแล้ว ไม่คิดว่าจะมีใครที่งดงามกว่านาง
แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากที่เข้ามาในโลกเร้นลับได้ไม่นาน นางก็ได้พบกับศิษย์ของสำนักิญญาเมฆา ซึ่งทั้งสองคนต่างก็มีรูปโฉมที่งดงามกว่านางมาก!
“บังเอิญจริง ข้าเองก็ใช้ดาบเหมือนกัน เพียงแต่ดาบไม่มีตา ถ้าหากเผลอไปขีดข่วนใบหน้าอันงดงามของน้องสาวเข้าละก็ คงจะไม่ดีแน่!” สายตาของเยี่ยหนานเหลือบมองไปที่ฝักดาบสีเขียวอ่อนที่อยู่ในมือซ้ายของจ้าวหนีอิ่ง นางยิ้มและชักดาบสีแดงเพลิงของตัวเองออกมา “ข้าว่าน้องสาวควรจะยอมแพ้เสียดีกว่า!”
“พี่สาวเองก็ควรระวังตัวให้ดีเช่นกัน!” จ้าวหนีอิ่งมีสีหน้าสงบนิ่ง และสุขุม แต่เสียงอันไพเราะนั้นกลับแฝงไปด้วยความสงบเยือกเย็นราวกับบ่อน้ำ
“ในเมื่อน้องสาวมีความมั่นใจเช่นนี้ พี่สาวคนนี้ก็จะไม่เกรงใจแล้ว!” ทันใดนั้น แววตาของเยี่ยหนานก็เยือกเย็นลง แต่พลังของนางกลับเพิ่มขึ้นอย่างน่าใ พลังที่รุนแรงแผ่กระจายออกมาจากตัวของนาง
‘ดาบรวมอัคคี’ ในมือของนางก็เปล่งแสงสีแดงออกมาอย่างสว่างเจิดจ้า
“ฟิ่ว!”
ร่างที่ผอมเพรียวของเยี่ยหนานกลายเป็ลำแสง พุ่งเข้าไปหาจ้าวหนีอิ่ง
ระยะทางสามสิบหมี่ก็ลดลงเหลือเพียงห้าหมี่ภายในชั่วพริบตา
“ิญญาเพลิง”
คำพูดที่เย็นะเืก็ออกมาจากปากของนาง แล้วดาบรวมอัคคีก็แทงออกไปอย่างเฉียงๆ กระบวนท่านี้อาจดูช้าแต่กลับเร็ว ราวกับจะไปทางซ้ายแต่กลับไปทางขวา ทำให้ไม่สามารถมองทิศทางการโจมตีที่แท้จริงออกได้
เซียวหลิงอวิ๋นที่อยู่ด้านหลังจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย
การที่นางสามารถเป็หนึ่งในห้าศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดของสำนักแม่มดเพลิงร้อน แสดงว่าเยี่ยหนานผู้นี้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบไม่น้อย จากกระบวนท่านี้แสดงให้เห็นว่าเริ่มเข้าใจถึงแก่นแท้ของดาบแล้ว
เพียงแต่เยี่ยหนานคงไม่คาดคิดมาก่อนว่า คู่ต่อสู้ของนางคืออัจฉริยะที่สามารถเข้าถึงเจตจำนงดาบได้
‘ชิ้ง!’
ภายใต้สายตาของเหล่าศิษย์ที่เฝ้าดูอยู่ทั้งสองฝั่ง ดาบสายลมชำระวังจันทราของจ้าวหนีอิ่งก็ถูกชักออกมา เป็ดาบสีเขียวราวกับพระจันทร์เสี้ยวที่โผล่พ้นออกมาจากเมฆดำ เปล่งแสงเจิดจ้าจนทำให้ผู้คนต้องตาพร่า
‘กิ๊ง’ เสียงดังขึ้นมาเบาๆ
ิญญาเพลิงถูกปัดออกไปอย่างแม่นยำ เยี่ยหนานยังคงมีสีหน้าที่สงบนิ่งอยู่ จริงอยู่ที่อีกฝ่ายมีพลังยุทธ์ไม่สูงนัก แต่ก็สามารถเป็ตัวแทนออกมาประลองได้ แสดงว่าพลังการต่อสู้จริงของนางนั้นเหนือกว่าพลังยุทธ์มาก
นางไม่คิดว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ด้วยกระบวนท่าเดียวอยู่แล้ว
ดาบรวมอัคคีในมือกวัดแกว่งไปมา นาง้าใช้กระบวนท่าต่อไปเพื่อข่มอีกฝ่าย แต่สิ่งที่ทำให้นางต้องประหลาดใจก็คือ อีกฝ่ายกลับเริ่มโจมตีกลับได้ทันทีหลังจากที่ทำลายิญญาเพลิงของนาง
“หลิวลู่ลม”
‘สะบั้นสายลมเจ็ดท่า’ วิชาิญญาระดับเหลืองขั้นสูง กระบวนท่าหลิวลู่ลมเป็กระบวนท่าที่สองจากในเจ็ดกระบวนท่า
กระบวนท่านี้เป็เหมือนกับสายลมที่พัดใส่ต้นหลิว ทั้งอ่อนไหวและมีชีวิตชีวา
แล้วแสงดาบที่เย็นะเืพุ่งมาถึงตรงหน้าของเยี่ยหนานในทันที
เยี่ยหนานยกคิ้วขึ้นและถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวทันที ฟาดฟันดาบรวมอัคคีออกไป!
จ้าวหนีอิ่งมีแววตาที่สงบเยือกเย็น ข้อมือขาวราวหยกหมุนเบาๆ แล้วแสงจากกระบี่สีเขียวก็พุ่งออกมาปานคลื่นทะเลั์ โหมกระหน่ำใส่เยี่ยหนานอย่างรุนแรง
สะบั้นสายลมเจ็ดท่า กระบวนท่าที่สาม ลมสลาตัน
เป็กระบวนดาบที่สุดยอดมาก! เยี่ยหนานหรี่ตาลง กระบวนท่านี้ของอีกฝ่ายให้ความรู้สึกราวกับเป็คลื่นน้ำสูงในทะเล ที่โหมซัดกระหน่ำและรุนแรงจนไม่อาจต้านทานได้
ในเวลานี้ เยี่ยหนานไม่กล้าประมาทอีกต่อไป ตัวของนางลอยขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ดาบรวมอัคคีในมือเปล่งแสงสีแดงเพลิงออกมาฟาดฟันลงมาอย่างรุนแรง
“แกร๊งๆๆ......!”
เสียงดาบกระทบกันอย่างรุนแรงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
