เล่มที่ 8 บทที่ 219 คัมภีร์มารปีศาจ
หลังจากร้องโหยหวนด้วยความเ็ป เกาชิวก็ถอยร่นออกไปนับร้อยจ้าง ส่วนสองมือก็เอาแต่โคจรพลังเพื่อต้านทานพิษย่อยสลายจากกลิ่นของกลิ่นซากศพ ก่อนจะกวาดมือควานหาขวดยาออกมา และรีบเทพรวดเข้าปากโดยไม่มีเวลาสนใจว่าเป็ยาอะไร...
เมื่อกลืนยาสามขวดลงไปจนหมด เกาชิวก็โคจรพลังให้ยาออกฤทธิ์ และในที่สุดเขาก็สามารถต้านพิษเอาไว้ได้ แต่ิัที่ถูกทำลายไปกลับไม่สามารถฟื้นฟูได้ในทันที เนื้อตัวของเกาชิวในตอนนี้จึงเน่าเฟะราวกับผิวศพ และทั้งตัวก็เต็มไปด้วยกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว...
หลังจากที่สามารถระงับอาการาเ็ของตนเองได้แล้ว สายตาของเกาชิวก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยิ่งหันไปมองร่องรอยกรงเล็บซึ่งผีดิบร่างเงินได้ฝากเอาไว้ สายตาคู่นั้นก็ยิ่งฉายแววสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม...
เพราะบริเวณที่กรงเล็บพุ่งใส่ ได้เกิดเป็รอยข่วนที่ลึกนับสิบจ้าง และรอบๆรอยกรงเล็บนั้นก็ราวกับถูกคลื่นั์โหมซัด ภายในรัศมีร้อยจ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสลายไปหมด
ใบหน้าเกาชิวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เมื่อกวาดตาไปก็เห็นเว่ยฟงและหวังหลินที่าเ็ ส่วนหลินเฟยก็ถูกผีดิบร่างเงินเมินเฉย พอเห็นดังนั้นก็รู้สึกหดหู่ใจขึ้นมาทันที
‘ไม่มีใครที่สามารถพึ่งได้จริงๆ หากรู้ว่าจะเป็แบบนี้ ไม่น่าขี้เหนียว เห็นแก่ประโยชน์เล็กๆน้อยๆเอารัดเอาเปรียบคนอื่นเช่นนี้หรอก’
‘ตอนแรกยังคิดว่าคนพวกนี้ก็แค่มิ่งหุนเคราะห์หนึ่งเคราะห์สองเท่านั้น หากเจอสมบัติล้ำค่าอะไร ตนเองก็จะสามารถ่ชิงมาได้โดยไม่มีใครขัด’
ตลอดทางมานี้ ไม่ว่าจะพบเจอของดีอะไรเขาก็แย่งมาเสียหมด ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปีศาจขั้นหกแล้ว สามคนนั้นก็มีสภาพราวกับทำมาจากกระดาษ ไม่ได้เื่เลยสักนิด ด้วยขั้นบำเพ็ญแค่มิ่งหุนเคราะห์สี่เช่นนี้ แต่กลับต้องรับมือกับผีดิบร่างเงินที่แสนโเี้ จึงไม่ต่างอะไรกับแกว่งเท้าหาเสี้ยนเลยจริงๆ...
เกาชิวพยายามอดกลั้นต่อความเ็ปราวกับถูกถลกหนัง เขาฝืนใจกระชับกระบี่ในมืออีกครั้ง ก่อนจะสะบั้นกระบี่ดำจนเกิดลำแสงกระบี่อันโเี้ออกมา ทว่าผีดิบร่างเงินกลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย กลับกันหากไม่ทันระวังละก็ อาจจะถูกมันตะปบตายได้เลยทีเดียว...
ยิ่งคิดก็ยิ่งท้อ บัดนี้เกาชิวเศร้าใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ หากรู้ว่าจะเป็เช่นนี้ ตอนอยู่บนเรือคงพยายามเฟ้นหาคนที่มีฝีมือมากกว่านี้ ต่อให้ได้ของดีน้อยหน่อยก็ไม่เป็ไร หากมีผู้บำเพ็ญขั้นมิ่งหุนเคราะห์สี่เคราะห์ห้ามาช่วยละก็ อย่างมากก็แค่มอบคัมภีร์นั่นให้ ถึงจะได้น้อยแต่ก็ดีกว่าต้องตาย แบบนั้นต่างหากที่เรียกว่าไม่ได้อะไรเลย...
คิดได้ดังนั้นแววตาของเกาชิวก็แปรเปลี่ยนไป เพราะบัดนี้ได้มีประกายแห่งความหวังปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
‘นั่นสิ เรายังมีคัมภีร์นั่น...’
แต่ว่าคัมภีร์นั่นโเี้เกินไป หากหยิบมาใช้ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดผลดีหรือผลร้ายกันแน่...
เกาชิวยังไม่ทันตัดสินใจ ใต้ิัของเขาก็มีกลิ่นซากศพขุมหนึ่งโชยคลุ้งขึ้นมาราวกับควันปะทุของูเาไฟ พลังนั้นน่าสะพรึงดุจมีดเลาะกระดูก ที่กำลังค่อยๆกรีดเฉือนเนื้อของเกาชิว เพียงกลิ่นซากศพพัดผ่านไป เืเนื้อของเกาชิวก็ค่อยๆย่อยสลายกลายเป็ผุยผง...
เกาชิวเห็นดังนั้นก็ครวญครางอย่างทรมานก่อนจะรวบรวมกำลังะโหนีออกมา หลังจากหนีห่างออกมาได้ใบหน้าก็เหยเกบิดเบี้ยว น่าอัปลักษณ์อย่างที่สุด เนื้อตัวก็สั่นเทาคล้ายสัตว์น้อยที่ถูกต้อนจนมุม แววตาก็ละม้ายคล้ายหมาบ้าไร้ซึ่งสติ
‘บ้าเอ๊ย เรากำลังจะถูกผีดิบร่างเงินฆ่าตายแล้วสินะ จะตายวันตายพรุ่งก็ช่างมันแล้ว...’
เมื่อคิดได้ดังนั้นเกาชิวก็ไม่คิดลังเลอีกต่อไป เมื่อสิ้นเสียงคำรามทุ้มต่ำ เขาก็โคจรพลังขึ้นอีกครั้ง พริบตาถัดมาก็กัดฟันสะบั้นกระบี่ออกไป หวังบีบให้ผีดิบร่างเงินล่าถอยออกไปชั่วครู่ก็ยังดี จากนั้นก็หยิบเอาคัมภีร์ซึ่งมีไอโเี้ม้วนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ
เกาชิวหันมามองพวกหลินเฟยอีกครั้ง แววตาฉายแววโเี้ขึ้นมาเล็กน้อย เพราะในเสี้ยวเวลาแห่งความเป็ตายเช่นนี้ เกาชิวไม่เหลือเวลาให้มานั่งคิดถึงผลลัพธ์จากคัมภีร์ชั่วร้ายนี้อีกแล้ว หากเกิดเื่ร้ายแรงอะไรขึ้นมา อย่างมากก็แค่จับสามคนนั้นไปเซ่น หากเป็เช่นนั้นตนเองเองก็ยังพอมีโอกาสรอดอยู่บ้าง...
ขณะที่ผีดิบร่างเงินกำลังลุกขึ้น ทางด้านเกาชิวก็เริ่มโคจรพลัง และกางม้วนคัมภีร์ออกมา
จากนั้นคัมภีร์ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็กางออก ก่อนจะมีไอโเี้และไออสูรเข้มข้นแพร่กระจายตามมา เพียงครู่เดียวก็รวมตัวจนกลายเป็เมฆหมอกดำ
ภายในเมฆหมอกดำก็มีเสียงโหยหวนน่าสะพรึงดังลอดออกมา บางครั้งถึงกับมีใบหน้าบิดเบี้ยวแสนอัปลักษณ์มากมายปรากฏออกมาอีกด้วย เสียงที่ได้ยินในตอนนี้คล้ายกับกำลังกรีดร้อง้าดิ้นรนออกมาก็ว่าได้
หมอกดำเข้มข้นแบ่งตัวออกเป็สองฝั่ง ก่อนจะปรากฏเป็เท้าที่เต็มไปด้วยเล็บอันแหลมคมออกมา ทุกที่ที่เท้านั่นเหยียบย่ำลงไปล้วนแปรเปลี่ยนเป็บรรยากาศวังเวงทันที พลังที่รุนแรงน่าสะพรึงกลัวแพร่กระจายไปทั่วรัศมีสิบจ้าง เพียงครู่เดียวก็ทำให้รอบด้านกลายเป็เหมือนแดนนรกซึ่งเต็มไปด้วยไออสูรและสิ่งชั่วร้าย
หลังจากหมอกควันดำสองฝั่งกระจายตัวออก ก็มีอสุรกายสูงนับสิบจ้างตนหนึ่งปรากฏออกมา ดวงตาของเ้าอสุรกายที่เต็มไปด้วยเส้นเืสีคล้ำ ก็ปูดโปนจนแทบทะลักออกมา เขาอันโค้งมนทั้งสองข้างบนหัวของมัน ก็ปรากฏเป็หัวกะโหลกที่มีเปลวไฟปีศาจลุกโชนแขวนอยู่บนนั้นด้วย ไออสูรแพร่กระจายออกมาทุกครั้งที่เ้าอสุรกายร้ายหายใจ ส่งผลให้หัวกะโหลกเ่าั้กรีดร้องเหมือนกับมีชีวิต
อสุรกายร้ายค่อยๆย่างกรายออกมา ใบหน้าแสนอัปลักษณ์นั้นก็สำรวจมองซ้ายแลขวา
“ใครกันที่เป็คนเรียกข้า?”
เมื่อเห็นอสุรกายร้ายปรากฏตัวออกมา สีหน้าของเกาชิวก็แปรเปลี่ยนสลับไปมา บ้างก็ซีดเผือด บ้างก็แดงก่ำ ทั้งพอใจและหวาดกลัวสลับกันไป เ้าอสุรกายตนนี้ร้ายกาจกว่าที่คิดไว้เสียอีก…
หลังจากอสุรกายร้ายปรากฏกายออกมา ผีดิบร่างเงินที่บ้าคลั่งในตอนแรก ก็ราวกับเจอศัตรูตัวฉกาจ บัดนี้กลับเอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินเ้าอสุรกายร้ายเอ่ยถาม เกาชิวก็พยายามฝืนความเ็ป ก้าวเท้าออกมาก่อนจะก้มหน้าเอ่ยตอบ
“ข้าเองที่ปลุกเ้าออกมา คือว่าข้าอยากขอให้เ้าช่วยกำจัดผีดิบร่างเงินนั่น...”
เ้าอสุรกายร้ายก้มหน้ามองไปตามเสียงที่ตอบกลับมา ทันใดนั้นดวงตาที่ปูดโปนเต็มไปด้วยเส้นเืก็กลอกกลิ้งไปมา
“รู้หรือไม่ว่าการเรียกข้าออกมาเช่นนี้ จะต้องตอบแทนด้วยอะไร?”
จากนั้นกระแสอันโเี้ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเกาชิว เหงื่อเย็นไหลท่วมจนเปียกชุ่ม ทุกครั้งที่เหงื่อไหลผ่านาแก็จะเจ็บแสบปานขาดใจ แต่ถึงจะเป็เจ็บเพียงใดก็ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ได้แต่พยักหน้าก้มต่ำอย่างเดียว
“ข้ารู้ๆ ไม่ต้องห่วง รับรองว่าเ้าจะต้องพอใจ”
เกาชิวรู้ดีว่าจะต้องตอบแทนด้วยอะไร ในเมื่อมาถึงขั้นแล้ว จึงไม่เหลือทางเลือกอื่นอีก อย่างน้อยก็ต้องกำจัดผีดิบร่างเงินนั่นให้ได้ก่อน!
เ้าอสุรกายร้ายยกยิ้มอัปลักษณ์ออกมา คลื่นเสียงเข้มข้นที่ปะทะเข้ามานั้น ทำให้อาการาเ็ที่ทุเลาลงของเกาชิวกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง กระทั่งเ้าตัวกระอักเืแดงฉานออกมา แต่เกาชิวกลับไม่กล้าแสดงความเ็ปออกมาให้เห็น เขาทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาอย่างนอบน้อมเท่านั้น
เ้าอสุรกายร้ายคลี่ยิ้มด้วยความพอใจ จากนั้นก็โบกมือน้อยๆก่อนจะเอ่ยออกมา
“ดีมาก เช่นนั้นแล้ว ข้าจะช่วยเ้าแล้วกัน!”
เมื่อสิ้นเสียงเ้าอสุรกาย ดวงตาของมันก็พลันกลอกกลิ้งไปมา จากนั้นไออสูรรอบตัวก็พวยพุ่งขึ้น หลังจากเห็นผีดิบร่างเงินที่อยู่ไกลออกไป อสุรกายร้ายก็เผยรอยยิ้มอำมหิตออกมาทันที เพียงก้าวเท้าออกไป ทั้งตัวของมันก็สลายเป็หมอกควันดำเข้มข้น ก่อนจะพุ่งทะยานไปยังผีดิบร่างเงินราวกับคลื่นั์ที่กระหน่ำซัดแรง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------