จวนชิ่งอ๋อง
ถังชิงหรูเก็บเข็มเงิน หันไปกล่าวกับเฉินิ "พิษในร่างกายท่านถูกกำจัดหมดแล้ว ต่อไปไม่ต้องกินยาขมเ่าั้อีก และไม่ต้องฝังเข็มแล้วด้วย"
เฉินิอึ้งงันไปชั่วขณะ เอ่ยถามอย่างคลางแคลง "ความหมายก็คือ... นับจากนี้เป็ต้นไปเปิ่นหวางไม่ต้องเห็นหน้าหญิงอัปลักษณ์น่ารำคาญอย่างเ้าแล้วน่ะหรือ"
ถังชิงหรูมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ก่อนแทงเข็มจึ้กเข้าไปที่จุดฝังเข็มหนึ่งของเขา
หลังจากนั้นเฉินิก็ผุดขึ้นมานั่ง แล้วเกาแขนไม่หยุด ไม่ช้าก็ทิ้งรอยเล็บเืซิบๆ สามสี่รอยฝากไว้บนนั้น ยิ่งเกาก็ยิ่งคัน สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็ทรมานยากจะทานทน ก่อนโวยวายด้วยโทสะ "นางหญิงอัปลักษณ์ เ้ารีบหยุดให้เปิ่นหวางเดี๋ยวนี้เลยนะ"
ถังชิงหรูเก็บเข็มเงินอย่างใจเย็น ริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆ เอ่ยกับเฉินิ "นี่เป็ของขวัญชิ้นใหญ่ขอมอบให้ท่านก่อนจากกัน หวังว่าท่านอ๋องจะโปรดปราน เมื่อก่อนท่านก็คันแบบนี้อยู่บ่อยๆ มิใช่หรือ ต้องคิดถึงความรู้สึกนี้มากแน่ๆ "
เฉินิเห็นนางจะไป ก็ใจไม่ดี รีบคว้าแขนของนางไว้ เอ่ยด้วยสีหน้าดำทะมึน "เ้าอย่าเพิ่งไป เปิ่นหวางขอถอนคำพูดเมื่อครู่ เ้า... หาใช่หญิงอัปลักษณ์"
"วันนี้ท่านกินยาผิดรึเปล่า ถึงได้พูดจาดีขนาดนี้" ถังชิงหรูหันมามองด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เขารู้จักกาลเทศะแบบนี้ ครั้นจะกลั่นแกล้งต่อไปคงไม่งาม ในที่สุดถังชิงหรูก็ยอมฝังเข็มแก้อาการให้ ไม่ช้าก็หายคันเป็ปลิดทิ้ง
ยามเห็นาแลึกที่ทิ้งรอยไว้บนแขนของเขาแล้ว ถังชิงหรูก็รู้สึกปวดใจอยู่บ้าง พลางเอามือล้วงเข้าไปในแขนเสื้อหยิบขวดกระเบื้องเคลือบใบหนึ่งออกมาส่งให้ พร้อมกับกล่าวว่า "หนึ่งร้อยตำลึง"
"ไฉนไม่มาปล้นกันเลยเล่า เห็นเปิ่นหวางเป็คนโง่หลอกง่ายนักหรือ" เฉินิโกรธจนควันออกหู
"หรือว่าไม่ใช่?" ถังชิงหรูยิ้มอ่อน "ที่นี่เป็เขตพื้นที่ศักดินาของท่าน และท่านก็เป็เ้าผู้ครองเมืองนี้ เื่เงินทองหากท่านบอกว่าเป็ที่สอง คงไม่มีผู้ใดกล้าบอกว่าเป็ที่หนึ่ง"
เฉินิได้ฟังถ้อยคำเยินยอของนางเข้าไปค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง จึงหยิบตั๋วเงินจากแขนเสื้อออกมาฉบับหนึ่งส่งให้ พร้อมกับรับโอสถมาจากถังชิงหรู
เฉินิเห็นความใจแคบของนาง จึงเอ่ยกระทบกระเทียบไปอีกประโยค "พ่อบ้านหลินให้เงินแก่เ้าไม่น้อย ไฉนถึงยังเขี้ยวลากดินขนาดนี้"
"ต้องขออภัย สาวน้อยผู้นี้ชมชอบเงิน เพราะมีเงินถึงจะไม่อดอยาก ข้าเคยอดมาจนขยาดแล้ว จริงสิ ขอเตือนท่านไว้ก่อน โอสถเหล่านี้เมื่อซื้อมาราคาแพง ก็ควรใช้อย่างเห็นคุณค่า หากาเ็ไม่มากก็ใช้ให้น้อยลงหน่อย เก็บเอาไว้ในยามจำเป็ดีกว่า" ถังชิงหรูเห็นเขาใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย จึงกล่าวเตือนสติ
เฉินิแค่นเสียงเยาะ "เปิ่นหวางสถานะสูงส่ง ของดีอันใดมิเคยขาดมือ หากเป็ยาดี เปิ่นหวางใช้เงินซื้อเอาจากเ้าก็ได้"
"หากข้าไปแล้ว ท่านจะไปหาซื้อจากที่ไหน" ถังชิงหรูตอบอย่างไม่สบอารมณ์ "ในโลกนี้มีของมากมายที่แม้ร้องขอแทบตายก็มิได้มา อย่านึกว่าตนเองเป็ท่านอ๋อง สถานะสูงส่ง มีอำนาจล้นเหลือ อย่าสำคัญว่าทุกสิ่งในใต้หล้าล้วนเป็ของท่าน เกรงว่าแม้แต่ฮ่องเต้พระองค์ปัจจุบันก็ยังไม่กล้าคิดเช่นนี้เลย"
แปะๆ มีเสียงปรบมือดังมาจากด้านหลังของพวกเขา เฉินรุ่ยเดินเข้ามาจากประตู ยิ้มกล่าวว่า "แม่นางกล่าวได้ดี น้องิ เ้าควรเรียนรู้จากแม่นางหรูเอ๋อร์ให้มาก"
เฉินิเก็บสีหน้าหันไปพูดกับเฉินรุ่ย "ท่านพี่ ท่านใกล้จะกลับแล้วกระมัง เตรียมการไปถึงไหนแล้ว"
"บ่าวไพร่เตรียมการเรียบร้อยแล้วล่ะ พรุ่งนี้พร้อมออกเดินทาง น้องิ จากกันครานี้ ไม่รู้อีกนานแค่ไหนพวกเราพี่น้องถึงจะได้พบกันอีก เ้าต้องถนอมตัวด้วย" เฉินรุ่ยกล่าวพลางตบบ่าของเฉินิเบาๆ
"หากคุณชายไม่รังเกียจ เย็นนี้ข้าจะเข้าครัวทำอาหารเลี้ยงส่งท่านด้วยตนเอง" ถังชิงหรูเอ่ยปาก "ถือเสียว่าแทนคำขอบคุณที่่นี้คุณชายช่วยควบคุมน้องชายของตนเอง หากไม่เพราะคุณชาย เกรงว่าผู้น้อยคงถูกชิ่งอ๋องโกรธกริ้วสั่งปะาไปแล้วไม่รู้กี่หน คุณชายไปแล้ว ผู้น้อยก็สิ้นคนคุ้มครอง บอกมิได้เลยว่าจะถูกตัดศีรษะเมื่อไรเวลาใด
ถังชิงหรูพูดจบก็แสร้งยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่แทบไม่มีอยู่
เฉินิซึ่งอยู่ด้านข้างเหลือบมองด้วยสีหน้าอึมครึม "เ้าเสแสร้งให้มันเหมือนหน่อยได้หรือไม่ จะแสดงละครตบตาทั้งที ก็ควรเล่นให้สมจริงหน่อยสิ"
ถังชิงหรูวางมือลง ดวงหน้าพริ้มเพราเงยขึ้นกล่าวอย่างเสียอารมณ์ "ข้ามิได้เสแสร้ง นี่คือความรู้สึกแท้จริงจากส่วนลึกในหัวใจของดรุณีน้อยเยี่ยงข้าต่างหากเล่า"
"หากเ้าวิตกว่าเปิ่นหวางจะตัดศีรษะเ้าจริง ก็คงไม่วางยาถ่ายในน้ำชา วางยาขับเหงื่อในขนม รวมถึงปักดอกไม้ที่เปิ่นหวางแพ้ในห้องหนังสือของเปิ่นหวาง ต้องให้เปิ่นหวางบรรยายวีรกรรมแต่ละอย่างที่เ้าก่อไว้หรือไม่เล่า แค่เปิ่นหวางหยิบขึ้นมาสักเื่ก็พอจะตัดศีรษะเ้าได้แล้ว" เฉินิเอื้อมมือไปบีบคอถังชิงหรูพลางตวาดตะคอก
ถังชิงหรูตีมือเขา ไอค่อกแค่กไม่หยุด เ้าหมอนี่กล้าบีบคอนางจริงๆ จนเกือบขาดอากาศหายใจ จึงเอ่ยปากอย่างหงุดหงิด "ท่านไม่ยอมจบใช่หรือไม่ เป็ถึงท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ มิหนำซ้ำยังเป็บุรุษ ไยถึงใจคอคับแคบนัก"
น่าหลันหลิงกับเฉินรุ่ยเห็นสองคนนี้ก่อเื่ทะเลาะกันจนชิน จึงไม่เห็นเป็เื่ราวใหญ่โต แต่อยู่ๆ เฉินิก็บีบคอถังชิงหรู ทำให้ทั้งสองใอย่างมาก น่าหลันหลิงรีบดึงถึงชิงหรูไปไว้ด้านหลัง ลูบคอของนางด้วยความเป็ห่วง "ไม่เป็ไรใช่ไหม"
ถังชิงหรูสั่นศีรษะ
"ชิ่งอ๋อง หรูเอ๋อร์เป็เพียงแม่นางน้อยคนหนึ่ง ท่านลงมือขนาดนี้ไม่หนักเกินไปหน่อยหรือ" น่าหลันหลิงไม่พอใจมาก
เมื่อครู่นี้เฉินิไม่ได้ตั้งใจทำร้ายนาง เพียงแต่ลืมประเมินกำลัง ถึงอย่างไรบุรุษย่อมมีแรงมาก ทั้งเป็คนฝึกยุทธ์ เลี่ยงไม่ได้ที่จะสูญเสียการควบคุมในบางครั้งบางครา หลังจากรู้ตัวว่าบีบคอถังชิงหรูไปแล้ว เขาก็รู้สึกละอายใจอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่เคยเอ่ยคำขอขมาต่อผู้ใดมาก่อน ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ไม่คิดจะเอ่ยปากยอมรับความผิด ถังชิงหรูกลับไม่เก็บมาใส่ใจ นางดูออกว่าเฉินิหาได้มีเจตนาร้าย จึงกระแอมกระไอเบาๆ กล่าวว่า "ไม่เป็ไร เขาก็มักหยาบคายเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร ข้าชินแล้ว"
"ต้องขอบใจเ้าที่ขอร้องแทนเปิ่นหวาง" เฉินิเอ่ยพลางยิ้มเยาะ
"ไม่ต้องขอบคุณ ข้าต้องไปเตรียมอาหารค่ำแล้ว ถึงอย่างไรท่านก็ว่างไม่มีงานทำ มิสู้ไปช่วยข้าเลือกซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารดีกว่า" ถังชิงหรูกล่าว
เฉินิยกนิ้วชี้มาที่จมูกตนเอง โทสะระบายเต็มหน้า "เ้าว่าใครไม่มีงานทำ ข้าว่างมากนักหรือ นี่คือที่ดินศักดินาของผู้ใด เ้านึกว่าข้าไม่ต้องจัดการอะไรเลยรึ"
ถังชิงหรูปัดมือเขาลง ยื่นหน้ายิ้มเอ่ยกับเขาว่า "ขอถามท่านอ๋องที่เคารพ ท่านทำอันใดบ้างเล่า ทุกวันท่านก็มีแต่ออกคำสั่งให้ลูกน้องไปจัดการ หลังจากนั้นก็นั่งเสพสุขอยู่ในจวน สำหรับท่านอ๋องที่แม้แต่ััสตรีสักคนยังไม่กล้า ท่านยังจะทำอันใดได้บ้าง หลายปีมานี้ ท่านได้ออกจากประตูจวนบ้างหรือเปล่า ทราบหรือไม่ว่าอาณาเขตภายใต้การปกครองของตนเองมีสภาพเป็อย่างไรบ้าง"
เฉินิกลืนวาจาที่ติดอยู่ริมฝีปากลงท้องไป เขาจำต้องยอมรับว่าถ้อยคำแต่ละประโยคของสตรีผู้นี้ล้วนตรงจุดตายของตนเองทั้งหมด เขาไม่เคยออกจากจวนเป็เวลานานมากแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าเมืองชิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
"ตกลง เปิ่นหวางจะไปกับเ้า" เฉินิกล่าวจบก็เดินนำออกจากเรือนไปก่อน ถังชิงหรูหันมาโบกมือให้เฉินรุ่ยกับน่าหลันหลิงก่อนวิ่งตามไป
"แม่นางหรูเอ๋อร์เป็หญิงสาวที่วิเศษนัก น้องิหาใช่คู่ต่อสู้ของนาง"
"ฝ่าาตรัสชมเกินไป แท้จริงแล้วชิ่งอ๋องเพียงแค่แกล้งหยอกนางเท่านั้น มิได้ตั้งใจจะถือสาหาความ หากชิ่งอ๋องจะทรงเอาเื่จริงๆ หรูเอ๋อร์ไหนเลยจะสามารถต่อกรกับเขา"
น่าหลันหลิงเห็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของทั้งสองอย่างแจ่มชัด เฉินิจงใจจะสร้างความลำบากให้นางในตอนแรก แต่ตอนนี้เขาก็แค่หยอกนางเล่นเท่านั้น ไม่ได้คิดจะสู้เอาแพ้ชนะกับนางจริงๆ
"เจิ้น[1]มิเคยเห็นน้องิยอมลงให้สตรีคนไหนเท่านี้มาก่อน" เฉินรุ่ยเอ่ยอย่างมีความนัยเคลือบแฝง "หากวันหนึ่ง เขามาขอแม่นางหรูเอ๋อร์จากเ้า เ้าจะยกให้หรือไม่"
น่าหลันหลิงมองเฉินรุ่ยอย่างตกตะลึง หลายวันมานี้เพื่อปกปิดสถานะ บุรุษที่อยู่ข้างกายผู้นี้จึงไม่เรียกตนเองว่า 'เจิ้น' แต่เพื่อถังชิงหรู วันนี้เขาถึงขนาดเรียกตนเองว่าเจิ้นออกมาต่อหน้า นี่คือการเตือนให้ตนเองได้ตระหนัก ถ้าเฉินิหมายตาถังชิงหรูจริงๆ เขาก็ต้องยกนางให้ พอทราบความจริงข้อนี้ สีหน้าของน่าหลันหลิงพลันบึ้งตึง รู้สึกเสียใจภายหลังที่ร่วมมือกับเฉินรุ่ย หากไม่พบคนผู้นี้ ความแค้นของตระกูลอาจมิได้รับการสะสาง แต่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้หรูเอ๋อร์ต้องเดือดร้อน
เฉินรุ่ยเห็นสีหน้าไม่เต็มใจของน่าหลันหลิง ก็มีคำตอบในใจแล้ว หากวันหนึ่งวันใดสตรีผู้นั้นกลายมาเป็ก้อนหินที่ทำการร่วมมือของพวกเขาต้องสะดุด ตนเองก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไรเหมือนกัน ดูจากท่าทางของทั้งสองคน ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างมีใจต่อนาง แม้ว่า 'การมีใจ' ทำนองนี้ ยังไม่แน่ว่าจะเป็ความรักแบบชายหญิง แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่านางมีความสำคัญในใจของพวกเขาในรูปแบบที่ต่างกัน
บนถนนเมืองชิ่ง ถังชิงหรูมือหนึ่งหิ้วตะกร้า อีกมือก็ลากเฉินิซึ่งมีสีหน้าไม่เต็มใจนักออกจากจวน ยามนี้เขาเปลี่ยนชุดใหม่ ปลอมตัวมาเป็สามัญชน แม้ว่าจะแต่งหน้าให้ดูขี้ริ้วกว่าเดิมสองสามส่วน แต่ก็ยังคงสะดุดสายตาผู้คนจำนวนมาก
"เปิ่นหวาง... ข้าไม่อาจััสตรีเ่าั้ พอแตะต้องตัวปุ๊บโรคก็จะกำเริบ เ้ารู้อยู่แก่ใจว่าข้าไม่ไหว ก็ยังจงใจลากออกมาสถานที่แบบนี้อีก" เฉินิกระซิบต่อว่าต่อขาน
ถังชิงหรูดึงแขนเฉินิ ยิ้มกล่าวว่า "มีหมอเทวดาเยี่ยงข้าอยู่ทั้งคนมิใช่หรือ พวกนางแตะต้องท่านหากอาการกำเริบ ข้าก็แค่ััตัวท่าน เดี๋ยวก็รักษาได้แล้วนี่นา"
แต่ถึงกระนั้นเฉินิก็ยังไม่อยากมาสถานที่แบบนี้อยู่ดี นี่คือตลาดสด ทั้งยังเป็สถานที่สกปรกที่สุด ท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ซึ่งได้รับการประคบประหงมมาอย่างดีเช่นเขาถึงกับแล่นมาซื้อผักที่ตลาด หากเื่แพร่งพรายออกไป ตนเองจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
"ท่านต้องเข้าใจหลักสัจธรรมข้อหนึ่ง ใต้หล้านี้มิมีสิ่งไหนที่พวกเราจะฟันฝ่าไปไม่ได้ หากเอาแต่หลบเลี่ยงไม่ยอมเผชิญหน้า ไม่ช้าก็เร็วท่านต้องกลายเป็เนื้อขึ้นเขียงรอให้ศัตรูมาเชือด" ถังชิงหรูกระซิบข้างหู "ฉวยโอกาสที่หมอเทวดาเยี่ยงข้ายังอยู่ หาวิธีรักษาโรคเก่านี้ให้หาย ต่อไปก็จะไม่มีผู้ใดวางอำนาจข่มขู่ท่านได้อีกแล้ว"
"หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าฉวยโอกาสที่เ้ายังอยู่ หรือว่าเ้าจะไปแล้ว?" เฉินิรู้สึกบีบหัวใจ จับมือนางไว้ "เ้าจะไปไหน เปิ่นหวางไม่อนุญาต"
ถังชิงหรูมองชายหนุ่มอย่างตกตะลึง ก่อนอมยิ้มกล่าวว่า "ข้าจะไปที่ใดต้องรอให้ท่านอนุญาตด้วยหรือ ท่านไม่ใช่ญาติของข้า และไม่ใช่นายของข้าด้วย ชักจะเ้ากี้เ้าการเกินไปแล้วกระมัง"
เฉินิมองนางด้วยแววตาเ็า เอ่ยอย่างเอาแต่ใจ "เ้าว่าอะไรนะ เปิ่นหวางเ้ากี้เ้าการกับเ้าไม่ได้หรือ เปิ่นหวางจะไปหาน่าหลันหลิง ให้เขาขายเ้าให้เปิ่นหวางตอนนี้เลย"
"ชิ! ถ้าน่าหลันหลิงฟังท่าน เขาก็ไม่ใช่น่าหลันหลิงแล้วล่ะ" ถังชิงหรูมองตามเงาหลังของเฉินิที่ผละจากไปด้วยสายตาดูแคลน ก่อนหิ้วตะกร้าหันหลัง เดินไปยังทิศทางตรงข้ามกับที่เขาเดินไป แต่พอก้าวเท้าไปได้ไม่กี่ก้าว พลันได้ยินเสียงคนร้องะโว่ามีคนหมดสติไปแล้ว
นางชะงักเท้า รีบหิ้วตะกร้าวิ่งไปทางนั้นราวกับเหาะ เบื้องหน้ามีผู้คนมุงอยู่มากมาย พวกเขาต่างชี้นิ้ววิพากษ์วิจารณ์คนที่อยู่ด้านใน
"เ้าหนุ่มคนนี้เป็อะไรไป เดินอยู่ดีๆ ก็เป็ลงไปเสียอย่างนั้น ใบหน้าก็ขึ้นผื่นเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเป็อะไรไป จะเป็โรคติดต่อหรือเปล่า"
"ขอทางหน่อยๆ" ถังชิงหรูได้ยินพวกเขาคุยกัน ก็แน่ใจว่าต้องเป็เฉินิโดยมิต้องกังขา "พวกท่านช่วยหลีกไปเร็วๆ"
"แม่นางจะเบียดเข้าไปทำไม ใช่ว่าเ้ารักษาโรคเป็เสียหน่อย" หญิงาุโคนหนึ่งเอ่ยปาก
--------------------------------------------------------------------------------
[1] เจิ้นเป็คำเรียกแทนตัวของฮ่องเต้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้