ขณะที่หลานฮวากำลังพูดอย่างสนุกปาก ก็มีคนพูดแทรกขึ้น นางหงุดหงิดยิ่งนัก อยากจะหันกลับไปตำหนิ ทว่ากลับเห็นใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความโมโหของผู้ใหญ่บ้าน
"ผู้ ผู้ใหญ่บ้าน..." หลานฮวาหน้าซีดทันที แววตาของนางเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว คำพูดที่กำลังจะพ่นออกมากลืนกลับเข้าไปจนหมด
ผู้ใหญ่บ้านโมโหจนตาแดงก่ำ "เยี่ยมจริงๆ ที่แท้ในสายตาพวกเ้า ข้าที่เป็ผู้ใหญ่บ้านคนนี้สุดจะทนรับได้ ไป เปิดศาลบรรพชนกัน ข้าจะถามพ่อแม่ของเ้าต่อหน้าบรรพชนว่าสอนลูกอย่างไรจึงได้กลายเป็สตรีพูดจาเหลวไหลเช่นนี้!”
ตลอดหลายปีที่เขาเป็ผู้ใหญ่บ้าน ไม่อาจกล่าวได้ว่าเขาทำคุณงามความดียิ่งใหญ่ให้กับหมู่บ้านเสี่ยวหนิว แต่ถามใจตนเองดูแล้ว เขาพูดได้ว่าตนไม่เคยใช้ตำแหน่งนี้ในการกดขี่ข่มเหงชาวบ้าน ไม่ว่าจะเกิดเื่ใดขึ้นในหมู่บ้าน เขาก็ไปทันที ถือเป็ผู้ใหญ่บ้านดีๆ ที่หายากในละแวกนี้
แต่สุดท้ายช่างดียิ่งนัก เขาทำเพื่อหมู่บ้านเสี่ยวหนิว แต่ชาวบ้านที่เขาปกป้องกลับคิดว่าเขาและซ่งอวี้มีความสัมพันธ์ลับๆ
ด้วยความโมโห เสียงของผู้ใหญ่บ้านจึงทั้งห้วนและดัง ดึงดูดความสนใจชาวบ้านที่อยู่รอบๆ คนจำนวนไม่น้อยเมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของผู้ใหญ่บ้าน ต่างพากันต่อว่าหลานฮวา
"เกิดอะไรขึ้นๆ เหตุใดทุกคนจึงยืนล้อมวงที่นี่เช่นนี้ ไม่ทำงานกันหรือ?" มีคนที่เมื่อครู่ไม่ได้ยินเสียงของผู้ใหญ่บ้าน ถามต้นสายปลายเหตุของเื่ด้วยความร้อนใจ
ส่วนอีกด้านหนึ่งที่ทราบเื่ทั้งหมด ก็รีบอธิบายให้เขาฟังทันที "เ้าช่างไม่รู้อะไร ซุนหลานฮวาช่างใจกล้ายิ่งนัก กล้านินทาหน้าประตูบ้านผู้ใหญ่บ้าน ทั้งยังบอกว่าผู้ใหญ่บ้านกับซ่งอวี้ลอบมีความสัมพันธ์กัน ประจวบเหมาะผู้ใหญ่บ้านได้ยินเข้าพอดี"
เื่นี้แทบจะไม่เกี่ยวข้องกับทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงมองดูกันอย่างสนุกสนาน ขาดก็แต่ไม่มีเมล็ดทานตะวันในมือเท่านั้น ยุคสมัยนี้ไม่ค่อยมีเื่สนุกให้ดู โดยเฉพาะในชนบท ทุกคนต่างยุ่งกับการทำงานเลี้ยงชีพ มีเื่สนุกให้ดูบ้างเป็ครั้งคราวเช่นนี้ ไม่มีวันพลาดอย่างแน่นอน
สำหรับหลี่เฉิง ตอนที่ผู้ใหญ่บ้านมาถึง เขาก็ถอยหลังหลายก้าวด้วยความแยบยลแล้ว เขาแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มชาวบ้านที่ยืนมุง มีคนจำนวนไม่น้อยถึงขั้นมองไม่เห็นเขา ส่วนพวกคนที่มองเห็น ก็คิดว่าหลี่เฉิงเป็เหมือนพวกเขาที่ถูกดึงดูดมาที่นี่หลังจากได้ยินเสียงผู้ใหญ่บ้าน
ถึงขั้นมีบางคนกลัวว่าหลี่เฉิงจะดูแคลนซ่งอวี้เพราะเื่นี้ จึงรีบอธิบายให้เขาฟัง "คุณชายหลี่อย่าฟังคำพูดเหลวไหลของซุนหลานฮวา พวกนางชอบพูดนินทาผู้อื่นอยู่แล้ว ความเป็จริงพวกนางแค่ปั้นน้ำเป็ตัวเท่านั้น ข้าเห็นซ่งอวี้ั้แ่เล็กจนโต นางไม่ได้เป็เหมือนที่ซุนหลานฮวากล่าวว่า"
ดูเหมือนว่า ในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวก็รู้จักแยกแยะเื่จริงและเื่ไม่จริง
ในเมื่อเวลานี้คนคนนี้ยอมพูดเข้าข้างซ่งอวี้ ทั้งยังกลัวว่าเขาจะเชื่อคำพูดที่ทำให้ซ่งอวี้อับอายขายหน้าของซุนหลานฮวา อธิบายให้เขาฟังยืดยาว หลี่เฉิงย่อมไม่แสดงสีหน้าเ็า เขายิ้มแล้วพยักหน้า บอกให้รู้ว่าตนไม่มีวันเชื่อคำพูดของซุนหลานฮวา
ถ่อมตนและมีมารยาท สง่าผ่าเผย ใบหน้าหล่อเหลา คนรอบตัวอดไม่ได้ที่จะโอดครวญ ไม่แปลกที่หลังจากคุณชายหลี่ย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยวหนิว ซ่งอวี้ก็ถูกนินทามากกว่าเดิม ที่แท้ไม่ได้มีเพียงนารีเป็เหตุคอยก่อให้เกิดปัญหา พลังทำลายล้างของบุรุษก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่านี่คือความจริง
ทว่าสำหรับคนเหล่านี้ ประเมินซ่งอวี้สูงยิ่งกว่า ความในใจทั้งหมดของพวกเขาคือ 'หญิงสาวในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวของเรา ทำให้บุรุษที่มีความสามารถเช่นนี้หลงใหลได้ ดูเหมือนว่าเด็กในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวของเราก็มากความสามารถเช่นเดียวกัน'
อืม ยกเว้นซุนหลานฮวา
ความเป็จริง ในชนบทการพูดนินทาว่าร้ายไม่ใช่เื่ใหญ่ ขอเพียงทุกคนพูดเป็การส่วนตัว แม้คนที่ถูกพูดถึงจะได้ยิน นอกจากขุ่นเคืองแล้ว ก็ไม่มีวิธีระบายความขัดข้องใจได้ ทำได้เพียงปล่อยไป
แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ตอนที่ตนกำลังนินทาอยู่นั้น ห้ามให้ผู้อื่นจับได้ว่าตนเป็คนพูด มิเช่นนั้นถูกทุบตียังน้อยเกินไป
ทว่าซุนหลานฮวาไม่เพียงถูกผู้ใหญ่บ้านจับได้ แต่ยังได้ยินอย่างชัดเจน
ปกติแล้วผู้ใหญ่บ้านเป็คนจิตใจดี ไม่เคยมีเื่ทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ใด ดังนั้นเวลานี้หลานฮวาจึงเริ่มกระวนกระวายครู่หนึ่ง แล้วใจเย็นลง จึงพูดปฏิเสธ "ผู้ใหญ่บ้าน เมื่อครู่ท่านหูฝาดไปแล้ว ข้าไม่ได้พูดถึงท่าน"
ความคิดของนางล้ำเลิศ คนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อครู่นอกจากนางและผู้ใหญ่บ้านแล้ว ก็มีแค่คุณชายหลี่
วันนี้คุณชายหลี่ยิ้มให้นางหลายครั้ง อ่อนโยนกับนางยิ่งนัก หากหลี่เฉิงมีใจให้นางเหมือนกับนาง ไม่แน่ว่าผู้ใหญ่บ้านอาจจะไม่สามารถทำอะไรนางได้ น่าเสียดายยิ่งนัก
ผู้ใหญ่บ้านได้ยินชัดเต็มสองหู แต่ซุนหลานฮวากลับไม่ยอมรับ เขาจึงชี้หน้านางด้วยมือที่สั่นเทา เห็นชัดว่าเขาโมโหอย่างยิ่ง "ไม่ยอมรับใช่หรือไม่? ได้ เมื่อครู่คุณชายหลี่อยู่ในเหตุการณ์ ข้าจะรอดูสิว่า เ้าจะปากแข็งได้อีกนานเพียงใด!”
เวลานี้ หลี่เฉิงไม่อาจดูต่อไปได้แล้ว เมื่อได้ยินผู้ใหญ่บ้านพูดถึงเขา ด้วยเหตุนี้จึงเดินออกมา ทำความเคารพผู้ใหญ่บ้าน วางตัวสง่าผ่าเผย
ผู้ใหญ่บ้านเห็นหลี่เฉิงทำความเคารพเขา ความขุ่นเคืองก็บรรเทาลงเล็กน้อย พยักหน้าให้หลี่เฉิงแล้วเอ่ยถาม "บทสนทนาระหว่างข้าและซุนหลานฮวาเมื่อครู่ คุณชายหลี่ก็ได้ยินแล้ว คุณชายคิดว่าอย่างไร?"
เมื่อครู่ซุนหลานฮวาพูดถึงความสัมพันธ์คลุมเครือระหว่างผู้ใหญ่บ้านและซ่งอวี้ แต่หลี่เฉิงในฐานะสามีของซ่งอวี้ เื่นี้เกี่ยวข้องกับเขา อีกทั้งในตอนนั้นผู้ใหญ่บ้านก็เห็นอย่างชัดเจน คนที่ซุนหลานฮวาพูดด้วยคือหลี่เฉิง เวลานี้หลี่เฉิงจึงมีสิทธิ์มีเสียงในการพูดมากที่สุด
แต่ว่าผู้ใหญ่บ้านก็กังวลเล็กน้อย กลัวหลี่เฉิงไม่อยากให้ข่าวลือแพร่สะพัด แล้วปฏิเสธสิ่งที่ซุนหลานฮวาพูด เมื่อเป็เช่นนั้น แม้ผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจมากเพียงใด ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้แม้แต่น้อย
แต่ว่า เป็ไปได้หรือไม่?
ทั้งหมดนี้ เป็แผนการของหลี่เฉิง แล้วเขาจะทำลายแผนการของตนเองได้อย่างไร
สายตาของเขากวาดมองไปยังซุนหลานฮวา เมื่อเห็นความหวังที่ฉายมาจากแววตาของนาง หลี่เฉิงก็ยกมุมปากขึ้น คล้ายกำลังปลอบโยนนางอย่างไรอย่างนั้น ทว่าภายในใจกลับหัวเราะเยือกเย็น แล้วพูดขึ้น "ข้ามาถึงหมู่บ้านเสี่ยวหนิวไม่นาน มีคนมากมายที่ข้ายังไม่รู้จัก วันนี้ข้าเดินผ่านมาทางนี้ ถูกแม่นางหลานฮวาขวางทางไว้ นางพูดกล่าวร้ายภรรยาของข้า ทำลายชื่อเสียงของซ่งอวี้ ทั้งยังพูดถึงผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า...เฮ้อ คำพูดเ่าั้เป็การหยามเกียรติ อย่าพูดถึงเลย"
ผู้ที่ร่ำเรียนหนังสือในยุคสมัยนี้ล้วนมีนิสัยแปลกๆ ของปัญญาชน ทุกคนเห็นท่าที 'ละอายและกระอักกระอ่วน' ของเขา ต่างก็ไม่เค้นถามด้วยความใส่ใจ แล้วคิดเติมแต่งกันเอง
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ซุนหลานฮวาพูดจะหยาบคายและไม่ชวนฟังยิ่งนัก มิเช่นนั้นเหตุใดคุณชายหลี่จึงถึงขั้นละอายที่จะพูดออกมา
ขณะที่ทุกคนแสดงท่าทีเห็นใจความรู้สึกของเขา ก็มองเขาด้วยแววตาปลอบโยน
เวลานี้ แม้ซุนหลานฮวาจะมีร้อยปากก็ไม่อาจลบล้างความผิดของนางได้ นางมองไปที่หลี่เฉิงด้วยแววตาตกตะลึง บุรุษที่เมื่อครู่เพิ่งยิ้มอ่อนโยนให้นาง เวลานี้กลับผลักนางลงไปในสถานการณ์เลวร้ายอย่างไร้ซึ่งความปรานี
ริมฝีปากของซุนหลานฮวาสั่นเทา ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าหลี่เฉิงไม่ได้รู้สึกอะไรกับนางแม้แต่น้อย
ผู้ใหญ่บ้านหัวเราะในลำคอ "หึ! มีเื่อะไรก็ไปบอกบรรพชนเถอะ พวกเ้าไปเชิญผู้าุโของหมู่บ้านมา ครั้งนี้ข้าจะจัดระเบียบสภาพแวดล้อมในหมู่บ้านของเรา!”
ชาวบ้านในตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งเหลวไหล พูดไม่คิด ไม่รู้จักคิดคำนึงแม้แต่น้อย หากเขาที่เป็ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ไม่ออกหน้า เช่นนั้นสภาพแวดล้อมในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวต้องถูกทำลายจนหมดสิ้น
ชายหนุ่มสองสามคนที่ถูกเรียกชื่อหัวเราะร่าแล้ววิ่งออกไป พวกเขาวิ่งไปคนละทาง ดูท่าจะไปเรียกชาวบ้านมารวมตัวกันไม่ผิดแน่