ตอนที่ 3
จุดแตกหัก
“ครามลูกคิดให้ดีนะ งานแต่งงานที่หนูแพร้า มันใช้เงินถึงสิบล้าน และไหนจะสินสอดอีก เธอรักลูก หรือเธอรักอะไรกันแน่”
“เงิน เราก็มีไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม ผมจะทำอย่างที่แฟนผม้าไม่ได้ พ่อของแพรมีหน้ามีตา เป็ถึงอดีตรัฐมนตรี จะให้เธอมาจัดงานเล็ก ๆ ได้อย่างไรครับพ่อ”
เสียงสองคนพ่อลูกคุยกันดังจนฟังคล้ายกับกำลังเถียงกันมากกว่า ทำให้ข้าวทิพย์ที่กำลังทำความสะอาดห้องพระอยู่ห้องข้าง ๆ ต้องมาแอบฟังด้วยความเป็ห่วง
“เราให้สินสอดเขาสิบล้าน ไหนจะทองอีก เครื่องเพชรก็ไม่ใช่น้อย เื่การจัดงานมันควรจะเป็เื่ของฝ่ายเ้าสาว ครามลูกรู้บ้างไหมว่า เงินสินสอดและทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อเตรียมไว้ให้ มันคือเกือบจะทั้งหมดที่เรามีเหลือตอนนี้แล้วนะ”
อเนกตั้งใจจะปิดเื่ที่บริษัทของเขากำลังย่ำแย่เอาไว้ แต่ในเมื่อครามไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เขาจึงต้องยอมบอกความจริง
“แล้วลูกลองคิด ถ้าหนูแพรเธอรู้ว่า เรากำลังแย่ เธอยังอยากแต่งงานกับลูกอยู่ไหม ถ้าอยากรู้ว่า ไอ้ที่คิดมาตลอดว่า ลูกรักเธอ และเธอก็รักลูก มันเป็ความจริงไหม ก็ลองไปบอกหนูแพรนะว่า บริษัทเรากำลังขาดสภาพคล่อง แล้วลูกก็จะรู้คำตอบเอง หวังว่าคงจะไม่โง่ หูหนวกตาบอด จนลืมไปว่าอะไรคือรัก อะไรคือหลง และสุดท้ายอย่าหลอกตัวเอง”
คนพูดหยุดหายใจ เพราะอายุที่เยอะแล้ว บวกกับอารมณ์ที่โมโห ทำให้อเนกใส่อารมณ์จนรู้สึกเหนื่อย
“แล้วเมื่อเช้าที่ลูกว่าข้าวทิพย์ ลูกเคยคิดบ้างไหม ทำไมพ่อถึงต้องดูแลเธอ ทั้งที่ครอบครัวเราไม่ได้เป็คนสร้างความสูญเสียให้กับชีวิตเธอเลย เพราะพ่อรักลูก พ่อรู้ถ้าหนูแพรต้องโดนจับ ลูกชายของพ่อต้องอยู่ไม่ได้แน่ ๆ พ่อถึงยอมใช้เงินปิดคดี และดูแลข้าวทิพย์ ในขณะที่คนผิด ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย”
ครามเข้าใจในสิ่งที่บิดาพูดทุกอย่าง แต่เขาไม่อยากเสียแพรรำภาไป เขาสับสนวุ่นวายใจไปหมด และตอนนี้คู่หมั้นของเขาก็ขู่ ถ้าเธอไม่ได้งานแต่งแบบที่เธอ้า เธอจะถอนหมั้นกับเขาทันทีและั้แ่เกิดเื่ร้าย ๆ นั้น แพรรำภาก็ไม่เคยมาที่บ้านนี้อีกเลย
ส่วนตัวของข้าวทิพย์ ั้แ่วันที่ครามกับข้าวทิพย์มีความสัมพันธ์เกินเลยกัน หญิงสาวก็เดินทางไปมหาวิทยาลัยเอง
อีกหลายวันต่อมา
“ครามลูกรู้ข่าวหนูแพรหรือยัง”
อเนกกลับมาจากทำงาน จึงแวะไปหาลูกชายที่ห้องนอน เพราะคิดว่าป่านนี้ลูกคงจะรู้ข่าวและกำลังเสียใจอยู่
“เื่อะไรครับคุณพ่อ แพรสั่งห้ามไม่ให้ผมติดต่อกับเธอ จนกว่าเธอจะหายโกรธ ผมไม่ได้คุยกับแพรเลย”
ผู้เป็พ่อโยนหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ให้ลูกชายดู ในหน้ากลางเป็หน้าของข่าวสังคมไฮโซ มีภาพงานแต่งงานที่เ้าสาวในภาพทำเอาชายหนุ่มแทบล้มทั้งยืน
“นี่มันอะไรกันครับคุณพ่อ มีใครล้อผมเล่นหรือเปล่า”
“ถ้าไม่มีจิตใจจะอ่าน พ่อก็จะสรุปสั้น ๆ ให้ฟัง ตอนนี้คู่หมั้นของลูก เขาแต่งงานกับนายหัวเ้าของเกาะทำกิจการรังนกที่ภูเก็ต ั้แ่เมื่อคืนแล้ว และวันนี้พ่อของเธอ ก็ให้ลูกน้องเอาของหมั้นทั้งหมดมาส่งคืนที่บริษัทของเรา”
ครามค่อย ๆ พาตัวเองนั่งลงกับเตียงนอน เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ ผู้หญิงที่เขารักมาถึงเจ็ดปี อยู่ดี ๆ เธอก็หนีเขาไปแต่งงานกับคนที่รวยกว่า เธอไม่เคยรักเขาเหมือนที่เขารักเธอเลย
“ไหวไหมลูก”
อเนกสงสารลูกชายสุดหัวใจ แต่เขาก็คิดว่าเื่มันเป็แบบนี้ก็ดีที่สุดแล้ว ดีกว่าฝืนแต่งงานกันไปสุดท้าย อีกฝ่ายก็คงต้องเลิกราเพราะรู้ความจริงว่าครอบครัวของเขาไม่ได้มีฐานะเหมือนแต่ก่อนแล้ว
“ผมยังไหวครับ คุณพ่อไปพักเถอะครับ ผมขออยู่คนเดียวสักพัก”
ถึงจะห่วง แต่คนเป็พ่อก็รู้ว่า เื่แบบนี้คงต้องใช้เวลาเท่านั้นในการทำใจ
“ชีวิตยังต้องเดินต่อไปนะลูก ดูหนูข้าวทิพย์สิ เขาเสียแม่เขาไปแบบไม่มีวันกลับเลย เขายังอยู่ได้ นี่ลูกแค่เสียคนที่ไม่ได้รักลูกไปเท่านั้นเอง เฮ้อ... พ่อกลับห้องก่อนนะ”
หน้าห้องของคราม
เมื่อรู้ว่ามีคนกำลังจะเดินออกจากห้องมา ข้าวทิพย์ก็รีบเดินกลับไปที่ห้องพระ อเนกแวะทักทายเธอ
เสียงคุยกันดังจนทำให้ครามได้ยินเสียง เขารู้ว่าเธออยู่แถวนี้
“ข้าวทิพย์มาหาฉันหน่อย” ชายหนุ่มะโเรียก
“มีอะไรเหรอคะ” ถึงแม้จะไม่อยากเข้ามาใกล้ครามเลย แต่ด้วยการที่เธอเป็แค่ผู้อาศัย เขาเรียกเธอก็จำเป็ต้องมา
“ไปเอาเบียร์มาให้หน่อย เอามาทีละกระป๋องนะ เดี๋ยวมันไม่เย็น แล้วก็คอยเอาขึ้นมาให้ใหม่อีก จนกว่าฉันจะบอกว่าพอ”
ข้าวทิพย์ทำตามคำสั่ง เพราะเธอคิดว่า วันนี้คุณท่านอยู่บ้าน ต่อให้ชายหนุ่มเมาแค่ไหนก็คงทำอะไรเธอไม่ได้แน่ ๆ
ผ่านไปหลายชั่วโมง กระป๋องเบียร์วางเรียงเป็แถวอยู่ข้างเตียงของชายหนุ่ม ข้าวทิพย์ตั้งใจจะบอกเขาว่า เธอจะไปนอนแล้ว ขอให้เขาพอแค่กระป๋องนี้เถอะ
“มานั่งข้าง ๆ หน่อยสิ” ชายหนุ่มตีมือลงบนที่นอนข้างตัวเขา ด้วยสีหน้าแววตาที่ข้าวทิพย์เองก็อ่านไม่ออกว่าเขา้าอะไร
“ผมไม่ทำอะไรหรอก แต่อยากหาเพื่อนคุย” สรรพนามที่เขาแทนตัวเอง ยังคงเป็ผม แสดงถึงความมีสติ หญิงสาวจึงเดินเข้าไปนั่งข้างเขา เพราะความจริง เธอก็แอบสงสารเขาอยู่ ที่ต้องมาเจอเื่แบบนี้
“ชีวิตไม่เหลืออะไรแล้ว ความรักมันมีอยู่จริงไหม หรือมันมีแต่ความหลอกลวง”
หญิงสาวทำหน้าที่นั่งฟังคนเมาบ่นพึมพำกับเธอ ด้วยความง่วงจากการเรียน และต้องกลับมาทำงานบ้าน ข้าวทิพย์ไม่รู้ตัวว่าเผลอหลับไปเมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกที เมื่อถูกอีกฝ่ายคร่อมร่างเธอไว้ และเขากำลังซุกไซร้ซอกคอของเธอเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เขาทำ เพียงแต่ครั้งนี้มันมีความอ่อนโยนซ่อนอยู่
หญิงสาวพยายามเรียกชื่อเพื่อให้ชายหนุ่มได้สติ แต่มันก็ไม่มีผล ข้าวทิพย์อยากที่จะวิ่งออกจากห้อง แต่สุดท้ายหัวใจของเธอมันกลับสั่งให้เธอยอมนอนอยู่ตรงนั้น และใช้ทุกวินาทีให้มีความสุขที่สุด เพราะอย่างไรเธอก็ได้ชื่อว่าเป็เมียเขาไปแล้ว เธอเองก็ไม่คิดที่จะมีคนอื่นอีก ถึงแม้เขาจะไม่ได้รักเธอก็ตาม
