ตอนแรกหลิ่วจิ้งยังใที่คนทั้งคู่พากันอาเจียนอยู่ในห้องจวบจนนางได้สติคืนมา จึงรีบวิ่งออกไปยืนะโเสียงดังที่หน้าประตูเรือน“ตามคนมาเร็ว!”
สิ้นเสียงร้องลั่นของนาง บ่าวไพร่ที่ทำงานอยู่ทุกที่ในเรือนไม่รู้ว่าเกิดเื่ใดขึ้นจึงพากันวิ่งมาดู
หลิ่วจิ้งนับดูคร่าวๆ พวกบ่าวนี่ช่างคล่องแคล่วว่องไวดีจริงเพียงพริบตาเดียวก็วิ่งมากันเจ็ดคน
“เ้า เ้าและเ้า ไปตักน้ำ ไปเอาไม้กวาด ไปเอาผ้าเช็ดพื้นมา
เ้า เ้าและเ้า เข้าไปประคองฮูหยินผู้เฒ่าและฮูหยินใหญ่ไปพักที่ห้องทางด้านข้าง
ส่วนเ้าไปเชิญท่านหมอหวังมา”
หลิ่วจิ้งสั่งความเสร็จในอึดใจเดียวนางขานชื่อบ่าวในเรือนฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้สักคนแต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการสั่งงานของนาง
ตอนแรกบ่าวเหล่านี้ไม่ได้ทำตามที่หลิ่วจิ้งสั่ง พวกนางเป็คนในจวนฮูหยินผู้เฒ่าจึงไม่จำเป็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของฮูหยินเรือนอื่น
“เอาเถอะ พวกเ้าไม่สนใจใช่หรือไม่ เช่นนั้นดีข้าจะไปเรียกคนที่เรือนข้ามา”
หลิ่วจิ้งพูดพลางเรียกอวี้จิ่นให้ตามมาก่อนหันหน้าจากไปอย่างรวดเร็ว
ทิ้งพวกบ่าวที่วิ่งมาหาไว้ที่นั่น มีบ่าวสองคนที่มีความกล้าสักหน่อยพากันปีนขอบหน้าต่างมองเข้าไปในห้องนอน
ปีนขึ้นไปดูยังไม่เท่าใด แต่จากนั้นนางกลับร้องอย่างใ “เร็วเร็วเข้า ฮูหยินผู้เฒ่ากำลังอาเจียน ทำตามที่ฮูหยินสั่งเร็วเข้าข้าจะไปเรียกท่านหมอหวัง”
สาวใช้ผู้นี้ก็คือคนที่หลิ่วจิ้งสั่งให้ไปตามท่านหมอหวังมาเมื่อทุกคนเห็นนางพูดจาร้อนรนทั้งยังรีบออกไปโดยเร็วย่อมรู้ว่าในห้องเกิดเื่ผิดปกติขึ้นแล้ว
พวกบ่าวหันมองหน้ากันสองสามหนก่อนแยกย้ายกันไปทำงานตามที่หลิ่วจิ้งสั่งเอาไว้
หลิ่วจิ้งพาอวี้จิ่นออกไปก็ไม่ได้กลับหอหั่วเยี่ยนในทันทีแต่เดินไปยังเรือนพักของท่านหมอหวัง
คงเพราะนางเองก็ไม่กล้าวางใจเื่ทางเรือนฮูหยินผู้เฒ่าจากเดิมที่ก้าวเดินอย่างรีบเร่ง กลายเป็วิ่งเหยาะๆ จนสุดท้ายวิ่งเร็วขึ้นมา
หลิ่วจิ้งมองไปไกลๆ เห็นท่านหมอหวังกำลังวุ่นวายจัดเก็บสมุนไพรอยู่ในเรือน ก็ยิ่งรีบวิ่งไปเร็วกว่าเดิมทิ้งอวี้จิ่นที่ใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวงมานานปีไว้ข้างหลังจนห่างออกไปไกล
นางวิ่งไปพลางร้องเรียกท่านหมอหวังเสียงดังลั่น “ ท่านหมอหวัง เร็วเร็วเข้าเร็ว ฮูหยินผู้เฒ่าทางนั้น…”
หลิ่วจิ้งยังไม่ทันพูดสิ่งที่นางจะพูดจนจบแต่คงเพราะรีบวิ่งมากเกินไปยังไม่ทันสูดหายใจเข้า ตัวนางก็อ่อนระทวยล้มหมดสติลงกับพื้นอย่างแรง
“อ้าว นี่มันเื่ใดกัน?” ท่านหมอหวังได้ยินเสียงร้องเรียกของหลิ่วจิ้งพลันเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงแต่กลับเห็นว่าหลิ่วจิ้งยังพูดไม่ทันจบความก็ล้มพับไปเสียแล้ว
“ฮูหยินขอรับ ฮูหยิน” ท่านหมอหวังตื่นใกระทั่งยาในมือหล่นลงกระจายอยู่เต็มพื้นก็ยังไม่สนใจ รีบวิ่งเข้ามาหาเขาอยากประคองหลิ่วจิ้งขึ้นมา แต่พอเอื้อมมือออกไปก็กลับต้องหดมือกลับนี่เป็สตรีของท่านแม่ทัพเชียวนะ หากจับชีพจรผ่านผ้ากันนั้นยังพอไหวแต่จะให้เขาเข้าไปอุ้มฮูหยินขึ้นมา เขากลับไม่กล้าทำ
ท่านหมอหวังจึงทำได้เพียงปล่อยให้หลิ่วจิ้งนอนอยู่กับพื้นและไม่กล้าจับมือนางหากแต่จับชีพจรให้หลิ่วจิ้งในขณะที่มือนางยังคงแผ่อยู่กับพื้น
บังเอิญอะไรเพียงนี้ แม้แต่์ก็ยังเข้าข้างหลิ่วจิ้ง
หั่วอี้และนายกองเฉินไปตรวจสถานที่ต้องสงสัยแต่ละแห่งจนหมดได้เื่ว่ามีสองแห่งที่ต้องสงสัยที่สุดให้อาเหมิ่งต๋ารับผิดชอบพากำลังคนไปควบคุมดูแล วุ่นวายกันมาทั้งคืนจึงเพิ่งกลับมา
เขากลับมาที่หอหั่วเยี่ยนกลับไม่เห็นหลิ่วจิ้งได้รู้จากอิ๋งเหอว่าหลิ่วจิ้งกับนางจ้าวไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าด้วยกันด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงย้อนกลับมาที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่า
เดิมทีหั่วอี้ไม่เห็นว่าหลิ่วจิ้งกำลังนอนอยู่บนพื้นแต่เป็เพราะอวี้จิ่นวิ่งตามหลิ่วจิ้งไปไม่ทัน ได้แต่วิ่งเหยาะๆตามหลังทั้งะโดังลั่นว่า “ฮูหยินเ้าคะ ฮูหยิน” เห็นหรือไม่นางร้องจนหั่วอี้เดินมาหาแล้ว
หั่วอี้จับความหวาดกลัวลนลานในน้ำเสียงของอวี้จิ่นได้นึกว่าหลิ่วจิ้งเกิดเื่ ไม่แม้แต่จะคิดพวกเขาก็ใช้วิชาตัวเบาะโขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆยืนบนที่สูงย่อมมองเห็นได้ไกล ทำให้เห็นหลิ่วจิ้งซึ่งนอนฟุบอยู่กับพื้นในทันที
ภาพที่เห็นสั่นะเืจิติญญาของเขา นี่มันเื่ใดกันฮูหยินเพิ่งจะมาถึงจวนได้กี่วันแต่กลับเป็ลมหมดสติอยู่กับพื้นไปกี่ครั้งกี่หนแล้ว ครานี้เกิดเื่ใดขึ้นอีก?
หั่วอี้ะโสองสามครั้งโดยอาศัยแรงส่งจากต้นไม้ใหญ่สี่ต้นก็ไปถึงตรงที่หลิ่วจิ้งล้มนอนอยู่
“ฮูหยิน ฮูหยิน ท่านเป็อะไรไป?”
ท่านหมอหวังกำลังตั้งสมาธิตรวจชีพจรของหลิ่วจิ้งอยู่ที่ใดจะคิดว่าจู่ๆ หั่วอี้จะร่วงลงมาจากฟ้าทำเอาเขาใจนสองขาอ่อนทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
“รีบพูดสิ ท่านหมอหวัง ฮูหยินนางเป็อะไรไป”
หั่วอี้มีหรือจะไปสนใจว่าท่านหมอหวังตื่นตระหนกหรือไม่อย่างไรสิ่งที่เขาเป็ห่วงที่สุดในยามนี้ก็คือองค์หญิงเป็อะไรไปอีก เหตุใดจึงมาล้มนอนอยู่ที่เรือนของท่านหมอหวังได้
“ระ ระ เรียน…” ท่านหมอหวังตื่นใเพราะถูกสองตาเกรี้ยวกราดของหั่วอี้จดจ้องจนพูดอะไรไม่ออก
หั่วอี้สูดหายใจลึก พยายามบังคับไม่ให้ใบหน้าเขาดูดุร้ายจนเกินไป
“ท่านค่อยๆ ว่ามา ฮูหยินเป็อะไรไป”
หั่วอี้พยายามปรับน้ำเสียงของตนลงเท่าที่จะทำได้และพยายามไม่จ้องหน้าท่านหมอหวัง
“ท่าน…แม่ทัพ…” ท่านหมอหวังบีบต้นขาตนเองอย่างแรงเมื่อความเ็ปแผ่ซ่านขึ้นมากลับทำให้ความเครียดในใจสงบลงได้
“ท่านแม่ทัพขอรับ เพราะปกติแล้วฮูหยินไม่ได้ออกแรงหนักเป็ประจำจู่ๆ มาวิ่งเร็วเกินไป ทำให้อ่อนแรงและหมดสติไปขอรับ”
“อ่อนแรงฮูหยินตื่นใด้วยเื่ใดถึงต้องวิ่งเร็วจนอ่อนแรงเช่นนี้”หั่วอี้จ้องท่านหมอหวังด้วยสีหน้าฉงน
ท่านอย่ามองข้าสิ ข้าเองก็ไม่รู้ ท่านหมอหวังร้องลั่นอยู่ในใจเพราะเขาไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
“อ้อ ใช่แล้ว ท่านแม่ทัพ ก่อนฮูหยินจะเป็ลมไปข้าน้อยคล้ายได้ยินฮูหยินบอกว่า เร็ว รีบไปดูฮูหยินผู้เฒ่าขอรับ”
ท่านหมอหวังนิ่งไปพักหนึ่ง จึงพูดต่อว่า “คล้ายจะเป็ดังนี้ขอรับ”
“ฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าเป็อะไร?” เมื่อได้ยินจากปากของท่านหมอหวัง หั่วอี้ก็ยิ่งเป็กังวลเข้าไปอีกเขาไม่อยู่ที่จวนเพียงคืนเดียว เหตุใดในจวนจึงเกิดเื่มากมายเพียงนี้
“ฮูหยิน ฮะ…ฮูหยิน “ ยามนี้อวี้จิ่นเพิ่งจะวิ่งมาถึงนางเองก็วิ่งเร็วบ้างช้าบ้างมาตลอดทาง ซึ่งก็นับว่าเต็มกำลังของนางแล้ว ยามอยู่ในวังต้องเดินช้าๆเท่านั้น ไม่ได้รับอนุญาตแม้แต่จะวิ่งเหยาะๆ ประสาอะไรกับการวิ่งเร็วมาตลอดทางเช่นนี้นางเองก็อยากจะเป็ลมตามฮูหยินไปให้สิ้นเื่สิ้นราวเสียเลย
นางรู้สึกว่าคล้ายจะหายใจไม่ทันแล้ว
“อวี้จิ่น เ้าคอยดูแลฮูหยินอยู่ที่นี่ท่านหมอหวังตามข้าไปดูฮูหยินผู้เฒ่า”
หั่วอี้ลังเลอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าอวี้จิ่นมาแล้วจึงไม่คิดให้มากอีกเขาคว้าตัวท่านหมอหวังก่อนใช้วิชาตัวเบาวิ่งไปเรือนฮูหยินผู้เฒ่า
ท่านหมอหวังยังไม่ทันหายขวัญกระเจิงจากเื่เมื่อครู่ มาถูกหั่วอี้คว้าคอเสื้อวิ่งไปเช่นนี้ก็แทบหายใจไม่ทันเลยทีเดียว
เมื่อวิ่งมาถึงหน้าห้องนอนของฮูหยินผู้เฒ่าหั่วอี้ก็ต้องนิ่งงันไปชั่วขณะ ในนั้นมีบ่าวหลายคน ที่ยกน้ำมาก็ยกที่ทำความสะอาดก็ทำ พากันเทน้ำเข้าไปภายในห้องถังแล้วถังเล่ามีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวโชยออกมาจากด้านในจนเขาต้องเอามือปิดจมูกแล้วดึงตัวบ่าวคนหนึ่งมาถาม “ฮูหยินผู้เฒ่าเล่า เกิดเื่ใดขึ้น”
_____________________________
